ชาบูและสุกี้เป็นประเพณีการทำและทานอาหารของชาวเอเชีย ชาบูหมายถึงรูปแบบการทำอาหารที่ต้องปรุงเนื้อสัตว์และผักในน้ำซุปเดือด ซึ่งคล้าย ๆ กับการทำฟองดูเนื้อสไตล์ตะวันตก การที่เราจะทานชาบูหรือสุกี้ได้เราจำเป็นต้องมี “หม้อชาบูหรือหม้อสุกี้ไฟฟ้า”
โดยวิธีการทำก็คือเทน้ำซุปลงในหม้อไฟ หลังจากนั้นให้นำเนื้อดิบและผักต่าง ๆ เข้าไปใส่ในหม้อ แต่หากจะกินเนื้อให้อร่อยและเป็นชาบูต้นตำรับเราขอแนะนำให้หย่อนเนื้อสัตว์ลงไปในน้ำซุปที่เดือดแล้วเมื่อเนื้อสัตว์สุกแล้วให้นำออกมาและรับประทานกับน้ำจิ้ม ขอบอกเลยว่าชาบูและสุกี้เป็นอะไรที่สามารถทานได้ทุกวันเลย ยิ่งทานไปเรื่อย ๆ คุณจะรู้สึกว่ามันอร่อยเพราะยิ่งเราใส่วัตถุดิบและเคี่ยวนาน ๆ เท่าไหร่น้ำซุปก็จะยิ่งมีรสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่าหากในเมื่อก่อนคุณต้องการจะทานชาบูคุณจะต้องไปทานที่ร้านเท่านั้น แต่ตอนนี้ถือว่าเป็นโชคดีของคุณเพราะมีการวางขายหม้อชาบูไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งเครื่องมีนี้จะช่วยให้คุณเตรียมการทานชาบูได้ที่บ้านของคุณเอง ซึ่งสะดวกและสบายอีกทั้งยังช่วยประหยัดเงินได้ดี หม้อชาบูหรือหม้อสุกี้ไฟฟ้านั้นมีลักษณะเหมือนกับกระทะไฟฟ้าเพราะใช้งานได้ง่าย เพียงเสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับไฟฟ้าตัวเครื่องก็จะทำงานทันที ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายก๊าซหุงต้มที่ต้องใช้เตาแก๊สได้เป็นอย่างดี หากวันนี้คุณกำลังมองหาหม้อชาบูไฟฟ้าดี ๆ อยู่เราก็มีสินค้าพร้อมคำแนะนำในการเลือกหม้อชาบูมาฝากกันค่ะ
ซื้อ หม้อชาบู ยี่ห้อไหนดี และเหมาะสำหรับคุณ
- หม้อสุกี้เคลือบ Non- stick ทำความสะอาดง่าย มาพร้อมช่องน้ำซุป 2 ช่อง: Clarte'หม้อสุกี้อเนกประสงค์ รุ่น FR-3401
- หม้อสุกี้ขนาดเล็ก ทนทาน ดีไซน์สวยงาม พกพาได้ง่าย : OTTO หม้อสุกี้ ไฟฟ้า 3 ลิตร รุ่น SP-325A
- หม้ออเนกประสงค์ ทำสุกี้ หม้อไฟและนึ่งอาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ: Imarflex หม้อสุกี้อเนกประสงค์ รุ่น LP-846
- ร้อนเร็ว ระบบความปลอดภัยดีเยี่ยม มีช่องน้ำซุป 2 ช่องทำให้ใช้งานได้สะดวก: Hanabishi หม้อสุกี้ไฟฟ้า SEP-1300H
- ดีไซน์สวยงาม เปลี่ยนแผ่นความร้อนได้ สามารถทำอาหารได้อย่างหลากหลาย: HOUSE WORTH หม้อสุกี้ รุ่น CRJ-60HI
- ปิ้งย่างและทำชาบูได้ในเครื่องเดียว ควบคุมอุณหภูมิแยกกันได้: Imarflex เตาปิ้งย่างอเนกประสงค์ รุ่น EG-648
- หม้อและเตาย่างอเนกประสงค์ ปิ้งย่างและทำชาบูได้ หม้อซุปมี 2 ช่องเหมาะสำหรับงานปาร์ตี้: OTTO หม้อสุกี้บาร์บีคิว รุ่น GR-175A
ชาบูหรือหม้อไฟ คืออะไร ?
หม้อไฟเป็นประเพณีการทำอาหารจีนที่มีมานานหลายศตวรรษ เดิมทีแล้วหม้อไฟได้รับการแนะนำมาจากจักรวรรดิมองโกเลีย หม้อไฟเป็นการปรุงอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักและบะหมี่ในน้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวมาอย่างดี หลังจากนั้นก็เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มต่าง ๆ แม้ว่าหม้อไฟจะเป็นอาหารจีนแบบดั้งเดิม แต่จริง ๆ แล้วหม้อไฟรูปแบบต่าง ๆ ก็สามารถพบได้ในวัฒนธรรมและประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เวียดนามและเกาหลี ในญี่ปุ่นจะเรียกหม้อไฟของจีนว่าชาบูค่ะและถึงแม้ว่าอาหารเหล่านี้จะมีลักษณะคล้าย ๆ กัน แต่ชื่อเรียกและรสชาติก็จะแตกต่างกันออกไปตามถิ่น ที่อยู่และรสนิยมของผู้ทาน ต่อไปเราไปทำความรู้จักอาหารประเภทนี้ให้มากขึ้นกันค่ะว่ามีแบบไหน สไตล์ใดกันบ้าง
- หม้อไฟสไตล์ฉงชิ่ง หม้อไฟสไตล์ฉงชิ่งมีรสชาติเผ็ดและเข้มข้นเป็นหนึ่งในอาหารหม้อไฟที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศจีน น้ำซุปทำจากเนื้อและพริกเสฉวน หม้อไฟแบบนี้เผ็ดจนชาปากแต่อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ หากได้ทานพร้อมเนื้อวัว เนื้อแกะ เต้าหู้ ผักใบเขียว ถั่วงอกและเส้นก๋วยเตี๋ยวจะอร่อยมาก
- ชาบู-ชาบู ชาบูชาบูเป็นหม้อไฟสูตรพิเศษของญี่ปุ่น ที่นิยมทานกันมากทั้งในญี่ปุ่น ไต้หวันและไทย หม้อไฟนี้จะแตกต่างจากหม้อไฟแบบอื่น ๆ เล็กน้อย แต่หลัก ๆ ก็คือการปรุงใช้เนื้อหั่นบาง ๆ และใช้ผักต้มลงไปในน้ำซุปเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด การทำชาบูชาบูทำได้ง่ายมากเพราะใช้ส่วนผสมเพียงแค่ไม่กี่อย่าง
- สุกียากี้ สุกียากี้นั้นนิยมมากในไทย ในไทยของเรามักจะทานทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ แต่ขอบอกเลยว่าสุกียากี้นั้นไม่เหมือนกับชาบูชาบู เพราะสุกียากี้แบบดั้งเดิมจะใช้น้ำซุปเข้มข้นที่ทำจากซีอิ๊วหวานและเค็ม สุกียากี้จะต้องเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อหั่นบาง ๆ เห็ดและผักอื่น ๆ ทำให้รสชาติมีความกลมกล่อม ซึ่งก่อนทานจะต้องราดน้ำจิ้มเพื่อเพิ่มความเข้มข้น หากเทียบระดับความง่ายแล้ว สุกียากี้เป็นอาหารที่ง่ายที่สุดและเหมาะสำหรับทานที่บ้าน
เราขอแนะนำเลยว่าหากคุณจริงจังกับการทำอาหารประเภทชาบูหรือหม้อไฟที่บ้าน คุณจะต้องมีหม้อชาบูไฟฟ้าเพราะหากคุณมีอุปกรณ์นี้คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารได้เป็นอย่างดี คุณจะได้ซดน้ำซุปร้อน ๆ กับครอบครัวและเพื่อนฝูง อีกทั้งการมีหม้อชาบูไฟฟ้าจะทำให้สามารถทานชาบูเมื่อไหร่ก็ได้ที่คุณต้องการและเลือกเนื้อสัตว์ที่ตัวเองต้องการทานได้อย่างสะดวก
Clarte'หม้อสุกี้อเนกประสงค์ รุ่น FR-3401
หม้อสุกี้เคลือบ Non- stick ทำความสะอาดง่าย มาพร้อมช่องน้ำซุป 2 ช่อง
ราคา 598 บาท*
ข้อมูลสินค้า
วัสดุที่ใช้ : อะลูมิเนียมเคลือบ Non – stick
ความจุ : 4 ลิตร
กำลังไฟ : 1,100 วัตต์
ขนาด : 30 x 30 x 10 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 1.8 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- หม้อมีขนาดใหญ่เหมาะสำหรับใช้งานในครอบครัว
- มีตัวแบ่งน้ำซุป 2 ช่องช่วยให้คุณปรุงน้ำซุปได้ 2 แบบในคราวเดียว
- ทำความสะอาดง่ายและใช้งานง่าย
- ตัวเครื่องร้อนเร็วและให้ความร้อนอย่างสม่ำเสมอ
ข้อควรพิจารณา
ตัวแบ่งน้ำซุปถอดออกมาไม่ได้
OTTO หม้อสุกี้ ไฟฟ้า 3 ลิตร รุ่น SP-325A
หม้อสุกี้ขนาดเล็ก ทนทาน ดีไซน์สวยงาม พกพาได้ง่าย
ราคา 489 บาท*
ข้อมูลสินค้า
วัสดุที่ใช้ : อะลูมิเนียมเคลือบ Non – stick
ความจุ : 3 ลิตร
กำลังไฟ : 1,500 วัตต์
ขนาด : 35 x 30 x 17 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 1.2 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- โครงสร้างมีความทนทานมากและมีการเคลือบทำให้อาหารภายในไม่ติด
- มีฝาแก้วช่วยให้มองเห็นได้ง่าย
- ที่จับสะดวกและใช้งานได้หลากหลาย
- นอกจากสุกี้และชาบูแล้วสามารถใช้ทำอาหารได้อย่างหลากหลาย
- ตัวเครื่องมีความปลอดภัยสูง ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเครื่องร้อนเกินไป
ข้อควรพิจารณา
ความจุอาจจะน้อยเกินไปสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่
Imarflex หม้อสุกี้อเนกประสงค์ รุ่น LP-846
หม้ออเนกประสงค์ ทำสุกี้ หม้อไฟและนึ่งอาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ราคา 600 บาท*
ข้อมูลสินค้า
วัสดุที่ใช้ : อะลูมิเนียมเคลือบเทฟลอน
ความจุ : 3 ลิตร
กำลังไฟ : 1,200 วัตต์
ขนาด : 31.5 x 33.5 x 19 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 2.7 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ปรับอุณหภูมิได้เพื่อความสะดวกของผู้ใช้
- ใช้งานได้หลากหลาย ใช้เตรียมอาหารได้หลายประเภท
- ตัวเครื่องผ่านการเคลือบเทฟลอนที่ทำความสะอาดง่าย
- มาพร้อมฝาแก้วที่ทนทานสูงมากทำให้ใช้งานได้นาน
ข้อควรพิจารณา
ความจุอาจจะน้อยเกินไปสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่
Hanabishi หม้อสุกี้ไฟฟ้า SEP-1300H
ร้อนเร็ว ระบบความปลอดภัยดีเยี่ยม มีช่องน้ำซุป 2 ช่องทำให้ใช้งานได้สะดวก
ราคา 699 บาท*
ข้อมูลสินค้า
วัสดุที่ใช้ : อะลูมิเนียมเคลือบ Non – stick
ความจุ : 3 ลิตร
กำลังไฟ : 1,600 วัตต์
ขนาด : 40 x 33 x 20 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 3.08 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ตัวเครื่องร้อนเร็ว สามารถปรับอุณหภูมิได้ 5 ระดับ
- มาพร้อมฝากระจกนิรภัยสำหรับดูอาหารภายในหม้อได้
- มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม เช่น ฝาที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์และที่จับหม้อแบบหุ้มฉนวน
- มีหม้อซุป 2 ช่องสามารถทำน้ำซุปได้ 2 รสชาติในคราวเดียว
ข้อควรพิจารณา
สายไฟอาจจะสั้นเกินไป
HOUSE WORTH หม้อสุกี้ รุ่น CRJ-60HI
ดีไซน์สวยงาม เปลี่ยนแผ่นความร้อนได้ สามารถทำอาหารได้อย่างหลากหลาย
ราคา 1,196 บาท*
ข้อมูลสินค้า
วัสดุที่ใช้ : อะลูมิเนียมเคลือบ Non – stick
ความจุ : 4 ลิตร
กำลังไฟ : 1,300 วัตต์
ขนาด : 36.5 x 19 x 38ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 4 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ผสมผสานเทคโนโลยีและคุณสมบัติของการต้ม ผัดและย่างไว้ในเครื่องเดียว
- หม้อมีความจุลึก 4 ลิตรเหมาะสำหรับทำน้ำซุปสำหรับครอบครัว
- ถอดประกอบทำความสะอาดง่าย
- ตัวเครื่องร้อนเร็วและใช้งานได้ง่าย
- ปรับและควบคุมอุณหภูมิได้ตามความต้องการ
ข้อควรพิจารณา
ตัวหม้อจะมีกลิ่นของวัสดุเมื่อใช้ครั้งแรก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและจะหายไปเมื่อใช้งานไปนาน ๆ
Imarflex เตาปิ้งย่างอเนกประสงค์ รุ่น EG-648
ปิ้งย่างและทำชาบูได้ในเครื่องเดียว ควบคุมอุณหภูมิแยกกันได้
ราคา 1,586 บาท*
ข้อมูลสินค้า
วัสดุที่ใช้ : อะลูมิเนียมเคลือบเทฟลอน
ความจุ : 2 ลิตร
กำลังไฟ : 2,500 วัตต์
ขนาด : 12.5 x 41.5 x 74 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 2 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- เป็นเครื่องครัวอเนกประสงค์ที่มาพร้อมหม้อชาบูและเตาย่าง
- ทั้งเตาย่างและหม้อชาบูมีปุ่มควบคุมที่ปรับได้แยกกัน
- หม้อชาบูมีช่องเก็บน้ำซุป 2 ช่อง คุณจึงสามารถปรุงน้ำซุปได้มากกว่าหนึ่งชนิดในแต่ละครั้ง
- ทำความสะอาดง่ายและใช้งานง่าย
ข้อควรพิจารณา
จัดเก็บได้ยากเพราะตัวเครื่องมีความยาว
OTTO หม้อสุกี้บาร์บีคิว รุ่น GR-175A
หม้อและเตาย่างอเนกประสงค์ ปิ้งย่างและทำชาบูได้ หม้อซุปมี 2 ช่องเหมาะสำหรับงานปาร์ตี้
ราคา 971 บาท*
ข้อมูลสินค้า
วัสดุที่ใช้ : อะลูมิเนียมเคลือบ Non – stick
ความจุ : 2.5 ลิตร
กำลังไฟ : 1,900 วัตต์
ขนาด : 49 x 43 x 16 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 3.6 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ใช้งานได้หลากหลาย ใช้เตรียมอาหารได้หลายประเภท
- มีระบบระบายความร้อนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำอาหาร
- ง่ายต่อการใช้และทำความสะอาด
- ทำความร้อนได้เร็วและสม่ำเสมอ
- มีปุ่ม 2 ปุ่มที่สามารถปรับการตั้งค่าความร้อนได้
ข้อควรพิจารณา
ต้องใช้กำลังไฟ 1,900 วัตต์ เมื่อใช้ทั้งหม้อชาบูและกระทะปิ้งย่าง ดังนั้นต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าปลั๊กของคุณจะไม่ทำงานหนักเกินไป
คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อหม้อชาบู
1. ความจุ
ขนาดเฉลี่ยของหม้อชาบูมีตั้งแต่ 1 ลิตรไปจนถึง 6 ลิตร ความจุในช่วงขนาดนี้มีมากเกินพอที่จะต้มน้ำซุปให้เพียงพอสำหรับอาหารที่คุณจะทาน แต่ในการเลือกซื้อหม้อชาบูมันขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการที่ทานอาหารมากน้อยแค่ไหนหรือทานกันกี่คนในครั้ง ปกติแล้วหม้อชาบูที่มีขนาดใหญ่มักจะออกแบบให้เป็นหม้อ 2 ช่องและมาพร้อมกับตัวคั่น ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถปรุงน้ำซุปได้ 2 แบบในหม้อชาบูเพื่อให้อาหารของคุณมีตัวเลือกรสชาติมากขึ้น แต่หากคุณชอบทานชาบูคนเดียวหม้อชาบูขนาดเล็กจะเหมาะกับคุณที่สุดเพราะเพียงพอสำหรับการทานคนเดียวหรือสองคน อีกทั้งยังสามารถจัดเก็บได้ง่ายเหมาะสำหรับหอพักนักศึกษาหรือคนโสดที่อาศัยอยู่ในห้องเล็ก ๆ และมีพื้นที่ว่างในการจัดเก็บเพียงเล็กน้อย
2. การออกแบบ
การออกแบบหม้อชาบูเป็นสิ่งที่สำคัญ สิ่งที่คุณต้องพิจารณาคือความกว้างของหม้อชาบู ช่องของหม้อชาบูควรเปิดควรกว้างเพื่อให้เราสามารถเข้าถึงอาหารได้ อีกทั้งหม้อชาบูควรจะมีความลึกตื้นเพื่อให้คุณสามารถเห็นอาหารของคุณท่ามกลางน้ำซุปได้ง่าย หม้อชาบูที่ความตื้นจะสามารถปรุงอาหารของคุณได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้หม้อชาบูที่คุณเลือกควรจะมีฝาแก้วและต้องมีด้ามจับทนความร้อน เพื่อให้คุณสามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้อย่างง่ายดาย และหากคุณต้องการย่างเนื้อสัตว์เราขอแนะนำให้ซื้อหม้อชาบูที่มาพร้อมกับเตาย่างและเลือกแบบที่ให้เราสามารถควบคุมอุณหภูมิของหม้อชาบูและเตาย่างที่แยกกันได้เพื่อให้เราสามารถใช้หม้อชาบูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. วัสดุของหม้อ
หม้อชาบูมีหลายยี่ห้อซึ่งแต่ละยี่ห้อก็ทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน แต่วัสดุที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือสเตนเลสและโลหะผสมอะลูมิเนียม โดยแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป อะลูมิเนียมอาจไม่แข็งแรงเท่าสเตนเลสแต่น้ำหนักเบากว่า เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วอะลูมิเนียมยังมีความทนทานต่อการกัดกร่อนมากกว่าเนื่องจากมีชั้นฟิล์มอยู่ภายใน อย่างไรก็ตามหากคุณปรุงอาหารที่เป็นกรดบ่อย ๆ หม้ออะลูมิเนียมอาจสึกกร่อนหรือเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้อะลูมิเนียมยังเป็นตัวนำความร้อนได้ดีกว่าซึ่งอาจส่งผลต่อรสชาติและสีเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ในทางกลับกันหม้อสเตนเลสซึ่งปกติแล้วจะทำด้วยโครเมียม เหล็ก นิกเกิล แมงกานีสและทองแดง ก็ทนทานต่อการกัดกร่อนเช่นกันแต่ไม่ดีเท่าหม้อที่ทำจากอะลูมิเนียม หม้อร้อนสเตนเลสเป็นที่นิยมเพราะมีความแข็งแรงและไม่ส่งผลต่อรสชาติของอาหาร นอกจากนี้คุณยังจะพบว่าหม้อชาบูที่ดีที่สุดบางรุ่นมีการเคลือบสารกันติดยกเว้นสเตนเลส หม้อชาบูเหล่านี้มักทำจากวัสดุอื่นที่ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นด้วยการเคลือบกันติด อย่างไรก็ตามให้ระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับคุณภาพและประเภทของการเคลือบสารกันติดในหม้อชาบู เนื่องจากสารเคลือบบางประเภทจะมีการปล่อยสารเคมีที่เป็นพิษออกมา
4. กำลังไฟ
ตามที่เราได้บอกไว้เสมอเมื่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าว่ายิ่งตัวเครื่องมีกำลังไฟมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งทำอาหารได้เร็วเท่านั้น กำลังไฟที่สูงขึ้นสามารถลดเวลาการรอของคุณได้อย่างมาก ถ้าไม่อยากรอไม่นานก็ให้เลือกหม้อชาบูที่ทรงพลัง ซึ่งปกติแล้วหม้อชาบูไฟฟ้าที่พร้อมเตาย่างมักจะมีกำลังไฟ 2,000 ถึง 2,400 วัตต์เพราะต้องใช้การควบคุมไฟถึง 2 ช่อง แต่ต้องระมัดระวังในการใช้งานเพราะในบางครั้งหากคุณใช้ปลั๊กพ่วงคุณต้องถอดปลั๊กทุกอย่างออกทั้งหมดและใช้กับหม้อชาบูเพียงอย่างเดียว เพราะกำลังไฟที่มากอาจทำให้เกิดปัญหาด้านไฟฟ้าได้ แต่หากคุณเลือกหม้อชาบูขนาดเล็กที่ไม่มีกระทะย่างอาจจะใช้ไฟเพียง 1,000 ถึง 1,500 วัตต์เท่านั้น
5. ความปลอดภัย
เมื่อซื้อหม้อชาบูมีคุณลักษณะด้านความปลอดภัยบางประการที่ต้องระวังเพื่อปกป้องพื้นที่และผู้ที่มารับประทานอาหาร ในการซื้อคุณตรวจสอบความยาวของสายไฟเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเข้าถึงจากโต๊ะของคุณไปยังเต้ารับไฟฟ้าในบริเวณใกล้เคียงได้ สายไฟของหม้อชาบูบางรุ่นติดกับแม่เหล็ก ดังนั้นอาจจะเกิดสายไฟหลุดออกจากหม้อโดยไม่ตั้งใจและทำให้อาหารในหม้อหก นอกจากนี้หม้อชาบูที่คุณเลือกควรมีที่จับและฐานที่เย็นอยู่เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้นิ้วมือและมือของคุณโดนลวก แนะนำให้เลือกใช้ฐานกันลื่นเพื่อให้หม้อชาบูที่คุณใช้มีความทนทานเป็นพิเศษ