“เตาแม่เหล็กไฟฟ้า” เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวที่สะดวกมากหากคุณชอบทำอาหาร ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อครัว แม่ครัวหรือนักศึกษาที่อยู่หอพักก็สามารถใช้ประโยชน์จากเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ การใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันความยุ่งเหยิงจากงานครัวได้ แต่ยังสามารถใช้งานง่ายและเข้ากับชุดเครื่องครัวที่หลากหลายอีกด้วย
เตาแม่เหล็กไฟฟ้านั้นแตกต่างจากเตาไฟฟ้าทั่วไปเพราะตัวเครื่องจะไม่ใช้คอยล์กระจายความร้อนเพื่อให้ความร้อนและแตกต่างจากเตาแบบแก๊สตรงที่ไม่ต้องใช้แก๊สและเปลวไฟ โดยแต่ละเตาจะใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อนำความร้อนให้กับเครื่องครัว ไม่ว่าจะเป็น หม้อ หรือกระทะ เพื่อให้สามารถสร้างอาหารมื้ออร่อยให้กับคุณได้ ซึ่งข้อดีของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าประเภทนี้คือความร้อนจะถูกถ่ายเทโดยตรงไปยังเครื่องครัวและจะหยุดทำงานทันทีเมื่อคุณนำหม้อหรือกระทะออก ที่สำคัญยังทำความสะอาดง่ายกว่าเตาแก๊สทั่วไปมาก ๆ
การใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะสะดวก ไม่ว่าคุณจะทำอาหารประเภทไหนหรือที่ไหน เพียงแค่มีไฟฟ้าตัวเครื่องก็สามารถทำงานได้แล้วล่ะค่ะ (ดูเพิ่มเติมในหัวข้อ วิธีใช้งานเตาแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างถูกวิธี) แน่นอนว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมมากเพราะมักจะใช้ในร้านชาบูและบุฟเฟต์ ดังนั้นการเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่เหมาะสมอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก แต่วันนี้เราจะช่วยคุณด้วยการแนะนำเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่ดีที่สุดกันค่ะ
ซื้อ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2564
- เตาแม่เหล็กไฟฟ้าระบบความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับไว้ทานชาบู : Electrolux เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่น ETD29KC
- เตาแม่เหล็กไฟฟ้าระบบเซนเซอร์ มาพร้อมฟังก์ชันตั้งเวลาทำอาหารได้นาน 24 ชั่วโมง : Philips เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่น HD4911/35
- เตาแม่เหล็กไฟฟ้าอัจฉริยะ ดีไซน์สวยงาม ให้การควบคุมที่แม่นยำ : Xiaomi เตาแม่เหล็กไฟฟ้าอัจฉริยะ
- เตาแม่เหล็กไฟฟ้ากระจายความร้อนได้ทั่วถึง ใช้งานง่ายอาหารไม่ไหม้: Midea เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่น MI-NM1600
- เตาแม่เหล็กไฟฟ้าราคาประหยัด มีระบบไมโครคอมพิวเตอร์ไม่เกิดเปลวไฟเมื่อใช้งาน: HANABISHI เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่น HIC-309
- เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบฝัง ทำความร้อนได้ 4 เตาในเครื่องเดียว: Electrolux เตาฝังอินดักชั่น EHI7280BB
เตาแม่เหล็กไฟฟ้า คืออะไร และแตกต่างจากเตาประเภทอื่นอย่างไร?
ความแตกต่างระหว่างเตาแม่เหล็กไฟฟ้ากับเตาไฟฟ้าหรือเตาแก๊ส คือ วิธีที่พวกเขาใช้ในการทำให้เครื่องครัวร้อนขึ้น ดังต่อไปนี้
- เตาแก๊ส จำเป็นต้องใช้ก๊าซหุงต้มจะต้องจุดไฟเพื่อทำให้อาหารของคุณร้อน
- เตาไฟฟ้า จะสร้างความร้อนผ่านขดลวดโลหะภายใต้พื้นผิวเซรามิก
- เตาแม่เหล็กไฟฟ้า จะทำงานซับซ้อนกว่าอุปกรณ์ประเภทอื่นเพราะเตาจะให้ความร้อนระหว่างหม้อกับแม่เหล็กและจะส่งความร้อนผ่านขดลวดทองแดงใต้พื้นผิวโดยตรงไปยังเครื่องครัวที่คุณใช้ ซึ่งหมายความว่าความร้อนที่ออกมานั้นจะไม่อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีการให้ความร้อนที่เหนือชั้นนี้เป็นผลมาจากการแผ่รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากสนามแม่เหล็ก ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่เหมือนกับการใช้ไฟฟ้าทั่วไป ข้อดีของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าคือใช้งานได้ปลอดภัยกว่าเตาประเภทอื่นมาก เนื่องจากความร้อนที่ตกค้างจะไม่เกาะอยู่บนตัวทำความร้อนเมื่อคุณนำกระทะหรือเครื่องครัวออกมา เตาแบบนี้จึงเหมาะสำหรับครอบครัวมากกว่าและในการทำความสะอาดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าก็เป็นเรื่องง่ายเช่นกัน เนื่องจากคุณสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ทันที มันจะไม่มีคราบหรือสิ่งสกปรกเหลืออยู่ แต่นอกจากข้อดีแล้วแน่นอนว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้าก็มีข้อเสียเช่นกันเพราะคุณไม่สามารถใช้เครื่องครัวที่ทำจากทองแดงหรืออะลูมิเนียมร่วมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ นอกจากนี้คุณต้องใช้เครื่องครัวแบบก้นแบนสำหรับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเท่านั้น
ประเภทของเตาแม่เหล็กไฟฟ้า
1. เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบองค์ประกอบเดียว (แบบเตาเดี่ยว)
คือ เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนำ ซึ่งมีโซนการทำอาหารแบบเดี่ยว โดยคุณสามารถวางไว้ในครัวหรือใช้ร่วมกับเครื่องครัวอื่น ๆ ได้ แต่เนื่องจากมีโซนทำอาหารเพียงโซนเดียว คุณจึงไม่สามารถใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าประเภทนี้ทำอาหารหลายจานพร้อมกันได้ โดยทั่วไปแล้วเตาแม่เหล็กไฟฟ้าประเภทนี้จะใช้กำลังไฟสูงสุดอยู่ที่ 1,800 วัตต์ ซึ่งแน่นอนว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดนี้จะมีราคาที่ประหยัดกว่าเมื่อเทียบกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบองค์ประกอบเดียวนี้จะมีประโยชน์มากสำหรับครอบครัวขนาดเล็กค่ะ
2. เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบหลายองค์ประกอบ (มีมากกว่า 1 เตา)
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบหลายองค์ประกอบนั้นมักจะมีโซนการทำอาหารหลายโซน ซึ่งคุณสามารถปรุงอาหารหลายจานพร้อมกันได้ โดยปกติแล้วเตาแม่เหล็กไฟฟ้าประเภทนี้จะใช้กำลังไฟสูงสุดอยู่ที่ 3,600 วัตต์ ซึ่งกำลังไฟที่สูงนี้ก็ทำให้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบนี้ค่อนข้างแพงและพกพาได้ยากเพราะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่จึงจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้งมากขึ้น เตาแม่เหล็กไฟฟ้าจึงเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่
3. เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบบิวท์อิน
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบบิวท์อินมีให้เลือกหลายขนาดและดูหรูหรามาก หากคุณกำลังวางแผนเพื่อจัดแต่งห้องครัว เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบบิวท์อินก็เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบ เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบบิวท์อินนี้มีหลายเตาให้เราได้เลือกได้ใช้งานสามารถอำนวยความสะดวกได้ดียิ่งขึ้น แต่ข้อเสียก็คือเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบนี้มีราคาสูงมากแต่เนื่องจากต้องติดตั้งไว้ภายในคุณจึงไม่สามารถถอดหรือพกพาไปไหนมาไหนได้ หากคุณซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบนี้คุณจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาติดตั้งเท่านั้นค่ะ
Electrolux เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่น ETD29KC
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าระบบความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับไว้ทานชาบู
ราคา 1,470 บาท*
ข้อมูลสินค้า
กำลังไฟ : 2,000 วัตต์
ขนาด : 36 x 28 x 6.5 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 2.3 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- มีระบบเซนเซอร์ตัวเครื่องจะปิดการทำงานอัตโนมัติหากไม่มีภาชนะบนเตา
- ตัวหน้าจอเป็น LED ให้การควบคุมได้ง่าย
- สามารถปรับความร้อนได้ 8 ระดับ
ข้อควรพิจารณา
ไม่มีโปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติ
Philips เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่น HD4911/35
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าระบบเซนเซอร์ มาพร้อมฟังก์ชันตั้งเวลาทำอาหารได้นาน 24 ชั่วโมง
ราคา 2,450 บาท*
ข้อมูลสินค้า
กำลังไฟ : 2,100 วัตต์
ขนาด : 28 x 35 x 6.5 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 4 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- อุปกรณ์นี้มาพร้อมกับตัวควบคุมที่ใช้งานได้ง่าย ใคร ๆ ก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
- มีเมนูอัตโนมัติที่ตั้งไว้ล่วงหน้าได้ทั้ง 5 เมนูทำให้สะดวกในการปรุงอาหาร
- มีโหมดแมนนวลช่วยให้คุณปรับแต่งตัวเลือกการทำอาหารได้อย่างเหมาะสม
ข้อควรพิจารณา
ไม่มีแผงสำหรับกันน้ำเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าแผงควบคุม
Xiaomi เตาแม่เหล็กไฟฟ้าอัจฉริยะ
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าอัจฉริยะ ดีไซน์สวยงาม ให้การควบคุมที่แม่นยำ
ราคา 879 บาท*
ข้อมูลสินค้า
กำลังไฟ : 2,100 วัตต์
ขนาด : 26.5 x 26.5 x 7 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 2.82 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ตัวเครื่องทำงานแบบอัจฉริยะ กระจายความร้อนได้ดีมาก
- มีระบบความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม
- สามารถใช้แอปพลิเคชันเพื่อดูสูตรอาหารและควบคุมเวลาได้อย่างแม่นยำ
ข้อควรพิจารณา
ไม่มีคู่มือใช้งานภาษาไทย
Midea เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่น MI-NM1600
เตาแม่เหล็กไฟฟ้ากระจายความร้อนได้ทั่วถึง ใช้งานง่ายอาหารไม่ไหม้
ราคา 790 บาท*
ข้อมูลสินค้า
กำลังไฟ : 1,600 วัตต์
ขนาด : 29.5 x 29.5 x 6.5 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 3.85 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- มีประสิทธิภาพการทำความร้อนสูง
- มีช่องระบายความร้อน ตัวเครื่องจะไม่ร้อนแม้ใช้งานไปนาน ๆ
- มีระบบป้องกันน้ำ ช่วยควบคุมน้ำเข้าเครื่องได้ดี
- มีปุ่มรองกันลื่น ตัวเครื่องจะมั่นคงเมื่อทำอาหาร
ข้อควรพิจารณา
ไม่มีโปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติ
HANABISHI เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่น HIC-309
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าราคาประหยัด มีระบบไมโครคอมพิวเตอร์ไม่เกิดเปลวไฟเมื่อใช้งาน
ราคา 833 บาท*
ข้อมูลสินค้า
กำลังไฟ : 2,000 วัตต์
ขนาด : 35 x 28 x 6.5 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 1.85 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ตัวเครื่องร้อนเร็วและกระจายความร้อนได้ดี
- สามารถทำความสะอาดได้ง่ายมาก
- ตัวเครื่องสามารถปรับอุณหภูมิได้ ตั้งเวลาการทำอาหารได้
ข้อควรพิจารณา
อาจระบายอากาศได้ไม่ดีพอ
Electrolux เตาฝังอินดักชั่น EHI7280BB
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบฝัง ทำความร้อนได้ 4 เตาในเครื่องเดียว
ราคา 20,320 บาท*
ข้อมูลสินค้า
กำลังไฟ : 3,700 วัตต์
ขนาด : 68 x 40 x 5.5 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 1.85 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- หัวเตาเป็นแบบอินฟราเรด กระจายความร้อนได้ทั่วถึง
- สามารถทำอาหารได้พร้อมกันถึง 4 เตา
- มีระบบความปลอดภัยสูง มีไฟแจ้งเตือนหากมีความร้อนตกค้าง
ข้อควรพิจารณา
ต้องติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อ
1. ประเภทและการดีไซน์ของเตาแม่เหล็กไฟฟ้า
เตาแม่เหล็กไฟฟ้ามีทั้งแบบพกพาและแบบบิวท์อิน การเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้ตรงกับความต้องการนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณวางแผนจะใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใด เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบพกพานั้นจะสามารถถอดปลั๊กและเก็บไว้ในตู้ได้ ซึ่งก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กอื่น ๆ ทำให้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า แบบนี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับครัวเรือนที่ต้องการประหยัดพื้นที่ แต่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบบิวท์อินมักจะออกแบบมาให้พอดีกับเคาน์เตอร์ในครัว ซึ่งเตาจะถูกฝังไว้ภายในเลยจึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ แน่นอนว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้าประเภทนี้จะมีราคาแพงกว่าเพราะทำอาหารได้อย่างหลากหลายมากกว่าค่ะ
2. จำนวนหัวเตา
เตาแม่เหล็กไฟฟ้ามักจะมีหัวเตาตั้งแต่ 1 – 6 หัวตามรูปแบบที่เราได้เลือก ซึ่งปกติแล้วเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบพกพาจะมีเพียง 1 หรือ 2 หัวเตาเท่านั้น ในขณะที่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบบิวท์อินจะมีมากกว่า 4 – 5 หัวเตา เมื่อซื้อของคุณควรพิจารณาสิ่งที่คุณต้องการทำอาหารบนเตาและประเภทของเครื่องครัวที่คุณมี แม้ว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะต้องใช้กับเครื่องครัวที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีแม่เหล็กเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้เครื่องครัวที่ออกแบบมาให้เข้ากับเตาแม่เหล็กก็มีมากมาย เตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีหัวเตา 4 หรือ 5 หัวจะทำให้คุณมีพื้นที่สำหรับทำอาหารมากขึ้นเหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการทำอาหารที่หลากหลาย
3. ระดับพลังไฟฟ้า (วัตต์)
ปริมาณพลังงานที่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าของคุณมีจะส่งผลต่อประสบการณ์การทำอาหารของคุณ เตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีกำลังไฟมากกว่าจะช่วยให้คุณสามารถต้มน้ำในหม้อหรือย่างเนื้อได้อย่างรวดเร็ว กำลังไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีหน่วยวัดเป็นวัตต์ และหากเตาแม่เหล็กไฟฟ้าของคุณมีหัวเตาหลายหัว เตาเหล่านั้นอาจมีกำลังไฟที่สูงขึ้นตามจำนวนหัวเตาที่มี ดังนั้นคุณจึงสามารถทำอาหารหลายอย่างพร้อมกันได้ หัวเตาของเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามักจะกำลังไฟตั้งแต่ 1,300 ถึง 5,400 วัตต์และโดยทั่วไปแล้วคุณสามารถกำหนดระดับพลังงานได้เหมือนกับที่คุณกำหนดความแรงของเปลวไฟในรุ่นที่ใช้แก๊ส
4. คุณสมบัติพิเศษของเตาแม่เหล็กไฟฟ้า
- หัวเตาแบบใช้งานพร้อมกัน เตาแม่เหล็กไฟฟ้าบางรุ่นมีหัวเตาที่สามารถเชื่อมประสานกันได้และทำงานร่วมกันได้ โดยพื้นฐานแล้วเตาเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างพื้นที่ทำอาหารที่กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้วคุณลักษณะนี้จะพบได้ในเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นอัจฉริยะหรือระดับไฮเอนด์รวมไปถึงเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบบิวท์อิน เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบนี้มีประโยชน์มากเพราะคุณสามารถอุ่นเครื่องเคียงและเตรียมอาหารมื้อใหญ่ เช่น พาสต้ากับลูกชิ้น ได้พร้อม ๆ กัน
- คู่มือการทำอาหารและควบคุมอุณหภูมิ เตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่ดีจะต้องมีคำแนะนำในการประกอบอาหาร ซึ่งคำแนะนำนี้จะทำให้สามารถปรับการตั้งค่าการใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ ฟังก์ชันการทำอาหารและเวลาที่จะต้องใช้ ซึ่งคู่มือนี้จะช่วยในการอ่านขนาดและรูปร่างกระทะของคุณได้ง่ายๆ และสามารถปรับความร้อนในขณะที่คุณทอด ผัด หรือทำซุปได้ หากต้องการลองใช้คุณสมบัตินี้ให้เลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าคุณภาพสูง ขอบอกเลยว่าฟังก์ชันนี้จะช่วยให้คุณสะดวกในการทำอาหารมาก ๆ
- ระบบล็อกและความปลอดภัย เตาแม่เหล็กไฟฟ้ามักจะติดตั้งคุณลักษณะด้านความปลอดภัยหลายอย่าง แต่มีเฉพาะบางรุ่นเท่านั้นที่มีระบบล็อกและควบคุม คุณสมบัตินี้จะล็อกการตั้งค่าอุณหภูมิที่คุณตั้งไว้ ดังนั้นมันจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณไปสัมผัสชนกับอุณหภูมิโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าคุณจะมีเด็ก ๆ อยู่ในบ้านการใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะปลอดภัย เพราะคุณลักษณะนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้าของคุณถูกใช้อย่างถูกต้องและถูกเวลา
วิธีการใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างถูกและปลอดภัย
การใช้งานเตาแม่เหล็กไฟฟ้านั้นง่ายมากเมื่อคุณได้ทำความรู้จักมันครบทุกด้านแล้ว แต่วันนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานทุกคน เราก็มีคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากกัน เราขอแนะนำให้ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ เหล่านี้เพื่อเรียนรู้วิธีใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างเหมาะสมเพื่อให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น
1. วางเตาแม่เหล็กไฟฟ้าใกล้แหล่งพลังงาน
คุณควรวางเตาแม่เหล็กไฟฟ้าไว้ใกล้กับแหล่งพลังงาน นอกจากนี้พื้นที่ในครัวควรมีอากาศที่ถ่ายเทได้ดี การมีแหล่งพลังงานในบริเวณใกล้เคียงกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามีความสำคัญมาก เนื่องจากความยาวของสายไฟในเตาจะได้ครอบคลุมพื้นที่ เพราะปกติแล้วสายไฟของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าค่อนข้างสั้นและอาจใช้งานได้ยาก แต่หากคุณพบว่าสายไฟของเตาแม่เหล็กที่คุณมีความสั้นมากจะต้องใช้ปลั๊กพ่วงเสมอค่ะ
2. เลือกประเภทหม้อ/ภาชนะ
เตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะทำงานบนหลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้นคุณต้องมีเครื่องครัวที่ทำจากเหล็กหรือเหล็กกล้า มิฉะนั้นความร้อนจะไม่เกิดขึ้นและอาจทำให้หม้อเสียหายได้ นอกจากนี้หม้อหรือกระทะที่ใช้ควรเป็นแบบก้นแบนและพื้นผิวเรียบ เพราะพื้นที่สัมผัสระหว่างหม้อกับเตาจะเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า
3. เปิดเตาแล้วเตรียมทำอาหาร
หลังจากวางเตาแม่เหล็กไฟฟ้าในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้วให้เปิดสวิตช์ จากนั้นเตรียมตัวไปทำอาหาร คุณสามารถเตรียมอาหารได้โดยใช้โปรแกรมที่มีไว้ให้ในแผงควบคุมหรือศึกษาในคู่มือผู้ใช้เพื่อหารายละเอียดเพิ่มเติม แต่ระหว่างการใช้งานควรจำไว้เสมอว่ากำลังไฟที่สูงขึ้นจะทำให้เกิดความร้อนมากขึ้นและส่งผลให้การทำอาหารเสร็จรวดเร็วขึ้น
4. การทำความสะอาดและบำรุงรักษา
หลังทำอาหารเสร็จแล้วห้ามสัมผัสพื้นผิวที่ร้อนเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที ปล่อยให้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าเย็นลงก่อน ถัดมาให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ แล้วถูเบา ๆ บนเตาเพื่อทำความสะอาด คราบบางจุดที่มีความแข็งหากใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ แล้วเช็ดไม่ออก แนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาล้างจานเพื่อกำจัดคราบ การทำความสะอาดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นประจำหลังการใช้งานเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้เตาแม่เหล็กไฟฟ้ามีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น