“เจลว่านหางจระเข้” เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ สำหรับตัวเจลว่านหางจระเข้นั้น มีไว้ใช้เพื่อรักษาผิวหนังมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้วค่ะ นั่นเป็นเพราะมันมีประโยชน์มาก โดยคุณสามารถใช้เจลว่านหางจระเข้เพื่อรักษาปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ เช่น รอยคล้ำใต้ตา, ผื่น, รูขุมขน, สิวเสี้ยน, การถูกแดดเผา และใช้เพื่อรักษาผิวแห้งได้ หลาย ๆ คนเลือกใช้ว่านหางจระเข้ เพราะส่วนผสมนี้เป็นส่วนผสมที่ปลอดภัยต่อผิวมาก เราสามารถใช้ได้โดยที่มันจะไม่ทำให้เกิดปัญหาใด ๆ เลย ปกติแล้วเจลว่านหางจระเข้ประกอบด้วยสารพิเศษ 2 ชนิด คือ ออกซิน และจิบเบอเรลลิน สาร 2 ชนิดนี้สามารถช่วยรักษาผิว และต้านการอักเสบได้ดีมาก ดังนั้นเจลว่านหางจระเข้จึงสามารถช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ใหม่ ช่วยให้ผิวสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ โดยสร้างความเสียหายต่อผิวน้อยที่สุด นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังมีประโยชน์ทางการแพทย์อีกมากมายค่ะ ไม่เพียงแต่ปลอบประโลมผิวแต่ยังช่วยซ่อมแซมเส้นผมของคุณได้ดีมากด้วย (1),(2)
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเจลว่านหางจระเข้ก็สามารถใช้กับเส้นผมของคุณได้ เพราะมันจะช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม แก้ไขปัญหาผมชี้ฟู และเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผมของคุณได้ค่ะ เห็นแล้วใช่ไหมล่ะคะว่า เจลว่านหางจระเข้นั้น มีประโยชน์ครอบจักรวาลขนาดไหน ดังนั้นคุณจำเป็นต้องมีติดบ้านไว้ไม่มีไม่ได้เลยค่ะ แต่เนื่องจาก เจลว่านหางจระเข้ กำลัง เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมาก การเลือกซื้อสิ่งที่ดีที่สุด อาจจะเป็นเรื่องที่ยาก วันนี้เราก็เลยได้รวบรวมสินค้าและคำแนะนำดี ๆ ในการเลือกซื้อเจลว่านหางจระเข้มาฝากกันค่ะ
ซื้อ เจลว่านหางจระเข้ ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ
[summary item=”5295,5298,5300,5304,5307,5310″ info=”1″]
เจลว่านหางจระเข้มีประโยชน์อย่างไร ทำไมต้องซื้อ?
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ว่านหางจระเข้ นั้น จะประกอบด้วยน้ำ 99% ทำให้มันเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของคุณ เจลว่านหางจระเข้จะให้ความรู้สึกเย็นสบายเมื่อใช้กับผิว จุดเด่นของเจลว่านหางจระเข้คือ สามารถช่วยลดการโดนแดดเผาได้ดีมาก เพราะมันมีคาร์บอกซีเปปติเดส ซึ่งมีประโยชน์ในการบรรเทาอาการปวด นอกจากนี้ยังมีพอลิแซ็กคาไรด์ที่ช่วยซ่อมแซมและเพิ่มการเจริญเติบโตของผิว ดังนั้นเมื่อใช้เจลว่านหางจระเข้กับอาการผิวไหม้จากแดดของคุณจะหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วย คุณสมบัติ 3 ประการนี้ ทำให้มันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับสิว นอกจากนี้ยังช่วยปลอบประโลมผิวและทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นมากยิ่งขึ้นค่ะ ต่อไปนี้เป็นประโยชน์ที่สำคัญของการใช้เจลว่านหางจระเข้ค่ะ (1),(2)
บรรเทาอาการผิวไหม้แดด :
หากคุณเพิ่งไปชายหาดหรือโดนแสงแดดมาเป็นเวลานาน เจลว่านหางจระเข้อาจช่วยเรื่องผิวไหม้จากแดดได้ ต้นว่านหางจระเข้ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติต้านการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้ดี อีกทั้งว่านหางจระเข้ยังมีน้ำตาลที่เป็นส่วนผสมสำคัญ ในการสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น น้ำตาลเหล่านี้ จะดักจับความชื้นของผิวและช่วยรักษาความแห้งกร้านของผิวได้ดีมาก
ลบเครื่องสำอาง :
เจลว่านหางจระเข้สามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการล้างเครื่องสำอางของคุณก่อนเข้านอนได้เช่นกัน แพทย์ผิวหนังแนะนำให้เทเจลว่านหางจระเข้ในปริมาณที่พอเหมาะลงบนสำลีก้อน จากนั้นก็เช็ดเครื่องสำอางออกจากใบหน้าเบา ๆ วิธีนี้จะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ดีมาก และยังช่วยให้ผิวหน้าไม่แห้งด้วย
ช่วยรักษาสิว :
หากคุณประสบปัญหาเรื่องสิวมาหลายปีแล้ว การใช้เจลว่านหางจระเข้อาจช่วยให้คุณกำจัดสิวได้ง่ายขึ้น ปกติแล้วสิวมักจะอักเสบเพิ่มขึ้น หากเราใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่ปลอดภัย แต่เจลว่านหางจระเข้นั้นแตกต่างกัน เพราะมันปลอดภัยมาก ๆ นอกจากว่านหางจระเข้จะเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติแล้ว มันยังมีสารต้านเชื้อรากับแบคทีเรีย และยังมีกรดซาลิไซลิก ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มักมีประสิทธิภาพในการรักษาสิว
ใช้เป็นครีมโกนหนวดได้ :
เนื่องจากเจลว่านหางจระเข้มีเนื้อสัมผัสที่ลื่น และมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น เจลว่านหางจระเข้จึงสามารถนำมาใช้แทนครีมโกนหนวดได้ดีมาก ปกติแล้วครีมโกนหนวดมักจะมีราคาแพง ดังนั้นคงจะดีถ้ามีทางเลือกที่ถูกกว่า และใช้งานได้ผลไม่ต่างกัน
ใช้บำรุงเส้นผม :
นอกจากว่านหางจระเข้ จะมีประโยชน์ต่อผิวของเราแล้ว เจลว่านหางจระเข้ก็ยังสามารถใช้ปรับปรุงสภาพเส้นผมของคุณได้ด้วย คุณสามารถใช้มันเป็นมาสก์บำรุงผมระหว่างอาบน้ำ หรือใช้เป็นไอเทม เพื่อแก้ปัญหาผมมันเยิ้มได้ด้วย สิ่งที่คุณต้องทำคือ ผสมเจลว่านหางจระเข้กับน้ำมะนาวหนึ่งช้อนโต๊ะและน้ำหนึ่งถ้วย จากนั้นใช้น้ำยาที่ผสมเหล่านี้ล้างผมหลังจากสระผม ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกด้วย รับรองว่า ผมของคุณจะดูดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
[product_table item=”5295,5298,5300,5304,5307,5310″ info=”1″]
เคล็ดลับในการเลือกซื้อเจลว่านหางจระเข้ ที่ดีที่สุด
1. ส่วนผสมของว่านหางจระเข้
โดยทั่วไปแล้วว่านหางจระเข้มักจะใช้ในการรักษาผิวที่ระคายเคือง หรือใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า เจลว่านหางจระเข้ที่คุณกำลังซื้อไม่มีส่วนผสมใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผิว ถ้าหากคุณมีผิวที่บอบบางหรือมีบาดแผลให้ระมัดระวังในเรื่องของส่วนผสมมากเป็นพิเศษ อีกทั้งควรตรวจสอบรายการส่วนผสมอย่างละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารเคมีอันตราย แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่คุณจะได้ซื้อเจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ ดังนั้นให้เลือกใช้เจลว่านหางจระเข้ที่มีส่วนผสมเพิ่มเติมเพียงหนึ่งหรือสองชนิดเท่านั้นค่ะ เพื่อความปลอดภัย
2. ความบริสุทธิ์ของว่านหางจระเข้
หากคุณกำลังมองหาเจลว่านหางจระเข้ที่ดีที่สุดมันเป็นเรื่องที่ยากมากและแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย หากคุณต้องการใช้ว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ คุณต้องเด็ดจากต้นแล้วนำมาทาเท่านั้นค่ะ แต่หากคุณซื้อเจลว่านหางจระเข้สำเร็จรูป มันจะไม่มีว่านหางจระเข้แบบบริสุทธิ์ 100% อย่างแน่นอน คุณสงสัยไหมว่าทำไมเจลว่านหางจระเข้ที่มีความบริสุทธิ์ 100% จึงไม่มี คำตอบนั้นง่ายมากค่ะ เพราะเจลว่านหางจระเข้จำเป็นต้องเพิ่มสารเติมแต่งเข้าไป เพื่อยืดอายุในการเก็บรักษาค่ะ ซึ่งไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่คุณต้องจำไว้ว่า อย่าซื้อเจลว่านหางจระเข้ที่มีความเข้มข้นต่ำกว่า 95% โดยเด็ดขาด เนื่องจากมันอาจจะไม่ให้ประโยชน์ที่คุณต้องการค่ะ
3. ใช้งานง่าย
เจลว่านหางจระเข้ที่ดีที่สุดควรจะเป็นเจลที่ทาบนผิวของคุณได้อย่างง่ายดายและซึมซาบได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามคุณต้องจำไว้ก่อนว่า ว่านหางจระเข้ธรรมชาติอาจจะเป็นก้อน มีความเหนียวเล็กน้อย หรืออาจทิ้งสารตกค้างไว้บนผิวของคุณได้ แต่ว่านหางจระเข้แบบนี้มีประโยชน์มากค่ะ ดังนั้นทาไปเลยไม่ต้องคิดเรื่องความเหนียว แต่ถ้าคุณไม่ค่อยชอบความเหนียวเหนอะหนะ คุณก็ควรหาซื้อเจลว่านหางจระเข้ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ และเกลี่ยได้ราบรื่นเมื่อทา
4. ราคา
เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และผลิตภัณฑ์ความงามอื่น ๆ เจลว่านหางจระเข้ส่วนใหญ่จะมีราคาไม่แพงนัก แม้ว่ามันจะเป็นผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์ที่มีประสิทธิภาพมากมาย แม้แต่เจลว่านหางจระเข้ที่ดีที่สุดในโลกก็มีจำหน่ายในราคาที่สมเหตุสมผล แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องตกเป็นเหยื่อของสินค้าราคาถูกเพื่อประหยัดเงิน โปรดจำไว้ว่าสินค้าราคาถูกบางตัวอาจจะไม่ได้ดีเสมอไป ดังนั้นในการเลือกซื้อควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานการผลิต เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานของคุณ
5. ความสม่ำเสมอของเจลว่านหางจระเข้
ถ้าหากคุณเคยใช้ เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ มาก่อน คุณจะรู้ว่าเจลมีความบางเบาสม่ำเสมอ และมีเนื้อสัมผัสคล้ายกับเจลาตินกับของเหลวผสมกัน ส่วนเจลว่านหางจระเข้แบบสำเร็จรูปเกือบทั้งหมดได้เพิ่มสารทำให้ข้น เพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมด มีลักษณะเหมือนเจล สารเพิ่มความข้นส่วนใหญ่ ได้แก่ สาหร่าย แซนแทนกัน หรือคาร์โบเมอร์ ที่ช่วยทำให้เนื้อสัมผัสมีความสม่ำเสมอมากขึ้น ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกเจลว่านหางจระเข้ที่ดีที่สุด อย่าลืมอ่านฉลากอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจว่าได้ใช้อะไรไปบ้าง
6. ระวังสารกันบูด และกลิ่นหอม
ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบโดยทั่วไปต้องใช้สารกันบูด เพื่อรักษาความสด และยืดอายุการใช้งาน ซึ่งว่านหางจระเข้ก็เช่นกันค่ะ อย่างไรก็ตามต้องจำไว้ว่า สารกันบูดที่ปลอดภัยและเป็นอันตรายจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นในการเลือกเจลว่านหางจระเข้ที่ดีที่สุด แนะนำให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่า เจลนั้นมีสารกันบูดที่ปลอดภัยหรือไม่ เช่น กรดแอสคอร์บิก, TLC หรือ โพแทสเซียมซอร์เบต นอกจากสารกันบูดแล้ว เรื่องของกลิ่นหอม และสี ก็มีความสำคัญเช่นกันค่ะ ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามส่วนใหญ่มักจะมีกลิ่นหอม ซึ่งกลิ่นหอมนั้นอาจมาจากส่วนผสมธรรมชาติ หรืออาจจะมีการเสริมเติมแต่ง กลิ่นเทียม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ในท้องตลาดคุณจะพบเจลว่านหางจระเข้หลายยี่ห้อที่มีกลิ่นหอม หากคุณมีอาการแพ้ควรหลีกเลี่ยงการซื้อเจลว่านหางจระเข้ที่มีกลิ่นหอมค่ะ
อ้างอิง
(1) Evaluation of the Nutritional and Metabolic Effects of Aloe vera