18 เคล็ดลับดูแล ‘เส้นผมที่ผ่านการทำสี’ ให้กลับมาสวย สุขภาพดีและเงางาม

18 เคล็ดลับดูแลเส้นผมที่ผ่านการทำสีให้กลับมาสวย สุขภาพดีและเงางาม
18 เคล็ดลับดูแลเส้นผมที่ผ่านการทำสีให้กลับมาสวย สุขภาพดีและเงางาม

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทรงผมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเรามีความมั่นใจ ซึ่งคนไทย และคนเอเชียส่วนใหญ่นั้นมักจะมีผมที่เป็นสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งเป็นสีที่เหมาะกับดวงตาและสีผิว แต่แน่นอนค่ะการมีสีผมที่เข้มนั้นไม่ได้เข้ากับใบหน้าของทุกคน บางคนที่มีผมดำอาจจะทำให้ใบหน้าดูดุ หน้าหมองและดูไม่ผ่องใส เลยตัดสินใจ “เปลี่ยนสีผม” ให้เป็นสีอื่นที่เข้ากับใบหน้าของตัวเองหรือสำหรับบางคนก็มองว่าการทำสีผมเป็นเรื่องของแฟชั่น ปกติแล้วการทำสีผมอาจเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ผู้หญิงหลายคนชอบเล่นสนุกกับการทำสีผม อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะไม่ได้คำนึงถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการย้อมผม เพราะทุกครั้งที่เราเปลี่ยนสีผมเราจะต้องใช้เคมีเพื่อทำการเปลี่ยนเม็ดสีในผม แน่นอนไม่ว่าเราจะย้อมผมด้วยอะไรก็ตาม หากมันสามารถเปลี่ยนสีหรือโครงสร้างเส้นผมของเราได้มันก็มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเส้นผมเราได้เช่นกัน แต่ไม่ต้องตกใจไปเรามีหลายวิธีที่สามารถช่วยปกป้องเส้นผมของคุณให้มีสุขภาพที่ดี ในขณะที่สีผมก็ยังสวยอยู่ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลเส้นผม 18 ประการ ที่คุณสามารถทำได้ เพื่อให้เส้นผมของคุณดูสวยงามมากยิ่งขึ้น

1. เตรียมเส้นผมของคุณ

หากคุณต้องการให้ผมของคุณมีสุขภาพดีหลังจากทำสี คุณจะต้องเริ่มเตรียมผมของคุณสำหรับความเสียหายล่วงหน้าก่อนหลายเดือน ซึ่งรวมถึงการดูแลให้เส้นผมของคุณได้รับการบำรุงอย่างดีและชุ่มชื้น ในการสระผมทั่วไปเราขอแนะนำให้เพิ่มขั้นตอนทาน้ำมันบำรุงผมและมาสก์เส้นผมเป็นประจำอย่างน้อย 2 เดือนก่อนวางแผนที่จะเปลี่ยนสีผม นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือทำความร้อน หากคุณต้องการฟอกสีผมเพื่อให้ได้สีตามที่ต้องการให้ทาน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นลงบนเส้นผมในคืนก่อนที่คุณจะฟอกสีผม วิธีนี้จะช่วยลดความเสียหายของเส้นผมให้ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด (1)

ทาน้ำมันบำรุงผมและมาสก์เส้นผมเป็นประจำ

2. เลือกสีย้อมผมที่เหมาะสม

เมื่อคุณทำสีผมเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเลือกสีย้อมผมและสารฟอกผมที่มีคุณภาพ เพื่อไม่ให้ผมของคุณเสียหายมากเกินไป (2) หากคุณกำลังฟอกสีผมด้วยน้ำยาฟอกผม โปรดตรวจเช็คให้แน่ใจว่าคุณได้เลือกปริมาณเปอร์ออกไซด์ที่เหมาะสมกับสีผมของคุณหรือไม่ ? เพราะหากเปอร์ออกไซด์ที่มีปริมาณเข้มข้นมากเกินไปอาจจะทำให้เส้นผมขาดหรือร่วงได้ อีกทั้งสีย้อมผมที่คุณเลือกควรเลือกสีที่ปราศจากสารเคมีรุนแรง เช่น แอมโมเนีย เพราะนอกจากจะมีกลิ่นฉุนมากแล้วยังทำให้ผมเสียได้อีกด้วย (1)

เลือกสีย้อมผมที่เหมาะสม

3. ปฏิบัติตามคำแนะนำเสมอ

สิ่งสำคัญคือคุณต้องหาสไตลิสต์หรือช่างเสริมสวยที่เก่ง ๆ และรู้ว่าคุณกำลังต้องการทำอะไรอยู่ หากคุณกำลังจะย้อมผมที่บ้านให้ทำการทดสอบอาการแพ้ก่อนเสมอ อ่านคำแนะนำอย่างละเอียด และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ทิ้งสารฟอกผมหรือสีย้อมเกินเวลาที่แนะนำเพราะอาจจะทำให้หนังศีรษะระคายเคือง เราขอแนะนำว่าการมีผู้ช่วยในการย้อมสีผมเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

4. รอก่อนสระผม

เมื่อคุณทำสีผมแล้วให้พยายามรออย่างน้อย 2 วันก่อนที่คุณจะสระผมอีกครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้สีเข้ากันได้ดีและลดการตกของสี นอกจากนี้ยังช่วยให้น้ำมันในผมของคุณคงอยู่ เนื่องจากน้ำมันจะสร้างชั้นป้องกันรอบแกนผมของคุณและลดการเฟดของสีผมทำให้สีผมอยู่ได้นานขึ้น

รอก่อนสระผม

5. ตัดเส้นผมที่มีความเสียหาย

เป็นความคิดที่ดีเสมอที่จะเล็มผมของคุณทันทีหลังจากผ่านการย้อมผมมา เนื่องจากความเสียหายหลังจากการทำสีผมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ (3) และการเล็มปลายผมจะช่วยป้องกันไม่ให้ความเสียหายนี้ลุกลาม หากคุณกำลังเปลี่ยนจากผมสีน้ำตาลเข้มไปเป็นสีบลอนด์ให้เตรียมตัดผมจำนวนมากออกไปได้เลยเพราะเส้นผมต้องมีความเสียหายมาก

ตัดเส้นผมที่มีความเสียหาย

6. เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

ผมทำสีเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายและเฟดออกได้ง่าย และเพื่อให้แน่ใจว่าสีจะคงอยู่เป็นเวลานานก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะลงทุนในการซื้อผลิตภัณฑ์ปกป้องสีผม ไม่ว่าจะเป็นแชมพูและครีมนวดผมสำหรับผมทำสีก็สามารถปกป้องสีผมจากชั้นปกป้องเหนือแกนผมซึ่งจะช่วยไม่ให้สีจาง ในขณะที่แชมพูปกป้องสีผมส่วนใหญ่ใช้ได้กับเฉดสีโทนอุ่น เราขอแนะนำให้เลือกแชมพูที่ปราศจากซัลเฟตเพื่อปกป้องสีผมหากคุณเลือกใช้เฉดสีที่มีโทนเย็น แชมพูที่ปราศจากซัลเฟตเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอเพราะมันไม่ได้ขจัดน้ำมันธรรมชาติออกจากเส้นผมของคุณและไม่ทิ้งคราบสกปรกทำให้สีผมของคุณเปลี่ยนไป

7. ลดการสระผมลงบ้าง

บางครั้งเมื่อคุณสระผมบ่อย ๆ สีผมก็อาจจะไหลออกมาตามน้ำโดยเฉพาะหากคุณย้อมผมที่มีสีสดใสอย่างสีแดงและสีม่วง วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่จะทำให้ผมอยู่ได้นานขึ้นคือลดการสระผมลง (1) หากคุณสระผมสัปดาห์ละ 4 ครั้งให้ลองตัดให้เหลือ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้สีติดทนนานขึ้นแต่ยังรักษาน้ำมันตามธรรมชาติที่ผลิตจากหนังศีรษะซึ่งช่วยบำรุงเส้นผมของคุณ

8. ล้างออกด้วยน้ำเย็น

การสระผมด้วยน้ำร้อนจะทำให้เส้นผมชั้นนอกของแกนผมลอยขึ้น สิ่งนี้นำไปสู่การสูญเสียความชื้นและแตกปลาย นอกจากนี้ทำให้เส้นผมของคุณอ่อนแอต่อความเสียหายมากขึ้น วิธีที่มีประสิทธิภาพในการหลีกเลี่ยงปัญหานี้คือการสระผมด้วยน้ำเย็นเสมอ น้ำเย็นจะปิดผนึกหนังกำพร้าของคุณควบคุมการชี้ฟูและปิดผนึกสีในเส้นผมของคุณ หากคุณไม่สามารถอาบน้ำเย็นได้ให้ล้างผมด้วยน้ำเย็นหลังอาบน้ำอุ่น

9. ใช้แชมพูแห้งบ้าง

แน่นอนว่าคุณสามารถสระผมระหว่างอาบน้ำได้ แต่หาซื้อแชมพูแห้งที่ดี ๆ มาใช้ ถือเป็นวิธีที่ดีในการยืดเวลาระหว่างการสระผมและช่วยทำให้สีผมทนนานขึ้นอีกด้วย

ใช้แชมพูแห้งบ้าง

10. ใช้ครีมนวดผมที่มีคุณภาพ

ครีมนวดผมมีซิลิโคนจะเป็นชั้นป้องกันเหนือแกนผมซึ่งจะช่วยลดความเสียหายจากแสงแดดและลดการแตกปลายหลังการทำ นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องเส้นผมของคุณจากความเสียหายของเครื่องมือจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน (1),(4)

11. เลิกใช้แชมพูขจัดรังแค

แชมพูขจัดรังแคจะช่วยให้ผมของคุณมีสุขภาพดี แต่อย่าใช้แชมพูขจัดรังแคหลังจากที่คุณทำสีผมแล้ว เนื่องจากแชมพูขจัดรังแคที่มีฤทธิ์รุนแรงไม่เพียงแต่จะดึงสีออกไป แต่ยังทำให้ผมของคุณรู้สึกแห้งเหมือนหญ้าแห้งอีกด้วย ควรเลิกใช้แชมพูขจัดรังแคออกไปจนกว่าผมของคุณจะกลับมามีสุขภาพดี

12. ให้ความชุ่มชื่นแก่เส้นผมด้วยการปรับสภาพเส้นผม

การสูญเสียความชื้นและความแห้งกร้านเป็นผลหลังการทำสีผม วิธีเดียวที่จะจัดการกับปัญหานี้คือการให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมด้วยการปรับสภาพเส้นผม คุณสามารถทำให้ผมสุขภาพดีขึ้นก็ทำงานได้ง่าย ๆ ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น กล้วย โยเกิร์ต น้ำมันมะกอก และน้ำผึ้ง ถูกนำมาใช้เป็นวิธีการรักษาที่บ้านเพื่อปรับปรุงสุขภาพผมมานานแล้ว (1) ดังนั้นผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่ทำจากส่วนผสมเหล่านี้อาจช่วยบรรเทาผมชี้ฟู ซ่อมแซมความเสียหายและรักษาความชุ่มชื้นด้วยคุณสมบัติการให้ความชุ่มชื้นด้วย (5)

สิ่งที่คุณต้องเตรียม

    • กล้วยสุก 1 ลูก
    • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
    • โยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

ระยะเวลาดำเนินการ

1 ชั่วโมง

วิธีการทำ

    1. บดกล้วยสุกทั้งลูกในชาม บดจนไม่มีก้อนของกล้วย ในการทำเช่นนี้ให้ใส่น้ำมันมะกอกลงไป 1 ช้อนโต๊ะแล้วผสมให้เข้ากัน
    2. ใส่โยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะและน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะผสมให้เข้ากัน
    3. ทาส่วนผสมนี้บนเส้นผมตั้งแต่โคนจรดปลาย
    4. เมื่อทาทั่วเส้นผมแล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
    5. ดำเนินการล้างผมออกด้วยแชมพูอ่อน ๆ ที่ไม่มีซัลเฟตและต้องใช้น้ำเย็น
    6. อย่าลืมทำซ้ำสัปดาห์ละครั้ง

13. บำรุงผมด้วยโปรตีน

ผลข้างเคียงอีกอย่างที่มาพร้อมกับการทำสีผมคือสารเคมีจะเข้าไปทำลายโปรตีนของเส้นผมของคุณ (1) คุณรู้ดีว่าเส้นผมของคุณต้องการโปรตีนอย่างมากเมื่อมันเริ่มแห้งและร่วง วิธีเดียวที่จะแก้ไขได้คือการบำรุงผมด้วยโปรตีน คุณสามารถใช้มาสก์ผม DIY. ได้โดยการใช้ไข่ โดยไข่เต็มไปด้วยโปรตีนที่ช่วยบำรุงเส้นผม (6) นอกจากนี้การใช้มายองเนสช่วยลดผมชี้ฟูและทำให้ผมเรียบขึ้น ดังนั้นการใช้ส่วนผสมเหล่านี้เป็นประจำอาจช่วยซ่อมแซมความเสียหายของโปรตีนและฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมของคุณ และนี่คือการทำมาสก์โปรตีนแบบง่าย ๆ ที่คุณสามารถลองได้

สิ่งที่คุณต้องเตรียม

    • ไข่ 1 ฟอง
    • มายองเนส 2 ช้อนโต๊ะ

ระยะเวลาดำเนินการ

45 นาที

วิธีการทำ

    1. ตีไข่ทั้งฟองและมายองเนส 2 ช้อนโต๊ะในชามจนเข้ากันดี
    2. เริ่มชโลมลงบนเส้นผมของคุณ เน้นปลายผมของคุณให้ได้มากที่สุด
    3. เมื่อชโลมผมทั่วแล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที
    4. สระผมด้วยแชมพูอ่อน ๆ ที่ไม่มีซัลเฟตและน้ำเย็น
    5. อย่าลืมทำซ้ำสัปดาห์ละครั้ง

14. ใช้น้ำมันบำรุงผม

ในขณะที่ทรีตเมนต์สามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพเส้นผมของคุณได้อย่างดีเยี่ยม แต่การทาน้ำมันเป็นประจำก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรการดูแลเส้นผมของคุณด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำมันทาผมก่อนนอนและล้างออกในตอนเช้า ขอบอกเลยว่าการดูแลเส้นผมจะไม่สามารถทำได้โดยไม่ต้องทาน้ำมัน น้ำมันช่วยในการบำรุงและความชุ่มชื้นในเส้นผมของคุณ นอกจากนี้ยังสร้างชั้นป้องกันเหนือเส้นผมของคุณซึ่งช่วยปกป้องจากแสงแดดและความร้อน อย่าลืมทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อใช้น้ำมันบำรุงผมด้วยตัวคุณเองที่บ้าน (1)

ใช้น้ำมันบำรุงผม

สิ่งที่คุณต้องเตรียม

    • น้ำมันตัวพา 2-3 ช้อนโต๊ะ (สามารถใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันโจโจบา)

ระยะเวลาดำเนินการ

45 นาที

วิธีการทำ

    1. อุ่นน้ำมันสัก 2 – 3 วินาทีจนกว่าน้ำมันจะอุ่นขึ้นเล็กน้อย
    2. นวดน้ำมันอุ่น ๆ ลงในหนังศีรษะแล้วลูบไล้ไปที่ปลายผมให้มากเนื่องจากเป็นส่วนที่เสียหายมากที่สุด
    3. เมื่อชโลมเส้นผมและหนังศีรษะแล้วให้ทิ้งน้ำมันไว้ประมาณ 30-45 นาทีหรือคุณอาจทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้
    4. ดำเนินการล้างน้ำมันออกด้วยแชมพูอ่อน ๆ ที่ไม่มีซัลเฟตและใช้น้ำเย็น
    5. อย่าลืมทำซ้ำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

15. หยุดใช้ความร้อนชั่วคราว

อันนี้ค่อนข้างเรียบง่าย ใคร ๆ ก็รู้ว่าการใช้เครื่องมือจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนเป็นประจำอาจทำให้เส้นผมของคุณเสียหายได้มาก ไม่นานหลังจากทำสีผมแล้วให้พยายามลดการใช้เครื่องมือจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน ปล่อยผมให้แห้งแทนที่จะใช้ไดร์เป่าผม หากคุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อย่างใดอย่างหนึ่งให้ใช้ในอุณหภูมิที่เย็นโดยให้ไดร์เป่าผมอยู่ห่างจากเส้นผมอย่างน้อย 15 ซม. ลองทำผมทรงผมใหม่แทนการยืดหรือม้วนผม หากคุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ความร้อนอย่าทำโดยไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกันความร้อนก่อน (1)

หยุดการใช้ความร้อนชั่วคราว

16. หลีกเลี่ยงคลอรีน

คลอรีนในสระว่ายน้ำสามารถเปลี่ยนสีผมของคุณและทำให้ผมอ่อนแอ นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำตามขั้นตอนป้องกันก่อนที่คุณจะลงแช่ในน้ำ สำหรับผู้เริ่มต้นควรสวมหมวกว่ายน้ำที่ป้องกันไม่ให้ผมเปียก สำหรับการปกป้องเพิ่มเติมให้ใช้ครีมนวดผมหรือน้ำมันมะพร้าวที่จะเป็นตัวกั้นระหว่างน้ำคลอรีนกับเส้นผมของคุณ (7)

17. เล็มเส้นผมเป็นประจำ

หากคุณไม่ได้เล็มผมทุก ๆ 6-8 สัปดาห์ก็ถึงเวลาเริ่มต้น เนื่องจากเส้นผมของคุณมีแนวโน้มที่จะเกิดความเสียหายมากขึ้นหลังจากการทำสีผมจึงมีความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพเส้นผมและป้องกันการลุกลามของความเสียหาย นี้จะช่วยป้องกันการแยกและแตก

เล็มเส้นผมเป็นประจำ

18. เว้นระยะในการเปลี่ยนสีผมแต่ละครั้ง

และสุดท้ายคุณจะพบว่าเมื่อคุณเริ่มทำสีผมแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุด การทดลองใช้สีและการลองรูปลักษณ์ใหม่ ๆ อาจเป็นเรื่องสนุก แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าสิ่งที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียได้ ให้เวลากับเส้นผมของคุณในการหายใจ อย่าเปลี่ยนสีผมบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้ผมมีความเสียหายหนัก


อ้างอิง 

(1) Hair Cosmetics: An Overview

(2) Is There a True Concern Regarding the Use of Hair Dye and Malignancy Development?

(3) Hair Dyes

(4) Shampoo and Conditioners: What a Dermatologist Should Know?

(5) Ethnopharmacological survey of home remedies used for treatment of hair and scalp and their methods of preparation in the West Bank-Palestine

(6) Egg, whole, raw, fresh

(7) Hair-discoloration of Japanese elite swimmers