เจลล้างมือ (Hand Sanitizers) ยี่ห้อไหนดี – สะอาด ปลอดภัย ฆ่าเชื้อโรคได้

เจลล้างมือ (Hand Sanitizers) แบบไหนที่ดีที่สุด
เจลล้างมือ (Hand Sanitizers) แบบไหนที่ดีที่สุด

ถึงแม้ว่าปีนี้จะเป็นปี 2022 แล้ว แต่สถานการณ์ โรคโควิด 19 (Covid 19) ในประเทศไทยของเราก็ยังคงน่าเป็นห่วงอยู่ดีค่ะ ดังนั้นนอกจากการเว้นระยะห่างทางสังคมแล้ว ด้วยการ Work Form Home แล้ว การรักษาสุขอนามัยก็เป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกันค่ะ ซึ่งแน่นอนค่ะว่า เชื้อโรค และแบคทีเรีย มันอยู่ทุก ๆ ที่ และร่างกายของเราก็มีส่วนหนึ่งที่สามารถสะสมแบคทีเรีย และเชื้อโรคได้มากที่สุด นั่นก็คือ “มือ” นั่นเองค่ะ เพราะในแต่ละวันเราหยิบจับอะไรมากมาย ทั้ง มือถือ, แว่นตา, แป้นพิมพ์, อาหาร ฯลฯ ทำให้มือเป็นอวัยวะที่ส่งต่อเชื้อโรคให้กับผู้อื่นและตัวเองได้มากที่สุด

ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงเชื้อโรคต่าง ๆ เหล่านี้ทางกระทรวงสาธารณสุข จึงได้แนะนำให้เราล้างมือด้วยน้ำและสบู่ล้างมือให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกที่จะมีอ่างล้างหน้าให้เราได้ล้างมือ อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา ในการล้างมือด้วย ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาวิธีที่สะดวกในการล้างมือ เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ “เจลล้างมือ” ค่ะ ในปัจจุบันเจลล้างและทำความสะอาดมือ มีอยู่มากมายหลายแบรนด์ให้เราได้เลือก แต่คุณไม่จำเป็นต้องกังวลไปค่ะ เพราะในวันนี้เราได้มีการเตรียมคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อเจลล้างมือมาฝากกันค่ะ รับรองว่าหากได้ซื้อเจลล้างมือที่เราแนะนำ มือของคุณจะปลอดเชื้อโรคและสะอาดสะอ้านอย่างแน่นอนค่ะ

เจลล้างมือ ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ?

[summary item=”6471,6473,6475,6477,6479,6482,6484″]

เจลล้างมือมีความสำคัญอย่างไร ทำไมต้องใช้ ?

เจลล้างมือ มีความสำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วเชื้อโรคมีอยู่ทุกที่ และเราต้องระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย หลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า ปัจจุบันนี้การแพร่กระจายของเชื้อโควิด 19 ยังไม่มีท่าทีที่จะเบาบางลง ถึงแม้หลาย ๆ คนจะผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้ว แต่การรักษาสุขอนามัยส่วนตัวก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง

ถึงแม้ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention – CDC) จะระบุว่าการล้างมือด้วยสบู่และน้ำยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสุขอนามัย (1) แต่เมื่อเราไม่สามารถทำได้ในบางสถานที่หรือไม่มีเวลาเพียงพอ การใช้ เจลทำความสะอาดมือที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 60% ก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็วค่ะ ดังนั้นถ้าหากคุณไม่สะดวกที่จะล้างมือด้วยน้ำและสบู่เป็นประจำ เจลล้างมือ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ และต่อไปนี้เป็นประโยชน์ของการใช้เจลล้างมือค่ะ

  • ช่วยให้มือสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผลิตภัณฑ์เจลล้างมือจะมีแอลกอฮอล์ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคและแบททีเรียต่าง ๆ ได้ ทำให้มันเหมาะมากที่จะใช้งานแทนการล้างมือด้วยสบู่ โดยเฉพาะหากคุณต้องอยู่ในที่ที่มีคนอยู่จำนวนมาก เพราะคุณไม่เพียงจะป้องกันตัวเองจากเชื้อโรค แต่ยังช่วยลดการแพร่กระจายของโรคไปยังผู้อื่นได้ดีอีกด้วยค่ะ
  • เจลแอลกอฮอล์ใช้ทำความสะอาดได้ทุกที่ การใช้เจลทำความสะอาดมือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดมืออย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังสามารถใช้ทำความสะอาดได้ทุกที่ทุกเวลา การใช้เจลล้างมือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดแบคทีเรียและเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

อย่างไรก็ตามต้องจำไว้ว่าเจลล้างมือเพียงอย่างเดียวไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ทุกประเภท ถึงแม้มันจะฆ่าเชื้อโรคได้ แต่หากต้องสัมผัสกับไขมัน หรือสิ่งสกปรกมาก ๆ ตัวเจลอาจจะให้ประสิทธิภาพได้ไม่ดีนัก เช่น การเล่นกีฬา มีเหงื่อออกเยอะ การทำสวน  หรือมือที่มันเยิ้ม เนื่องจากผ่านการทำอาหารมา นอกจากนี้เจลทำความสะอาดอาจจะไม่สามารถกำจัดสารเคมีที่เป็นพิษได้ เช่น โลหะหนัก และยาฆ่าแมลง ดังนั้นหากคุณอยู่ในสถานการณ์เหล่านี้ แนะนำให้ล้างมือด้วยสบู่ และน้ำหลาย ๆ รอบค่ะ

[product_table item=”6471,6473,6475,6477,6479,6482,6484″ info=”1″ layout=”2″ ]

เคล็ดลับในการเลือกซื้อเจลล้างมือ

1. ปริมาณของแอลกอฮอล์

ในการเลือกซื้อเจลล้างมือให้มองหาเจลที่มีปริมาณแอลกอฮอล์อย่างน้อย 60% ตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention – CDC) ได้กล่าวไว้ว่า เจลล้างมือควรมีปริมาณแอลกอฮอล์ระหว่าง 60-95% เพื่อให้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการเติบโตของเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเจลล้างมือที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ต่ำนั้น สามารถช่วยลดการเติบโตของเชื้อโรคได้ แต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้โดยตรงค่ะ ดังนั้นควรเลือกเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์ 60% ขึ้นไป เท่านั้น หากจะฆ่าเชื้อโรคให้ตายเรียบ (1)

2. ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น

การใช้เจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก หรือการใช้แอลกอฮอล์บ่อย ๆ อาจทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคือง ดังนั้นควรเลือกซื้อเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นด้วย เพราะมันจะช่วยปกป้องผิวจากการคายน้ำ ช่วยรักษาชุ่มชื้น และไม่ทำให้ผิวแห้งแตกอย่างแน่นอนค่ะ ดังนั้นในการเลือกซื้อเจลล้างมือให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างมือที่มีส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อผิว เช่น วิตามินอี ว่านหางจระเข้ กลีเซอรีน ไดเมทิโคน และส่วนผสมอื่น ๆ ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว การให้ความชุ่มชื้นกับมืออย่างเหมาะสม จะช่วยให้มือเนียนนุ่มได้เป็นอย่างดีค่ะ

3. ปัญหาโรคผิวหนัง

แม้ว่าเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในบางครั้งน้ำยาฆ่าเชื้อที่ใช้แอลกอฮอล์นั้นสามารถทำลายระดับค่า pH ตามธรรมชาติของผิว และทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวที่บอบบางได้ ดังนั้นเจลล้างมือที่ไม่มีแอลกอฮอล์จึงเป็นทางเลือกที่คุณควรใช้หากคุณมีปัญหาโรคผิวหนัง เช่น กลาก เกลื้อน และผิวแพ้ง่าย แต่เราขอเน้นย้ำเลยว่าเจลล้างมือที่ปราศจากแอลกอฮอล์ อาจไม่ได้ผลเท่ากับการใช้เจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์ค่ะ เพราะฆ่าเชื้อได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร

4. หลีกเลี่ยงไตรโคลซาน (Triclosan)

ไตรโคลซานมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย แต่ปกติแล้วไตรโคลซานมักจะใช้ในผงซักฟอก, ยาระงับกลิ่นกาย และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม องค์การอาหารและยา (FDA) ได้สั่งห้ามการใช้ไตรโคลซานในผลิตภัณฑ์กำจัดแบคทีเรียสำหรับมือและร่างกาย ซึ่งเริ่มประกาศเมื่อในปี 2016 เพราะมีการวิจัยออกมาแล้วว่า เมื่อไตรโคลซานผสมกับสารบางอย่างในเจลล้างมือ จะทำให้มีความเป็นพิษ อีกทั้งการสัมผัสกับไตรโคลซานอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ ดังนั้นโปรดอ่านฉลากของเจลล้างมืออย่างระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าไตรโคลซานไม่อยู่ในรายชื่อส่วนผสม (2)


อ้างอิง 

(1) When and How to Wash Your Hands

(2) FDA issues final rule on safety and effectiveness of antibacterial soaps