ปัญหาบนหนังศีรษะ เป็นปัญหาที่น่ารำคาญมากค่ะ โดยเฉพาะอาการคันบนศีรษะและรังแค อาการเหล่านี้ อาจหมายความว่าคุณมีโรคผิวหนังอักเสบจากไขมัน แต่หากคุณมีปัญหานี้ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะการเป็นรังแคมันไม่ได้หมายความว่า คุณจะมีสุขอนามัยที่ไม่ดี แม้ว่ารังแคจะสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น หากคุณไม่ได้สระผมบ่อย ๆ แต่บางครั้งปัญหาหนังศีรษะและรังแคของเรา อาจเกิดการอักเสบเมื่อหนังศีรษะผลิตน้ำมันมากเกินไป การอักเสบของหนังศีรษะจะทำให้เกิดสะเก็ดสีขาวที่น่ารำคาญ แต่นอกจากอาการอักเสบแล้ว ความเครียดและสภาพอากาศก็ส่งผลต่อการเป็นรังแคได้เช่นกัน
แน่นอนค่ะว่า รังแคอาจทำให้ขาดความมั่นใจและรู้สึกไม่สบายตัว แถมอาจรู้สึกว่าหนังศีรษะของคุณจะมีความคันและอาจส่งผลให้ต้องเกาหนังศีรษะอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งการเกาหนังศีรษะในที่สาธารณะ แน่นอนจะทำให้ผู้คนมองมาที่คุณ และยิ่งถ้าหากคุณสวมเสื้อสีเข้มและเกาหนังศีรษะ มันก็จะยิ่งทำให้รังแคปรากฏชัดขึ้นบนไหล่ของคุณ ส่งผลให้คุณรู้สึกเสียความมั่นใจ ฉะนั้น รังแค ถือเป็นปัญหาที่ต้องรีบจัดการค่ะ ซึ่งถึงแม้ว่าปัญหารังแคจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็มีวิธีที่สามารถช่วยไม่ให้เกิดอาการคันและลดการหลุดลอกของหนังศีรษะด้วยการใช้ “แชมพูขจัดรังแค” ค่ะ
แชมพูขจัดรังแค ถูกคิดค้นมาเป็นพิเศษ เพื่อรับมือกับปัญหารังแคโดยเฉพาะค่ะ แต่ด้วยแชมพูขจัดรังแคที่มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อในตลาด ทำให้คุณอาจจะไม่รู้ว่า แชมพูขจัดรังแค ตัวไหนดีที่สุดสำหรับคุณ ? ในวันนี้เราเลยจะขอมาแนะนำแชมพูขจัดรังแคที่เราคิดว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด มาแนะนำกันค่ะ
ซื้อ แชมพูขจัดรังแค ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับคุณ ?
- มี Selenium Sulfide 1% ช่วยต่อสู้กับรังแคและบำรุงผมได้อย่างล้ำลึก: Selsun Blue shampoo แชมพูขจัดรังแค (ฝาแดง)
- มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านแบคทีเรียและเชื้อรา ใช้งานได้แม้ผมและหนังศีรษะที่บอบบาง: Nizoral แชมพูขจัดรังแคบนหนังศีรษะ
- มีสารสกัดจากทับทิมและว่านหางจระเข้ช่วยจัดการกับแบคทีเรียได้อย่างหมดจด: Yves Rocher BHC V2 Anti Dandruff Treatment Shampoo แชมพูขจัดรังแค
- ช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะอย่างล้ำลึกและให้ความรู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ใช้: Head & Shoulders แชมพูขจัดรังแค สูตรคูลเมนทอล
- ช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะอย่างล้ำลึกและให้ความรู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ใช้: ก๊กเลี้ยง แชมพูสมุนไพร สูตรดั้งเดิม
- แชมพูขจัดรังแคแบบอ่อนโยนเป็นพิเศษ ลดอาการคันได้ดีมาก: Sebamed Anti-Dandruff Shampoo แชมพูขจัดรังแค
Selsun Blue shampoo แชมพูขจัดรังแค (ฝาแดง)
มี Selenium Sulfide 1% ช่วยต่อสู้กับรังแคและบำรุงผมได้อย่างล้ำลึก
ราคา 316 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 200 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : Selenium Sulfide 1%
คำแนะนำในการใช้งาน : ใช้สระผมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
Nizoral แชมพูขจัดรังแคบนหนังศีรษะ
มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านแบคทีเรียและเชื้อรา ใช้งานได้แม้ผมและหนังศีรษะที่บอบบาง
ราคา 419 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 200 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : Ketoconazole, กรดมะพร้าว, โซเดียมไฮดรอกไซด์และกรดไฮโดรคลอริก
คำแนะนำในการใช้งาน : ใช้สระผมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
Yves Rocher BHC V2 Anti Dandruff Treatment Shampoo แชมพูขจัดรังแค
มีสารสกัดจากทับทิมและว่านหางจระเข้ช่วยจัดการกับแบคทีเรียได้อย่างหมดจด
ราคา 289 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 300 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : สารสกัดจากทับทิมและว่านหางจระเข้
คำแนะนำในการใช้งาน : ใช้สระผมได้บ่อยครั้งตามต้องการ
Head & Shoulders แชมพูขจัดรังแค สูตรคูลเมนทอล
ช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะอย่างล้ำลึกและให้ความรู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ใช้
ราคา 289 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 300 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : ไพริไธโอน ซิงค์และเมนทอล
คำแนะนำในการใช้งาน : ใช้สระผมได้บ่อยครั้งตามต้องการ
ก๊กเลี้ยง แชมพูสมุนไพร สูตรดั้งเดิม
ช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะอย่างล้ำลึกและให้ความรู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ใช้
ราคา 45 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 200 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : บัวหิมะ โสมและพิมเสน
คำแนะนำในการใช้งาน : ใช้สระผมได้บ่อยครั้งตามต้องการ
Sebamed Anti-Dandruff Shampoo แชมพูขจัดรังแค
แชมพูขจัดรังแคแบบอ่อนโยนเป็นพิเศษ ลดอาการคันได้ดีมาก
ราคา 262 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 200 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : Piroctone Olamine
คำแนะนำในการใช้งาน : ใช้สระผมได้บ่อยครั้งตามต้องการ
แชมพูขจัดรังแคทำงานอย่างไร ทำไมต้องใช้ ?
หนังศีรษะ ของเราก็เหมือนกับส่วนอื่น ๆ ของผิวหนัง ที่มีเกราะป้องกัน เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ และทำให้หนังศีรษะของเราชุ่มชื้นอยู่ตลอด ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความเครียดและวิตกกังวล, การรับประทานอาหาร, การฟอกสีผม, การย้อมสีผม, การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมากเกินไป และแม้แต่การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิก็สามารถลดประสิทธิภาพเกราะป้องกันนี้ได้ เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นหนังศีรษะของคุณจะสูญเสียน้ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบและมีลักษณะเป็นสะเก็ดสีขาว นอกจากนี้การไม่สระผมเป็นเวลานาน อาจทำให้เซลล์ผิวสะสมจนเป็นสะเก็ดและเกิดอาการคันได้ แต่นอกจากรังแคธรรมดาแล้ว ยังมีรังแคชนิดที่รุนแรงที่อาจเกิดยีสต์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า มาลาสซีเซีย (Malassezia) ซึ่งอาจทำให้ปัญหาบนหนังศีรษะของคุณแย่ลง และทำให้เซลล์ผิวหนังเติบโตเพิ่มมากขึ้นด้วย หากคุณมีอาการคันที่รุนแรงมาก คุณควรไปพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับการประเมินที่เหมาะสม ในระหว่างนี้แนะนำให้ใช้ แชมพูขจัดรังแค เพราะแชมพูขจัดรังแค สามารถช่วยบรรเทาปัญหาบนหนังศีรษะของคุณและดูแลอาการคันได้
เมื่อใช้แชมพูขจัดรังแคปัญหารังแคก็จะลดลง เพราะแชมพูขจัดรังแคมีสารต้านเชื้อราหรือสารขจัดเคราติน สารต้านเชื้อราจะโจมตีจุลินทรีย์บนหนังศีรษะที่เรียกว่า มาลาสซีเซีย (Malassezia) นอกจากนี้ในแชมพูขจัดรังแค ยังมีส่วนผสมต้านเชื้อรา เช่น Zinc pyrithione), Piroctone olamine หรือ Climbazole ซึ่งจะสามารถทำให้ระดับของมาลาสซีเซียบนหนังศีรษะลดลงได้ โดยวิธีนี้จะช่วยฟื้นฟูและรักษาหนังศีรษะของคุณ เมื่อคุณซื้อแชมพูขจัดรังแคคุณควรดูรายการส่วนผสมและตรวจสอบว่า มีสารเหล่านี้อยู่หรือไม่ เพราะด้วยวิธีนี้คุณจะรู้ว่า แชมพูมีคุณสมบัติในการต่อสู้กับรังแคและป้องกันไม่ให้เกิดรังแคซ้ำอีก
เคล็ดลับในการเลือกซื้อแชมพูขจัดรังแค
1. ส่วนผสมที่สำคัญ
แชมพูขจัดรังแคส่วนใหญ่ใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์หลากหลาย เพื่อรักษารังแคที่มีอยู่ และป้องกันไม่ให้เกิดรังแคอีก สูตรของแชมพูบางสูตร อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสูตรอื่น ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหารังแคของคุณ ส่วนสารออกฤทธิ์ที่พบบ่อยที่สุดในแชมพูขจัดรังแค ได้แก่
- กรดซาลิไซลิก : เป็นสารที่ช่วยขจัดสะเก็ดรังแคบนหนังศีรษะ แต่อาจทำให้ผิวแห้งลงได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังศีรษะมันและผมมัน หากคุณใช้แชมพูขจัดรังแคที่มีกรดซาลิไซลิก แชมพูนั้นก็ควรมีส่วนผสมของสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และสามารถลดความแห้งกร้านได้
- น้ำมันถ่านหิน (น้ำมันทาร์) : ใช้เพื่อชะลอกระบวนการที่ทำให้เซลล์ผิวบนหนังศีรษะตาย และหลุดลอกออก ช่วยให้สามารถรักษารังแค และโรคผิวหนังที่เกิดจากไขมันได้ แชมพูที่มีน้ำมันทาร์เหมาะที่สุด สำหรับคนที่มีผมสีเข้ม แต่ไม่เหมาะกับคนผมสีอ่อน เพราะตัวน้ำมันสามารถเปลี่ยนสีผมบลอนด์ให้เป็นผมสีเข้มได้
- ซิงค์ไพริไธโอน (Zinc pyrithione) : เป็นสารต้านเชื้อราและแบคทีเรียที่ช่วยขจัดรังแคโดยการฆ่าเชื้อราบนหนังศีรษะที่อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบจากไขมัน
- ซีลีเนียมซัลไฟด์ (Selsun Selenium Sulfide) : แชมพูที่มีซีลีเนียมซัลไฟด์จะช่วยชะลอกระบวนการทางธรรมชาติที่ทำให้เซลล์ผิวบนหนังศีรษะตายและหลุดลอกออก นอกจากนี้ยังสามารถช่วยต่อต้านเชื้อรามาลาสซีเซียที่อาจทำให้เกิดรังแคได้ แชมพูขจัดรังแคที่มีซีลีเนียมซัลไฟด์สามารถเปลี่ยนสีผมได้ดังนั้นการล้างให้สะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) : เป็นสารต้านเชื้อราที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยรักษารังแค แชมพูขจัดรังแคจากคีโตโคนาโซลส่วนใหญ่มีจำหน่ายทั้งแบบมีใบสั่งยา และสูตรที่จำหน่ายตามแพทย์สั่งค่ะ
2. หลีกเลี่ยงปิโตรเลียมและแอลกอฮอล์
ส่วนผสมจากปิโตรเลียม และแอลกอฮอล์ เป็นสารทำความสะอาดที่รุนแรง ซึ่งอาจทำให้เส้นผม และหนังศีรษะระคายเคืองได้ สารเหล่านี้ยังสามารถทำให้เกิดผื่นแดง และรังแคมากขึ้นด้วย บางครั้งส่วนผสมเหล่านี้ มักจะถูกระบุว่าเป็นกรดกำมะถันหรือซัลเฟต นอกจากจะทำให้เกิดการระคายเคืองแล้ว สารเหล่านี้ยังอาจทำให้หนังศีรษะแห้ง ทำให้เกิดการหลั่งไขมันหรือน้ำมันมากเกินไป หากคุณมีโรคผิวหนังภูมิแพ้ หรือมีหนังศีรษะที่บอบบาง ให้หลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพราะส่วนผสมนี้สามารถขัดขวางการต่ออายุของผิวตามธรรมชาติได้ ทำให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และทำให้เกิดรังแคมากขึ้นด้วยค่ะ
3. ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น
เมื่อเป็นรังแคอาจจะทำให้หนังศีรษะแห้ง ซึ่งหนังศีรษะแห้งทำให้ร่างกายผลิตไขมันส่วนเกินเกินความจำเป็น หากคุณมีหนังศีรษะแห้งมาก ให้มองหาแชมพูขจัดรังแคที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น แชมพูที่มีส่วนผสมของ น้ำมันอาร์แกน น้ำมันมารูลา หรือน้ำมันมะพร้าว ในทางกลับกันหากหนังศีรษะของคุณสร้างความมันส่วนเกิน ให้มองหาแชมพูที่มีส่วนผสมของน้ำมันตะไคร้ น้ำมันกระดังงา หรือน้ำมันโหระพา ซึ่งถึงแม้ว่าการใส่น้ำมันลงบนผม มันอาจดูขัดกับสัญชาตญาณ แต่น้ำมันเหล่านี้สามารถควบคุมการผลิตไขมันของหนังศีรษะและให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมได้อย่างมีคุณภาพ ถึงแม้ว่าผมแห้งและหนังศีรษะแห้ง จะเป็นเรื่องปกติ แต่การเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมก็เพียงพอที่จะสามารถลดความเสียหายของเส้นผมได้