คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil) ยี่ห้อไหนดี? – ล้างเมคอัพได้หมดจด สะอาดล้ำลึก ลดการอุดตัน

คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil) ที่ดีที่สุด
คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil) ที่ดีที่สุด

ความสะอาดของผิว เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะถ้าหากเราไม่ทำความสะอาดผิวให้ดี จะทำให้เกิดการอุดตันบนผิวและทำให้เกิดสิวและริ้วรอยในที่สุด แน่นอนค่ะว่าผลิตภัณฑ์ล้างหน้า และเจลล้างหน้าสามารถทำความสะอาดผิวได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่แต่งหน้าเป็นประจำ คุณจำเป็นต้องทำความสะอาดเมคอัพ หรือเครื่องสำอางต่าง ๆ ออกให้หมดก่อน เช่น อายแชโดว์พาเลตต์, มาสคาร่า, ลิปออยล์ หรืออื่น ๆ ขอบอกเลยว่าเครื่องสำอางเนี่ยล่ะค่ะคือตัวดีเลย เพราะหากเราล้างออกไม่สะอาด มันก็จะอุดตันผิวของเราค่ะ ซึ่งในท้องตลาดปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้ามากมาย ให้เราได้เลือกใช้งานกัน แต่ “คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil)” ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่คุณควรลองใช้ค่ะ

การใช้ คลีนซิ่งออยล์ คุณต้องใช้ในระหว่างกระบวนการการทำความสะอาด แบบ Double Cleansing หรือที่เรียกว่า การทำความสะอาด 2 ขั้นตอน นั่นเองค่ะ ซึ่งจะใช้คลีนซิ่งออยล์ร่วมกับคลีนซิ่งสูตรน้ำ เพื่อทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด และปราศจากสิ่งอุดตัน ​​โดยคลีนซิ่งออยล์มีส่วนผสมหลักคือ น้ำมันจากธรรมชาติ คุณสามารถใช้มันเพื่อเช็ดสิ่งสกปรก และน้ำมันที่อุดตันรูขุมขนอยู่ได้ โดยที่คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการระคายเคืองเคียงใด ๆ ทั้งสิ้น ในการใช้คลีนซิ่งออยล์คุณไม่จำเป็นต้องใช้สำลีเลยค่ะ เพียงคุณนวดให้ทั่วใบหน้า แล้วล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ปัญหาที่น่าหนักใจก็จะลดน้อยลง หากวันนี้คุณกำลังมองหา คลีนซิ่งออยล์ อยู่เราก็มีสินค้าดี ๆ มาแนะนำกันค่ะ

คลีนซิ่งออยล์ ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ?

[summary item=”6384,6387,6390,6392,6394,6396,6398″]

คลีนซิ่งออยล์คืออะไร ทำไมต้องใช้ ?

​​คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อขจัดเครื่องสำอาง กำจัดความมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกอื่น ๆ ออกจากผิวของคุณโดยเฉพาะ ​​โดยมันจะช่วยให้ผิวของคุณสะอาด และปรับปรุงผิวของคุณ แต่จะไม่ทำลายความสมดุลของน้ำมันตามธรรมชาติของผิวอย่างแน่นอนค่ะ โดยคลีนซิ่งออยล์จะมีสารลิโพฟิลิก (Lipophilic) ที่สามารถจะละลายน้ำมันและสิ่งสกปรกได้ดีมาก ซึ่งคลีนซิ่งออยล์สามารถดึงน้ำมันเหล่านี้ออกมาและละลายมันออกไปได้ หลังจากที่คุณใช้งานแล้วน้ำมันบนผิวที่คุณไม่ต้องการก็จะหายไปในทันทีค่ะ เช่นเดียวกับคลีนซิ่งทั่วไป แต่คลีนซิ่งออยล์จะไม่ทำให้ผิวแห้ง เนื่องจากมันสามารถที่จะปรับสมดุลระดับน้ำมันให้เหมาะกับสภาพผิวได้นั่นเองค่ะ และต่อไปนี้ก็เป็นเหตุผลที่คุณควรใช้คลีนซิ่งออยล์ค่ะ

ใช้งานง่าย 

การใช้คลีนซิ่งออยล์ ถือเป็นขั้นตอนที่ง่ายมาก ๆ ในการทำความสะอาดผิว เพราะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีสามารถล้างเมคอัพ และเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด สะอาดล้ำลึก ทั้งยังช่วยลดการอุดตัน ต้นเหตุที่ทำให้เกิดสิวอีกด้วยค่ะ

รักษาความสะอาดของผิว

คลีนซิ่งออยล์สามารถดักจับกับสิ่งสกปรกต่าง ๆ และน้ำมัน เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเหล่านี้เข้าไปอุดตันรูขุมขน

กักเก็บน้ำมันตามธรรมชาติ

คลีนซิ่งออยล์สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน ไม่มีการระคายเคืองเคียงใด ๆ ทั้งสิ้น แต่คุณสมบัติพิเศษของมันก็คือ คลีนซิ่งออยล์ไม่ได้ขจัดน้ำมันตามธรรมชาติของผิวออกไปด้วย

ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว

คลีนซิ่งออยล์ทำจากน้ำมันจากพืชหลายชนิด อาทิเช่น น้ำมันมะกอก, น้ำมันรำข้าว หรือ น้ำมันมะพร้าว เป็นต้น ซึ่งจะอุดมไปด้วยกรดไขมัน ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะช่วยให้ผิวของคุณดูอวบอิ่มและชุ่มชื้นขึ้นค่ะ

[product_table item=”6384,6387,6390,6392,6394,6396,6398″ info=”1″]

เคล็ดลับในการเลือกซื้อคลีนซิ่งออยล์

1. ประเภทของผิว

สำหรับ คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil) นั้น ถือว่าเหมาะสำหรับทุก ๆ สภาพผิวค่ะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีผิวแห้ง จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้คลีนซิ่งออยล์ค่ะ แต่ก็นั่นไม่ได้หมายความว่า คลีนซิ่งออยล์ จะไม่สามารถใช้งานได้กับสภาพผิวอื่น ๆ เพียงแต่คุณต้องเลือกใช้คลีนซิ่งออยล์ให้ถูกสูตรค่ะ และวันนี้เราก็มีคำแนะนำในการเลือกคลีนซิ่งออยล์ที่เหมาะกับผิวมาฝากกันดังต่อไปนี้ค่ะ

  • ผิวแพ้ง่าย : เราขอแนะนำให้ใช้คลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันโรสแมรี่ และเมล็ดคามีเลีย เนื่องจากน้ำมันต่าง ๆ เหล่านี้จะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดี แต่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองค่ะ
  • ผิวมัน : ควรหลีกเลี่ยงคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันที่อุดตันรูขุมขน เช่น น้ำมันอะโวคาโด, น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันมะกอก แนะนำให้เลือกคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสม เช่น น้ำมันต้นชา หรือน้ำมันสะระแหน่ แทน เพราะน้ำมันเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสมานผิวตามธรรมชาติค่ะ
  • ผิวแห้ง : เราแนะนำให้มองหาคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของ น้ำมันอาร์แกน คามีเลีย หรือเชียออยล์ ซึ่งน้ำมันเหล่านี้จะช่วยให้ผิวคุณชุ่มชื้นขึ้นและไม่แห้ง แต่ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันจากเลมอน และน้ำมันชา เพราะอาจทำให้ผิวแห้งมากจนเกินไป จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน
  • ผิวผสม : ควรหาคลีนซิ่งออยล์ที่สามารถช่วยปรับสมดุลของผิวได้ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณใช้คลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของ น้ำมันดอกทานตะวัน และวิตามินอี เพราะสามารถช่วยขจัดสิ่งสกปรกในขณะที่ยังคงความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ด้วย
  • ผิวเป็นสิว : แนะนำให้เลือกใช้คลีนซิ่งออยล์ที่ปราศจากสารระคายเคือง และตัวกระตุ้นการเกิดสิว อย่างเช่น คลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหลายชนิดใช้น้ำมันแร่ ซึ่งเชื่อกันว่ามันจะอุดตันรูขุมขน และทำให้เกิดสิวได้ ดังนั้นคุณก็ควรหลีกเลี่ยง อีกทั้งคุณควรหลีกเลี่ยงคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมเพราะอาจระคายเคืองผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบและเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นสิวได้

2. ชนิดของน้ำมันที่ใช้

  • น้ำมันแร่ : แม้ว่าอายไลเนอร์ และมาสคาร่า แบบกันน้ำจะช่วยให้เราสวยได้ตลอดทั้งวัน แต่เมคอัพเหล่านี้ล้างออกได้ยากมาก ๆ อีกทั้งยังทำให้เกิดคราบได้อีกด้วย หากคุณต้องแต่งหน้าแบบหนัก ๆ ทุกวัน คุณควรเลือกคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันแร่ค่ะ เนื่องจากน้ำมันแร่สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับคนที่แพ้ง่าย เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้
  • เอสเทอร์ : หากคุณแต่งหน้าแบบเบา ๆ เป็นประจำคุณต้องเลือกซื้อคลีนซิ่งออยล์แบบเอสเทอร์ คลีนซิ่งออยล์แบบเอสเทอร์ไม่เหมือนน้ำมันแร่เพราะมันสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิวของคุณได้อย่างง่ายดายและช่วยประหยัดเวลาได้ดีมาก เนื้อสัมผัสของเอสเทอร์มีความบางเบามากและล้างออกได้ง่ายค่ะ ในการเลือกซื้อควรซื้อคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของ Cetyl Ethylhexanoate, Isopropyl Palmitate หรือ Triethylhexanoin
  • น้ำมันธรรมชาติ : คลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันและไขมันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั้นดีมาก ๆ ค่ะ น้ำมันเหล่านี้มักจะมาจากพืชและสัตว์เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน หรือน้ำมันม้า แม้ว่าคลีนซิ่งเหล่านี้มันอาจจะมีราคาแพงกว่าคลีนซิ่งออยล์น้ำมันแร่หรือเอสเทอร์ แต่คลีนซิ่งออยล์เหล่านี้ก็อ่อนโยนต่อผิวของคุณมากที่สุด ปกติแล้วคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วแมคาเดเมียและน้ำมันอะโวคาโดนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและแพ้ง่าย ในขณะเดียวกัน น้ำมันมะกอกถึงแม้จะเป็นน้ำมันธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้ให้ประโยชน์กับผิวแพ้ง่าย เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้นั่นเองค่ะ

3. เช็กสารที่อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง

สารบางชนิดไม่ดีต่อผิว และอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวขึ้นมาได้ ดังนั้นเราจึงต้องสำรวจฉลากอย่างละเอียด เพื่อจะป้องกันปัญหาเหล่านี้ คลีนซิ่งออยล์บางยี่ห้อมีกลิ่นหอมมากเป็นพิเศษ สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย อาจจะแพ้กลิ่นน้ำหอม หรือบางคนอาจไม่ชอบน้ำหอมเลย เพราะอาจทำให้เวียนหัวได้เมื่อใช้งาน ดังนั้นคุณจึงควรตรวจสอบฉลากให้ดีเสียก่อน และให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม เลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็น Hypoallergenic (ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์ไม่มีสารก่อภูมิแพ้) และ Non-comedogenic (หมายความว่ามีโอกาสน้อยที่จะทำให้เกิดสิว) ค่ะ

โปรดจำไว้ว่า คลีนซิ่งออยล์ บางชนิดไม่เหมาะสำหรับทุกคน เพราะบางคนอาจแพ้ส่วนผสมบางอย่างที่ใช้ในคลีนซิ่งออยล์ แม้ว่าน้ำมันเหล่านี้จะทำมาจากส่วนผสมจากธรรมชาติ แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ จากส่วนผสมพิเศษอื่น ๆ ดังนั้นควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้งานเสมอนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง