เมืองไทยของเราเป็นเมืองร้อน ถึงแม้จะไม่อยู่ในช่วงฤดูร้อนก็ร้อนมากและแน่นอนว่ายิ่งเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนก็ยิ่งร้อนเข้าไปใหญ่ เรียกได้ว่าร้อนแบบหูดับ ตับไหม้กันเลยทีเดียว นอกจากจะอาบน้ำเพื่อบรรเทาความร้อนแล้ว เรายังสามารถใช้ “พัดลมไอเย็น” เพื่อคลายร้อนได้
พัดลมไอเย็นเป็นเครื่องปรับอากาศประเภทหนึ่งที่ใช้การระเหยในการทำงาน ตัวพัดลมภายในเครื่องจะดึงอากาศร้อนและแห้งเข้ามาทางช่องที่เปียกภายในพัดลม ตัวอากาศร้อนจะทำให้ชั้นบนสุดของความชื้นอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำระเหยและทำให้อุณหภูมิภายในเครื่องทำความเย็นลดลงได้ถึง 20 องศา อากาศที่เย็นและชื้นนี้จะถูกขับออกจากตัวเครื่องโดยพัดลมตัวเดียวกันที่ดึงอากาศร้อนและแห้งเข้ามา เพื่อสร้างกระแสลมอย่างต่อเนื่องผ่านแผ่นดักจับภายในเครื่องและกระจายไปยังพื้นที่
พัดลมไอเย็นไม่ได้ใช้พลังงานมากเท่ากับเครื่องปรับอากาศทั่วไป เนื่องจากใช้เพียงไฟฟ้าขับเคลื่อนตัวพัดลมเท่านั้น (ดูเพิ่มเติมในหัวข้อ ความแตกต่างของเครื่องปรับอากาศและพัดลมไอเย็น) ส่วนน้ำสำหรับใช้งานกับตัวเครื่องนั้นมาจากถังภายในซึ่งจำเป็นต้องเติมเมื่อระดับน้ำต่ำเกินไป น้ำที่เติมเข้าไปนี้จะทำให้อากาศเย็นลงอย่างเหมาะสม หากคุณคิดว่ากำลังต้องการซื้อพัดลมไอเย็น
วันนี้เราจะแนะนำวิธีเลือกซื้อพัดลมไอเย็นให้กับคุณ เพราะการใช้พัดลมไอเย็นเพื่อเพิ่มความเย็นภายในบ้านเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ชาญฉลาดและประหยัดเงินได้เป็นอย่างดี
ซื้อ พัดลมไอเย็น ยี่ห้อไหนดี ปี 2564
- พัดลมไอเย็นไร้ละอองน้ำ ใช้งานง่าย พกพาสะดวก: Clarte'พัดลมไอเย็น รุ่น CTME720
- พัดลมไอเย็นระดับโอโซน ฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ: Masterkool พัดลมไอเย็น รุ่น MIK-14EX
- พัดลมไอเย็นแบบเทอร์โบ ลดกลิ่นอับในอากาศได้ดี : Hatari พัดลมไอเย็นรุ่น AC Turbo1
- พัดลมไอเย็นราคาถูก เหมาะสำหรับการพกพา : MITSUTA พัดลมไอเย็น 4 ลิตร รุ่น MEC75
- พัดลมไอเย็นขนาดใหญ่ ประหยัดไฟกว่าการใช้แอร์ถึง 10 เท่า: MASTERKOOL พัดลมไอเย็น IKOOL MIK-70EX
ความแตกต่างของเครื่องปรับอากาศและพัดลมไอเย็น
ปัจจัยที่สำคัญ | พัดลมไอเย็น | เครื่องปรับอากาศ |
---|---|---|
การควบคุมอุณหภูมิ | ไม่สามารถเลือกอุณหภูมิได้ การทำความเย็นจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิแวดล้อมและความชื้นสัมพัทธ์ | เครื่องปรับอากาศส่วนใหญ่มีตัวควบคุมอุณหภูมิที่ตั้งโปรแกรมได้ สามารถเลือกอุณหภูมิที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย |
สภาพภูมิอากาศ | ทำงานได้ดีที่สุดในสภาพอากาศร้อนและมีความชื้นต่ำ | ทำงานได้ดีในทุกสภาพอากาศ |
ประเภทของการปรับอากาศ | พัดลมไอเย็นจะทำให้พื้นที่มีความเย็นลงและเพิ่มความชื้น | ช่วยเพิ่มความเย็นและลดความชื้น |
การใช้พลังงาน | ประหยัดพลังงานได้ถึง 75% เมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศทั่วไป | ค่อนข้างใช้พลังงานไฟฟ้าสูง |
ราคา | ราคาไม่แพงและถูกกว่าเครื่องปรับอากาศ | ราคาแพงไปหน่อย |
การซ่อมบำรุง | ต้องเติมน้ำในถังทุก ๆ 2 – 3 ชั่วโมง | ไม่ต้องการการบำรุงรักษาใด ๆ เพียงแค่เปลี่ยน/ล้างตัวกรองนาน ๆ ครั้ง |
ผลของการระบายความร้อน | สามารถทำให้ห้องเย็นลงได้แต่ไม่เหมือนแอร์ เพราะไม่ทำให้รู้สึกหนาว | สามารถทำให้ห้องเย็นลงได้ในอุณหภูมิที่ต่ำมาก |
การติดตั้ง | ติดตั้งง่ายเพราะไม่ต้องมีการระบายอากาศ | ติดตั้งยาก |
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม | ไม่ใช้สารทำความเย็นและกินไฟน้อยกว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า | ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม |
ประเภทของพัดลมไอเย็น
- Portable Coolers (พัดลมไอเย็นแบบพกพา) พัดลมไอเย็นประเภทนี้เป็นประเภททั่วไปของพัดลมไอเย็น พัดลมไอเย็นแบบพกพานี้จะทำให้ห้องทั้งห้องเย็นและสามารถพกพาได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้เคลื่อนย้ายได้ง่ายไม่ว่าคุณจะเคลื่อนย้ายไปไหน
- Window Coolers (พัดลมไอเย็นแบบติดหน้าต่าง) พัดลมไอเย็นแบบนี้คล้ายกับ windows ACs (ตัวระบายความร้อน) แต่ใช้ระบบทำความเย็นแบบระเหยแทนคอมเพรสเซอร์ พัดลมไอเย็นแบบติดหน้าต่างนี้จะให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีขึ้นโดยมีเสียงรบกวนน้อยลง
- Personal Coolers (พัดลมไอเย็นแบบส่วนตัว) พัดลมไอเย็นขนาดเล็กแบบพกพานี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำให้พื้นที่เย็นลงอย่างรวดเร็ว พัดลมไอเย็นประเภทนี้เหมาะสำหรับใช้กับโต๊ะกาแฟ โต๊ะทำงานหรือข้างเตียง เพื่อให้ตัวคุณเองได้พักผ่อนอย่างสบาย
- Outdoor Coolers (พัดลมไอเย็นแบบกลางแจ้ง) พัดลมไอเย็นแบบนี้ทำงานคล้ายกับพัดลมไอเย็นแบบในร่ม แต่มีขนาดใหญ่กว่า ตัวเครื่องมีมอเตอร์อันทรงพลังและมีพัดลมขนาดใหญ่ มีความแข็งแรงทนทานและสามารถทนต่อองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ดี พัดลมไอเย็นแบบนี้จะเป่าลมเย็นไปทั่วบริเวณที่กว้างขึ้น บางรุ่นมีการเชื่อมต่อท่อน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้คุณเติมน้ำในถังเก็บน้ำบ่อย ๆ
- Industrial Coolers (พัดลมไอเย็นแบบอุตสาหกรรม) พัดลมไอเย็นแบบอุตสาหกรรมนี้เป็นพัดลมขนาดใหญ่ที่ใช้ในการเป่าอากาศเย็นออกมาจำนวนมากในคราวเดียว พัดลมไอเย็นประเภทนี้ได้รับการออกแบบมาสำหรับใช้ในพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ เช่น คลังสินค้า เวิร์กช็อป โรงรถหรือพื้นโรงงาน เป็นต้น
Clarte'พัดลมไอเย็น รุ่น CTME720
พัดลมไอเย็นไร้ละอองน้ำ ใช้งานง่าย พกพาสะดวก
ราคา 1,130 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ความจุของน้ำ : 10 ลิตร
ครอบคลุมพื้นที่ : 10 – 15 ตร.ม.
ขนาด : 25.8 x 61.5 ซม.
กำลังไฟ : 60 วัตต์
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 4.2 กก.
ปรับระดับแรงลม : 3 ระดับ
ระดับเสียง/เดซิเบล (dBA) : ไม่ระบุ
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ประหยัดพลังงานได้ดี
- มีช่องเติมน้ำแข็งเพื่อเพิ่มความเย็นให้กับอากาศ
- ช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 5 – 15 °C
ข้อควรพิจารณา
- ครอบคลุมพื้นที่น้อยไม่เหมาะสำหรับห้องใหญ่ ๆ
- ใช้งานกลางแจ้งไม่ได้
Masterkool พัดลมไอเย็น รุ่น MIK-14EX
พัดลมไอเย็นระดับโอโซน ฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ราคา 2,790 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ความจุของน้ำ : 13 ลิตร
ครอบคลุมพื้นที่ : 15 ตร.ม.
ขนาด : 32 x 27 x 86 ซม.
กำลังไฟ : 80 วัตต์
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 9.7 กก.
ปรับระดับแรงลม : 4 ระดับ
ระดับเสียง/เดซิเบล (dBA) : 52 dBA
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ตัวเครื่องประหยัดไฟได้ดีมากซึ่งกินค่าไฟ22 สต./ชม
- มาพร้อมรีโมตคอนโทรลที่สามารถควบคุมได้ง่าย
- มีระบบการแจ้งเตือนเมื่อน้ำใกล้หมด
- มาพร้อมล้อ เคลื่อนย้ายได้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ใช้งานได้เฉพาะในพื้นที่ขนาดเล็กเท่านั้น
- ไม่เหมาะสำหรับกลางแจ้ง
Hatari พัดลมไอเย็นรุ่น AC Turbo1
พัดลมไอเย็นแบบเทอร์โบ ลดกลิ่นอับในอากาศได้ดี
ราคา 4,888 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ความจุของน้ำ : 32 ลิตร
ครอบคลุมพื้นที่ : 32 ตร.ม.
ขนาด : 47 x 40 x 93 ซม.
กำลังไฟ : 118 วัตต์
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 12 กก.
ปรับระดับแรงลม : 5 ระดับ
ระดับเสียง/เดซิเบล (dBA) : ไม่ระบุ
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ช่วยลด/เพิ่มความชื้นได้อย่างเหมาะสม
- ทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างมลพิษ
- มาพร้อมแผ่นทำความเย็น CelPad คุณภาพสูง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีระบบกรองน้ำเติมได้แค่น้ำสะอาดเท่านั้น
- ใช้งานกลางแจ้งไม่ได้
MITSUTA พัดลมไอเย็น 4 ลิตร รุ่น MEC75
พัดลมไอเย็นราคาถูก เหมาะสำหรับการพกพา
ราคา 859 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ความจุของน้ำ : 4 ลิตร
ครอบคลุมพื้นที่ : 5 -10 ตร.ม.
ขนาด : 26 x 27 x 64 ซม.
กำลังไฟ : 75 วัตต์
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 4 กก.
ปรับระดับแรงลม : 3 ระดับ
ระดับเสียง/เดซิเบล (dBA) : 60 dBA
เหตุผลที่ควรซื้อ
- มีช่องเติมน้ำแข็งเพื่อเพิ่มความเย็นให้กับอากาศ
- กระจายลมเย็นได้อย่างทั่วถึง
- มาพร้อมล้อทำให้เคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก
- หน้าจอควบคุมเป็นแบบดิจิตอลใช้งานได้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
ครอบคลุมพื้นที่น้อยไม่เหมาะสำหรับห้องใหญ่ ๆ
MASTERKOOL พัดลมไอเย็น IKOOL MIK-70EX
พัดลมไอเย็นขนาดใหญ่ ประหยัดไฟกว่าการใช้แอร์ถึง 10 เท่า
ราคา 17,238 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ความจุของน้ำ : 93 ลิตร
ครอบคลุมพื้นที่ : 50 ตร.ม.
ขนาด : 87 x 57 x 138 ซม.
กำลังไฟ : 320 วัตต์
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 45 กก.
ปรับระดับแรงลม : 5 ระดับ
ระดับเสียง/เดซิเบล (dBA) : 62 dBA
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ตัวเครื่องมีความแข็งแรงและทนทาน
- ครอบคลุมพื้นที่ถึง 50 ตร.ม.
- ช่วยประหยัดไฟได้ดีมาก ๆ
- สามารถลดอุณหภูมิได้ถึง 5 – 15 °C
ข้อควรพิจารณา
- ระดับเสียงที่ 62 dBA อาจมีเสียงรบกวน
- ไม่เหมาะสำหรับการพกพา
คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อพัดลมไอเย็น
มีหลายปัจจัยที่คุณควรพิจารณาเมื่อซื้อพัดลมไอเย็น ด้านล่างนี้เราได้ระบุปัจจัยสำคัญทั้งหมด ซึ่งคุณต้องตรวจสอบและแยกความแตกต่างระหว่างรุ่นต่าง ๆ เพื่อเลือกพัดลมไอเย็นที่มีความเหมาะสมตามความต้องการของคุณค่ะ
1. พื้นที่ทำความเย็น (CFM)
ขนาดของพื้นที่ทำความเย็นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อซื้อพัดลมไอเย็น สิ่งนี้จะบอกให้คุณรู้ว่าพัดลมไอเย็นสามารถทำให้ห้องเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ สำหรับในข้อนี้คุณจะต้องตรวจสอบ CFM ของพัดลมไอเย็น CFM นั้นมีลักษณะเช่นเดียวกับขนาด AC ใน BTU ของเครื่องปรับอากาศค่ะ แต่สำหรับพัดลมไอเย็นจะมีหน่วยเป็นลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM) สิ่งนี้จะอธิบายปริมาณอากาศในกระบวนการทำความเย็นโดยเฉพาะ สำหรับประเทศไทยคุณสามารถเช็กจำนวนตารางเมตรของตัวเครื่องได้ว่าสามารถทำความเย็นได้ไกลแค่ไหนค่ะ
2. ความจุถังเก็บน้ำ
เราเชื่อว่าคุณคงเบื่อกับการเติมน้ำในถังเก็บน้ำบ่อย ๆ ดังนั้นแล้วควรเลือกใช้พัดลมไอเย็นที่มีความจุของแทงก์น้ำที่เพียงพอ ตัวอย่างเช่น ความจุของแทงก์น้ำอย่างน้อย 90 ลิตรจะเพียงพอที่จะทำให้อากาศเย็นประมาณ 10 – 17 ชม. ในขณะที่แทงก์น้ำขนาดกลางที่จุน้ำประมาณ 40 ลิตรจะมีอายุการใช้งาน 5-7 ชั่วโมง และสุดท้ายคือความจุของแทงก์น้ำประมาณ 4 – 20 ลิตรจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 1 – 4 ชั่วโมงค่ะ พัดลมไอเย็นที่ใช้ในกลางแจ้งหลายรุ่นอาจจะมีตัวต่อสายยางที่สามารถเติมน้ำได้ง่าย ๆ แทนการเติมน้ำด้วยตนเอง ในขณะที่พัดลมไอเย็นรุ่นที่ใช้ในร่มคุณต้องเติมน้ำด้วยตัวเองค่ะและส่วนใหญ่จะไม่มีตัวต่อสายยางค่ะ
3. แผ่นทำความเย็น
โดยทั่วไปแล้วแผ่นทำความเย็นจะเปียกในน้ำเย็น ซึ่งช่วยให้ดูดซับความร้อนจากอากาศได้ง่ายและทำให้เกิดลมเย็น มีแผ่นทำความเย็น 2 ประเภทในท้องตลาดคือแผ่นทำความเย็นรังผึ้งและแผ่นทำความเย็นแบบแอสเพนหรือผ้าขนสัตว์ ต่อไปเราไปทำความรู้จักกับแผ่นเจลทั้งสองให้มากขึ้นค่ะ
- แผ่นทำความเย็นรังผึ้ง แผ่นทำความเย็นแบบนี้มีความหนาแน่นสูงแผ่นระบายความร้อนนี้จะทำจากเซลลูโลสซึ่งมีลักษณะคล้ายรังผึ้ง แผ่นทำความเย็นรังผึ้งให้ความเย็นมากกว่าแผ่นทำความเย็นประเภทอื่น อีกทั้งยังมีความทนทานและมีประสิทธิภาพสูง ข้อเสียเปรียบเพียงอย่างเดียวของแผ่นทำความเย็นรังผึ้งนี้คือมีราคาแพง
- แผ่นทำความเย็นแบบแอสเพน แผ่นทำความเย็นแบบแอสเพนนั้นให้การระบายความร้อนได้น้อยกว่าแผ่นทำความเย็นแบบรังผึ้ง แผ่นทำความเย็นแบบแอสเพนมีราคาไม่แพง คงทนและหาซื้อได้ง่าย แต่ข้อเสียก็คือคุณต้องเปลี่ยนแผ่นทำความเย็นเหล่านี้บ่อย ๆ ค่ะ
4. การพกพาและระดับเดซิเบลของตัวเครื่อง
พัดลมไอเย็นที่ง่ายต่อการพกพาถือเป็นเครื่องทำความเย็นที่ดีที่สุด เพราะพัดลมไอเย็นแบบนี้มักจะมาพร้อมกับล้อและมีน้ำหนักเบามาก แน่นอนว่าพัดลมไอเย็นนี้มีความแข็งแรง ซึ่งส่วนใหญ่จะเหมาะสำหรับการใช้งานคนเดียวค่ะ ในเรื่องของระดับเดซิเบลก็มีความสำคัญมากเช่นกันค่ะ หากคุณใช้พัดลมไอเย็นกลางแจ้งเรื่องของเสียงรบกวนเป็นเรื่องที่ไม่ได้สำคัญนัก แต่หากคุณใช้พัดลมไอเย็นในอาคารหรือในบ้านควรพิจารณาระดับเสียง (dBA) สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าพัดลมไอเย็นของคุณจะส่งเสียงดังแค่ไหนขณะทำงานและต้องรู้ว่ามันรบกวนการนอนหลับของคุณหรือไม่ ตัวอย่างเช่น เครื่องดูดฝุ่นจะมีเสียงประมาณ 70dBA และตู้เย็นมักจะมีเสียงอยู่ที่ 50dBA ค่ะ ดังนั้นในการเลือกซื้อพัดลมไอเย็นให้เลือกซื้อเครื่องที่มีเสียงรบกวนน้อยที่สุดและต้องน้อยกว่า 60dBA ค่ะ
5. ระดับความชื้น
พัดลมไอเย็นสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้อากาศและสามารถใช้ได้ในพื้นที่ที่ร้อนและแห้ง หากใช้พัดลมไอเย็นในบริเวณที่มีความชื้น มันจะเพิ่มระดับความชื้นที่เกินระดับความปลอดภัย สามารถส่งผลให้เกิดการพัฒนาของเชื้อราในบ้านของคุณ เราขอแนะนำให้ใช้พัดลมไอเย็นในพื้นที่ที่มีความชื้นน้อยกว่า 60% เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราค่ะ
6. คุณสมบัติอื่น ๆ
ต่อไปนี้เป็นคุณสมบัติเพิ่มเติมบางประการที่จะช่วยในการทำงานอันชาญฉลาดของพัดลมไอเย็นค่ะ โดยแนะนำให้เลือกคุณสมบัติที่ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด
- การควบคุมความเร็ว หากพัดลมไอเย็นของคุณมีการควบคุมความเร็วจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการไหลของอากาศและความเร็วของพัดลมได้ตามความต้องการของคุณ (ไม่ว่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง) โดยทั่วไปแล้วพัดลมไอเย็นมักจะมี 3 ระดับความเร็วให้เราได้เลือกคือต่ำกลางและสูง เราขอแนะนำให้ตั้งระดับความเร็วตามความต้องการเพื่อให้ตัวเองเย็นสบาย
- การควบคุมระยะไกล การควบคุมระยะไกลเป็นคุณสมบัติสำคัญและต้องมีเมื่อซื้อพัดลมไอเย็น เพราะคุณจะสามารถควบคุมความเย็นได้จากระยะไกล พัดลมไอเย็นแบบนี้มักจะมาพร้อมกับรีโมตโดยคุณสามารถกดใช้พัดลมไอเย็นจากที่ไหนก็ได้ภายในบ้านหรือภายในขอบเขตที่ตัวเครื่องกำหนด
- การกรองอากาศ การเลือกพัดลมไอเย็นที่มีการกรองอากาศเพิ่มเติมจะช่วยป้องกันอนุภาคของสารก่อภูมิแพ้ เช่น ละอองเกสรหรือฝุ่นในขณะที่ทำให้พื้นที่ของคุณเย็นลงไปในตัว อีกทั้งพัดลมไอเย็นบางรุ่นยังมีตัวกรองถ่านกัมมันต์สำหรับการกรองกลิ่นและมีโหมดกำจัดยุงด้วย ทำให้คุณประหยัดเงินในการซื้อเครื่องดักยุงไฟฟ้า
- ล้อและสายเติมน้ำ พัดลมไอเย็นที่มีล้อ 4 ล้อจะทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย ไม่ว่าจะในพื้นที่ในร่มหรือกลางแจ้งก็สามารถเคลื่อนที่ได้สะดวก อีกทั้งสายเติมน้ำก็เป็นสิ่งจำเป็นเพราะมันไม่สนุกที่จะเติมถังน้ำในทุก ๆ 2 – 3 ชั่วโมง หากคุณรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเติมน้ำในถังเก็บน้ำ ให้มองหาพัดลมไอเย็นที่มีตัวต่อสายยาง เพราะอุปกรณ์เสริมนี้จะช่วยให้คุณเชื่อมต่อท่อน้ำเพื่อให้มีการจ่ายน้ำคงที่ได้
- ระบบสวิง คุณลักษณะนี้ในพัดลมไอเย็นจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าอากาศจะพัดผ่านในทุกทิศทางของห้อง ปกติแล้วพัดลมไอเย็นจะหมุนทำมุมอยู่ที่ 40 °, 70 °หรือ 120° เมื่อระดับสวิงเพิ่มขึ้น ระยะการปล่อยลมก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ในการเลือกระบบสวิงลมที่เหมาะสม คุณต้องพิจารณาขนาดห้องของคุณ ยิ่งพื้นที่มีขนาดใหญ่เท่าไหร่ระดับการสวิงก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
- ฟังก์ชันจับเวลา ด้วยฟังก์ชันตัวจับเวลานี้จะทำให้คุณสามารถตั้งโปรแกรมตัวทำความเย็นสำหรับการทำงานอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งได้อย่างง่ายดาย เมื่อถึงเวลาที่กำหนดพัดลมไอเย็นจะปิดโดยอัตโนมัติ ปกติแล้วพัดลมไอเย็นจะนำเสนอฟังก์ชันจับเวลาสูงสุด 15 ชั่วโมง 1 ชั่วโมง / 2 ชั่วโมง / 3 ชั่วโมงและ 4 ชั่วโมงซึ่งค่อนข้างสะดวกในการใช้งาน แต่แน่นอนว่าพัดลมไอเย็นแบบนี้จะมีราคาแพงกว่าพัดลมทั่วไป
- ตัวบ่งชี้ระดับน้ำ ตัวบ่งชี้ระดับน้ำนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่ในพัดลมไอเย็นมีอยู่แค่ไหน หากน้ำถึงระดับต่ำสุด ตัวบ่งชี้นี้จะแจ้งให้คุณทราบด้วยเสียงเตือนและจะตัดไฟเมื่อไม่มีน้ำ ดังนั้นตัวบ่งชี้ระดับน้ำนี้จะช่วยไม่ให้พัดลมไอเย็นได้รับความเสียหายใด ๆ ที่อาจจะมาจากน้ำในถังลดน้อยลงหรือไม่มีเลย
พัดลมไอเย็นทำงานอย่างไร?
พัดลมไอเย็นสามารถดึงความร้อนออกมาในปริมาณที่เหมาะสม ในระหว่างกระบวนการที่ทำให้ของเหลวกลายเป็นไอ จะทำให้อุณหภูมิของอากาศที่แห้งลดลงได้ พัดลมไอเย็นจะมีกลไกที่คล้ายกันในร่างกายของเรา ด้วยเหตุนี้เมื่ออากาศร้อนเหงื่อของเราจะไหลออกมาซึ่งเหงื่อจะช่วยให้ร่างกายเย็นลงเช่นเดียวกับพัดลมไอเย็น พัดลมไอเย็นเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างเรียบง่ายเพราะมันมีภาชนะใส่น้ำในตัวซึ่งสามารถเติมน้ำได้ด้วยขวดน้ำหรือเติมน้ำจากก๊อกโดยตรงได้ นอกจากนี้พัดลมไอเย็นก็ยังมีแผ่นทำความเย็นและพัดลมในตัว พัดลมสามารถเพิ่มพลังให้กระบวนการระเหยและปล่อยลมเย็นออกมา ทำให้อากาศถูกดึงผ่านแผ่นอิเล็กโทรด การระเหยเป็นผลมาจากการสัมผัสระหว่างอากาศกับน้ำ ซึ่งจะทำให้พัดลมไอเย็นกระจายลมเย็นในพื้นที่ที่ต้องการ ผลจากการใช้พัดลมไอเย็นจะทำให้อากาศบริสุทธิ์และให้คุณภาพอากาศที่สะอาดมาก เนื่องจากมีตัวกรองอากาศ เมื่อรวมกับความชื้นเล็กน้อยที่เกิดจากการใช้ระบบทำความเย็นแบบระเหยจะช่วยขจัดแบคทีเรียและชะลอการแพร่กระจายของไวรัสในอากาศได้