หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี? – หุงข้าวได้สวยขึ้นหม้อ ใช้งานง่าย

หม้อหุงข้าว ที่ดีที่สุด
หม้อหุงข้าว ที่ดีที่สุด

“ข้าว” เป็นธัญพืชที่มีราคาจับต้องได้และใช้งานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งข้าวก็มีหลากหลายพันธุ์ที่แตกต่างกัน แต่ในการที่เราจะทานข้าวเราต้องทำให้มันสุกเสียก่อน ดังนั้นอุปกรณ์ที่คุณต้องมีและขาดไม่ได้ก็คือ “หม้อหุงข้าว” ค่ะ

หม้อหุงข้าวจะทำให้ข้าวที่คุณหุงมีเนื้อสัมผัสที่สมบูรณ์แบบ โดยไม่ต้องคาดเดาหรือคอยดูหม้อหุงข้าวอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้หม้อหุงข้าวส่วนใหญ่ยังสามารถใช้ในการปรุงธัญพืชอื่น ๆ เช่น ข้าวโอ๊ต คีนัวหรือโพเลนต้าได้ อีกทั้งคุณยังสามารถใช้หม้อหุงข้าวทำรีซอตโต้แบบง่าย ๆ ได้

หม้อหุงข้าวนั้นมีหลายยี่ห้อมากแต่ก่อนตัดสินใจซื้อ คุณจะต้องพิจารณาถึงความจุของหม้อหุงข้าวและฟังก์ชันการปรุงอาหารว่าคุณทานข้าวมากแค่ไหนและข้าวประเภทใดที่คุณทานบ่อยที่สุด เพื่อช่วยคุณแก้ปัญหาในการเลือกหม้อหุงข้าว วันนี้เราก็มีคำแนะนำในการเลือกสินค้ามาฝากกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันได้เลย

ซื้อ หม้อหุงข้าว ยี่ห้อไหนดี ปี 2564

[summary item=”3887,3860,3863,3866,3881,3883,3885″ info=”1″ layout=”2″]

ประเภทของหม้อหุงข้าว

1. หม้อหุงข้าวไมโครเวฟ

หม้อหุงข้าวแบบนี้เป็นหม้อหุงข้าวที่ต้องทำงานร่วมกันกับไมโครเวฟ วัสดุของหม้อหุงข้าวประเภทนี้จะเป็นพลาสติกปราศจาก BPA ภาชนะพลาสติกนี้จะช่วยให้คุณสามารถหุงข้าว ข้าวโอ๊ตและธัญพืชอื่น ๆ ที่เหมาะสมในไมโครเวฟได้ อุปกรณ์เสริมเล็ก ๆ น้อยๆ เหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่มีพื้นที่ในห้องครัวจำกัด นอกอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยรักษาพื้นที่ว่างบนเคาน์เตอร์ให้มากขึ้นแล้ว มันยังสามารถลดเวลาในการหุงข้าวลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับหม้อหุงข้าวมาตรฐาน อีกทั้งยังมีราคาไม่แพงและปลอดภัยในการทำความสะอาดกับเครื่องล้างจานอีกด้วย

2. หม้อหุงข้าวแบบมาตรฐาน

หม้อหุงข้าวแบบมาตรฐานมักใช้ในประเทศแถบเอเชียโดยเฉพาะบ้านเราค่ะ โดยหม้อหุงข้าวที่มีชื่อเสียงที่สุดบางรุ่นมักจะผลิตในญี่ปุ่น ด้วยฟังก์ชันและคุณสมบัติที่มากกว่าหม้อหุงข้าวไมโครเวฟ คุณจึงสามารถใช้หม้อหุงข้าวในการเคี่ยวเนื้อ นึ่งผักหรือแม้แต่อบเค้กได้ หม้อหุงข้าวมาตรฐานส่วนใหญ่ใช้องค์ประกอบความร้อนเพียงชิ้นเดียว จึงหุงข้าวได้ค่อนข้างเร็ว สามารถช่วยให้คุณหุงข้าวได้ในเวลาเพียง 20 ถึง 30 นาที เพราะความร้อนจะสูงมาก ๆ  อย่างไรก็ตามข้าวก็อาจจะไม่สุกทุกครั้ง หากหุงด้วยน้ำในปริมาณที่ไม่เหมาะสม หม้อหุงข้าวนี้มีราคาถูกมากเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน

3. หม้อหุงข้าวดิจิตอลไมคอม (Micom)

พูดง่าย ๆ ก็คือหม้อหุงข้าวไมคอมเป็นหม้อหุงข้าวมาตรฐานที่มีไมโครชิปในตัว สามารถปรับเวลาและอุณหภูมิในการหุงข้าวได้โดยอัตโนมัติ ส่งผลให้ข้าวนุ่มและสมบูรณ์แบบทุกครั้ง ในแง่ของคนทั่วไปหม้อหุงข้าวแบบไมคอมเป็นอุปกรณ์แบบ Plug and Play ที่จะทำงานให้เสร็จได้ด้วยตัวเอง การใช้หม้อหุงข้าวแบบนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาอันมีค่าของคุณได้ หม้อหุงข้าวแบบนี้มีโหมดการทำอาหารที่ตั้งไว้ล่วงหน้ามากมายสำหรับอาหารบางประเภท เช่น ข้าวขาว ข้าวกล้อง ข้าวปั้นซูชิหรือโจ๊ก จึงทำให้หม้อหุงข้าวนี้สะดวกมากแต่มีราคาแพงกว่าหม้อหุงข้าวทั่วไปค่ะ

4. หม้อหุงข้าวแบบเหนี่ยวนำความร้อน (Induction-Heating)

หม้อหุงข้าวแบบนี้เป็นหม้อหุงข้าวที่มีราคาแพงที่สุดในหม้อหุงข้าวทั้งหมด ปกติแล้วหม้อหุงมาตรฐานจะกระจายความร้อนจากล่างขึ้นบน ส่วนหม้อหุงข้าวแบบนี้จะสร้างโซนความร้อนเหนี่ยวนำโดยใช้หม้อชั้นในทั้งหมดเป็นองค์ประกอบความร้อน หม้อหุงข้าวแบบเหนี่ยวนำความร้อนไม่มีแผ่นทำความร้อนไฟฟ้าที่ด้านล่างจึงไม่เหมือนกับหม้อหุงข้าวประเภทอื่น ๆ ขดลวดเหนี่ยวนำแบบรวมจะกระตุ้นความร้อนจากแม่เหล็กในโลหะที่ประกอบเป็นตัวหม้อชั้นใน ซึ่งหมายความว่าหม้อหุงข้าวแบบนี้จะสามารถกระจายความร้อนได้ทั่วถึงมากขึ้น ส่งผลให้ข้าวมีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นแต่ใช้พลังงานน้อยลง

[product_table item=”3887,3860,3863,3866,3881,3883,3885″ info=”1″ layout=”2″]

คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อ

1. ระบบการทำงานของหม้อหุงข้าว

  • หม้อหุงข้าวแบบหุงต้ม/อุ่น หม้อหุงข้าวแบบนี้เป็นหม้อหุงข้าวที่ราคาถูกที่สุด ส่วนใหญ่แล้วจะมีการตั้งค่าสองแบบคือแบบหุงต้มและอุ่น ตัวเครื่องทำงานแบบเรียบง่ายและสามารถใช้งานได้นานหลายปี หม้อหุงข้าวแบบนี้เป็นที่นิยมมากในไทยค่ะเพราะหาซื้อได้ง่าย
  • Fuzzy logic/หม้อหุงข้าวอัจฉริยะ หม้อหุงข้าวแบบนี้เป็นหม้อหุงข้าวที่มีระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ติดตั้งไว้ หม้อหุงข้าวสามารถช่วยตรวจจับปริมาณของเหลวและข้าวและปรับให้ทุกอย่างเหมาะสม หม้อหุงข้าวเหล่านี้สามารถทำโจ๊ก หุงข้าวเหนียว ข้าวกล้องและปรุงธัญพืชได้ ตัวเครื่องจะมีราคาแพงและมีระบบแจ้งเตือนแบบอัตโนมัติ อีกทั้งในบางยี่ห้อยังสามารถสั่งการผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วยค่ะ
  • หม้อหุงข้าวอเนกประสงค์แบบใช้แรงดัน หม้อหุงข้าวอเนกประสงค์แบบใช้แรงดันเป็นการรวมหม้อหุงข้าวและหม้ออัดแรงดันไว้ในเครื่องเดียว หม้อหุงข้าวแบบนี้สามารถตุ๋น ต้ม อุ่น นึ่งและปรุงอาหารแบบอื่นได้ โดยยังสามารถรักษาสารอาหารในอาหารไว้ได้ครบและใช้งานได้อย่างสะดวก

2. ความจุ

ความจุของหม้อหุงข้าวผ่านการกำหนดจากปริมาณข้าวที่หุงแล้วหรือปริมาณของข้าวดิบที่สามารถใส่ลงในหม้อได้อย่างสบาย โดยหม้อหุงข้าวแบบพื้นฐานทั่วไปมักจะมีความจุประมาณ 0.5 – 5 ลิตร ในการเลือกซื้อคุณต้องเลือกจำนวนความจุที่เหมาะกับการใช้งานของตัวคุณเองและครอบครัว หากคุณพักอยู่คนเดียวคุณสามารถเลือกซื้อหม้อหุงข้าวที่มีความจุ 0.5 – 2 ลิตรก็ได้ค่ะ ถ้าหากคุณต้องการหม้อหุงข้าวสำหรับใช้งานในครอบครัวเราขอแนะนำให้เลือกหม้อหุงข้าวที่มีความจุประมาณ 3 ลิตรขึ้นไป แต่หากคุณต้องการทำอาหารด้วยหม้อหุงข้าวให้เลือกหม้อหุงข้าวที่มีความจุขนาดใหญ่ไว้ก่อนค่ะเพื่อให้คุณสามารถต้มหรือตุ๋นเนื้อสัตว์ได้ อีกทั้งยังสามารถใช้เพื่อทำอาหารได้หลายประเภทอีกด้วย

3. วัสดุที่ใช้เคลือบหม้อชั้นใน

หม้อชั้นในของหม้อหุงข้าวมักจะเคลือบด้วยพอลิเตตระฟลูออโรเอทิลีน (PTFE) หรือเซรามิกแบบ Non Stick นอกจากนี้ยังมีหม้อชั้นในที่ทำจากสเตนเลส ไฟเบอร์และเหล็กกล้าไร้สนิมได้อีกด้วย วันนี้เราจะพาคุณไปดุความแตกต่างของแต่ละวัสดุกันค่ะ

  • PTFE PTFE หรือที่เรียกอีกอย่างว่าเทฟลอนเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมาก ข้อได้เปรียบของวัสดุนี้คือสามารถนำความร้อนได้สูงและไม่ทำให้คราบข้าวหรืออาหารติด นอกจากจะทำความสะอาดได้ง่ายแล้วคุณสมบัติเหล่านี้ยังทำให้หม้อเคลือบแบบเทฟลอนเป็นตัวนำความร้อนที่ดี อีกทั้งยังสามารถช่วยลดเวลาในการปรุงอาหารและการใช้พลังงานได้
  • เซรามิก เซรามิกมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า PTFE และดูเหมือนว่าจะทำให้อาหารสุกเร็วขึ้น เซรามิกมีความแข็งแรงและทนทานสูงมากแต่อาจจะทำความสะอาดได้ยากกว่า PTFE หากคุณใช้หม้อหุงข้าวแบบนี้คุณควรหลีกเลี่ยงการขีดข่วนเพราะจะทำให้มันเสียประสิทธิภาพ
  • เหล็กกล้าไร้สนิม เหล็กกล้าไร้สนิมสามารถให้ความร้อนได้สูง แต่มีประสิทธิภาพด้อยกว่า PTFE วัสดุนี้มีความคงทนมากที่สุด จึงทนทานพอที่จะไม่เกิดสนิมและมัวหมองเมื่อเวลาผ่านไป ตัวหม้ออาจมีรอยขีดข่วนได้ง่ายและทำความสะอาดได้ยากกว่าวัสดุทั่วไป

4. แผ่นทำความร้อนไฟฟ้า

ความทนทานและประสิทธิภาพในการปรุงอาหารของหม้อหุงข้าวอาจพิจารณาจากคุณภาพของแผ่นทำความร้อนบางส่วน นั่นเป็นเหตุผลที่คุณควรหลีกเลี่ยงการซื้อหม้อหุงข้าวคุณภาพต่ำจากแบรนด์ที่ไม่น่าเชื่อถือ อุปกรณ์เหล่านี้มักจะมีแผ่นความร้อนที่ต่ำกว่ามาตรฐานซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดการลัดวงจรได้ง่าย ไม่เพียงเท่านั้นแต่แผ่นความร้อนที่ไม่มีคุณภาพอาจไม่สามารถหุงข้าวได้เต็มที่ จึงอาจจะเกิดข้อบกพร่องและไม่มีความปลอดภัยในการใช้งาน

5. คุณสมบัติอื่น ๆ

หม้อหุงข้าวราคาไม่แพงจำนวนมากมาพร้อมกับตัวจับเวลา ด้วยตัวเลือกนี้คุณสามารถทำอาหารได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้บางยี่ห้ออาจมีชั้นวางซึ่งสามารถใช้นึ่งผัก ปลาหรือแม้แต่ทำของหวานขณะหุงข้าวได้ ส่วนหม้อหุงข้าวที่มีโมเดลระดับไฮเอนด์มักจะมีระบบควบคุมอัจฉริยะที่สามารถตรวจสอบความคืบหน้าในการทำอาหารผ่านแอปพลิเคชันได้ บางตัวมีเสียงเตือนหรือเสียงดนตรีที่จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อข้าวพร้อมเสิร์ฟ นี่เป็นส่วนเสริมที่ดีแต่บางฟังก์ชันอาจจะไม่ได้จำเป็นทั้งหมด

หม้อหุงข้าวมีความสำคัญอย่างไร ทำไมต้องซื้อ ?

คนเราต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งแน่นอนว่าการทานข้าวเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ข้าวจัดอยู่ในหมวดหมู่คาร์โบไฮเดรตซึ่งจำเป็นต่อร่างกายไม่น้อยไปกว่าโปรตีนและวิตามิน ดังนั้นไอเทมประจำครัวที่คุณต้องมีก็คือ “หม้อหุงข้าว” แน่นอนว่าในปัจจุบันนี้คุณสามารถซื้อข้าวสุกสำเร็จรูปได้ นำมาเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 – 2 นาทีก็ได้ข้าวมารับประทานแล้ว แต่เราขอบอกเลยว่าการซื้อหม้อหุงข้าวจะทำให้คุณได้ข้าวสวยที่มีประสิทธิภาพอีกทั้งยังสามารถเลือกชนิดของข้าวได้ว่าคุณอยากจะทานข้าวแบบไหน ? หรือทานข้าวที่มีความสุกเท่าไหร่ ?

ในสมัยโบราณเราต้องหุงข้าวด้วยฟืนเพื่อให้ได้ข้าวมาทานแก้หิว แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้วค่ะเราไม่จำเป็นต้องหาถ่าน หาฟืนอีกต้องไป เพราะหม้อหุงข้าวแบบไฟฟ้าสามารถช่วยหุงข้าวให้กับคุณได้เพียงแค่กรอกข้าวสาร เติมน้ำ เสียบปลั๊กไฟ กดปุ่มเพื่อทำงาน หลังจากนั้นก็รอเวลาคุณก็สามารถได้ข้าวสวยมาทานแล้ว การทำงานของหม้อหุงข้าวนั้นค่อนข้างเรียบง่าย อีกทั้งในตอนนี้หม้อหุงข้าวยังใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาผลิตทำให้คุณสามารถหุงข้าวได้เกือบทุกชนิดในหม้อหุงข้าวใบเดียว เช่น ข้าวกล้อง ข้าวขาวและข้าวเหนียว อีกทั้งในบางยี่ห้อก็สามารถทำเค้ก เบเกอรี่ ปรุงพาสต้าและทำซอสได้อีกด้วย ดังนั้นการลงทุนซื้อหม้อหุงข้าวที่ดีจึงจำเป็นสำหรับทุกคนค่ะ โดยประโยชน์ของหม้อหุงข้าวก็มีดังนี้

  • ข้าวที่หุงจะผ่านการปรุงสุกอย่างดีทุกครั้ง
  • อาหารจะไม่มีวันไหม้และจะไม่สร้างความยุ่งเหยิงเหมือนกับการทำอาหารหรือหุงข้าวบนเตาตั้งพื้น
  • หม้อหุงข้าวสามารถใช้ได้กับอาหารอื่น ๆ เช่น ถั่วและธัญพืชได้
  • หม้อหุงข้าวมีราคาไม่แพงและช่วยประหยัดเวลาในการทำอาหาร
  • หม้อหุงข้าวมีขนาดกะทัดรัด ราคาไม่แพงและใช้พื้นที่ในการจัดวางไม่มากนัก