ไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดี – สำหรับอุ่นอาหาร ใช้งานทั่วไปในครัวเรือน

ไมโครเวฟ ที่ดีที่สุด ปี 2021 - สำหรับอุ่นอาหาร ใช้งานทั่วไปในครัวเรือน
ไมโครเวฟ ที่ดีที่สุด ปี 2021 - สำหรับอุ่นอาหาร ใช้งานทั่วไปในครัวเรือน

ไม่ว่าคุณจะชอบทำอาหารหรือไม่ก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ไมโครเวฟ” เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านต้องมี ไมโครเวฟมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การอุ่นอาหาร ละลายอาหารแช่แข็ง รวมถึงต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นอกจากนี้การใช้ไมโครเวฟยังเป็นวิธีที่ดีในการใช้ทำขนมหรืออุ่นเครื่องดื่มร้อน ขอบอกเลยว่าไมโครเวฟสามารถช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการทำอาหารได้เป็นอย่างดี

แม้ว่าสมัยก่อนไมโครเวฟจะมีการใช้แค่ในครัวเชิงพาณิชย์ แต่ตอนนี้ไมโครเวฟเป็นที่นิยมมากที่สุดทั้งในบ้านและที่ทำงาน ไมโครเวฟนั้นมีหลายประเภท หลายยี่ห้อให้เราได้เลือกแต่สิ่งสำคัญคือต้องเลือกไมโครเวฟที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณเองและเพื่อช่วยให้คุณจำกัดตัวเลือกของคุณให้แคบลง ต่อไปนี้คือคำแนะนำจากเรา รวมไปถึงวิธีการเลือกซื้อไมโครเวฟค่ะ

ซื้อ ไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ปี 2021

[summary item=”3810,3807,3817,3815,3812,3805″]

ประเภทของไมโครเวฟ

ไมโครเวฟมีหลายรูปแบบและหลายประเภทให้เราได้เลือกค่ะ โดยรูปแบบของไมโครเวฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไมโครเวฟแบบตั้งโต๊ะ ถัดมาเป็นไมโครเวฟแบบ over-the-range (OTR) และไมโครเวฟแบบบิวท์อิน ไมโครเวฟแบบตั้งโต๊ะมีราคาถูกที่สุดและเคลื่อนย้ายได้ง่ายแต่ต้องใช้พื้นที่บนเคาน์เตอร์ ส่วนไมโครเวฟแบบ OTR และแบบบิวท์อินจะช่วยประหยัดพื้นที่เคาน์เตอร์ได้ดีมาก แต่มีราคาแพงกว่า ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้และอาจจำเป็นต้องติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลเหล่านี้เป็นรูปลักษณ์ของไมโครเวฟโดยทั่วไปค่ะ โดยคุณสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ ส่วนข้อมูลด้านล่างเป็นข้อมูลของประเภทไมโครเวฟที่แบ่งออกตามฟังก์ชันการใช้งานค่ะ

1.  ไมโครเวฟแบบโซโล (Solo)

ไมโครเวฟแบบโซโลเป็นไมโครเวฟรุ่นพื้นฐานและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ไมโครเวฟแบบนี้มีแมกนีตรอนสำหรับผลิตคลื่นไมโครเวฟ ไมโครเวฟแบบนี้สามารถใช้เพื่อปรุงอาหาร ละลายน้ำแข็ง และอุ่นอาหารได้ เนื่องจากมีระดับพลังงาน การตั้งค่าอุณหภูมิและคุณสมบัติอื่นๆ หลายระดับ แต่มีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับไมโครเวฟรุ่นอื่น ๆ

2. ไมโครเวฟแบบย่าง (Grill)

ไมโครเวฟแบบนี้มาพร้อมอุปกรณ์ย่างเพิ่มเติมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถย่างและปิ้งอาหาร เช่น ผัก ไก่ เนื้อ  ฯลฯ ได้ ตัวเลือกไมโครเวฟแบบนี้สามารถทำให้อาหารสุกเร็วขึ้นและเป็นไมโครเวฟที่เหมาะสำหรับใช้งานในบ้านมากที่สุด

3. ไมโครเวฟคอนเวนชั่น (Convention)

ไมโครเวฟคอนเวนชั่นมาพร้อมกับพัดลมที่หมุนเวียนความร้อนอย่างสม่ำเสมอเพื่อการปรุงอาหารที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานฟังก์ชันการทำอาหารทั้งหมดได้ เช่น การอบ การย่าง การทำความร้อนและการละลายน้ำแข็ง แต่อาจทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อมากกว่าไมโครเวฟประเภทอื่น ๆ ที่กล่าวมาในข้างต้น

[product_table item=”3810,3807,3817,3815,3812,3805″]

คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อ

1. ความจุของไมโครเวฟ

ความจุของไมโครเวฟมีหน่วยเป็นลิตร ยิ่งมีจำนวนลิตรมากเท่าไร ไมโครเวฟก็จะยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นเท่านั้น ในท้องตลาดคุณจะสามารถจะพบไมโครเวฟที่มีขนาดเล็กประมาณ 15 ลิตร ส่วนไมโครเวฟขนาดใหญ่ที่สุดอาจจะมีความจุถึง 40 – 60 ลิตร แน่นอนว่ามันอาจเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าไมโครเวฟตัวไหนดี แต่เราขอบอกเลยว่าไมโครเวฟขนาด 15 – 20 ลิตรเหมาะสำหรับใช้งานคนเดียวหรือใช้กับครอบครัวที่มีผู้อาศัยประมาณ 3 – 4 คน ส่วนไมโครเวฟขนาด 20 ลิตรขึ้นไปเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ นอกจากนี้คุณอาจจะคำนึงถึงขนาดโดยรวมของตัวเครื่อง การตกแต่งภายในและจานหมุนเพื่อที่จะช่วยให้คุณได้เลือกไมโครเวฟในขนาดที่เหมาะสมได้

2. ขนาด

ขนาดภายนอกของไมโครเวฟจะแตกต่างกันไปตามความจุภายใน โดยส่วนใหญ่แล้วปุ่มและฟังก์ชันพิเศษจะทำให้ไมโครเวฟภายนอกมีขนาดใหญ่ขึ้น ไมโครเวฟขนาดเล็กส่วนใหญ่จะมีขนาดประมาณ 45.72 x 35.56 ซม. ในขณะที่รุ่นใหญ่จะมีขนาดประมาณ 60.96 x 50.8 ซม. โปรดทราบว่าการเลือกไมโครเวฟขนาดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งหากคุณจะซื้อรุ่นบิวท์อินหรือแบบลิ้นชักค่ะ

3. กำลังไฟ

กำลังไฟของไมโครเวฟวัดเป็นหน่วยวัตต์ ยิ่งกำลังวัตต์สูงเท่าใด ไมโครเวฟก็ยิ่งมีกำลังไฟมากเท่านั้น กำลังไฟที่สูงขึ้นจะทำให้คุณปรุงอาหารได้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอยิ่งขึ้น ไมโครเวฟส่วนใหญ่ที่มีอยู่ในปัจจุบันมีกำลังไฟระหว่าง 500 ถึง 1,000 วัตต์ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานทั่วไป  คนส่วนใหญ่ชอบไมโครเวฟที่มีกำลังไฟ 700 วัตต์ (หรือมากกว่า) เนื่องจากรุ่นของไมโครเวฟเหล่านี้มีราคาที่จับต้องได้และทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ แต่หากคุณกำลังวางแผนที่จะทำอาหารที่มากขึ้นคุณเลือกไมโครเวฟที่มีกำลังไฟประมาณ 1,000 วัตต์ (หรือมากกว่า)  เพราะไมโครเวฟแบบนี้จะมีประสิทธิภาพและสามารถปรุงอาหารได้อย่างรวดเร็วและหลากหลายมากขึ้น
นอกจากปุ่มควบคุมมาตรฐานแล้ว ไมโครเวฟส่วนใหญ่ก็ยังมีตัวควบคุมสำหรับการตั้งเวลาทำอาหารล่วงหน้าได้อีกด้วย ตัวเลือกการทำอาหารที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเหล่านี้จะเลือกระดับพลังงานและเวลาทำอาหารโดยอัตโนมัติตามประเภทอาหารที่คุณต้องการจะทำ โดยคุณจะพบการตั้งค่าแบบพิเศษที่จะช่วยให้คุณปรุงอาหารต่าง ๆ เช่น ข้าวโพดคั่ว มันฝรั่ง ผักแช่แข็งและอื่น ๆ ได้ด้วยการแตะเพียงปุ่มเดียว นอกจากนี้ยังมีการตั้งค่าสำหรับการละลายเนย ช็อกโกแลต ละลายน้ำแข็งและการอุ่นพิซซ่าด้วย ดังนั้นก่อนซื้อคุณต้องพิจารณาว่าคุณต้องการใช้คุณสมบัติเหล่านี้จริง ๆ หรือไม่ ถ้าไม่ได้ใช้ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อไมโครเวฟที่มีระบบแบบนี้ค่ะ

5. ฟังก์ชันการทำอาหาร

ไมโครเวฟบางชนิดมีคุณสมบัติในการย่าง การนึ่งและการหมุนเวียนความร้อน ไมโครเวฟที่มีฟังก์ชันการทำอาหารเพิ่มเติมเหล่านี้มักมีราคาสูงกว่าเครื่องที่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ค่ะ แม้ว่าการทำงานจะไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับเตาย่างแบบทั่วไป แต่ฟังก์ชันการย่างบนไมโครเวฟได้รับการออกแบบมาเพื่อให้อาหารด้านนอกไหม้เกรียม ข้างในหนานุ่มโดยการจำลองการย่างให้เหมือนกับการใช้เตาย่างทั่วไป ปกติแล้วไมโครเวฟแบบพาความร้อนนั้นจะใช้เทคโนโลยีเดียวกับเตาอบ ตัวพัดลมจะเป่าลมและหมุนเวียนอากาศร้อนเข้าไปในไมโครเวฟ ช่วยให้ปรุงอาหารได้เร็วและสม่ำเสมอยิ่งขึ้น

6. เซนเซอร์

ไมโครเวฟบางเครื่องมีเซนเซอร์ที่ปรับแต่งเวลาในการปรุงอาหารและระดับพลังงานโดยอัตโนมัติโดยพิจารณาจากความชื้นที่ตรวจพบในอาหารที่คุณกำลังปรุง เซนเซอร์ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้อาหารสุกมากเกินไปและป้องกันการปรุงอาหารที่ไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นเมื่อใช้งานไมโครเวฟแบบระบบเซนเซอร์อาหารที่คุณทำจะไม่ไหม้หรือสุกมากเกินไปนั่นเองค่ะ

7. ระบบระบายอากาศ

ปกติแล้วไมโครเวฟแบบ Over-the-range มักมาพร้อมกับคุณสมบัติการระบายอากาศที่สามารถใช้แทนเครื่องดูดควันแบบดั้งเดิมได้ สิ่งนี้มีประโยชน์เมื่อคุณทำอาหารบนเตาตั้งพื้นและต้องการกำจัดกลิ่นหรือควันออกจากห้องครัวของคุณ ปกติแล้วระบบระบายอากาศไมโครเวฟนั้นมี 2 ประเภทคือระบบหมุนเวียนและระบบภายนอกค่ะ

  • ระบบหมุนเวียน ช่องระบายอากาศหมุนเวียนทำงานด้วยการดึงอากาศขึ้นไปในเครื่อง ตัวเครื่องจะกรองผ่านตัวกรอง แล้วดันกลับเข้าไปในห้องครัวของคุณ ขอบอกเลยว่าระบบระบายอากาศประเภทนี้เป็นแบบไร้ท่อและติดตั้งง่ายแต่ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับการระบายอากาศภายนอก
  • ระบบภายนอก ช่องระบายอากาศภายนอกเชื่อมต่อกับท่อที่ดูดอากาศจากห้องครัวของคุณและเปลี่ยนเส้นทางควันให้ออกสู่ภายนอก ระบบเหล่านี้ทำงานได้ดีกว่าในการขจัดความร้อนและกลิ่นไม่พึงประสงค์จากห้องครัวของคุณ แต่อาจมีราคาแพงในการติดตั้งหากบ้านของคุณไม่มีท่อระบายอากาศ

8. จานหมุนไมโครเวฟ 

ไมโครเวฟทั้งหมดมีจานหมุนมาให้ ยกเว้นไมโครเวฟรุ่นแบบลิ้นชัก จานหมุนไมโครเวฟอาจมีลักษณะกลมและหมุนเป็นวงกลมหรือสี่เหลี่ยมและเคลื่อนที่จากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ออกแบบมาเพื่อให้อาหารเคลื่อนไหวได้สม่ำเสมอยิ่งขึ้น จานหมุนไมโครเวฟส่วนใหญ่สามารถถอดออกเพื่อให้ทำความสะอาดไมโครเวฟได้ง่าย และในหลาย ๆ ยี่ห้อก็สามารถใส่ลงในเครื่องล้างจานเพื่อขจัดคราบอาหารที่แห้งได้ ในขณะที่คุณซื้อไมโครเวฟให้พิจารณาว่าจานหมุนนั้นใหญ่พอกับถ้วยชามภายในบ้านของคุณหรือไม่ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเปลืองเงินเพื่อซื้อถ้วยชามอันใหม่ค่ะ

ประโยชน์ของไมโครเวฟ ทำไมต้องซื้อ ?

ไมโครเวฟเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประโยชน์มาก ตัวเครื่องจะทำงานโดยการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ที่ความถี่ 2.24 กิกะเฮิรตซ์และมีความยาวคลื่น 12.2 เซนติเมตรที่จะแทรกซึมผ่านอาหาร ซึ่งวิธีนี้จะทำให้โมเลกุลของน้ำในอาหารสั่น ทำให้เกิดการเสียดสีกับโมเลกุลของน้ำอื่น ๆ และทำให้เกิดความร้อนขึ้นในที่สุด ดังนั้นไมโครเวฟจึงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกกับทุกเพศทุกวัยที่ต้องการให้อาหารหรือเครื่องดื่มมีความร้อนอย่างเร่งด่วน ต่อไปนี้เราจะขอนำเสนอเหตุผล 4 ประการที่คุณต้องซื้อไมโครเวฟค่ะ

1. ไมโครเวฟปลอดภัยในการละลายอาหารแช่แข็ง

ไมโครเวฟใช้งานได้ง่ายมาก คุณสามารถอุ่นอาหารได้โดยใช้การตั้งค่าการละลายน้ำแข็ง หลังจากที่อาหารละลายน้ำแข็งแล้ว คุณสามารถให้ความร้อนแก่อาหารต่อไปได้ กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่เร็วกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดอื่น แต่ยังดีต่อสุขภาพคุณอีกด้วย

2. การใช้ไมโครเวฟช่วยให้คุณเก็บรักษาสารอาหารได้

เมื่ออุ่นอาหารแบบทั่วไปจะต้องเติมน้ำหรือน้ำมันลงไป ดังนั้นตัวอาหารจะเริ่มสูญเสียวิตามินและสารอาหาร แต่ไมโครเวฟสามารถอุ่นอาหารได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องเติมน้ำหรือใช้วิธีอื่น ๆ  ซึ่งหมายความว่าอาหารของคุณจะสามารถรักษาคุณค่าทางโภชนาการได้มากกว่าและรสชาติก็จะดีขึ้นด้วย

3. ไมโครเวฟใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่ว

ไมโครเวฟไม่เพียงแต่จะใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องปิ้งขนมปังเท่านั้นแต่ยังใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปอีกด้วย โปรดทราบไว้ว่าเครื่องปิ้งขนมปังใช้พลังงานประมาณ 1,225 วัตต์ ซึ่งไมโครเวฟใช้ประมาณ 925 วัตต์เท่านั้น แน่นอนว่าสิ่งนี้จะแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์แต่ละยี่ห้อ แต่โดยรวมแล้วไมโครเวฟก็มีประสิทธิภาพมากกว่า อีกทั้งไมโครเวฟรุ่นใหม่ก็ยังสามารถปิ้งขนมปังและอบอาหารได้ด้วย

4. ทำความสะอาดง่าย

หากคุณชอบที่จะให้เครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณสะอาดอยู่เสมอ ไมโครเวฟเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์มาก เพราะเมื่อภายในของไมโครเวฟสกปรกคุณสามารถเช็ดทำความสะอาดได้เลยไม่ต้องเปลืองแรงและถ้าจานหมุนด้านล่างสกปรกก็สามารถใช้เครื่องล้างจานได้หรือสามารถทำความสะอาดด้วยฟองน้ำและน้ำยาล้างจานก็ได้เช่นกัน