วิธีแก้ไข ผมบาง แห้งหยาบ ชี้ฟู เป็นหงอกก่อนวัย - และอธิบายถึงสาเหตุ/ที่มาของผมเสีย

ความสวยงามของเส้นผม เป็นเรื่องที่หลายคนต้องการไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะเส้นผมนั้นเปรียบเสมือนการของตกแต่งของใบหน้า แต่แน่นอนเราไม่ได้มีความสมบูรณ์แบบไปหมด บางคนมีปัญหา รังแค ผมร่วง ผมมัน หรือแม้กระทั่งผมแห้งแตกปลาย การทำให้ผมสุขภาพดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะมันต้องผ่านขั้นตอนมากมายเหลือเกิน ทั้งบำรุงผม หลีกเลี่ยงเส้นผมจากแสงแดด และมลภาวะ อีกทั้งยังต้องหลีกเลี่ยงการจัดแต่งทรงผมอีกด้วย

เส้นผมของเรามักเป็นเข็มทิศสำหรับสุขภาพของเรา ตั้งแต่อารมณ์ที่นุ่มนวลไปจนถึงความแห้งกร้านและเปราะบาง มันรู้สึกถึงสิ่งที่เรารู้สึก บางครั้งตามผู้เชี่ยวชาญด้านผมแนะนำให้เราสระผมเพื่อให้ความชุ่มชื้น ยืดผมเพื่อความสวยงามฉีดสเปรย์เพื่อจัดแต่งทรงผม ทำสีเพื่อความสวยงามและทันสมัย หลายคนไม่รู้ว่าเนื้อผม ปริมาณของผม และสีผมของเรา ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่คาดคิด เส้นผมเป็นเพียงหนึ่งในกระจกส่องสุขภาพของคุณเนื่องจากอาจบ่งชี้ถึงความไม่สมดุล นั่นเป็นเหตุผลที่เราได้ใส่ใจจัดทำคู่มือนี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถมีผมที่สุขภาพดีและมีความสวยงามมากขึ้น

ผมบาง

สาเหตุทั่วไปสำหรับผมบาง

- ความเครียด : ตรวจสอบว่าช่วงนี้คุณรู้สึกอย่างไร เพราะความเครียดสร้างคอร์ติซอลที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากซึ่งจะขับฮอร์โมนอื่น ๆ ในร่างกายของผู้หญิงออกไป
- ทานอาหารที่ไม่ดีในช่วงอายุมากขึ้น : จากการศึกษาพบว่า ในช่วงวัยหมดประจำเดือนการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจส่งผลต่อผมร่วงหรือผมบาง และการศึกษาชี้ให้เห็นว่าผู้ที่ต้องผ่านช่วงชีวิตนี้ ให้หลีกเลี่ยงอาหารเสริม และให้ความสำคัญกับอาหารของตัวเองมากขึ้น กินอาหารที่อุดมไปด้วย L-lysine ซึ่งส่งผลต่อการดูดซึม ธาตุเหล็ก สังกะสี โปรตีน ทองแดง และซีลีเนียม (1)

วิธีธรรมชาติสำหรับแก้ผมบาง

- การทำสมาธิเพื่อลดความเครียด (2) การทำสมาธิจะนำ “OM” เข้าสู่ระบบประสาทของคุณสามารถลดระดับฮอร์โมนได้ตามธรรมชาติ ลองเหล่านี้เทคนิคการลดความเครียด
- น้ำซุปกระดูก น้ำซุปกระดูกเป็นยาอายุวัฒนะที่อุดมด้วยคอลลาเจน มันจะช่วยสนับสนุนเซลล์ของเราทั้งหมด แม้แต่เซลล์เจริญเติบโตของเส้นผมมันก็ช่วย อีกทั้งมันยังสร้างไตซึ่งในทางการแพทย์แผนจีนควบคุมเส้นผมบนศีรษะด้วย
- เหล็ก อาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ปลาแซลมอน ถั่วลันเตา ผักโขม และตับ เราสามารถทานอาหารเสริมที่แบ่งครึ่งหรือหนึ่งอย่างที่มีน้ำหนักประมาณ 9 มิลลิกรัม รับประทานวันละสองครั้ง การสลายธาตุเหล็กจะช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ราบรื่นขึ้น ดังนั้นคุณจึงมีโอกาสท้องผูกน้อยลง
- ลองรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลในเลือดต่ำ อาหารนี้เน้นคาร์โบไฮเดรตและไฟเบอร์ที่ซับซ้อน ซึ่งรวมถึงอาหารเช่น หัวหอม ผลเบอร์รี่ เมล็ดฟักทอง โกโก้ ไข่ และอื่น ๆ

ผมแห้งหรือหยาบ

สาเหตุทั่วไปสำหรับผมหยาบ

- ความร้อนสูง ยิ่งไดร์เป่าผมร้อนเท่าไหร่ ผมของคุณก็ยิ่งเสียหายมากขึ้นเท่านั้น และเพื่อป้องกันความเสียหาย วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ผมแห้งคือ การพันด้วยผ้าขนหนูเบา ๆ เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นเมื่อผมแห้ง หากจำเป็นต้องเป่าให้แห้ง ควรรักษาระยะห่างไว้อย่างน้อย 5 ถึง 10 เซนติเมตร (3) อย่าเป่าอยู่ในจุดเดียวนานเกิน 30 วินาที สำหรับเครื่องเป่าผมปกติ แต่หากเครื่องเป่าของคุณมีความร้อนสูงถึง 200 °F (93 ° C) ให้ใช้เพียงแค่ 15 วินาที (ดูเพิ่มเติม ซื้อ ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี ไม่ทำให้ผมเสีย)
- สระผมมากเกินไป แชมพู ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในเส้นผมได้อย่างดีเยี่ยม แต่คุณรู้หรือไม่ว่านอกจากนี้แล้ว แชมพู ก็กำจัดน้ำมันธรรมชาติ ที่ช่วยสร้างความเงางามให้กับเส้นผมออกไปด้วย ดังนั้นหากคุณชอบสระผมบ่อย ๆ เราขอแนะนำให้สระวันเว้นวันก็เพียงพอแล้ว (4)
- การฟอกสีผม ในการฟอกสีผมของคุณ สารฟอกขาวจะทำให้เส้นผมแต่ละเส้นพองตัวเพื่อให้สามารถไปถึงแกนด้านในสุดและกำจัดเมลานินซึ่งเป็นสารประกอบที่ทำให้ผมของคุณมีเม็ดสีตามธรรมชาติ หากคุณใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพต่ำ หรืองดใช้ทรีตเมนต์ปรับสภาพ อาจทำให้เส้นผมหยาบกร้านได้
- การย้อมผม ปกติแล้วสีเคมีย้อมผมจะเปลี่ยนพื้นผิวของเส้นผม ทำให้ผมแข็งและหยาบดูไม่มีน้ำหนัก

วิธีธรรมชาติสำหรับรักษาผมแห้งหรือผมหยาบ

- แช่น้ำมันบำรุงผม เติมน้ำมันมะกอกลงไปโดยนวดน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะจากโคนจรดปลายแล้วแช่ทิ้งไว้ 15 นาที กรดโอเลอิก กรดปาล์มิติก และสควาลีน ที่พบในวัตถุดิบในครัวนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าทำให้ผมนุ่มนวลและเพิ่มความนุ่มนวล งานวิจัยบางส่วนจากแหล่งที่เชื่อถือได้บอกว่า ผลของน้ำมันมะกอกแสดงให้เห็นว่าสามารถให้ความชุ่มชื้นได้อย่างมาก (5) รวมไปถึงน้ำมันอัลมอนด์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ที่สามารถช่วยผ่อนคลายผมได้เช่นกัน
- ใส่หมวก หากคุณฟอกผมหรือย้อมใหม่ ๆ ให้สวมหมวกปีกกว้างกลางแดดเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
- ล้างผมด้วยน้ำข้าว ครั้งต่อไปที่คุณหุงข้าว ให้เก็บน้ำล้างข้าวเอาไว้ เพราะงานวิจัยพบสารประกอบที่เรียกว่าอิโนซิทอลในน้ำข้าว ซึ่งจะซึมเข้าสู่เส้นผมที่เสียหาย เพื่อรักษาจากภายในสู่ภายนอก

ผมพันกัน

สาเหตุทั่วไปที่ทำให้ผมพันกัน

- ความร้อน ทั้งจากที่หนีบผม ที่ม้วนผม และไดร์เป่าผม สามารถทำให้เกิดผมพันกันได้ อย่างไรก็ตามมันอาจทำให้ให้ผมสวยงามเพียงชั่วครู่ แต่ให้ความหยาบกระด้างไปตลอดกาล สิ่งนี้นำไปสู่หนังกำพร้าที่นูนขึ้นและเนื้อสัมผัสที่เหมือนฟางและพันกันเมื่อเวลาผ่านไป ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้เครื่องมือความร้อนสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น
- แปรงผมมากเกินไป การแปรงผมที่หยาบ และรุนแรง จะเพิ่มไฟฟ้าสถิตให้ใช้หวีซี่ห่างเริ่มจากด้านล่างแล้วค่อย ๆ ขยับขึ้น จำกัดการแปรงผมหลังอาบน้ำหรือสระผมเพราะการแปรงผมที่เปียกสามารถยืดและหักเส้นผมได้

วิธีธรรมชาติสำหรับรักษาผมพันกัน

- สระผมให้น้อยลง แชมพู จะขจัดสิ่งสกปรกจากเส้นผมก็จริง แต่เมื่อใช้บ่อยเกินไปมันก็สามารถขจัดน้ำมันธรรมชาติด้วย ลองสระผมแบบวันเว้นวันก็พอ (4) หากคุณใช้ครีมนวดในห้องอาบน้ำอยู่แล้วให้เลือกใช้ครีมนวดผมสูตรธรรมชาติ
- งดใช้ความร้อน เว้นเสียแต่ว่าคุณจะขึ้นพรมแดงในสัปดาห์นี้ ให้แบ่งผมและปล่อยให้แห้ง หากคุณต้องการยืดผมให้ตรงหรือม้วนผมให้ลดความร้อนลงและใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกัน
- ใช้ผ้าขนหนูซับผม เมื่อคุณออกจากห้องอาบน้ำให้ใช้ผ้าขนหนูพันตัวผมเบา ๆ เพื่อดูดซับความชื้นและหลีกเลี่ยงการขยี้ผมที่เปียกเพราะอาจทำให้เกิดการเสียดสีและพันกันได้

ผมหงอกก่อนวัย

สาเหตุทั่วไปของผมหงอกก่อนวัย

- อาหารไม่สมดุล มีโอกาสที่คุณจะได้รับสารอาหารหรือแร่ธาตุไม่เพียงพอ จากการศึกษาชี้ไปที่ระดับเฟอร์ริตินแคลเซียมและวิตามินดี -3 ในระดับต่ำ (6) อีกประการหนึ่งเชื่อมโยงกับปริมาณทองแดง สังกะสีและเหล็กในระดับต่ำ
- พันธุศาสตร์ ใช่ค่ะครอบครัวของคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับจำนวนผมหงอกที่คุณเห็น บ่อยครั้งที่สมาชิกในครอบครัวจะมีไทม์ไลน์คล้ายกับคุณ

วิธีธรรมชาติในการแก้ไขผมหงอกก่อนวัยอันควร

- สมุนไพรและอาหารเสริม สมุนไพรโชวูถูกใช้ในการแพทย์แผนจีนเป็นเวลาหลายพันปีเพื่อปรับปรุงพลังงานของตับและไต มันอาจมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูที่สามารถคืนสีให้กับเส้นผม (7)
- เฮนน่า หากคุณหมดวิธีในการปกปิดผมหงอกให้ลองใช้เฮนน่าย้อมสีธรรมชาติซึ่งจะทำให้ผมของคุณกลายเป็นโทนสีทองหรือสีทองแดง
- สีย้อมจากกาแฟ นอกจากนี้คุณสามารถลองใช้กาแฟในการย้อมผมได้ เพียงผสมกาแฟบด 4 ช้อนโต๊ะ เข้ากับครีมนวดผม 2 ถ้วย แล้วชงกาแฟเข้มข้น 2 ถ้วย หลังจากสระผมตามปกติแล้วให้ล้างออกหรือแช่ผมด้วยกาแฟที่เย็นแล้วนวดด้วยครีมนวดผม อย่าลืมทิ้งไว้หนึ่งชั่วโมง โปรดทราบว่าคาเฟอีนดูดซึมผ่านผิวหนังของคุณ การรักษานี้ควรถือเป็นการบริโภคคาเฟอีนเพิ่มเติมและใครก็ตามที่มีข้อจำกัดคาเฟอีนอาจต้องการหลีกเลี่ยงการลองทำเช่นนี้
- ทานอาหารที่เป็นมิตรกับเส้นผม วอลนัท เป็นแหล่งทองแดงที่ดีซึ่งช่วยเพิ่มเม็ดสีให้กับผมของคุณ ส่วนผสมที่เป็นมิตรกับเส้นผมอื่น ๆได้แก่ ปลา บรอกโคลี เมล็ดพืช และผักคะน้า ซึ่งล้วนมีโอเมก้า 3 จำนวนมาก

ผมชี้ฟู

สาเหตุทั่วไปที่ทำให้ผมชี้ฟู

- คุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้อง สาเหตุหลักของผมชี้ฟูคือการลดลงของความแข็งแรงของเส้นผม นอกจากนี้ความแข็งแรงของเส้นผมที่ลดลงอาจเป็นผลมาจากโภชนาการที่ไม่สมดุลหรือผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่อาจจะมีฤทธิ์รุนแรง (8)
- ความเครียด ผมชี้ฟูเป็นปัญหาระยะยาวที่พบได้ ประมาณหกเดือนหลังจากเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ ตามการแพทย์แผนจีนกล่าวว่าความเครียดจะขัดขวางการไหลเวียนของเลือดและการหล่อเลี้ยงเส้นเลือดฝอยและรูขุมขน

วิธีธรรมชาติสำหรับผมชี้ฟู

- สระผมด้วยน้ำเย็นเท่านั้น เช่นเดียวกับน้ำร้อนที่เปิดรูขุมขนบนใบหน้าของคุณมันจะเปิดผิวหนังของคุณ ซึ่งหากคุณอาบน้ำอุ่นมันจะเปิดเกล็ดผมของคุณเช่นกันแต่การอาบน้ำเย็นจะช่วยป้องกันการเปิดของเกล็ดผม
- ใช้แชมพูธรรมชาติ สารเคมี เช่น โซเดียมลอริลซัลเฟตที่พบในแชมพูบางชนิดจะทำให้น้ำมันในผมหายไปและทำให้ผมชี้ฟู (4),(8) แนะนำให้ทำความสะอาดเส้นผมด้วยแชมพูธรรมชาติ

คุณควรไปพบแพทย์เมื่อไร?

โดยส่วนใหญ่สุขภาพผม สามารถแก้ไขได้จากภายในโดยการดูสิ่งที่คุณกินและวิธีจัดการระดับความเครียดของคุณ อย่างไรก็ตามมีหลายกรณีที่เส้นผมเป็นอาการของปัญหาที่ใหญ่กว่า สิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงที่จะต้องได้รับการตรวจระดับฮอร์โมนและไทรอยด์เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจทำให้ผมร่วงได้ แม้แต่ความไม่สมดุลเพียงเล็กน้อยในการเติบโตของฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงที่ละเอียดอ่อนนี้ ก็สามารถทำให้ผมร่วงและบางได้เช่นกัน แต่หากผู้หญิงมีขนบนใบหน้ามากขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหากลุ่มอาการ Polycystic Ovary Syndrome

ปัญหาผม	สาเหตุที่อาจจะเป็นไปได้	อาการอื่น ๆ ที่ควรระวัง
ผมแห้งหยาบหรือพันกัน	ภาวะทุพโภชนาการ	ความเหนื่อยล้าความอ่อนแอของกล้ามเนื้อ การเพิ่มหรือการสูญเสียน้ำหนักมากเกินไป
ผมบาง	ภาวะโลหิตจางหรือไทรอยด์	เกิดความอ่อนแอ ผิวซีด เล็บเปราะ มีความอยากอาหารแบบแปลก ๆ
ผมหงอกก่อนวัย	ความเหนื่อยล้าของไต	อาการบวมรอบดวงตาหรือขาคลื่นไส้ ผิวหนังเป็นรอยช้ำง่าย
ผมชี้ฟู	กลไกการบาดเจ็บ	การเผชิญกับอุบัติเหตุล่าสุดและความเครียด
ผมร่วงมากเกินไป	ผมร่วงหรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง	ความเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง การสูญเสียน้ำหนักมากเกินไปโดยที่ไม่คาดคิด มีผื่นหรือปวดข้อ