“การออกกำลังกาย” เป็นประจำจะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี และมีหัวใจที่แข็งแรง หลายคนอาจจะออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันหรือออกกำลังกายสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อคลายความเครียดจากการทำงาน ซึ่งในการออกกำลังกายอุปกรณ์ที่เราต้องมีเลยก็คือรองเท้าและเสื้อผ้าสำหรับการออกกำลังกาย แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ การพกพาสมาร์ทโฟนเพื่อ “ฟังเพลง” ในขณะออกกำลังกายนั่นเอง
การฟังเพลงเปรียบเสมือนชีวิตจิตใจของคนที่ออกกำลังกาย เพราะการฟังเพลงจะทำให้เรามีความรู้สึกฮึกเหิมและผ่อนคลายระหว่างการออกกำลังกาย หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าการออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องฟังเพลงก็ได้ ถ้าคุณคิดแบบนี้คุณคิดผิดมากค่ะ เพราะมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนแล้วว่า การฟังเพลงในขณะออกกำลังกายมีประโยชน์มากมาย อย่างเช่น การฟังเพลงทำให้การออกกำลังกายง่าย และน่าพึงพอใจมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้คุณออกกำลังกายได้หนักขึ้นกว่าการออกกำลังกายแบบเงียบ ๆ และไร้เสียงเพลง หากวันนี้คุณกำลังมองหาข้อดีของการฟังเพลงขณะออกกำลังกาย เราก็มีข้อเท็จจริงมาบอกกล่าวกันค่ะ
1. ดนตรีช่วยให้คุณตอบสนองต่อจังหวะ
ดนตรีสามารถสร้าง “การตอบสนองต่อจังหวะ” ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ผู้คนจะประสานการเคลื่อนไหวให้เข้ากับจังหวะดนตรี (1) ซึ่งการขยับตัวเองตามจังหวะดูเหมือนว่าจะช่วยทำให้ร่างกายมันสนุกมากขึ้น และช่วยเพิ่มพลังงานการเผาผลาญ ซึ่งแน่นอนว่าดนตรีและการออกกำลังกายเป็นของที่คู่กันเหมือนกับทรายและทะเลที่แยกจากกันไม่ได้ ซึ่งจังหวะในการออกกำลังกายที่ดีที่สุดก็คือระหว่าง 120-140 ครั้งต่อนาที (BPM) เพราะเป็นจังหวะที่มักจะตรงกับอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งเพลงแดนซ์และเพลงร็อคหลายๆ เพลงก็มักใช้ช่วงจังหวะแบบนี้
2. ดนตรีสามารถยกระดับอารมณ์และกระตุ้นคุณได้
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Frontiers in Psychology พบว่า ผู้คนฟังเพลงเพื่อพัฒนาอารมณ์ และทำความรู้จักกับตนเอง คุณจะรู้สึกมีแรงจูงใจมากขึ้นหากได้ทำอะไรบางอย่างที่ทำให้คุณอารมณ์ดี ซึ่งการฟังเพลงเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ทำให้คุณมีความรู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ดี เมื่อเราได้ฟังเพลงที่เราชอบเราก็มักจะมีอารมณ์ร่วมไปกับเพลงนั้น ๆ และทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้น (2)
3. ดนตรีช่วยกระตุ้นให้อยากออกกำลังกาย
ดนตรีจะช่วยให้คุณแข่งขันกับความรู้สึกเหนื่อยที่เกิดขึ้นในระหว่างการออกกำลังกาย บางครั้งเวลาที่เราออกกำลังกาย เหงื่อของเราจะออกมาเยอะขึ้น หัวใจเต้นแรงขึ้น และรู้สึกเหนื่อยล้าที่กล้ามเนื้อ ซึ่งอาการเหล่านี้ มักจะดึงดูดความสนใจของคุณทำให้คุณเสียสมาธิจากความรู้สึกลบของร่างกาย และทำให้คุณอยากจะหยุดการออกกำลังกาย ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวไว้ว่า ดนตรีสามารถช่วยเพิ่มอารมณ์ได้ ฉะนั้นดนตรีจึงสามารถกระตุ้นให้คุณออกกำลังกายต่อไปได้และยังช่วยลดความรู้สึกไม่สบายทางร่างกายด้วย
4. ดนตรีทำให้เราออกกำลังกายได้หนักขึ้น
มีการศึกษาหนึ่งโดย Costas Karageorghis ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการกีฬาได้กล่าวไว้ในวารสาร Sports Exercise Psychology พบว่า ดนตรีสามารถสร้างแรงบันดาลใจที่จะช่วยให้ผู้ออกกำลังกายสามารถขจัดความเหนื่อยล้าได้ (3) และเขาได้กล่าวอีกว่า ดนตรีสามารถเพิ่มความอดทนระหว่างการออกกำลังกายได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว
5. ดนตรีทำให้คุณหลงใหลและทำให้คุณอยากเคลื่อนไหว
จากการศึกษาของ Brain and Cognition ชี้ว่า คุณภาพทางดนตรีสามารถกระตุ้นให้ผู้ฟังอยากเคลื่อนไหวได้ ดนตรีสามารถช่วยกระตุ้นพื้นที่ของสมองที่มีหน้าที่ในการเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นการฟังเพลงจึงสามารถช่วยให้คุณอยากออกกำลังกาย และทำให้คุณอยากจะเคลื่อนไหวไปตามจังหวะของเสียงเพลง (4)
ในการฟังเพลงคุณควรเลือกเพลย์ลิสต์ที่ยาวพอ ซึ่งจะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เสียสมาธิในระหว่างที่คุณออกกำลังกายตามกิจวัตรประจำวันของคุณ และคุณควรเลือกเพลงที่ BPM ตรงกับอัตราการเต้นของหัวใจที่คุณต้องการได้รับระหว่างการออกกำลังกาย แนะนำให้เลือกเพลงที่เร็วขึ้น สำหรับการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง ๆ และแนะนำให้เลือกเพลงช้าสำหรับการออกกำลังกายที่เบาลง หรือมีความเข้มข้นระดับปานกลาง อีกทั้งควรเลือกเพลงที่คุณชอบ เพื่อเพิ่มอารมณ์ในการออกกำลังกายของคุณอย่างเต็มที่ค่ะ
อ้างอิง
(2) The psychological functions of music listening
(3) Psychophysical and ergogenic effects of synchronous music during treadmill walking
(4) Musical groove modulates motor cortex excitability: a TMS investigation