สำหรับในปัจจุบัน “กล้องติดรถยนต์“ นั้น ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นมาก ๆ ซึ่งแน่นอนไม่มีใครที่จะสามารถรับรู้อนาคตได้ ไม่รู้ว่าวันไหนที่เราออกไปข้างนอกแล้วจะเจอกับอุบัติเหตุ ไม่รู้ว่าวันไหนที่จอดรถอยู่เฉย ๆ จะมีคนถอยมาชน และอื่น ๆ อีกหลากหลายสถานการณ์ (1) หากไม่มีกล้องคอยจับภาพเอาไว้ การจะไปหาหลักฐานเพื่อหาคนผิดก็คงเป็นเรื่องที่ยากมาก ฉะนั้นการมีกล้องดี ๆ สักตัวนึงติดอยู่หน้ารถ ไว้คอยช่วยบันทึกภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้ เผื่อว่าวันใดวันนึงภาพพวกนี้ อาจได้ใช้เป็นหลักฐานในการเรียกร้องค่าเสียหายต่าง ๆ หรือพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวคุณเองก็เป็นได้
ซึ่งการเลือกกล้องนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร เราสามารถเลือกได้จากภาพตัวอย่างที่มี หรือศึกษาจากรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็น่าจะพอเข้าใจได้ไม่ยาก แต่ปัญหามันจะเกิดขึ้นหลังจากคุณเลือกกล้องติดรถยนต์ที่เหมาะกับคุณได้แล้ว ซึ่งหลาย ๆ คนเมื่อได้ตัวกล้องมาแล้ว อาจจะต่อใช้งานได้ง่าย ๆ แต่การติดตั้งอย่างถูกต้องในครั้งแรกอาจเป็นเรื่องยุ่งเหยิง ดังนั้นเรามีคำแนะนำดี ๆ ที่จะทำให้การติดตั้งกล้องหน้ารถเป็นเรื่องง่าย ตัวคุณเองก็ทำได้ เก็บสายเรียบร้อย ไม่เเกะกะ โดยไม่ต้องง้อช่าง
วิธีการติดตั้ง กล้องติดรถยนต์ แบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
1. ตั้งค่าทุกอย่างให้เรียบร้อย
ก่อนที่คุณจะนำกล้องไปติดตั้งที่ตัวรถ คุณควรตั้งค่า ตัวกล้องติดรถยนต์ และทดสอบการทำงาน ให้เรียบร้อยเสียก่อน เนื่องจากคุณสามารถทำได้ง่าย และถนัดกว่า เมื่ออยู่ที่โต๊ะทำงาน และเมื่อคุณตั้งค่าและทดสอบเสร็จแล้วก็ติดตั้งการ์ดหน่วยความจำ หลังจากนั้นก็ถึงเวลาที่จะต้องนำกล้องติดรถยนต์ไปติดตั้งให้เข้าที่เข้าทาง
2. เตรียมรถยนต์ของคุณ
หยิบผ้าสะอาด มาเช็ดทำความสะอาดกระจกด้านใน หรือในบริเวณที่ต้องการจะติดตั้งกล้อง โดยมันจะช่วยทำให้คุณสามารถติดขายึดกล้องได้อย่างแน่นหนา ไม่หลุด ซึ่งกล้องบางรุ่นอาจจะใช้ขายึดเป็นถ้วยดูด หรือบางรุ่นก็ใช้เป็นแผ่นกาว และนอกจากนั้นก่อนติดตั้งขายึดกล้อง คุณควรแน่ใจว่าคุณมีปลั๊กไฟ 12V เหลืออยู่ ไม่เช่นนั้นคุณจะไม่มีแหล่งจ่ายไฟสำหรับกล้องหน้ารถของคุณ
3. จัดวางตำแหน่ง และติดตั้งกล้องเข้ากับขายึด
หลังจากทำความสะอาดแล้ว ให้ลองนำกล้องหน้ารถของคุณมาเทียบดู โดยกล้องจะต้องส่องไปบริเวณด้านหน้าของตัวรถ เพื่อคอยจับภาพของถนนข้างหน้า ซึ่งตำแหน่งที่ดีที่สุดที่ใช้สำหรับการติดตั้งกล้องแดชแคมคือ บริเวณด้านหลังกระจกมองหลัง เพราะมันจะไม่บดบังมุมมองการขับขี่ของคุณ และนอกจากนั้นมันก็ไม่เกะกะสายตาอีกด้วย และเมื่อคุณได้ตำแหน่งที่สมบูรณ์แล้ว ให้ทำการติดตั้งขาจับกล้องให้เข้าที่แล้วนำเอาตัวกล้องมาติดที่ขายึดกล้องให้เรียบร้อย
4. เก็บซ่อนสายไฟให้เรียบร้อย
ขั้นตอนนี้อาจเป็นส่วนที่ยากที่สุดแล้ว เนื่องจากคุณจะต้องไล่เก็บสายไฟไปเรื่อย ๆ ตามขอบของกระจกบังลม แผงประตู และข้ามไปยังเต้าเสียบ 12V โดยเริ่มต้นจากนำสายไฟมาเสียบที่กล้องก่อน จากนั้นเริ่มสอดสายไฟเข้าไปในช่องว่างระหว่างหลังคากับกระจกหน้ารถ ซึ่งกล้องบางรุ่นมันจะมีอุปกรณ์สำหรับสอดเพื่อให้เกิดช่องว่างมาให้ในกล่อง แต่ถ้าหากไม่มีคุณก็สามารถใช้นิ้วหรืออะไรแข็ง ๆ ก็ได้ (ระวังเกิดรอย) ทำการง้างออกเล็กน้อย แล้วสอดสายไฟเข้าไป ไล่มาจนถึงเสา A ให้แกะพลาสติกของเสา A ออกเล็กน้อย จากนั้นนำสายไฟร้อยเข้าไปด้านใน ให้ทะลุออกมาฝั่งขอบประตูรถ หลังจากนั้นให้ดึงยางขอบประตูออก (ในขั้นตอนนี้โปรดระมันระวัง เพราะยางอาจจะฉีดขาดได้) สอดสายไฟเข้าไปด้านในและใส่ยางกลับเข้าเข้าที่ให้เหมือนเดิม ไล่ลงมาจนถึงด้านล่าง ในส่วนนี้มีหลายทางเลือก
-
- วิธีที่ง่ายที่สุด คือ สอดสายไฟไว้ใต้พรหมไปออกที่ช่องเสียบ 12V
- วิธีที่เก็บสายเรียบร้อยประมาณนึง คือ ทำการถอดเก๊ะเก็บของออกแล้ว สอดสายไฟไปด้านหลัง มาออกที่ช่องเสียบ 12V
- วิธีที่ดีที่สุด คือ หาซื้อชุดฟิวส์แท็ป (Fuse Tap) มาต่อพ่วงเข้ากับแผงฟิวส์เดิมของรถโดยตรง ซึ่งแผงฟิวส์ของรถจะอยู่ด้านล่างหรือด้านข้างของเก๊ะเก็บของ โดยวิธีนี้จะเก็บสายได้ดีที่สุด และไม่เปลืองช่องเสียบ 12V ด้วย
5. ทดสอบการใช้งาน
หากในขึ้นตอนแรกคุณได้ตั้งค่า และใส่การ์ดหน่วยความจำเข้าไปแล้ว คุณก็สามารถเปิดตัวกล้องเพื่อทำการทดสอบได้เลยทันที และโปรดจำไว้ว่าหากคุณถอดปลั๊กที่เสียบอยู่กับช่องเสียบ 12V ออก ไม่ว่าจะเพื่อชาร์จโทรศัพท์ หรืออะไรก็ตาม ตัวกล้องหน้ารถจะหยุดบันทึกภาพทันที เว้นเสียแต่ว่าตัวกล้องหน้ารถของคุณมีแบตเตอรี่ หรือหากคุณติดตั้งโดยใช้ชุดฟิวส์แท็ปก็จะไม่มีปัญหาใด ๆ
การเลือกการ์ดหน่วยความจำที่เหมาะสม
กล้องแดชแคม ส่วนใหญ่มักใช้การ์ดระดับ 10 หรือสูงกว่า MicroSDHC หรือ MicroSDXC (2) โดยปกติจะเป็น 16 GB ขึ้นไป แต่การ์ด MicroSD บางตัวก็จะอาจไม่สามารถใช้งานร่วมกับกล้องประบางตัวได้ การเลือกแบบง่าย ๆ คือ หากกล้องติดรถยนต์ของคุณมีความละเอียด ระดับ 4K คุณก็ควรเลือก การ์ดความจำ ที่มีความจุสูง ๆ แต่หากเป็นกล้องความละเอียด 1080p หรือ HD ปกติ ให้ใช้การ์ด 16-32 GB ก็เพียงพอแล้ว (1) เนื่องจากในปัจจุบันมันสามารถบันทึกแบบทับซ้อนได้
อ้างอิง