เตาแก๊ส ยี่ห้อไหนดี – เครื่องมือสำคัญ สำหรับการปรุงอาหาร

เตาแก๊ส ที่ดีที่สุด
เตาแก๊ส ที่ดีที่สุด

“เตาแก๊ส” เป็นอุปกรณ์ที่คลาสสิกมาก ๆ ค่ะ เพราะเรามักจะใช้เตาแก๊สในการปรุงอาหาร ถึงแม้ว่าจะมีกระทะไฟฟ้าหม้อตุ๋นไฟฟ้า หรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้เราได้ใช้งาน แต่การใช้เตาแก๊สก็เป็นวิธีการที่ง่าย และสะดวกสบายมากที่สุดค่ะ เตาแก๊สนั้นมีหลายประเภทให้เราได้เลือกใช้ค่ะ ทั้งเตาแก๊สที่เชื่อมต่อกับก๊าซกระป๋อง และเตาแก๊สที่เชื่อมกับก๊าซ LPG ค่ะ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามความต้องการในการใช้งานของเรา ซึ่งปกติแล้วเตาแก๊สที่ใช้ก๊าซกระป๋อง จะเหมาะกับการพาไปแคมป์ปิ้งกลางแจ้ง ส่วนเตาแก๊สแบบใช้ก๊าซ LPG จะเหมาะสำหรับใช้งานที่บ้านค่ะ

ข้อดีของการมีเตาแก๊สคือ คุณสามารถใช้ร่วมกับกระทะ หม้อ หรือภาชนะประเภทใดก็ได้ ซึ่งเตาแก๊สจะให้ความร้อนอย่างสม่ำเสมอและทั่วถึงมาก การใช้งานด้วยเตาแก๊สจะสามารถช่วยให้คุณทำอาหารได้ทุกประเภททั้ง หุง ตุ๋น ทอด ผัด ต้ม และนึ่ง โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเตาแก๊สเลยค่ะ การควบคุมอุณหภูมิของเตาแก๊สนั้นง่ายมาก ๆ เลย เพราะตัวแก๊สนั้นมีปุ่มลูกบิดที่ช่วยให้เราสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ เปิดและปิดแก๊สได้ง่ายโดยไม่ต้องกังวลว่าไฟฟ้าจะลัดวงจรหรือไฟดับระหว่างใช้งานค่ะ

และหากวันนี้คุณกำลังมองหาเตาแก๊สดี ๆ อยู่เราก็มีสินค้ามาแนะนำกันค่ะมีทั้ง เตาแก๊สแบบหัวเดี่ยว, เตาแก๊สแบบ 2 หัว รวมไปถึงเตาแก๊สแบบ 3 หัว ให้เราได้เลือกซื้อกันค่ะ อีกทั้งเราจะขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อเตาแก๊สกันด้วยเพื่อให้คุณได้เลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพค่ะ

ซื้อ เตาแก๊ส ยี่ห้อไหนดีและเหมาะกับคุณ 

[summary item=”4837,4839,4841,4843,4845,4847″]

ข้อดีของการใช้เตาแก๊ส

เตาแก๊ส เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานกันมานานแล้วค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าที่ทุกคนเลือกใช้แก๊สกันก็เพราะว่ามันใช้งานได้ดีและแทบไม่มีข้อเสียเลย เตาแก๊สมีความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิที่ดีเยี่ยม เพราะมีลูกบิดที่ติดอยู่กันเตาแก๊ส ซึ่งการควบคุมอุณหภูมินี้ ทำให้เราสามารถเริ่มต้นทำอาหารได้สะดวกสบายมาก เมื่อคุณเปิดการจ่ายก๊าซ ก๊าซที่เผาไหม้จะถ่ายเทความร้อนและเมื่อเราใช้ลูกบิดที่ติดอยู่กับตัวแก๊สจะทำให้เราสามารถควบคุมการจ่ายพลังงานได้อย่างแม่นยำ ยิ่งไปกว่านั้นคุณสามารถดูได้อย่างง่ายดายว่าเปลวไฟมีปฏิกิริยาอย่างไรด้วยการใช้ปุ่มลูกบิดเพียงปุ่มเดียวค่ะ ต่อไปเป็นข้อดีของการใช้เตาแก๊สที่เราควรรู้ค่ะ

1. ไม่ใช้ไฟฟ้า

ข้อดีอย่างหนึ่งของเตาแก๊สที่เหนือกว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้าคือไม่ใช้ไฟฟ้าใด ๆ เลย ผลลัพธ์ที่ได้คือ คุณไม่ต้องกังวลว่าค่าไฟของคุณจะสูงขึ้นจากการใช้เตาแก๊ส ยิ่งไปกว่านั้นคุณสามารถปรุงอาหารบนเตาแก๊สของคุณต่อไปได้แม้ไฟดับ ซึ่งทำให้มีเตาแก๊สเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ตราบใดที่คุณมีปริมาณแก๊สเหลือในถังอย่างเพียงพอ เตาแก๊สก็จะไม่มีวันดับค่ะ

2. มีการปล่อยความร้อนต่ำ

เตาแก๊สได้รับการออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพด้านความร้อน ดังนั้นเตาแก๊สจึงไม่ปล่อยความร้อนออกมามากนัก เมื่อเปิดแก๊สและที่สำคัญกว่านั้นเตาแก๊สจะเย็นลงทันทีเมื่อปิดแก๊ส เตาแก๊สมาพร้อมกับการปล่อยความร้อนที่ต่ำกว่าและยังง่ายต่อการปรุงอาหาร ซึ่งในข้อนี้ถือว่าเตาแก๊สได้เปรียบกว่าการใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า เพราะเตาแม่เหล็กไฟฟ้านั้น จะทำให้สภาพแวดล้อมในบริเวณใกล้เคียงร้อนขึ้นด้วย

3. ความเร็ว

เตาปรุงอาหารส่วนใหญ่มีหลายแบบให้เราใช้ตั้งแต่แก๊สไปจนถึงไฟฟ้า แต่การปรุงอาหารด้วยเตาแก๊ส จะเร็วกว่าการปรุงอาหารด้วยเตาปรุงอาหารประเภทอื่นเล็กน้อย เพราะโดยหลักการแล้วเตาแก๊สจะใช้การถ่ายเทความร้อนโดยตรงและปรุงอาหารได้อย่างสม่ำเสมอ ความรวดเร็วของเตาแก๊สทำให้คุณสามารถเริ่มใช้งา นเพื่อปรุงอาหารจานโปรดของคุณทันทีที่คุณเปิดแก๊สค่ะ

4. มีอุณหภูมิในการปรุงอาหารที่แม่นยำ

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของเตาแก๊สคือ คุณสามารถควบคุมอุณหภูมิในการปรุงอาหารได้อย่างแม่นยำและง่ายดาย ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการผัดผัก เช่น ผักคะน้า คุณสามารถเปิดเตาแก๊ส ปรับไฟให้แรง และผัดให้สุกได้อย่างรวดเร็ว โดยผักจะยังกรอบอยู่ ซึ่งการควบคุมอุณหภูมิที่ง่ายแบบนี้ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ทำไม่ได้ค่ะ เพราะตัวเครื่องต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนอุณหภูมิที่แตกต่างกัน

[product_table item=”4837,4839,4841,4843,4845,4847″]

คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเตาแก๊ส

1. ขนาดของหัวเตา

หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าขนาดเตาแก๊สนั้นไม่สำคัญ แต่ขนาดของหัวเตาจะเป็นตัวกำหนดระดับความร้อนของเปลวไฟด้วย เตาที่มีขนาดใหญ่จะทำให้เกิดเปลวไฟขนาดใหญ่ ส่วนเตาขนาดเล็กจะให้เปลวไฟที่มีขนาดเล็ก ซึ่งปกติแล้วเปลวไฟจะถูกควบคุมด้วยลูกบิดแต่ความแตกต่างระหว่างหัวเตาขนาดเล็กและขนาดใหญ่ก็ยังคงอยู่ค่ะ ซึ่งปกติแล้วเตาแก๊สที่มีหัวเดี่ยว จะมีหัวเตาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนเตาแก๊สที่มี 2 หัว เตาจะมีเตาหนึ่งที่มีขนาดเล็กและอีกเตาหนึ่งมีขนาดใหญ่ สำหรับเตาแก๊สที่มีหัวเตา 3 หัว การออกแบบของหัวเตาจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยก็คือ มีเตาขนาดเล็ก 1 หัว เตาขนาดกลาง 1 หัว และเตาขนาดใหญ่ 1 หัว เพื่อรองรับการทำอาหารที่หลากหลาย อย่างเช่น การทำไข่ลวกก็ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟแรง มันจึงเหมาะกับหัวเตาขนาดเล็ก แต่ถ้าต้องการผัดผัก แน่นอนคุณจำเป็นต้องใช้ไฟแรง เพื่อให้ผักยังคงกรอบ หัวเตาขนาดใหญ่จึงจะเหมาะกว่า เป็นต้น

2. จำนวนหัวเตา

จำนวนของหัวเตาแก๊สขึ้นอยู่กับการใช้งานค่ะ เตาแก๊สที่มีหัวเตาเพียงตัวเดียว เหมาะสำหรับคนโสด ส่วนเตาแก๊สแบบ 2 หัวเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิก 2 – 3 คน ส่วนเตาแก๊ส 3 หัว เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีขนาดกลาง แต่มีรูปแบบการทำอาหารที่แตกต่างกันไปตามนิสัยการกิน ถ้าหากคุณมีครอบครัวขนาดใหญ่และต้องทำอาหารหลายเมนูในคราวเดียว เตาแก๊สที่มี 3 หัวและ 4 หัว จะตอบโจทย์คุณมากที่สุด เพราะเตาเหล่านี้จะอำนวยความสะดวกในการเตรียมอาหารหลายจานในเวลาเดียวกัน

3. วัสดุของหัวเตา

โดยทั่วไปแล้วหัวเตาแก๊สมักจะทำจากเหล็กหล่อ ทองเหลืองหรืออะลูมิเนียม ปัญหาของเหล็กหล่อคือ มันเป็นโลหะที่มีส่วนผสมของเหล็ก คาร์บอน ซิลิกอน หรือแมงกานีส จึงอาจไม่ดีพอสำหรับการนำความร้อนและไฟฟ้า นอกจากนี้เหล็กหล่อก็มีจุดหลอมเหลวสูงจึงมีราคาแพงกว่า ข้อดีอย่างหนึ่งของเหล็กหล่อคือ แม้ว่าจะใช้เวลาในการให้ความร้อนมากกว่าแต่ก็สามารถเก็บความร้อนได้นานกว่าโลหะผสมอื่น ๆ ในทางกลับกันทองเหลืองเป็นโลหะผสมที่ทำจากทองแดงและสังกะสี ดังนั้นจึงเป็นตัวนำความร้อนและไฟฟ้าได้ดีกว่าโลหะผสมอีกสองชนิดที่ใช้ทำหัวเตา อีกทั้งยังทนทานต่อกระบวนการกัดกร่อนได้ดีทำให้ทองเหลืองมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นค่ะ

4. BTU Burner Ranges

หัวเตาในเตาแก๊สขนาดมาตรฐานมักมีหลายขนาด และหลายประเภทตามข้อกำหนดด้านอุณหภูมิที่เฉพาะเจาะจง โดยทั่วไป เตาทั้งหมดแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ เตากระทะ, เตาขนาดใหญ่, เตากลาง และเตาเคี่ยว หัวของเตาเผาแต่ละประเภทมีความจุ และขนาดบีทียูเป็นของตัวเอง หลายคนอาจจะงงว่าบีทียู (BTU) คืออะไร เราขอตอบเลยว่า BTU ย่อมาจาก British Thermal Unit เป็นรูปแบบการวัดที่วัดพลังงานความร้อน BTU คือ ปริมาณความร้อนที่จำเป็นต่อการเพิ่มอุณหภูมิ ดังนั้นจึงหมายความว่ายิ่ง BTU สูงเท่าไร เตาที่มี BTU นั้น ก็จะยิ่งมีพลังงานมากขึ้นเท่านั้นค่ะ

5. ประเภทของการจุดเตา

ประเภทของการจุดเตาของเตาแก๊สมี 2 ประเภทตามกลไกการจุดเตาที่รองรับ นั่นก็คือ การจุดเตาด้วยตนเองและการจุดเตาแบบอัตโนมัติ เตาแก๊สที่จุดไฟด้วยตนเองจะต้องใช้ไม้ขีดไฟหรือไฟแช็ค เพื่อจุดเปลวไฟ ส่วนเตาแก๊สที่จุดไฟอัตโนมัติมีตัวเลือกการจุดไฟในตัวโดยใช้แบตเตอรี่บางส่วนเท่านั้น ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องใช้แหล่งไฟภายนอกในการเปิดเปลวไฟเพราะเพียงแค่เปิดเตาก็เสร็จแล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณต้องดูแลในเตาแก๊สแบบอัตโนมัติคือ สภาพแบตเตอรี่ และตรวจสอบการรั่วไหลเป็นระยะ ๆ