วิธีทำความสะอาดรองเท้าสีขาว ให้กลับมาสะอาดเหมือนซื้อใหม่

วิธีทำความสะอาดรองเท้าสีขาว ให้กลับมาสะอาดเหมือนซื้อใหม่
วิธีทำความสะอาดรองเท้าสีขาว ให้กลับมาสะอาดเหมือนซื้อใหม่

รองเท้า เป็นสิ่งที่เราต้องสวมใส่เป็นประจำทุกวัน ทุกคนมีรองเท้าหลากหลายสไตล์ให้สวมใส่ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าแตะ, รองเท้าหนัง, รองเท้าคัทชู หรือรองเท้าส้นสูง แต่รองเท้าที่คุณต้องมีไว้เสมอและขาดไม่ได้คือ “รองเท้าผ้าใบ” เพราะมันสามารถสวมใส่ได้ในทุกสถานการณ์ รองเท้าผ้าใบมีหลายสีมากแต่สีที่ดีที่สุดคือ สีขาว เพราะมันสวมใส่ได้กับเสื้อผ้าทุกชุด ทุกสี แต่แน่นอนว่ารองเท้าสีขาวนั้นสกปรกได้ง่ายมาก โดนอะไรนิดหน่อยก็สกปรกแล้ว

รองเท้าสีขาว มีสไตล์และสดใสเมื่อเป็นรองเท้าใหม่และสะอาด แต่อาจสกปรกได้ง่ายจากการสวมใส่ตามปกติ และเพื่อให้รองเท้าของคุณดูขาวสะอาด คุณจะต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ สำหรับการทำความสะอาดรองเท้าด้วยมือนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดซึ่งมันช่วยรักษาผ้า แต่ก็แน่นอนค่ะ ยิ่งสกปรกมากเราก็ยิ่งเหนื่อย ฉะนั้นคุณสามารถลองซักด้วยวิธีการทำความสะอาดของเราได้ โดยเราจะใช้ของที่มีอยู่ทุก ๆ บ้าน เช่น น้ำสบู่, โซดา, สารฟอกขาว และยาสีฟัน เมื่อทำความสะอาดแล้วคุณก็จะมีรองเท้าใหม่ที่ดูขาวและสวยงามอีกครั้งค่ะ

ขัดรองเท้าด้วยสบู่และน้ำ

1. ผสมน้ำยาล้างจานลงในน้ำอุ่น ให้คุณผสมน้ำยาล้างจานลงในน้ำอุ่น 240 มล. น้ำยาล้างจานสามารถใช้ทำความสะอาดรองเท้าได้ จากนั้นใช้สบู่ประมาณ 1 ช้อนชา (4.9 มล.) เพื่อทำให้น้ำขุ่นแต่ยังใสอยู่ คนน้ำยาทำความสะอาดด้วยแปรงสีฟันให้เข้ากัน ขอบอกเลยว่าสบู่และน้ำยาล้างจานมันใช้ได้ดีกับรองเท้าทุกชนิดรวมถึงรองเท้าหนังสีขาวด้วยค่ะ

2. ทำความสะอาดพื้นรองเท้าและชิ้นยางด้วยฟองน้ำเมลามีน จุ่มฟองน้ำเมลามีนลงในน้ำสบู่แล้วบีบออก เช็ดไปมาในส่วนต่าง ๆ ของรองเท้าที่ทำจากหนังยางหรือพลาสติก ขัดด้วยฟองน้ำเมลามีนต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะขจัดคราบออกได้ทั้งหมด ซึ่งคุณสามารถซื้อฟองน้ำเมลามีนได้ในห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านคุณ

3. ขัดคราบด้วยแปรงสีฟันขนแข็ง จุ่มหัวแปรงสีฟันลงในน้ำเพื่อให้ขนแปรงเปียก ใช้ขนแปรงขัดวนเป็นวงกลมเล็ก ๆ บนพื้นผิวรองเท้าโดยเน้นที่บริเวณที่มีรอยเปื้อนมาก ๆ ใช้แรงกดเล็กน้อยเพื่อให้น้ำยาทำความสะอาดเข้าไปในเนื้อผ้าของรองเท้า แต่ก็อย่าลืมเมื่อซักรองเท้าเสร็จแล้ว ให้เก็บแปรงสีฟันที่คุณใช้ทำความสะอาดไปเก็บไว้ให้ห่างจากห้องน้ำนะคะ เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนค่ะ

ขัดคราบด้วยแปรงสีฟันขนแข็ง

4. ซับน้ำส่วนเกินออก ใช้กระดาษทิชชู่ซับน้ำและสิ่งสกปรกออกจากรองเท้าในบางส่วน ซึ่งคุณต้องหลีกเลี่ยงการเช็ดผ้าขนหนูบนรองเท้าเพราะอาจทำให้สิ่งสกปรกกระจายไปทั่วรองเท้าได้อีกครั้ง

5. ปล่อยให้รองเท้าของคุณแห้ง หลังจากใช้กระดาษทิชชู่ซับน้ำในตอนแรกแล้วให้วางไว้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกในบ้าน เพื่อให้แห้งสนิท โดยทิ้งไว้ตามลำพังอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง ก่อนกลับมาสวมใส่อีกครั้ง เราแนะให้เผื่อเวลาไว้หน่อยเพราะรองเท้ากว่ามันจะแห้งสนิท ต้องใช้เวลามากพอสมควรเลยค่ะ

ทำความสะอาดด้วยผงฟอกขาว

1. เจือจางสารฟอกขาว ผสมสารฟอกขาว 1 ส่วน ลงในน้ำ 5 ส่วน ใส่ภาชนะขนาดเล็ก ระวังอย่าใช้น้ำยาฟอกขาวมากไป มิฉะนั้นอาจทำให้รองเท้าสีขาวของคุณกลายเป็นสีเหลืองได้ และความสวมถุงมือยางขณะซักด้วยสารฟอกขาว เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวหนังที่มือของคุณ

เจือจางสารฟอกขาว

2. ใช้แปรงสีฟัน ใช้แปรงสีฟันเป็นวงกลมเล็ก ๆ เพื่อขจัดคราบ คุณสามารถจุ่มแปรงสีฟันลงในน้ำยาฟอกขาวแล้วเริ่มขัดรองเท้า เน้นบริเวณที่เปื้อนและคราบฝังลึกโดยออกแรงกดผ้าเล็กน้อย คุณควรสังเกตว่าคราบสกปรกหลุดออกจากผ้า เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผ้ารองเท้าของคุณก่อนที่จะย้ายไปยังพื้นผิวที่แข็งกว่าเช่น พื้นรองเท้า

3. เช็ดน้ำยาฟอกขาวออกจากรองเท้า เมื่อดูสิ่งสกปรกออกไปหมดแล้วให้เช็ดน้ำยาฟอกขาวออกจากรองเท้าด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำหมาด ๆ ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อนุ่มเปียกในน้ำอุ่นแล้วบิดออกจนหมาด ใช้แรงกดเบา ๆ ขณะเช็ดผ้าขนหนูให้ทั่วรองเท้า คุณยังสามารถถอดพื้นรองเท้าออกจากรองเท้าและวางรองเท้าไว้ใต้ก๊อกน้ำก็ได้

4. ปล่อยให้รองเท้าแห้งในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ทิ้งรองเท้าไว้ในห้องให้แห้งอย่างน้อย 5-6 ชั่วโมง ก่อนที่จะสวมใส่อีกครั้ง พยายามปล่อยให้แห้งสนิทก่อนนำมาสวมใส่

การใช้เบกกิ้งโซดา

การใช้เบกกิ้งโซดา

1. ผสมเบกกิ้งโซดา น้ำส้มสายชู และน้ำร้อน ผสมน้ำร้อน 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) น้ำส้มสายชูขาว 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) และเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ (14 กรัม) เข้าด้วยกันในชาม คนให้ส่วนผสมละลายเข้าด้วยกันจนกว่าจะได้น้ำยาที่เป็นเนื้อข้น เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูจะเริ่มเป็นฟองและเริ่มทำปฏิกิริยา เบกกิ้งโซดาจะทำงานได้ดีที่สุดหากคุณพยายามทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบตาข่ายหรือผ้า

2. ใช้แปรงสีฟันร่วมกับเบกกิ้งโซดา ใช้เบกกิ้งโซดาเทลงบนรองเท้า จากนั้นใช้แปรงสีฟัน จุ่มหัวแปรงสีฟันลงในน้ำยาแล้วแปรงลงบนผ้ารองเท้า ใช้แรงกดเบา ๆ ที่ขนแปรงเพื่อให้ผ้าดูดซับ ปิดพื้นผิวภายนอกทั้งหมดของรองเท้าด้วยเบกกิ้งโซดา อย่าลืมล้างแปรงสีฟันให้สะอาดเมื่อใช้เสร็จเพื่อไม่ให้ขนแปรงแห้ง

ใช้แปรงสีฟันร่วมกับเบกกิ้งโซดา

3. ทิ้งเบกกิ้งโซดาไว้ให้แห้ง ทิ้งเบกกิ้งโซดาไว้ให้แห้งบนรองเท้าประมาณ 3-4 ชั่วโมง วางรองเท้าให้โดนแสงแดดโดยตรงเพื่อให้เนื้อเบกกิ้งโซดาแห้งหรือแข็งตัว หากคุณไม่สามารถเก็บรองเท้าไว้ข้างนอกได้ให้วางไว้ใกล้หน้าต่างที่มีแสงแดดส่องถึงหรือในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก

4. เริ่มขจัดคราบ จับรองเท้าของคุณเข้าด้วยกันแล้วใช้แปรงแห้งเพื่อขจัดคราบแห้ง ตีพื้นรองเท้าของคุณด้วยกันด้านนอกเพื่อให้แผ่นรองพื้นแตกออกและตกลงไปที่พื้น หากมีเศษเบกกิ้งโซดาแห้งติดอยู่ ให้ขูดออกด้วยแปรงสีฟันจนกว่ารองเท้าของคุณจะกลับมาสะอาดอีกครั้ง

ต่อสู้กับคราบสกปรกด้วยยาสีฟัน

ต่อสู้กับคราบสกปรกด้วยยาสีฟัน

1. ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรองเท้าให้เปียก ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าเช็ดตัวเปียกแล้วเช็ดเบา ๆ ให้ทั่วรองเท้า ทำให้รองเท้าของคุณชื้นเล็กน้อยแต่อย่าให้เปียกเพื่อให้ยาสีฟันเกิดฟอง

2. บีบยาสีฟันขนาดเท่าเมล็ดถั่วลงบนรองเท้า และขัดด้วยแปรงสีฟัน บีบยาสีฟันลงบนรองเท้าโดยตรงในบริเวณที่มีคราบฝังแน่น เกลี่ยยาสีฟันบาง ๆ ให้ทั่วบริเวณก่อนใช้แปรงสีฟันขัดเป็นวงกลมเล็ก ๆ ให้ทั่วก่อนปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที และควรใช้ยาสีฟันที่เป็นสีขาวเท่านั้น เพราะยาสีฟันสีอื่น ๆ อาจทิ้งคราบไว้บนรองเท้าของคุณ

3. เช็ดยาสีฟันและสิ่งสกปรกออกด้วยผ้าเปียก คุณสามารถใช้ผ้าเปียกผืนเดียวกันเช็ดยาสีฟันออกจากรองเท้าได้ อย่าลืมเอายาสีฟันทั้งหมดออกจากรองเท้าเพื่อไม่ให้ทิ้งรอยไว้

4. ปล่อยให้รองเท้าของคุณแห้งสนิท วางรองเท้าไว้หน้าพัดลม หรือในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก คุณควรทิ้งรองเท้าไว้ให้แห้งสนิท โดยทิ้งรองเท้าไว้กลางแดดเพื่อเร่งให้มันแห้งเร็วขึ้น