เครื่องทำน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี – สะดวกสบาย ใช้งานง่าย ทำน้ำแข็งได้รวดเร็ว

เครื่องทำน้ำแข็ง ที่ดีที่สุด
เครื่องทำน้ำแข็ง ที่ดีที่สุด

ถึงแม้ว่าแดดจะร้อนหรือฝนจะตกหนักขนาดไหนก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การได้ดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ จะสามารถช่วยเติมความสดชื่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าคุณมี “เครื่องทำน้ำแข็ง” ดี ๆ สักเครื่อง การดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ ก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณค่ะ ถึงแม้ว่าตู้เย็นบางรุ่นจะสามารถผลิตน้ำแข็งได้แต่บางครั้งปริมาณการผลิตน้ำแข็งก็อาจจะไม่เพียงพอสำหรับคุณ และถึงแม้ว่าเราจะซื้อน้ำแข็งมาทานเองได้ แต่น้ำแข็งที่ซื้อมาก็อาจจะไม่สะอาดและทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ ดังนั้นการลงทุนเพื่อซื้อเครื่องทำน้ำแข็งดี ๆ สักเครื่องก็เป็นเรื่องที่คุ้มค่าสำหรับคุณอย่างแน่นอนค่ะ

เครื่องทำน้ำแข็ง สำหรับใช้ในบ้านโดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทกว้าง ๆ ก็คือ เครื่องทำน้ำแข็งแบบตั้งโต๊ะ ที่มีขนาดเล็ก และเบา ส่วนอีกประเภทก็คือ เครื่องทำน้ำแข็งแบบมีเคาน์เตอร์ แต่ถ้าหากคุณเปิดร้านกาแฟ หรือร้านเครื่องดื่มก็มีเครื่องทำน้ำแข็งแบบอุตสาหกรรมให้เลือกซื้อเหมือนกันค่ะ แต่ก่อนที่จะซื้อคุณควรพิจารณาว่า คุณต้องการใช้เครื่องทำน้ำแข็งบ่อยแค่ไหน เพื่อที่จะได้เลือกซื้อเครื่องทำน้ำแข็งที่ดีที่สุด และเหมาะสำหรับการใช้งานของคุณค่ะ ถึงแม้ว่าเครื่องทำน้ำแข็งส่วนใหญ่จะมีฟังก์ชันเหมือน ๆ กัน แต่มันก็มีความแตกต่างบางประการ ทั้งในด้านการออกแบบ คุณภาพ และประสิทธิภาพที่คุณควรพิจารณาก่อนการเลือกซื้อ หากวันนี้คุณต้องการซื้อเครื่องทำน้ำแข็งดี ๆ สักเครื่อง เราก็มีสินค้าและคำแนะนำในการเลือกซื้อมาฝากกันค่ะ

เครื่องทำน้ำแข็ง มีประโยชน์อย่างไร ทำไมต้องซื้อ ?

เครื่องทำน้ำแข็ง ถือเป็นอุปกรณ์ที่ดี เพราะมันจะช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับน้ำแข็งบริสุทธิ์ สะอาด และรสชาติดี เพียงแค่คุณลงทุนซื้อครั้งเดียว คุณก็จะมีน้ำแข็งไว้ทานอย่างยาวนานเลยทีเดียว เครื่องทำน้ำแข็งเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้ง่ายมากเพียงแค่เติมน้ำสะอาดลงไปในเครื่อง และกดปุ่มให้ตัวเครื่องทำงาน คุณก็จะได้น้ำแข็งก้อนสะอาด ๆ ไว้ทานกับน้ำอัดลมและเครื่องดื่มทั่วไปได้แล้ว อีกทั้งตัวเครื่องก็ยังมีขนาดเล็กมากสามารถจัดวางได้ง่าย โดยไม่ต้องเสียพื้นที่มากเกินไป ซึ่งต่อไปนี้เป็นประโยชน์ของเครื่องทำน้ำแข็งค่ะ

  • มอบความสะดวก : เครื่องทำน้ำแข็งบางเครื่องสามารถพกพาได้ คุณจึงสามารถนำเครื่องทำน้ำแข็งพกพาไปตั้งแคมป์ หรือปาร์ตี้ได้ทุกที่ นอกจากนี้ยังสามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้ตามต้องการ คุณสามารถใช้เครื่องทำน้ำแข็งในอาคารหรือกลางแจ้งก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าที่ที่คุณไปมีแหล่งจ่ายไฟหรือไม่
  • กะทัดรัด : เครื่องทำน้ำแข็งสำหรับใช้งานที่บ้านส่วนใหญ่ ไม่ได้ใช้พื้นที่ในการจัดวางที่มาก เครื่องเหล่านี้มักมีขนาดกะทัดรัด บางยี่ห้อมีขนาดเล็กพอที่จะวางบนเคาน์เตอร์ได้ และสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ดังนั้นการมีเครื่องทำน้ำแข็งเป็นวิธีที่ดีในการประหยัดพื้นที่โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อตู้แช่เครื่องดื่มขนาดใหญ่ หรือตู้เย็นราคาแพงที่ผลิตน้ำแข็งได้
  • รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ : หากคุณต้องการทานน้ำแข็งอย่างรวดเร็วก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก หากคุณมีเครื่องทำน้ำแข็งไว้ในบ้าน เพราะคุณสามารถทำน้ำแข็งได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที
  • ประหยัดเงิน : เครื่องทำน้ำแข็งจะช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องไปซื้อน้ำแข็งที่ร้านค้าอีกต่อไป เพราะเครื่องทำน้ำแข็งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถผลิตน้ำแข็งได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นมันจึงสามารถช่วยคุณประหยัดเงินในระยะยาวได้อีกด้วยค่ะ

[product_table item=”4645,4647,4649,4651,4653″]

คุณสมบัติหลัก ๆ ทีุ่ณควรพิจารณาในการเลือกซื้อ เครื่องทำน้ำแข็ง

1. ประเภทของเครื่องทำน้ำแข็ง

  • เครื่องทำน้ำแข็งแบบตั้งโต๊ะ : เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการใช้งานเบา ๆ ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก กะทัดรัด สามารถพกพาสะดวก และใช้งานง่าย ทำให้เหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่มีพื้นที่ในการใช้สอยอย่างจำกัด แต่นั่นก็หมายความว่าตัวเครื่องผลิตน้ำแข็งได้น้อยกว่าเครื่องทำน้ำแข็งแบบทั่วไปด้วยเช่นกัน เครื่องทำน้ำแข็งแบบนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อการพกพา จึงมีการตัดส่วนที่ไม่จำเป็นทิ้งไป เช่น บางรุ่นไม่มีท่อน้ำ ทำให้คุณต้องเติมน้ำด้วยตนเอง หรือบางรุ่นไม่มีถังเก็บความเย็น ทำให้ไม่สามารถเก็บน้ำแข็งไว้นาน ๆ ได้ ดังนั้นถ้าหากคุณใช้งานเพียงคนเดียว ต้องการทำน้ำแข็งในปริมาณไม่มาก แบบนี้ก็จะเหมาะกับคุณค่ะ
  • เครื่องทำน้ำแข็งแบบมีเคาน์เตอร์ : เป็นเครื่องทำน้ำแข็งอัตโนมัติ ตัวเครื่องจะผลิตน้ำแข็งได้อย่างต่อเนื่อง จนเต็มถัง มีกำลังการผลิตน้ำแข็งในแต่ละครั้งที่สูง โดยตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำแข็งได้ครั้งละ 15 – 230 กก. เลยทีเดียว แต่ตัวเครื่องของเครื่องทำน้ำแข็งประเภทนี้จะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่มาก และต้องใช้เวลาในการทำน้ำแข็งค่อนข้างนานค่ะ ส่วนในเรื่องของการติดตั้งก็จะซับซ้อน เนื่องจากจะต้องใช้สายส่งน้ำเฉพาะเพื่อจัดหาน้ำให้เพียงพอ สำหรับอัตราการผลิตน้ำแข็ง ดังนั้นเครื่องทำน้ำแข็งแบบมีเคาน์เตอร์ จึงเหมาะสำหรับร้านอาหาร หรือคาเฟ่ต่าง ๆ ค่ะ

2. ขนาดและความจุของตัวเครื่อง

เครื่องทำน้ำแข็งแบบมีเคาน์เตอร์นั้น มักจะสูงพอ ๆ กับตู้เย็นขนาดเล็ก และมักมาพร้อมตะกร้าน้ำแข็งขนาดใหญ่ ส่วนเครื่องทำน้ำแข็งแบบตั้งโต๊ะมักจะมีความสูงไม่มาก ซึ่งมักจะมีขนาดกะทัดรัดพอ ๆ กับเตาอบ หรือไมโครเวฟ ดังนั้นคุณตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณมีพื้นที่เพียงพอสำหรับจัดวางหรือไม่ ? และต้องการน้ำแข็งในปริมาณมากขนาดไหน ? เพราะเครื่องทำน้ำแข็งแบบตั้งโต๊ะ โดยทั่วไปสามารถผลิตน้ำแข็งได้ 9 – 12 ก้อน/ชุด ในเวลาประมาณ 7 นาที ซึ่งจะเพียงพอสำหรับเครื่องดื่ม 2-3 แก้ว เท่านั้น โดยจะทำงานเร็วกว่าเครื่องทำน้ำแข็งแบบมีเคาน์เตอร์ประมาณ 2 เท่าค่ะ ดังนั้นหากคุณต้องการน้ำแข็งในปริมาณที่ไม่มาก เครื่องทำน้ำแข็งแบบตั้งโต๊ะก็จะเหมาะกับคุณมากกว่า

3. รูปร่างของน้ำแข็ง

  • น้ำแข็งแบบลูกเต๋า (Dice ice) : เป็นน้ำแข็งทรง 4 เหลี่ยม เหมาะสำหรับใส่ในเครื่องดื่มอย่าง น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ เนื่องจากมันจะละลายช้า ทำให้ไม่เปลี่ยนรสชาติของเครื่องดื่ม
  • น้ำแข็งทรงพระจันทร์ (Crescent Ice) : น้ำแข็งประเภทนี้ที่ดีที่สุด สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ และค็อกเทลต่าง ๆ โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดครึ่งหนึ่งของน้ำแข็งแบบลูกเต๋า ซึ่งหมายความว่า มันจะละลายช้ามาก และเพิ่มความเย็นให้กับเครื่องดื่มของคุณมากขึ้น
  • น้ำแข็งเกล็ด (Nugget Ice) : น้ำแข็งประเภทนี้เป็นน้ำแข็งที่นุ่มมาก และเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ สำหรับใช้ทานกับน้ำอัดลม และเครื่องดืมอื่น ๆ ถ้าคุณชอบเคี้ยวน้ำแข็ง น้ำแข็งแบบนี้จะสามารถตอบโจทย์ของคุณได้ดีค่ะ แต่น้ำแข็งประเภทนี้จะมีความกรอบ กลวง ดังนั้นมันจึงละลายเครื่องดื่มของคุณได้อย่างรวดเร็ว
  • น้ำแข็งรูปกระสุน (Bullet-shaped ice) : น้ำแข็งประเภทนี้เหมาะสำหรับน้ำอัดลม มาการิต้า ชาเย็น และเครื่องดื่มแบบมิกซ์อื่น ๆ ตามชื่อของมันเลยค่ะ น้ำแข็งรูปกระสุนมักจะรูปร่างเหมือนกระสุนขนาดเล็ก เหมือนกับน้ำแข็งหลอดที่เราคุ้นเคยกัน โดยจะมีรูกลวงตรงกลาง น้ำแข็งประเภทนี้จะละลายลงในเครื่องดื่มของคุณเร็วกว่าน้ำแข็งลูกเต๋า หรือน้ำแข็งรูปพระจันทร์เสี้ยว
  • น้ำแข็งก้อนกลม (Gourmet ice) : น้ำแข็งแบบนี้มีรูปทรงที่สง่างามและมักจะใช้เสิร์ฟในเครื่องดื่มระดับ high-end หรือเครื่องดื่มที่หรูหรา น้ำแข็งรูปทรงนี้จะละลายได้ช้าที่สุด และจะทำให้เครื่องดื่มของคุณเย็นลงในระยะเวลาที่เหมาะสมค่ะ

4. ความเร็วในการผลิตน้ำแข็ง

ความเร็วของเครื่องทำน้ำแข็ง ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการทำน้ำแข็งมากหรือน้อยเพียงใด เครื่องทำน้ำแข็งบางรุ่น สามารถผลิตน้ำแข็งได้เร็ว ในขณะที่บางรุ่นใช้เวลามากกว่าเล็กน้อย โดยระยะเวลาในการทำน้ำแข็ง อาจจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 6 นาที ไปจนถึง 15 นาที ขึ้นไป ซึ่งแน่นอนค่ะ รุ่นที่ผลิตน้ำแข็งได้เร็ว มันก็จะได้ปริมาณที่น้อง แต่รุ่นที่ผลิตน้ำแข็งได้ช้า มันจะได้ปริมาณที่เยอะ ดังนั้นอยู่ที่คุณค่ะว่า ต้องการปริมาณน้ำแข็งมากน้อยขนาดไหน ?