เมื่อเราก้าวสู่ปี 2021 ดูเหมือนว่าการทำงานจากที่บ้านจะเป็นที่นิยมมาก นั่นก็เป็นเพราะสถานการณ์โควิด 19 ทำให้หลายคนต้องเว้นระยะห่างทางสังคม แน่นอนว่าเมื่อเราทำงานที่ออฟฟิศ เราต้องพบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ทางรัฐบาล หรือทางบริษัทเองก็ต้องการรักษามาตรการความปลอดภัยโดยให้ทุกคนทำงานที่บ้าน “Work From Home” ซึ่งแน่นอนค่ะเมื่อทำงานจากที่บ้านเราก็ต้องมีห้องหรือมีสถานที่สำหรับทำงานโดยเฉพาะหรือที่เรียกกันว่า “โฮมออฟฟิศ” นั่นเอง เพื่อให้เรามีสมาธิอยู่กับงาน
สำหรับพวกเราแล้ว การทำงานจากที่บ้านเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง นั่นเป็นเพราะเราไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปออฟฟิศ ไม่ต้องเร่งรีบกับมื้ออาหารกลางวันและมีเวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น อีกทั้งยังเหมาะสำหรับธุรกิจเช่นกัน เนื่องจากการทำงานจากที่บ้านสามารถลดความเครียดจากการทำงานลงได้ และเมื่อไม่เครียดมันจึงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเราด้วย แต่หากต้องการทำงานจากที่บ้านคุณก็ต้องมีโฮมออฟฟิศที่ดีก่อน และมีพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการทำงานโดยเฉพาะ ดังนั้นในวันนี้เราได้รวบรวมวิธีการอัปเกรดโฮมออฟฟิศที่ดีที่สุด 10 รายการเพื่อช่วยคุณเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของคุณในขณะที่ทำงานจากที่บ้านค่ะ
1. โต๊ะทำงาน
การมีโต๊ะทำงานเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรกคือ หากคุณทำงานจากที่บ้าน คุณจะต้องแบ่งพื้นที่บางส่วนออกเพื่อทำงานไม่จำเป็นต้องใหญ่โต แต่การสร้างพื้นที่ทำงานที่กำหนด มีความสำคัญต่อการสร้างความแตกต่างระหว่างเวลางานกับเวลาว่าง นักจิตวิทยาสิ่งแวดล้อมได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าเป็นไปได้ให้พยายามแบ่งโต๊ะของคุณออกจากพื้นที่ที่เป็นส่วนตัว เพราะจะช่วยให้คุณไม่เสียสมาธิ การทำงานบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงจะทำให้เสียสมาธิได้ง่าย ดังนั้นควรจัดวางข้าวของให้เป็นระเบียบ และจัดเตรียมสิ่งที่คุณต้องการให้อยู่ในมืออยู่เสมอ มันสามารถช่วยให้คุณมีสมาธิ จดจ่ออยู่กับงานมากขึ้น
2. เพิ่มพื้นที่หน้าจอ
หากคุณกำลังทำงานกับแล็ปท็อป โดยใช้จอภาพจากภายนอก มันจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการทำงานของคุณได้เป็นอย่างมาก จากการศึกษาที่แนะนำว่าหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น อาจทำให้ประสิทธิผลของการทำงานจะเพิ่มขึ้นถึง 30% (1) ดังนั้นเพื่อให้มีพื้นที่หน้าจอที่เพิ่มขึ้น คุณต้องหาหน้าจอคอมพิวเตอร์มาต่อเข้ากับแล็ปท็อป เพื่อใช้งานแทนหน้าจอเดิมของแล็ปท็อปที่มีขนาดเล็ก และวางแล็ปท็อปให้ห่างสายตา เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่บนโต๊ะทำงานให้มากขึ้น นอกจากนี้การระวังปริมาณแสงจ้าที่เราสัมผัสจากหน้าจอ แสงจ้าจากหน้าจอของเราไม่สามารถทำลายดวงตาได้ แต่สิ่งที่ทำลายดวงตาของเราเป็นความยาวคลื่นเฉพาะของแสงสีน้ำเงิน ฉะนั้นอย่าลืมลดแสงให้พอเหมาะเพื่อให้ดวงตาของเราทำงานได้ง่ายขึ้น ไม่ทำให้รู้สึกว่าปวดตา หรือดวงตาล้า
3. ภาพในวิดีโอคอลต้องมีคุณภาพ
ตอนนี้พวกเราหลายคนไม่ได้เห็นเพื่อนร่วมงานในชีวิตจริง ดังนั้นการประชุมเสมือนจริงเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญไม่เพียงแต่สำหรับการทำงานให้เสร็จ แต่เพื่อรักษาความสัมพันธ์ในการทำงานและลดความโดดเดี่ยว เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุดคุณต้องมีกล้องที่ดีอย่างกล้องที่มีระบบ DSLR แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถตั้งค่ากล้องประเภทอื่น ๆ ได้ โดยไม่เกะกะพื้นที่ และเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง
4. เลือกไมโครโฟนคุณภาพดี
เมื่อวีดีโอคอลหลายคนอาจจะได้ยินเสียงรบกวนจากภายนอกมากมาย ซึ่งแน่นอนเสียงเหล่านี้มันเป็นเสียงที่รบกวนสมาธิเอามาก ๆ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเหล่านี้ คุณสามารถลงทุนซื้อไมโครโฟนดี ๆ สักชิ้นหนึ่ง เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น
5. เช็คว่าเก้าอี้นั่งสบายไหม?
หากคุณใช้เวลาทำงานที่โต๊ะ 8 ชั่วโมงทุกวัน และคุณมีแนวโน้มที่จะทำงานจากที่บ้านต่อไปในอนาคต การลงทุนซื้อเก้าอี้ที่นุ่ม นั่งสบายเป็นทางเลือกที่ควรค่าแก่การลงทุน เก้าอี้ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์สามารถป้องกันอาการปวดหลังและปรับปรุงท่าทางในการนั่งได้ แต่จากการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าการแก้ปัญหาตามหลักสรีรศาสตร์ให้ประโยชน์ในระดับปานกลางเท่านั้น (2) ดังนั้นคุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การหาเก้าอี้ที่สะดวกสบายในการใช้งาน และเหมาะกับคุณได้
6. ปิดเสียงรบกวน
การทำงานจากที่บ้านอาจทำให้เสียสมาธิได้ง่าย บางครั้งอาจจะเกิดจากความเคยชินของคุณเองเวลาอยู่ที่บ้าน หรืออาจเกิดจากผู้ที่อยู่อาศัยร่วมกับคุณ ฉะนั้นขณะทำงานจากที่บ้าน การลงทุนในการซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวน สามารถช่วยให้คุณมีสมาธิกับงานมากขึ้น
7. จัดระเบียบการทำงาน
หากคุณมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง การที่จะติดตามงานทุกอย่างขณะที่ทำงานจากที่บ้านนั้นมันยากกว่าเวลาที่คุณอยู่ในสำนักงานแน่นอน ฉะนั้นคุณควรจัดระเบียบการทำงานให้รอบคอบ ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ช่วยในการวางแผนการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างเช่น แอปฯ Trello ซึ่งช่วยให้คุณรักษามาตรฐานงานของคุณเอาไว้ได้ แม้ว่าจะทำงานจากที่บ้านก็ตาม และยังช่วยให้การทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน จากระยะไกลเป็นไปอย่างราบรื่นอีกด้วย
8. ตกแต่งห้องทำงานด้วยต้นไม้
ต้นไม้ไม่เพียงแต่ทำให้โฮมออฟฟิศของคุณดูสวยขึ้นเท่านั้น แต่ยังได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่า มันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ (3) ดังนั้นคุณควรหาต้นไม้มาตกแต่งห้องของคุณ โดยให้เลือกพืชที่ดูแลง่าย ๆ ไม่ต้องการน้ำเยอะ และนำมาวางไว้ให้คุณสามารถมองเห็นได้จากโต๊ะทำงาน เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยให้คุณผ่อนคลายได้แล้ว และเมื่อคุณรู้สึกผ่อนคลายแน่นอนว่างานของคุณก็จะต้องออกมาดีด้วย
9. ปรับปรุงการเชื่อมต่อของคุณ
Wi-Fi เป็นส่วนสำคัญสำหรับการทำงานในระยะไกล เพราะฉะนั้นโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า Wi-Fi มีความแรง มีความเสถียรพอหรือไม่ หากยังไม่ดีพอคุณสามารถย้ายเราเตอร์ให้มาไว้ใกล้ ๆ กับพื้นที่ทำงานของคุณได้ ตรวจสอบอัปเดตการเชื่อมต่ออยู่เสมอ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับการป้องกันด้วยรหัสผ่านเพื่อป้องกันไม่ให้มีคนขโมย Wi-Fi และใช้แบนด์วิดท์ของคุณ
10. เลือกคีย์บอร์ดและเมาส์ที่ไม่เกะกะ
หากคุณมีพื้นที่จำกัดในการทำงาน ให้คุณจัดวางใหม่ เปลี่ยนไปใช้เมาส์และคีย์บอร์ดแบบไร้สาย มันจะช่วยเพิ่มพื้นที่ทำงานของคุณได้ และช่วยลดอุปสรรคในการทำงานอีกด้วย ดังนั้นมันจึงคุ้มค่าที่จะลงทุนกับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมากขึ้น มีนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์กล่าวเสริมว่า เมื่อใช้แล็ปท็อปคุณศีรษะและมือของคุณจะอยู่ใกล้กันเกินไป ดังนั้นหากคุณใช้แล็ปท็อปคุณควรมีแป้นพิมพ์และเมาส์แยกต่างหากและยกแล็ปท็อปขึ้นเหนือตัวเองเล็กน้อย เพื่อให้การใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
อ้างอิง