เครื่องดูดไรฝุ่น ยี่ห้อไหนดี – ช่วยแก้ปัญหาภูมิแพ้ เพื่ออากาศที่บริสุทธิ์

ปัญหาเรื่องฝุ่นเป็นปัญหาระดับชาติที่ทุกบ้านต้องเผชิญเพราะฝุ่นนั้นก่อให้เกิดปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความสกปรก ปัญหาสุขภาพรวมไปถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม แต่เรานั้นสามารถกำจัดฝุ่นได้ด้วยการกวาดบ้าน ถูบ้านรวมไปถึงการใช้เครื่องดูดฝุ่น แต่ถ้าสิ่งที่เราต้องทำความสะอาดเป็น “ไรฝุ่น” ล่ะ  เราจะทำอย่างไรกันดี?

หลายคนอาจจะคิดว่าการทำความสะอาดฝุ่นและไรฝุ่นนั้นเหมือนกันเพราะแค่ปัด ๆ กวาด ๆ ถู ๆ ก็น่าจะเรียบร้อยแล้ว แต่เราบอกเลยว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเพราะไรฝุ่นนั้นต่างจากฝุ่นมาก ไรฝุ่นเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและพวกมันมักจะอาศัยอยู่ในเซลล์ที่ตายแล้วของมนุษย์และสัตว์เลี้ยง

ซึ่งไรฝุ่นก็เป็นศัตรูตัวฉกาจที่อาจก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้และผู้ที่มีปัญหาโรคหอบหืด ไรฝุ่นนั้นสามารถพบได้ทุกที่ในบ้านเพราะมันชอบอาศัยอยู่ในที่ที่อบอุ่น เช่น เตียง เบาะและพรม ด้วยความที่มันมีขนาดเล็กมากทำให้เครื่องดูดฝุ่นธรรมดาไม่สามารถดูดมันออกมาได้คุณเลยจำเป็นต้องใช้ “เครื่องดูดไรฝุ่น” ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อจัดการกับปัญหาไรฝุ่นโดยเฉพาะ ขอบอกเลยว่าการมีเครื่องดูดไรฝุ่นอยู่ในบ้านจะทำให้บ้านของคุณปลอดภัยและปราศจากเชื้อโรคอย่างแน่นอน

ซื้อ เครื่องดูดไรฝุ่น ยี่ห้อไหนดี และเหมาะสมกับคุณ ปี 2564

[summary item=”4336,4328,4330,4332,4334″]

เครื่องดูดไรฝุ่น VS เครื่องดูดฝุ่น แตกต่างกันอย่างไร?

หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าทำไมมีเครื่องดูดฝุ่นแล้วจะต้องซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นอีก วันนี้เรามีคำตอบมาให้กันค่ะก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่าฝุ่นและไรฝุ่นนั้นไม่เหมือนกันโดยเราจะสรุปง่าย ๆ ดังนี้

ไรฝุ่น

ไรฝุ่นมักพบในสิ่งของต่าง ๆ รอบบ้าน เช่น ตัวหุ้มเฟอร์นิเจอร์ หมอน ผ้าห่มและที่นอน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สิ่งของเหล่านี้จะต้องได้รับการทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อป้องกันการเกิดไรฝุ่นในวงกว้าง หากสูดดมไรฝุ่นเข้าไปก็อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้หรือโรคหอบหืดได้ ไรฝุ่นชอบสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิตั้งแต่ 20 – 25 องศาเซลเซียส ซึ่งนอกจากอากาศแล้วความชื้นก็เป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องควบคุมระดับความชื้นภายในบ้าน ในทางกายภาพไรฝุ่นมักจะมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อใช้กล้องจุลทรรศน์พวกมันจะปรากฏเป็นแมลงสีขาวมี 8 ขาที่คล้ายกับแมงมุมตัวเมียนั่นเอง

ฝุ่น

ฝุ่นเป็นมลพิษทางอากาศทั่วไปที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยมักจะพัดผ่านมากับกระแสลม เช่น การขับรถ การคมนาคม การเกษตรและอุตสาหกรรมต่าง ๆ อนุภาคฝุ่นมักจะมีตั้งแต่แบบมองไม่เห็นไปจนถึงแบบมองเห็นได้ หากฝุ่นมีอนุภาคขนาดเล็กอนุภาคของฝุ่นจะลอยอยู่ในอากาศเป็นระยะเวลานานและสามารถกระจายไปได้ไกลมาก ส่วนฝุ่นละอองขนาดใหญ่จะหลุดออกจากอากาศซึ่งก่อให้เกิดชั้นฝุ่นบนเฟอร์นิเจอร์หรือพื้นผิวอื่น ๆ ในบ้าน อนุภาคฝุ่นขนาดใหญ่เหล่านี้เมื่อคุณสูดอากาศเข้าไปจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ แต่ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าจะอันตรายและมีแนวโน้มที่จะฝังลึกเข้าไปในปอด แน่นอนว่าไม่ว่าฝุ่นจะมีขนาดเท่าไหร่ก็ตามคุณจะต้องทำให้บ้านของคุณปลอดจากฝุ่นเสมอเพราะหากมีฝุ่นสะสมมากขึ้นก็อาจจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่มากขึ้นด้วย

ดังนั้นเราขอสรุปได้เลยว่าเมื่อฝุ่นและไรฝุ่นต่างกันเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง 2 ประเภทนี้ก็จะแตกต่างกันด้วย เพราะเครื่องดูดฝุ่นมีไว้สำหรับดูดฝุ่นโดยเฉพาะเท่านั้นไม่สามารถดูดไรฝุ่นได้ เนื่องจากไรฝุ่นจะฝังแน่นอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ กำลังแรงดูดของเครื่องดูดฝุ่นนั้นอาจจะไม่เพียงพอที่จะดูดไรฝุ่นออกมาได้ แต่เครื่องดูดไรฝุ่นนั้นผ่านการออกแบบมาเป็นพิเศษ มีแรงดูดมากกว่าและทรงพลังกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบธรรมดา นอกจากนี้ภายในเครื่องดูดไรฝุ่นก็ยังมีฟังก์ชันพิเศษคือมีลมร้อนและมีระบบ UV ที่สามารถขจัดไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งตัวกล่องเก็บฝุ่นจะมีระบบความปลอดภัยแบบแน่นหนาเพื่อป้องกันไม่ให้ไรฝุ่นเล็ก ๆ หลุดลอดออกมาขณะดูดไรฝุ่นอีกด้วย

[product_table item=”4336,4328,4330,4332,4334″]

คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อ

1. ระบบ UV Cleaner

เมื่อซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นคุณควรมองหาระบบ UV Cleaner ระบบทำความสะอาดนี้จะทำการฆ่าไรฝุ่นและเก็บเศษซากของไรฝุ่นไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันลอยขึ้นไปในอากาศ การใช้แสงยูวีเป็นรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดพิเศษที่สามารถก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตได้ ระบบนี้จะใช้ความยาวคลื่นเฉพาะที่ทำให้มองเห็นได้ยากภายใต้สภาพแสงส่วนใหญ่ เมื่อถูกแสงโดยตรงไรฝุ่นตัวร้ายก็จะถูกกำจัดลงไปในระดับเซลล์ของมันซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้วงจรการสืบพันธุ์ของไรฝุ่นหยุดลงและทำให้มันหายไปในที่สุด เครื่องดูดไรฝุ่นที่มีแสงยูวีเป็นเครื่องดูดไรฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ แต่แน่นอนว่าแต่ละรุ่นและแต่ละยี่ห้อก็จะต่างกันออกไป เครื่องดูดไรฝุ่นบางยี่ห้ออาจจะดูดไรฝุ่นโดยให้พื้นที่ดูดฝุ่นสัมผัสกับแสงยูวีโดยตรง ในขณะที่เครื่องดูดไรฝุ่นบางยี่ห้ออาจจะฉายแสงยูวีเข้าไปในถังเก็บฝุ่นเพื่อให้แน่ใจว่าไรฝุ่นที่คุณดูดเข้าไปจะถูกกำจัดเพื่อป้องกันไม่ให้เศษไรฝุ่นเหล่านี้แพร่กระจายออกไปนั่นเอง

2. แผ่นกรอง HEPA

ไรฝุ่นเป็นสัตว์เล็ก ๆ ที่สามารถจะแพร่กระจายไปในอากาศอีกครั้งได้หากไม่ได้กำจัดอย่างถูกต้อง ดังนั้นเมื่อซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นคุณจะต้องมองหาแผ่นกรอง HEPA เสมอ เพราะแผ่นกรอง HEPA จะสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ 99.97% ปกติแล้วไรฝุ่นจะมีขนาด 0.3 มม. ซึ่งตัวกรอง HEPA ก็สามารถจับไรฝุ่นเหล่านี้ได้ หากไม่มีตัวกรอง HEPA ไรฝุ่นก็จะเข้าสู่อากาศอีกครั้งได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นตัวกรอง HEPA เป็นสิ่งที่ต้องมีสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ เพราะนอกจากระบบ UV ที่จะช่วยกักกันไรฝุ่นจะสำคัญแล้ว แผ่นกรอง HEPA ก็จะกรองซ้ำอีกหนึ่งครั้งเพื่อไม่ให้ไรฝุ่นเล็ดลอดออกไปได้

3. พลังดูดฝุ่น

หากคุณต้องการใช้เครื่องดูดไรฝุ่นบนที่นอนหรือพรม คุณจะต้องเลือกใช้เครื่องดูดไรฝุ่นที่มีแรงดูดสูง ระบบการดูดฝุ่นที่ทรงพลังจะทำให้คุณสามารถดูดฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะแทนที่คุณจะต้องดูดไรฝุ่นหลายรอบ การมีเครื่องดูดไรฝุ่นที่ทรงพลังจะทำให้เราสามารถกำจัดไรฝุ่นได้เกือบทั้งหมดด้วยการดูดไรฝุ่นเพียงรอบเดียว ปกติแล้วไรฝุ่นส่วนใหญ่มักจะอยู่ด้านบนของพื้นผิว เช่น พรมและเฟอร์นิเจอร์ แต่ไรฝุ่นบางชนิดก็มักจะซ่อนอยู่ภายในที่นอนหรือพรมด้วยเช่นกัน หากสุญญากาศของเครื่องดูดไรฝุ่นไม่แรงพอที่จะกำจัดไรฝุ่นเหล่านั้น พวกมันก็สามารถผสมพันธุ์และกลับมาเป็นแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นคุณจะต้องมองหาเครื่องดูดไรฝุ่นที่มีกำลังดูดอย่างน้อย 10 kPA ขึ้นไปเพื่อจัดการกับไรฝุ่นให้สิ้นซาก

4. น้ำหนักของตัวเครื่อง

เครื่องดูดไรฝุ่นส่วนใหญ่จะมี 2 แบบเช่นเดียวกับเครื่องดูดฝุ่นทั่วไปก็คือมีทั้งแบบมีสายและแบบไร้สาย ซึ่งคุณสามารถเลือกรูปแบบได้ตามความต้องการ แต่คุณจะต้องพิจารณาถึงน้ำหนักของเครื่องดูดฝุ่นด้วย เครื่องดูดฝุ่นไรฝุ่นเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้กับเฟอร์นิเจอร์ได้ ด้วยเหตุนี้น้ำหนักของเครื่องดูดไรฝุ่นจะส่งผลต่อวิธีการใช้งานของคุณมากขึ้น เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้จำไว้ว่าผลิตภัณฑ์ที่เบากว่าย่อมดีกว่าเสมอ เนื่องจากคุณสามารถใช้งานได้นานโดยไม่เมื่อยล้า ในการซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นแบบไร้สายเราขอแนะนำให้ซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 3 กก. เพื่อให้ใช้งานได้สบายมากขึ้น แต่ถ้าเครื่องดูดไรฝุ่นที่คุณซื้อเป็นแบบมีสายให้เลือกเครื่องที่มีน้ำหนักเบาที่สุดเพื่อให้ยกและเคลื่อนย้ายได้ง่าย

5. ราคาและการรับประกันสินค้า

ต่อไปเรามาพูดถึงราคากันค่ะ เครื่องดูดฝุ่นไรฝุ่นส่วนใหญ่มีราคาไม่แพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องดูดฝุ่นระดับพรีเมียมราคาสูง ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อเครื่องดูดฝุ่นไรฝุ่นคุณควรกำหนดงบประมาณก่อนจะซื้อเสียก่อน ซึ่งเกณฑ์ที่ตายตัวอยู่แล้วก็คือเครื่องดูดไรฝุ่นที่มีฟังก์ชันพิเศษมักจะมีราคาสูงกว่าเครื่องดูดไรฝุ่นฟังก์ชันแบบธรรมดา นอกจากนี้ให้จับตาดูเครื่องดูดฝุ่นไรฝุ่นที่มาพร้อมการรับประกันสินค้า เครื่องดูดไรฝุ่นส่วนใหญ่มักจะมีการรับประกันสินค้าแบบจำกัดหนึ่งปี ก่อนที่คุณจะซื้อผลิตภัณฑ์ให้พิจารณาการรับประกันสินค้าอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อให้คุณได้รับความคุ้มค่าทั้งตอนซื้อและบริการหลังการขาย