เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี – เพื่ออากาศที่บริสุทธิ์

เครื่องฟอกอากาศ ที่ดีที่สุด
เครื่องฟอกอากาศ ที่ดีที่สุด

“เครื่องฟอกอากาศ” เป็นอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัดที่จะช่วยกรองหรือขจัดสิ่งปนเปื้อนในอากาศเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาระดับมลพิษทางอากาศค่อย ๆ ทวีความรุนแรงขึ้นทำให้หลายคนมีปัญหาทางด้านการหายใจ ด้วยเหตุนี้ยอดขายเครื่องฟอกอากาศจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก เครื่องฟอกอากาศมีประโยชน์สำหรับทุก ๆ เลยค่ะโดยเฉพาะกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ อีกทั้งตัวเครื่องก็จะทำงานได้ดีสำหรับผู้ที่ต้องการมีอากาศบริสุทธิ์ไว้หายใจด้วย การมีเครื่องฟอกอากาศในบ้านจะสร้างความแตกต่างให้กับบ้านของคุณมากกว่าที่คุณคิด อุปกรณ์เหล่านี้สามารถกรองสิ่งสกปรกในอากาศได้ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ ละอองเกสร ฝุ่น ไวรัสและสะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง

การมีมลพิษที่กล่าวมานี้จะทำให้คุณหายใจลำบากและมีสุขภาพทางเดินหายใจที่ไม่ดี ตามที่เราได้บอกไว้ว่าเครื่องฟอกอากาศนั้นเหมาะสำหรับทุกคนแต่มันก็เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้มากที่สุด เพราะเครื่องฟอกอากาศจะช่วยจัดการกับละอองเกสรดอกไม้และขนของสัตว์เลี้ยงได้ดี อีกทั้งยังสามารถช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น การจาม การไอและการระคายเคืองจากการสัมผัสกับมลพิษทางอากาศได้เป็นอย่างดี

หากวันนี้คุณกำลังจะซื้อเครื่องฟอกอากาศก็ไม่ต้องไปที่ไหนไกล เพราะเราได้เลือกเครื่องฟอกอากาศยอดนิยมทั้งหมด 7 เครื่อง มาแนะนำกัน ในการรีวิวของเราคุณจะได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการออกแบบ ข้อมูลจำเพาะและคุณสมบัติพิเศษ วิธีนี้จะช่วยให้คุณทราบได้ว่าเครื่องฟอกอากาศตัวใดที่เหมาะกับบ้านของคุณมากที่สุด

ซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ปี 2564

เครื่องฟอกอากาศทำงานอย่างไร ทำไมต้องซื้อ?

เครื่องฟอกอากาศทำงานแบบง่าย ๆ โดยภายในตัวเครื่องมี 2 สิ่งที่สำคัญก็คือตัวกรองและพัดลม ด้วยการทำงานของพัดลมเครื่องฟอกอากาศจะนำอากาศที่ปนเปื้อนภายในห้องออกมาและส่งผ่านตัวกรอง ในระหว่างกระบวนการกรองอากาศนี้ ฝุ่นละอองและแบคทีเรียที่เป็นอันตรายจะติดอยู่ในตัวกรองและปล่อยอากาศบริสุทธิ์กลับเข้าไปในห้อง ขอบอกเลยว่ายิ่งตัวกรองอากาศมีคุณภาพสูงมากขึ้นเท่าไหร่อากาศก็จะยิ่งสะอาดมากขึ้นเท่านั้น แต่เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นไม่มีตัวกรองทางกายภาพและใช้เทคโนโลยีอย่าง เช่น การแตกตัวเป็นไอออน การตกตะกอนด้วยไฟฟ้าและหลอด UV กระบวนการเหล่านี้อาจไม่ทำให้คุณได้รับอากาศที่สะอาดเท่ากับการใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีตัวกรองทางกายภาพ ดังนั้นในตอนที่ซื้อเครื่องฟอกอากาศให้เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองทางกายภาพเสมอ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศ? เพราะไม่เห็นว่าจะจำเป็นตรงไหน แต่เราขอบอกเลยว่าอุปกรณ์นี้จำเป็นมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะในทุก ๆ พื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่มักจะเต็มไปด้วยมลพิษทางอากาศ ซึ่งมลพิษทางอากาศนั้นสามารถเชื่อมโยงกับปัญหาด้านสุขภาพต่าง ๆ เช่น ภูมิแพ้ โรคหอบหืด ปัญหาทางการหายใจ ปวดศีรษะ ระคายเคืองคอและอาจจะพัฒนาไปเป็นมะเร็งปอดได้ หลายคนอาจจะคิดว่ามลภาวะทางอากาศที่มาจากการอุตสาหกรรมและการเดินทางในอันตรายต่อสุขภาพมากกว่า แต่เราขอบอกเลยว่าความจริงแล้วมลภาวะในอากาศภายในอาคารถือเป็นความเสี่ยงด้านสุขภาพสิ่งแวดล้อมที่ร้ายแรงที่สุดเพราะในบ้านของเรามักจะเต็มไปด้วยมลภาวะหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น ควัน ละอองเกสร สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง จุลินทรีย์และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ฯลฯ ซึ่งปัญหาทางอากาศเหล่านี้เมื่อรวมกันแล้วจะส่งผลเสียต่อการหายใจได้ ถึงแม้ว่าคุณจะเปิดเครื่องปรับอากาศ ดูดฝุ่นหรือกวาดขยะจนทั่วแล้วก็ไม่สามารถขจัดปัญหานี้ได้ ดังนั้นหากคุณต้องการวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายและรวดเร็วก็คือการซื้อและติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่บ้านนั่นเอง

รูปภาพจาก mi.com

Xiaomi เครื่องฟอกอากาศ Air Purifier 3H

เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ มาพร้อม HEPA class 13 กรองอากาศได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ราคา 3,990 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาด : 24 x 24 x 52 ซม. 

กำลังไฟ : 38 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 4.8 กก.

แผ่นกรองอากาศที่ใช้ : HEPA 

CADR (Clean Air Delivery Rate) : 380 ลบ.ม./ชม. 

ครอบคลุมพื้นที่ : 26 – 45 ตร.ม.

ความดังของเสียง : 32 – 64 dB

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • มีตัวกรองอากาศที่สามารถเปลี่ยนได้
  • ตัวหน้าจอเป็นระบบสัมผัสแบบ OLED ใช้งานง่าย
  • เชื่อมต่อกับแอป Mi Home ได้เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
  • สามารถดักจับอนุภาคที่ละเอียดถึง 0.3 ไมครอนได้
ข้อควรพิจารณา

การออกแบบดูเทอะทะมากจนเกินไป

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมและขายดีมาก ๆ ในออนไลน์ เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้มีพัดลมแบบแรงเหวี่ยงแทนที่จะเป็นพัดลมแบบหมุนวนทั่วไป ซึ่งช่วยให้เครื่องฟอกอากาศปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาได้เร็วขึ้น ตัวเครื่องมีหน้าจอแสดงผล OLED มีเซนเซอร์สีที่เปลี่ยนเป็นสีเขียว สีส้มและสีแดงขึ้นอยู่กับคุณภาพของอากาศรอบ ๆ ตัวคุณ มีระบบการกรอง 3 ชั้นและผ่านติดตั้งตัวกรอง HEPA class 13 ที่ดักจับอนุภาคที่ละเอียดกว่า 0.3 ไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถกรองอนุภาคและสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย นอกจากแผ่นกรอง HEPA แล้ว เครื่องฟอกอากาศ เครื่องนี้ยังติดตั้งพัดลมแบบแรงเหวี่ยงตัวใหม่อีกด้วยทำให้มีอัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์ (CADR) ถึง 380 ลบ.ม./ชม. ตัวเครื่องฟอกอากาศยังสามารถเชื่อมกับแอป Mi Home ในแอปนี้คุณไม่เพียงแต่สามารถดูข้อมูลคุณภาพอากาศเท่านั้น แต่ยังควบคุมฟังก์ชันและตารางเวลาทั้งหมดที่จะใช้ในการฟอกอากาศได้ดีอีกด้วย
รูปภาพจาก th.sharp

Sharp เครื่องฟอกอากาศ รุ่น FP-J40TA-W

มีเทคโนโลยี Active Plasmacluster สามารถกรองอากาศและไวรัสได้หลากหลายรูปแบบ

ราคา 11,090 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาด : 39 x 58.5 x 27 ซม. 

กำลังไฟ : 23 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 6.2 กก.

แผ่นกรองอากาศที่ใช้ : HEPA 

CADR (Clean Air Delivery Rate) : 240 ลบ.ม./ชม. 

ครอบคลุมพื้นที่ : 30 ตร.ม.

ความดังของเสียง : 45 dB

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • มีแผ่นกรองหลายชั้นสามารถกรองอากาศและกลิ่นได้เป็นอย่างดี 
  • สามารถดักจับอนุภาคที่ละเอียดถึง 0.3 ไมครอนได้
  • มีระบบไอออนที่จะปล่อยประจุออกมาเพื่อจัดการกับไวรัส
  • มีโหมดการทำงานที่หลากหลายเพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศ
ข้อควรพิจารณา
  • ตัวเครื่องต้องใช้ความระมัดระวังในการเคลื่อนย้าย
  • ตัวแผ่นกรอง HEPA  ต้องเปลี่ยนเป็นประจำทำความสะอาดไม่ได้
Sharp เครื่องฟอกอากาศที่มีระบบการฟอกแบบคู่ ผสมผสานการกรองแบบแอคทีฟและพาสซีฟเพื่อต่อสู้กับมลภาวะ การกรองแบบแอคทีฟทำได้โดยใช้เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ซึ่งสร้างไอออนบวกและลบ ไอออนเหล่านี้จะเข้าไปทำลายแบคทีเรียและละอองเกสรเพื่อไม่ให้ก่อภูมิแพ้ นอกจากนี้ไอออนจะทำให้จุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย เช่น H1N1, E. Coli, MRSA, ไวรัสไข้หวัดใหญ่และสปอร์ของเชื้อราเสื่อมสภาพลง อีกทั้งยังทำลาย VOCs ที่จะช่วยกำจัดกลิ่นและดับกลิ่นในอากาศ ตัวกรองภายในเครื่องมีบทบาทสำคัญในการจับสารก่อภูมิแพ้ แผ่นกรองชั้นแรกจะบล็อกอนุภาค PM 10 แผ่นกรองที่สองจะช่วยดับกลิ่นในอากาศ ปกปิดกลิ่นของสัตว์เลี้ยง ควันบุหรี่และกลิ่นทำอาหารได้ดี ส่วนตัวกรองที่สามคือตัวกรอง H14 HEPA คุณภาพสูงสามารถกรองมลพิษได้ถึง 99.97% ถึงแม้มลพิษจะมีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนตัวเครื่องก็สามารถกรองได้ ซึ่งการกรองนี้ก็สามารถกรองเกสรดอกไม้ รา ฝุ่น ไรฝุ่น จุลินทรีย์และอนุภาคที่ก่อให้เกิดกลิ่นอื่น ๆ ได้ ตัวเครื่องมีโหมดการทำงานมากมาย เช่น โหมดอัตโนมัติเพื่อทำให้อากาศบริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว มีโหมดสลีปช่วยลดเสียงเพื่อให้การพักผ่อนที่สบาย โหมด Haze เร่งการกรองอากาศโดยปรับพัดลมเป็นความแรงสูงเป็นเวลา 60 นาทีนอกจากนี้ยังมีตัวจับเวลาและฟังก์ชันล็อกและป้องกันเด็กอีกด้วย
รูปภาพจาก bwellairpurifier.com

Bwell เครื่องฟอกอากาศพกพา รุ่น G7

เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา ทำงานแบบไร้สาย มีระบบกรอง 2 ชั้น ขจัดกลิ่นและมลภาวะได้ดี

ราคา 3,950 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาด : 19 x 7.5  x 7.5 ซม. 

กำลังไฟ : 5 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 0.5 กก.

แผ่นกรองอากาศที่ใช้ : HEPA 

CADR (Clean Air Delivery Rate) : 12.3 ลบ.ม./ชม. 

ครอบคลุมพื้นที่ : 3  ตร.ม.

ความดังของเสียง : 30 – 45 dB

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็ก 0.1 ไมครอนได้ถึง 99.8%
  • มีแผ่นกรอง 2 แบบกรองฝุ่นและกลิ่นได้ดี 
  • มีระบบเซนเซอร์ช่วยกรองอากาศโดยรอบให้ปลอดภัย
  • พกพาง่ายและเคลื่อนย้ายได้สะดวกเพราะมีน้ำหนักเบา
ข้อควรพิจารณา

ทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ชื้นแต่ไม่ค่อยดีนักในสภาพแวดล้อมที่แห้ง

Bwell เครื่องฟอกอากาศพกพาที่มีการออกแบบที่มีสไตล์และน่าดึงดูดซึ่งทำให้เครื่องฟอกอากาศดีที่สุดกับทุกสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบาเพื่อให้ง่ายต่อการพกพาจากห้องหนึ่งไปอีกห้องและเหมาะสำหรับการใช้ในรถและพกพาไปเที่ยวด้วย นอกจากความเก๋ไก๋และพกพาสะดวกแล้วตัวเครื่องฟอกอากาศนี้มีระบบการกรอง 2 ขั้นตอนคือแผ่นกรอง HEPA และแผ่นกรองคาร์บอนที่จะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยกำจัดฝุ่น ควัน ละอองเกสร สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง จุลินทรีย์และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ฯลฯ ได้ถึง 99.8% สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอนได้อย่างง่ายดายและมาพร้อมกับการตั้งค่าพัดลม 2 แบบคือแบบช้าและเร็ว คุณสามารถปรับการตั้งค่าพัดลมได้อย่างง่ายดายตามที่คุณต้องการโดยเพียงแค่กด ตัวเครื่องมีเซนเซอร์ที่จะวัดอากาศโดยรอบซึ่งเซนเซอร์จะเปลี่ยนสีตามสภาพอากาศ ตัวเครื่องใช้งานแบบไร้สายได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่ 1.5 ชม.จะสามารถใช้งานได้ยาวนาน 4 ชม.เลยทีเดียวค่ะ
รูปภาพจาก philips.co.th

Philips เครื่องฟอกอากาศ รุ่น AC1215

แผ่นกรองอากาศ HEPA หนาเป็นพิเศษ สามารถกรองอนุภาคเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ราคา 5,990 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาด : 25.7 x 60.3 x 37.1 ซม. 

กำลังไฟ : 50 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 5.2 กก.

แผ่นกรองอากาศที่ใช้ : HEPA 

CADR (Clean Air Delivery Rate) : 270 ลบ.ม./ชม. 

ครอบคลุมพื้นที่ : 20 – 58  ตร.ม.

ความดังของเสียง : 33 dB

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • ตัวเครื่องมีแสงสลัวและเสียงรบกวนต่ำช่วยให้คุณนอนหลับสบาย
  • มีคุณสมบัติล็อกป้องกันเด็กป้องกันการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • แจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนแผ่นกรองเพื่อทำให้อากาศภายในบ้านดีต่อสุขภาพตลอดเวลา
  • มีโหมดฟอกอากาศให้ใช้หลายแบบเพื่อความสะดวก
  • กำจัดมลพิษทางอากาศรวมถึง PM 2.5 ได้ถึง 99.97%
ข้อควรพิจารณา

วงแหวนบ่งบอกสีอาจทำงานผิดเพี้ยนบ้างในบางครั้ง

Philips เครื่องฟอกอากาศ รุ่น AC1215 เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ทรงพลังเหมาะสำหรับห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่และห้องประชุม เครื่องฟอกอากาศนี้สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี IPS ของ VitaShield อุปกรณ์นี้มีแผ่นกรอง NanoProtect Pro HEPA ที่แข็งแรงเป็นพิเศษที่จะสามารถกำจัดสารก่อภูมิแพ้ขนาดเล็ก0.3 ไมครอนได้ มีแผ่นกรอง HEPA ที่มีความหนาสามารถใช้เพื่อป้องกัน PM 2.5, PM 10, แบคทีเรีย, ไวรัส, TVOC, ฟอร์มาลดีไฮด์, ละอองเกสร, สปอร์และฝุ่นละอองได้ถึง 99.97% เครื่องฟอกอากาศมีโหมดลดสารก่อภูมิแพ้พิเศษเพื่อใช้งานหลังจากการทำความสะอาดห้องทันที มีโหมด Auto สำหรับกิจกรรมปกติและโหมด Ultra-Silent Quiet สำหรับใช้ก่อนนอน ตัวเครื่องมีระบบควบคุมแสงอัจฉริยะและโหมด NightSense Auto เมื่อคุณปิดไฟเซนเซอร์ในตัวจะเปลี่ยนแสง ทำให้ฟิลเตอร์หรี่แสงเองและลดความเร็วของพัดลมซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าคุณจะนอนหลับสบายตลอดคืน ตัวเครื่องเงียบเป็นพิเศษและมีคุณสมบัติเพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายได้ดีขึ้น ภายในมีฟีเจอร์ Healthy Air Protect Alert ซึ่งจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนแผ่นกรอง นอกจากนี้ยังมีระบบล็อกป้องกันเด็กซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก เครื่องฟอกอากาศนี้เป็นอุปกรณ์ปราศจากโอโซน 100% และเหมาะสำหรับใช้ในครัวเรือน
รูปภาพจาก worldtech.asia

Worldtech เครื่องฟอกอากาศ รุ่น WT-P40

เครื่องฟอกอากาศราคาถูก มีรีโมตควบคุมจากระยะไกล ทำงานได้เงียบมาก

ราคา 1,269 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาด : 36 x 20 x 56.5 ซม. 

กำลังไฟ : 35 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 4.2 กก.

แผ่นกรองอากาศที่ใช้ : HEPA 

CADR (Clean Air Delivery Rate) : 250 ลบ.ม./ชม. 

ครอบคลุมพื้นที่ : 40 ตร.ม.

ความดังของเสียง : 40 dB

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • ติดตั้งได้ง่ายมาก 
  • ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและพกพาได้ง่าย 
  • สามารถกำจัดฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.97 %
  •  ให้การครอบคลุมพื้นที่ถึง 40 ตร.ม. เหมาะสำหรับห้องทำงานและห้องนอน
ข้อควรพิจารณา

ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจำเพื่อความสะอาด

Worldtech เครื่องฟอกอากาศนี่เป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถจัดการกับมลพิษจำนวนมากได้อย่างง่ายดายมาก การออกแบบที่สวยงามและดูมีสไตล์ทำให้เครื่องฟอกอากาศนี้เป็นเครื่องฟอกอากาศราคาถูกที่เหมาะกับทุก ๆ บ้านที่ต้องการประหยัดงบ เครื่องฟอกอากาศนี้มีน้ำหนักเบาและพกพาได้ซึ่งเหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 40 ตร.ม. นอกจากการออกแบบที่ยอดเยี่ยมแล้ว เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยขจัดมลพิษประเภทต่าง ๆ มีแผ่นกรอง HEPA ดักจับฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.97% ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือเป็นโรคหอบหืด ตัวเครื่องมาพร้อมการตั้งค่าพัดลม 3 แบบซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของคุณได้ สามารถหมุนเวียนอากาศในห้องได้ดี มีอัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์ 250 ลบ.ม./ชม. ซึ่งดีมาก ๆ เพราะยิ่งค่า CADR สูงเท่าไหร่อากาศก็จะยิ่งถูกกรองเร็วขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเสียงเงียบ 40 dB ไม่รบกวนเวลานอนอย่างแน่นอน
รูปภาพจาก marflex.co.th

Imarflex เครื่องฟอกอากาศ รุ่น F-C042R

เครื่องฟอกอากาศพร้อมระบบคาร์บอน สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้เป็นอย่างดี

ราคา 1,790 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาด : 34 x 20 x 55  ซม. 

กำลังไฟ : 57 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 4.5 กก.

แผ่นกรองอากาศที่ใช้ : HEPA 

CADR (Clean Air Delivery Rate) : 220 ลบ.ม./ชม. 

ครอบคลุมพื้นที่ : 30 – 50 ตร.ม.

ความดังของเสียง : 40 dB

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • เหมาะสำหรับใช้กรองฝุ่นขนาด PM 2.5 
  • มีการออกแบบที่สวยงาม ทำให้สามารถใช้งานได้ง่าย
  • ปรับระดับการทำงานได้ 3 ระดับเพื่อให้เหมาะสำหรับการใช้งาน
  • ราคาถูก
ข้อควรพิจารณา

ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจำเพื่อความสะอาด

เครื่องฟอกอากาศจาก Imarflex มีแผ่นกรอง HEPA ที่ขจัดมลพิษทางอากาศทำให้อากาศภายในบริสุทธิ์ ตัวเครื่องมีระบบกรองอากาศที่ดีมาก สามารถกรองฝุ่นขนาด PM 2.5 หรือเล็กกว่านั้นได้เพื่อเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยบรรเทาอาการหอบหืดและอาการภูมิแพ้ ตัวเครื่องมีแผ่นกรองคาร์บอนที่ช่วยป้องกันกลิ่นและก๊าซ เช่น ควัน หมอกควัน กลิ่นจากการปรุงอาหารและสี ฯลฯ ตัวเครื่องมีระบบควบคุมความเร็ว 3 ระดับ สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของคุณได้ แผ่นกรอง HEPA ได้รับมาตรฐานมาอย่างดีสามารถกำจัดมลพิษในอากาศ 99.97% รวมถึง แบคทีเรีย เชื้อโรค ฝุ่น ละอองเกสร ฯลฯ  ตัวเครื่องสามารถตั้งค่าการทำงานได้ดีมาก ตัวเครื่องนี้เหมาะสำหรับพื้นที่ 30 - 50 ตารางเมตรจึงเหมาะมากสำหรับภายในห้องและสำนักงาน อีกทั้งยังมีราคาถูกมากอีกด้วย
รูปภาพจาก dyson.co.th

Dyson เครื่องฟอกอากาศ TP04

เครื่องฟอกอากาศดีไซน์สวย ทันสมัย มีระบบกรองอากาศแบบ HEPA ที่ดีที่สุด

ราคา 27,900 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาด : 20.6 x 11.7 x 105.4ซม. 

กำลังไฟ : 40 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 4.9 กก.

แผ่นกรองอากาศที่ใช้ : HEPA 

CADR (Clean Air Delivery Rate) : 290 ลบ.ม./ชม. 

ครอบคลุมพื้นที่ : 27 ตร.ม.

ความดังของเสียง : 42.3 dB

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • นำเสนอการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวและน่าสนใจ
  • การทำงานที่เงียบช่วยให้ได้รับประสบการณ์การใช้ชีวิตที่สนุกสนานมากขึ้น
  • ให้การตั้งค่าความเร็วถึง 10 ระดับเพื่อให้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย
  • ติดตั้งง่ายเพียงแค่แกะกล่องก็ใช้งานได้เลย 
  • สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็ก 0.1 ไมครอนได้ถึง 99.95%
ข้อควรพิจารณา

ราคาสูงมาก

เครื่องฟอกอากาศจาก Dyson Pure Cool รุ่นนี้ทำงานเป็นทั้งเครื่องฟอกอากาศและพัดลมในตัวเดียว อุปกรณ์นี้สามารถตรวจจับมลภาวะและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่องมีระบบการกรองอากาศแบบ HEPA ที่ดีที่สุดและมีถ่านกัมมันต์เพื่อฟอกอากาศร่วมด้วย แผ่นกรองอากาศ 2 ชั้นเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่ที่คุณอยู่จะไม่มีแบคทีเรีย ฝุ่น ละอองเกสร สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง สปอร์ กลิ่นและกลิ่นที่ปนเปื้อนในอากาศโดยทางแบรนด์เคลมมาอย่างชัดเจนเลยว่าตัวเครื่องสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็ก 0.1 ไมครอนได้ การใช้งานก็ง่ายมากเพราะตัวเครื่องสามารถเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ได้ดังนั้นคุณจะได้รับรายงานสด ๆ จากเครื่องฟอกอากาศทันทีเมื่อคุณเปิดแอป ระบบสมาร์ทโฟนจะบ่งบอกความบริสุทธิ์ของอากาศ เวลาที่ใช้และความเร็วที่อุปกรณ์ส่งไปยังโทรศัพท์ของคุณโดยตรง ด้วยแอป Dyson Link นี้คุณสามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศและตรวจสอบการตั้งค่าของเครื่องได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีจอ LCD ทำให้คุณสามารถดูกราฟเกี่ยวกับอนุภาคของฝุ่นที่มีขนาดเล็ก สารก่อภูมิแพ้ สารประกอบอินทรีย์และไนโตรเจนไดออกไซด์ได้ทั่วห้อง คุณสามารถเลือกการตั้งค่าความเร็วต่าง ๆ ได้มากถึง 10 ระดับ ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่เพรียวบางและใช้พื้นน้อยในการจัดวาง

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อ

1. แผ่นกรอง HEPA

ในเครื่องฟอกอากาศไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีแผ่นกรอง HEPA ค่ะ HEPA ย่อมาจาก High-Efficiency Particulate Air filter ซึ่งแผ่นกรองนี้สามารถกำจัดอนุภาคที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ 99.97% ซึ่งหมายความว่าเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA สามารถขจัดสารก่อภูมิแพ้ แบคทีเรีย ฝุ่น สิ่งสกปรกและไวรัสบางชนิดออกจากอากาศได้ ตัวกรอง HEPA มีหลายเกรด ตั้งแต่ H11 ถึง H14 ยิ่งจำนวน H สูงเท่าไหร่อัตราการกักเก็บมลพิษก็จะยิ่งสูงขึ้น แต่ปกติแล้วเครื่องฟอกอากาศที่ใช้ HEPA ในบ้านส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับแผ่นกรอง HEPA เกรด H13 แต่อย่างไรก็ตามแผ่นกรอง HEPA ไม่สามารถขจัดก๊าซที่เป็นอันตรายและกลิ่นเหม็นได้ หากคุณต้องการขจัดสิ่งไม่พึงประสงค์เพิ่มเติม คุณจำเป็นต้องใช้แผ่นกรองถ่านกัมมันต์ร่วมกับแผ่นกรอง HEPA ตัวกรองถ่านกัมมันต์สามารถกำจัดเบนซีน คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ (NOX) และซัลเฟอร์ออกไซด์ (SOX) ออกจากอากาศได้ นอกจากนี้แผ่นกรองเหล่านี้ยังสามารถช่วยในการขจัดมลพิษทางอากาศที่มีขนาดใหญ่ เช่น สะเก็ดผิวหนัง เส้นผมของมนุษย์ ขนของสัตว์เลี้ยงและวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างได้

2. หลีกเลี่ยงเครื่องฟอกอากาศระบบโอโซน

เครื่องฟอกอากาศที่ใช้โอโซนใช้เครื่องกำเนิดโอโซนเพื่อปล่อยก๊าซโอโซนสู่อากาศเพื่อจัดการกับแบคทีเรียและไวรัส อย่างไรก็ตามระบบนี้เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เนื่องจากโอโซนเป็นอันตรายต่อดวงตาและปอด เครื่องสร้างประจุไอออนในอากาศจะชาร์จอนุภาคในอากาศ ซึ่งจะทำให้แบคทีเรียและไวรัสเกาะติดกับผนังในบ้านของคุณ หมายความว่าจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายเหล่านั้นไม่ได้ถูกกำจัดออกจากบ้านของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณอยู่ห่างจากเครื่องฟอกอากาศที่ใช้โอโซนหรือไอออไนซ์เพื่อให้ปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น

3. CADR (อัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์)

ในขณะที่คุณกำลังซื้อเครื่องฟอกอากาศ คุณอาจจะเห็นค่า CADR ที่บ่งบอกไว้ แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า CADR ย่อมาจากอะไรหรือหมายถึงอะไร เราขอบอกเลยว่า CADR ย่อมาจาก Clean Air Delivery Rate และหมายถึงปริมาณอากาศบริสุทธิ์ที่เครื่องฟอกอากาศสามารถจ่ายออกมาได้ด้วยความเร็วพัดลมสูงสุด หากเครื่องฟอกอากาศที่คุณซื้อมีค่า CADR ที่สูงขึ้นก็หมายความว่าเครื่องฟอกอากาศสามารถฟอกอากาศได้เร็วขึ้น ปกติแล้ว CADR มีหน่วยวัดเป็น CMH (ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง) หรือ CFM (ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที)

4. การครอบคลุมพื้นที่

เครื่องฟอกอากาศทุกยี่ห้อมักจะบอกถึงการครอบคลุมพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศ ตัวอย่างเช่น หากเครื่องฟอกอากาศบอกว่าครอบคลุมพื้นที่ คือ 30 ตารางเมตรจะสามารถทำความสะอาดอากาศภายในพื้นที่ 30 ตารางเมตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งพื้นที่ครอบคลุมสูงเท่าไหร่ประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามเครื่องฟอกอากาศที่สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขึ้นก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเช่นกันเพราะเปลืองไฟและราคาตัวเครื่องก็แพงนั่นเอง สำหรับบ้านส่วนใหญ่เครื่องฟอกอากาศที่มีพื้นที่ครอบคลุม 30 – 40 ตารางเมตรก็เพียงพอแล้ว ส่วนในห้องนอนให้เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีพื้นที่ครอบคลุม 20 -25 ตารางเมตรค่ะ

5. เครื่องฟอกอากาศทั่วไป VS เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา

ประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดของเครื่องฟอกอากาศทั่วไปคือครอบคลุมทุกห้องในบ้านของคุณ ในขณะที่เครื่องฟอกอากาศแบบพกพารองรับเฉพาะพื้นที่ที่คุณวางตัวเครื่องไว้ท่านั้น แต่ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาก็คือคุณสามารถนำเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาติดตัวไปในสถานที่อื่นได้ น้ำหนักเบาและเคลื่อนย้ายสะดวก แต่ถ้าให้เราแนะนำเราขอให้คุณใช้เครื่องฟอกอากาศแบบทั่วไปภายในบ้านและใช้เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาในตอนที่ขับรถหรือตอนทำงานแบบส่วนตัวค่ะ แต่ก่อนจะซื้อโปรดจำไว้ว่าเครื่องฟอกอากาศแบบพกพามีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษามากขึ้นเนื่องจากต้องเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเป็นประจำ

6. ระดับเสียง

เมื่อเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศสิ่งที่คุณต้องพิจารณาไม่ใช่แค่เรื่องเพียงประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าคุณจะสามารถใช้งานได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ เพราะหากเครื่องฟอกอากาศที่คุณซื้อมีเสียงที่ดังมากเกินไปมันจะรบกวนการใช้ชีวิตของคุณทั้งการนอนหลับและการทำงาน ปกติแล้วเครื่องฟอกอากาศจะต้องทำงานอยู่เสมอ ดังนั้นเสียงที่ออกมาจากเครื่องฟอกอากาศควรจะเงียบ ปกติแล้วเครื่องฟอกอากาศที่ดีจะต้องมีเสียงรบกวนน้อยกว่า 50 เดซิเบลซึ่งมีความดังเท่ากับตู้เย็นและในความดังเพียงแค่นี้จะไม่รบกวนการนอนหลับของคุณอย่างแน่นอน ดังนั้นก่อนซื้อเครื่องฟอกอากาศคุณจะต้องพิจารณาถึงจำนวนเดซิเบลเสมอ