คุณคงรู้ดีว่าช่องแช่แข็งส่วนใหญ่ที่มีมาให้กับตู้เย็นของเรานั้นมีความจุน้อยมากและไม่เพียงพอสำหรับการจัดเก็บอาหาร น้ำแข็ง หรือไอศกรีม ดังนั้นหากคุณมีครอบครัวขนาดใหญ่หรือมีอาหารที่จะต้องจัดเก็บในปริมาณมาก “ตู้แช่แข็ง” จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
ตู้แช่แข็งสามารถจัดเก็บทุกอย่างได้ตามต้องการไม่ว่าจะเป็นนมแม่, อาหารแช่แข็ง, เนื้อสัตว์, ไอศกรีมรวมไปถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ต้องการความเย็นได้ ตู้แช่แข็งแบบนี้มักจะมีให้เลือกหลายขนาดตามที่คุณต้องการ หากคุณมีพื้นที่น้อยคุณสามารถเลือกตู้แช่แข็งที่มีขนาดเล็กได้และถ้าหากคุณเปิดร้านขายของหรือต้องการบรรจุของจำนวนมากคุณก็สามารถซื้อตู้แช่แข็งขนาด 200 ลิตรขึ้นไปได้เช่นกัน
นอกจากนี้ตู้แช่แข็งยังมีหลายประเภทมีตัวเลือกให้เลือกมากมายซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติที่ทันสมัย เช่น การควบคุมอุณหภูมิที่ปราศจากเกล็ดน้ำแข็งและไฟ LED อีกทั้งบางรุ่นก็ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อประหยัดพลังงานหรือมอบประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายขึ้นแก่ผู้บริโภค ซึ่งกรณีนี้อาจจะรวมถึงประตูแบบพลิกกลับได้หรือการละลายน้ำแข็งแบบอัตโนมัตินั่นเองค่ะ
หากวันนี้คุณกำลังมองหาตู้แช่แข็งดี ๆ อยู่เราก็มีสินค้าและวิธีการเลือกซื้อมาแนะนำกันค่ะ
ซื้อ ตู้แช่แข็ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2564
- ตู้แช่แข็งระบบเทคโนโลยี 3D แช่เครื่องดื่ม นมแม่ได้ครบวงจร: Panson ตู้แช่แข็ง 108 ลิตร
- กระจายความเย็นได้เร็ว น้ำหนักเบา มีล้อเคลื่อนย้ายได้ง่าย: Haier ตู้แช่แข็งฝาทึบ รุ่น HCF-108C
- ระบบ MinFrost ลดน้ำค้างแข็ง ประหยัดไฟได้ดี เคลื่อนย้ายง่าย: Beko ตู้แช่แข็ง รุ่น CF100WT
- ตู้แช่เย็น - แช่แข็งอเนกประสงค์ ควบคุมความเย็นด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์: Sanden ตู้แช่ SNH-0205
- ปรับและเร่งความเย็นได้ เก็บความเย็นได้นาน 135 ชม. แม้ไฟดับ : Hisense ตู้แช่แข็ง รุ่น RF259N4TW1
- ตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ อเนกประสงค์ แช่เย็นและแช่แข็งได้ในเครื่องเดียว : Toshiba ตู้แช่ CR-A249
ตู้แช่แข็งมีประโยชน์อย่างไร ทำไมต้องซื้อ ?
ปัจจุบันตู้แช่แข็งได้กลายเป็นส่วนสำคัญของห้องครัว นั่นเป็นเพราะการแช่แข็งเป็นวิธีการถนอมอาหารที่เก่าแก่ที่สุดวิธีหนึ่งและยังเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด การแช่อาหารที่จุดเยือกแข็งสามารถยืดอายุของอาหารได้ดี เนื่องจากการแช่แข็งเป็นการป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียซึ่งแบคทีเรียตัวร้ายนั้นจะทำให้อาหารเสื่อมสภาพ แต่กระบวนการนี้สามารถยับยั้งได้ด้วยการแช่แข็ง การแช่แข็งจะช่วยลดอุณหภูมิของอาหารและตู้แช่แข็งให้อยู่ที่ -18 องศาเซลเซียสแน่นอนว่าอาจจะต่ำหรือสูงกว่านั้นก็ได้ อุณหภูมิที่เย็นจัดนี้จะชะลอการเติบโตของจุลินทรีย์และชะลอการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่ส่งผลต่อคุณภาพของอาหาร
แน่นอนว่าตู้แช่แข็งนั้นอาจจะมีประโยชน์ต่อคนบางคนแต่ก็อาจจะไม่มีประโยชน์กับใครหลายคนเช่นกัน ต่อไปนี้เราไปดูเหตุผลกันค่ะว่าตู้แช่แข็งนั้นเหมาะหรือไม่เหมาะกับการใช้งานของคุณ
ตู้แช่แข็งจะเหมาะสำหรับคุณถ้าคุณ…
- ต้องการพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับใช้บรรจุอาหารแช่แข็ง ตู้แช่แข็งนั้นมีขนาดใหญ่กว่าช่องแช่แข็งที่อยู่เหนือตู้เย็นมาก ดังนั้นจึงช่วยให้คุณสามารถเก็บอาหารแช่แข็งไว้ที่บ้านได้มากขึ้น
- ต้องการเก็บอาหารแช่แข็งไว้เป็นเวลานานหรือคุณเป็นคนชอบซื้ออาหารเป็นจำนวนมากในคราวเดียว
- มีไฟฟ้าดับบ่อยครั้งในละแวกบ้านของคุณและคุณไม่ต้องการให้อาหารเน่าเสีย
ตู้แช่แข็งอาจจะไม่เหมาะกับคุณถ้าคุณ…
- อาศัยอยู่ในบ้านหรืออพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ และไม่สามารถสละพื้นที่ว่างอันมีค่าได้
- ไม่มีเวลาละลายน้ำแข็งในช่องแช่แข็งด้วยตนเอง ตู้แช่แข็งส่วนใหญ่ต้องละลายน้ำแข็งด้วยตนเอง ซึ่งอาจไม่สะดวกและใช้เวลานาน หากคุณเลือกใช้ตู้แช่แข็ง คุณต้องละลายน้ำแข็งอย่างน้อยปีละครั้งหรือละลายน้ำแข็งในทุก ๆ 6 เดือน
- ต้องการพื้นที่ทั้งตู้เย็นและช่องแช่แข็ง ตู้แช่แข็งสามารถรองรับสินค้าแช่แข็งเท่านั้น หากคุณต้องการพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับแช่แข็งและแช่เย็นในตัว เราขอแนะนำให้เลือกใช้ตู้แช่แข็งที่มีระบบ 2 ฟังก์ชันที่สามารถแช่เย็นและแช่แข็งได้ แต่แน่นอนว่าตู้แช่แข็งประเภทนี้มีราคาสูง
Panson ตู้แช่แข็ง 108 ลิตร
ตู้แช่แข็งระบบเทคโนโลยี 3D แช่เครื่องดื่ม นมแม่ได้ครบวงจร
ราคา 3,050 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ขนาด : 52 x 42 x 59.5 ซม.
ความจุโดยรวม (คิว/ลิตร) : 3.5 คิว/108 ลิตร
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 20 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- มีประตูแบบพลิกกลับได้จึงค่อนข้างสะดวก
- ล็อกความเย็นได้ 30 ชม.แม้ไฟดับ
- มีฉนวนล็อกความเย็นและกันความร้อนช่วยประหยัดไฟ
ข้อควรพิจารณา
มีขนาดเล็กเกินไปไม่เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่
Haier ตู้แช่แข็งฝาทึบ รุ่น HCF-108C
กระจายความเย็นได้เร็ว น้ำหนักเบา มีล้อเคลื่อนย้ายได้ง่าย
ราคา 5,350 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ขนาด : 57 x 84.5 x 55 ซม.
ความจุโดยรวม (คิว/ลิตร) : 3.7 คิว/105 ลิตร
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 31 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- มีตัวควบคุมอุณหภูมิแบบปรับได้
- มีล้อเพื่อให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก
- เสียงของตัวเครื่องเบามากสามารถวางในบ้านได้
ข้อควรพิจารณา
เหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัวขนาดเล็ก
Beko ตู้แช่แข็ง รุ่น CF100WT
ระบบ MinFrost ลดน้ำค้างแข็ง ประหยัดไฟได้ดี เคลื่อนย้ายง่าย
ราคา 5,390 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ขนาด : 85 x 55 x 55 ซม.
ความจุโดยรวม (คิว/ลิตร) : 3.5 คิว/100 ลิตร
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 24 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- การควบคุมด้วยกลไกพร้อมเทอร์โมสตัทที่ปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -11 ถึง -25 องศา (เหมาะสำหรับเก็บอาหารแช่แข็ง ไอศกรีม น้ำแข็ง ฯลฯ)
- มีตะแกรงจัดเก็บของด้านใน
- เสียงเบาและทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว
- ประหยัดพื้นที่ได้ดี
ข้อควรพิจารณา
มีขนาดเล็กเกินไปไม่เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่
Sanden ตู้แช่ SNH-0205
ตู้แช่เย็น - แช่แข็งอเนกประสงค์ ควบคุมความเย็นด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
ราคา 6,790 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ขนาด : 90.5 x 85 x 55 ซม.
ความจุโดยรวม (คิว/ลิตร) : 7.1 คิว/197 ลิตร
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 32 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- มีสารทำความเย็น R600a ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ตู้และฝาปิดหุ้มฉนวนโฟมประหยัดพลังงาน
- เมื่อไฟดับตัวเครื่องจะทำความเย็นไปอีก 100 ชม
ข้อควรพิจารณา
ต้องการพื้นที่ในการจัดวาง
Hisense ตู้แช่แข็ง รุ่น RF259N4TW1
ปรับและเร่งความเย็นได้ เก็บความเย็นได้นาน 135 ชม. แม้ไฟดับ
ราคา 6,490 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ขนาด : 80.2 x 55.9 x 85.4 ซม.
ความจุโดยรวม (คิว/ลิตร) : 7.3 คิว/208 ลิตร
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 32 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- มีไฟ LED เพื่อให้สามารถจัดเก็บอาหารและมองเห็นอาหารได้ดี
- สามารถเร่งความเย็นและปรับระดับความเย็นได้
- เมื่อไฟดับหรือถอดปลั๊กตัวเครื่องจะทำความเย็นไปอีก 135 ชม
ข้อควรพิจารณา
ต้องการพื้นที่ในการจัดวาง
Toshiba ตู้แช่ CR-A249
ตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ อเนกประสงค์ แช่เย็นและแช่แข็งได้ในเครื่องเดียว
ราคา 9,990 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ขนาด : 98.5 x 85 x 64.5 ซม.
ความจุโดยรวม (คิว/ลิตร) : 8.8 คิว/249ลิตร
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 42 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- มีไฟ LED ภายใน
- มีตะแกรงสำหรับการจัดระเบียบสิ่งของภายใน
- มีระบบตัวควบคุมอุณหภูมิอิเล็กทรอนิกส์
- แช่แข็งและแช่เย็นได้ในเครื่องเดียว
ข้อควรพิจารณา
ใช้พื้นที่ในการจัดวางค่อนข้างมาก
คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อตู้แช่แข็ง
1. ขนาดและความจุของตู้แช่แข็ง
คนส่วนใหญ่ที่ซื้อตู้แช่แข็งมักจะมีพื้นที่ช่องแช่แข็งเป็นส่วนหนึ่งของตู้เย็นอยู่แล้วและกำลังมองหาตู้แช่แข็งเพิ่มเติม ทำให้ขนาดและความจุเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อตู้แช่แข็ง ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อตู้แช่แข็ง คุณควรคิดก่อนว่าคุณต้องการให้ช่องแช่แข็งของคุณมีความจุเท่าไหร่ เพื่อให้คุณได้เลือกซื้อตู้แช่แข็งที่มีความจุที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ นอกจากนี้เรื่องพื้นที่ในการจัดวางก็จำเป็นเหมือนกัน คุณจะต้องรู้ก่อนซื้อว่าคุณมีพื้นที่ในการจัดวางเท่าไหร่หรือคุณวางแผนที่จะเก็บช่องแช่แข็งไว้ที่ไหน แน่นอนว่าตู้แช่แข็งแบบตั้งตรงจะพอดีกับห้องครัวและจัดวางได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าคุณต้องการความจุขนาดใหญ่ช่องแช่แข็งแบบแนวนอนจะเหมาะกับคุณ แต่ถ้าคุณต้องการพกพาให้เลือกตู้แช่แข็งแบบพกพาค่ะ ต่อไปนี้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อตู้แช่แข็งค่ะ
ความจุ | เหมาะสำหรับ |
---|---|
ตู้แช่แข็งแบบมินิความจุ < 120 ลิตร | เหมาะสำหรับบุคคล/คู่รัก |
ตู้แช่แข็งขนาดเล็กความจุ > 150 ลิตร | เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก |
ตู้แช่แข็งขนาดกลางความจุ > 200 ลิตร | เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ |
ตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ความจุ > 300 ลิตร | เหมาะสำหรับร้านค้าเชิงพาณิชย์ |
2. งบประมาณ
ในการซื้อตู้แช่แข็งคุณต้องเช็กงบประมาณของคุณก่อนการซื้อแต่อย่าลืมว่าการลงทุนในระยะยาวก็มีประโยชน์มากเช่นกัน หากต้องการซื้อตู้แช่แข็งที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ดีและไม่เปลืองไฟ ตู้แช่แข็งที่มีราคาสูงจะตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดีเพราะส่วนใหญ่จะมีระบบพิเศษที่ช่วยประหยัดไฟได้ นอกจากนี้ประเภทของตู้แช่แข็งก็เป็นตัวกำหนดราคาเช่นกันตู้แช่แข็งรุ่นตั้งตรงมักจะมีราคาสูงกว่าตู้แช่แข็งแนวนอนและใช้พลังงานมากกว่าแต่แน่นอนว่ามันช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดี นอกจากนี้คุณสมบัติที่มีประโยชน์ เช่น การละลายน้ำแข็งอัตโนมัติจะทำให้คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อมากขึ้น แต่ความสะดวกนั้นดีกว่าระบบการละลายน้ำแข็งด้วยตนเอง และสุดท้ายให้คำนึงถึงค่าขนส่งเสมอหากซื้อตู้แช่แข็งผ่านออนไลน์นั่นเป็นเพราะตู้แช่แข็งมักจะค่อนข้างใหญ่และหนัก (ยกเว้นรุ่นพกพา) ดังนั้นค่าใช้จ่ายของการขนส่งจะเพิ่มขึ้น
3. การจำแนกอุณหภูมิและสภาพภูมิอากาศ
ปกติแล้วคุณควรรักษาอุณหภูมิช่องแช่แข็งไว้ที่ 0 ° F (-18 ° C) แม้ว่าตู้แช่แข็งทั้งหมดจะได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีอุณหภูมิเท่านี้ แต่ความสามารถในการให้ความเย็นอาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศด้านนอกที่จัดวางตู้เย็นได้ หากคุณจัดวางตู้แช่แข็งไว้ในห้องครัวคุณอาจไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หากคุณกำลังวางแผนที่จะเก็บหรือจัดวางตู้แช่แข็งไว้ภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ใด ๆ ที่อุณหภูมิผันผวนตามสภาพอากาศ ให้ตรวจสอบช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดของการจัดวางตู้แช่แข็งเพื่อไม่ให้ความเย็นภายในเครื่องผันผวนนั่นเองค่ะ
4. ระดับเสียง
ตู้แช่แข็งส่วนใหญ่จะมีเสียงดังแต่บางยี่ห้อก็มีเสียงเงียบกว่าตู้แช่แข็งแบบอื่น ๆ มาก หากตู้แช่แข็งของคุณถูกเก็บไว้ภายในบ้านคุณควรพิจารณาถึงระดับเสียงของตู้แช่แข็งรุ่นต่าง ๆ ที่คุณซื้อ ตู้แช่แข็งที่ละลายน้ำแข็งด้วยตัวเองมักจะมีเสียงที่เงียบกว่าตู้แช่แข็งแบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ เราขอแนะนำเลยว่าหากคุณต้องการทราบว่าช่องแช่แข็งมีเสียงดังผิดปกติหรือเสียงเงียบ คุณควรตรวจสอบบทวิจารณ์หรือรีวิวของผู้ใช้หรืออาจจะเช็กที่สเปกของตู้แช่แข็งก็ได้ค่ะ
5. ประสิทธิภาพในการตัดไฟ
ประสิทธิภาพของการตัดไฟหมายถึงระยะเวลาที่ช่องแช่แข็งจะรักษาความเย็นของอาหารระหว่างที่ไฟฟ้าดับ สำหรับผู้บริโภคส่วนใหญ่นี่ไม่ใช่ข้อกังวลที่จะเกิดขึ้นบ่อยนัก แต่การมีตู้แช่แข็งที่มีระบบนี้จะสามารถสร้างความแตกต่างได้เป็นอย่างมาก เพราะตู้แช่แข็งที่มีประสิทธิภาพในการตัดไฟจะสามารถช่วยให้คุณรักษาอาหารได้ดีดี อาหารของคุณจะไม่มีกลิ่นเหม็นหรือเน่าเสียเมื่อไฟดับ หากคุณคิดว่าที่บ้านหรือที่อาศัยมักจะประสบปัญหาไฟฟ้าขัดข้องเป็นประจำ ตู้แช่แข็งที่มีระบบนี้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของคุณ
6. การละลายน้ำแข็งด้วยตัวเอง VS แบบอัตโนมัติ
ตู้แช่แข็งมักจะมีระบบละลายน้ำแข็ง 2 รูปแบบคือแบบละลายน้ำแข็งด้วยตนเองและระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ หากตู้แช่แข็งที่คุณเลือกมีระบบละลายน้ำแข็งโดยอัตโนมัติ อาจมีการออกแบบที่ปราศจากน้ำแข็ง ซึ่งหมายความว่าขดลวดในช่องแช่แข็งจะร้อนขึ้นเป็นประจำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำแข็งหรือน้ำค้างแข็งก่อตัวตามผนังภายใน ในทางตรงกันข้ามตู้แช่แข็งรุ่นที่มีการละลายน้ำแข็งด้วยตัวเองจะต้องถอดปลั๊กเมื่อน้ำค้างแข็งภายในมีความหนาขึ้น ซึ่งคุณจะต้องขนถ่ายสิ่งของที่คุณเก็บไว้ แยกชิ้นส่วนของตัวเครื่องและระบายน้ำแข็งออกจากเครื่อง เมื่อระบายน้ำแข็งออกแล้วคุณจะต้องจัดระเบียบสินค้าแช่แข็งของคุณใหม่อีกที ตู้แช่แข็งแบบละลายน้ำแข็งเองนั้นมีราคาถูกกว่าแต่ต้องใช้การบำรุงรักษาที่มากกว่า ส่วนตู้แช่แข็งละลายน้ำแข็งอัตโนมัติมีราคาแพงกว่าแต่สะดวกในการใช้งาน
7. คุณสมบัติโดดเด่น
- การตั้งค่าการแช่แข็งอย่างรวดเร็ว เมื่อคุณใช้งานตู้แช่แข็งแบบตั้งตรงเป็นครั้งแรกหรือเพิ่มอาหารเข้าไปในตู้แช่แข็ง ระบบการตั้งค่าการแช่แข็งอย่างรวดเร็วจะช่วยให้สภาพแวดล้อมภายในตู้แช่แข็งเย็นลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเปิดใช้งานตัวเครื่องจะแทนที่อุณหภูมิที่คุณตั้งไว้และหมุนเวียนอากาศที่เย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยจะคงอยู่ได้นานถึง 50 ชั่วโมง ระบบนี้จะสามารถบรรจุเนื้อสัตว์ ผลไม้และผักได้ดีโดยไม่สูญเสียรสชาติหรือประสิทธิภาพของอาหาร
- ประตูของตู้แช่แข็งแบบพลิกกลับได้ ตู้แช่แข็งแบบตั้งตรงที่มีประตูแบบพลิกกลับได้นั้นสามารถเปิดได้ง่ายโดยการแกว่งประตูไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ นี่เป็นคุณสมบัติที่สะดวกสบายหากคุณวางแผนที่จะติดตั้งช่องแช่แข็งในพื้นที่แคบ ประตูของตู้แช่แข็งประเภทนี้มักจะมีที่จับแบบปิดสนิทและมีซีลสุญญากาศเพื่อให้เปิดและปิดง่ายขึ้น
ประเภทของตู้แช่แข็ง
ในการเลือกซื้อตู้แช่แข็งคุณต้องพิจารณาประเภทของตู้แช่แข็งก่อน โดยทั่วไปแล้วตู้แช่แข็งมี 3 ประเภทได้แก่ ตู้แช่แข็งแบบตั้งตรง ตู้แช่แข็งแบบแนวนอนและตู้แช่แข็งแบบพกพา ขอบอกเลยว่าการเลือกตู้แช่แข็งที่ดีที่สุดสำหรับบ้านของคุณนั้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ราคา พื้นที่ว่างและความต้องการในการจัดเก็บอาหารเฉพาะของคุณ
1. ตู้แช่แข็งแบบตั้งตรง
ตู้แช่แข็งแบบตั้งตรงเป็นตู้แช่แข็งที่ใช้พื้นที่ในการจัดวางน้อยเพราะตัวเครื่องจะตั้งตรงสูงและมีให้เลือกหลายขนาดให้เราได้เลือก ตู้แช่แข็งแบบตั้งตรงส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติในการละลายน้ำแข็งในตัว ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์จะใช้ระบบระบายความร้อนแบบไดนามิกที่ป้องกันไม่ให้น้ำแข็งสะสมภายในเครื่อง คุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการละลายน้ำแข็งในช่องแช่แข็งด้วยตนเอง ตู้แช่แข็งแบบตั้งตรงมักจะมาพร้อมชั้นวางของอยู่ภายในเครื่องด้วย ช่วยให้คุณจัดวางของได้เป็นระเบียบแต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าชั้นวางของเหล่านี้ไม่สามารถปรับระดับได้เหมือนตู้เย็นค่ะ
- ข้อดี
- ใช้พื้นที่น้อยในการจัดวาง
- ง่ายต่อการจัดอาหารให้เป็นระเบียบ
- เข้าถึงอาหารประเภทต่าง ๆ ที่จัดเก็บได้ง่าย
- สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก
- ข้อเสีย
- ใช้พลังงานมากขึ้น
- ราคาสูง
2. ตู้แช่แข็งแบบแนวนอน
ตู้แช่แข็งประเภทนี้ให้ความยืดหยุ่นในการจัดเก็บอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ว่าของแช่แข็งจะเล็กหรือใหญ่ก็สามารถจัดเก็บได้ง่ายเพราะตัวเครื่องมีความยาวและกว้างจึงไม่จำเป็นต้องจำกัดขนาดและรูปร่างของสิ่งที่ต้องการจัดเก็บ ตู้แช่แข็งแบบนี้เหมาะสำหรับเก็บของขนาดใหญ่และเหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบเก็บอาหารแช่แข็งไว้ที่บ้าน ในการซื้อคุณจะต้องพิจารณาถึงขนาดของช่องแช่แข็งและพื้นที่ว่างในบ้านของคุณ เนื่องจากช่องแช่แข็งแบบนี้นั้นใช้พื้นที่ในการจัดวางมากกว่าตู้แช่แข็งแบบตั้งตรงเพราะตัวเครื่องกว้างแทนที่จะสูง ตู้แช่แข็งแบบนี้มีความสามารถในการรักษาอุณหภูมิให้ต่ำลงและยังคงประหยัดพลังงานได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับตู้แช่แข็งรูปแบบอื่น ๆ นอกจากนี้ตู้แช่แข็งแบบนี้ยังสามารถเก็บอาหารไว้ได้อย่างปลอดภัยเป็นเวลานานในกรณีที่ไฟฟ้าดับ
- ข้อดี
- มีความจุขนาดใหญ่
- ใช้พลังงานน้อยลง
- เก็บอาหารแช่แข็งได้นานขึ้นโดยไม่ต้องใช้พลังงาน
- ข้อเสีย
- หยิบของในช่องแช่แข็งได้ยาก
- มักจะต้องละลายน้ำแข็งด้วยตนเอง
3.ตู้แช่แข็งแบบพกพา
ตู้แช่แข็งแบบพกพามีขนาดเล็กกว่าตัวเลือกอื่น ๆ ข้างต้น ดังนั้นจึงจัดเก็บสิ่งของได้ไม่มาก แต่โดยทั่วไปตู้แช่แข็งแบบนี้จะมีราคาต่ำกว่าและมีคุณสมบัติพิเศษที่มักจะไม่มีในตู้แช่แข็งประเภทอื่น ตู้แช่แข็งประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถพกพาอาหารแช่แข็งจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ ตู้แช่แข็งแบบพกพาจึงสะดวกสำหรับทุกคนที่นำอาหารติดตัวไปทุกที่เพราะตัวเครื่องจะมีอุณหภูมิคงที่ ตู้แช่แข็งแบบพกพานั้นมีการใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่งเหมาะสำหรับการตั้งแคมป์หรือการเดินทาง ตู้แช่แข็งเหล่านี้ยอดเยี่ยมเพราะคุณไม่จำเป็นต้องเติมน้ำแข็งตลอดเวลาหรือเทน้ำที่ละลายแล้วออก คุณเพียงแค่ตั้งอุณหภูมิและปล่อยให้มันเดินทางไปพร้อมกับคุณ แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงการทานอาหารแช่แข็งหรือเครื่องดื่มแช่เย็นขณะเดินทาง ตู้แช่แข็งประเภทนี้ถือว่าดีที่สุดและตอบโจทย์ที่สุด
- ข้อดี
- ช่วยให้คุณนำอาหารแช่แข็งไปได้ทุกที่
- ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำแข็งเพื่อทำให้อาหารเย็นของคุณเย็นลง
- เหมาะสำหรับการตั้งแคมป์ ตกปลาหรือไปปิกนิก
- ข้อเสีย
- มีความจุขนาดเล็ก