สมาร์ททีวี (Smart TV) ยี่ห้อไหนดี?

สมาร์ททีวี (Smart TV) ที่ดีที่สุด
สมาร์ททีวี (Smart TV) ที่ดีที่สุด

“สมาร์ททีวี” เป็นทีวีที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันเพราะสามารถใช้งานได้หลากหลายและครบวงจร ปกติแล้วสมาร์ททีวีจะทำงานบนระบบปฏิบัติการที่คล้ายกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ซึ่งระบบนี้ก็สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงเว็บไซต์สตรีมมิ่ง เช่น YouTube, Netflix และเข้าถึงเว็บอื่น ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย คุณสมบัติที่โดดเด่นที่หลายคนสนใจสมาร์ททีวีก็คือตัวเครื่องสามารถแคสต์อุปกรณ์ได้ ซึ่งคุณสามารถจำลองหน้าจอของอุปกรณ์สมาร์ทโฟนไปยังทีวีได้ซึ่งสะดวกกว่าการใช้รีโมตมาก ปัจจุบันสมาร์ททีวีมักจะเป็นสิ่งแรกที่หลายคนมักจะนึกถึงเมื่อต้องซื้ออุปกรณ์มอบความบันเทิง ซึ่งทีวีแบบเก่า ๆ นั้นมักจะไม่มีคนซื้อกันแล้ว เนื่องจากการใช้งานมีความยุ่งยากต้องเชื่อมต่อกับกล่องหรือจานดาวเทียมเพื่อให้รับชมทีวีได้หลาย ๆ ช่อง แต่หากคุณซื้อสมาร์ททีวีเรื่องนั้นจะไม่จำเป็นกับคุณอีกต่อไปเพราะเพียงแค่คุณมี WiFi Bluetooth หรือมีแอปพลิเคชัน คุณก็สามารถรับชมความบันเทิงได้โดยไม่มีขีดจำกัด

แต่แน่นอนว่าการซื้อสมาร์ททีวีไม่ง่าย เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน อย่าเพิ่งกังวลไปเลยค่ะเรามีคำแนะนำในการซื้อเลือกสมาร์ททีวีมาให้คุณ พร้อมแนะนำสมาร์ททีวีรุ่นที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย

ซื้อ สมาร์ทีวี ยี่ห้อไหนดีและเหมาะกับคุณ ปี 2021

สมาร์ททีวี คืออะไร?

“สมาร์ททีวี” คือโทรทัศน์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและเว็บเบราว์เซอร์ได้ แต่จุดสำคัญที่สุดที่ผู้คนมักจะนิยมซื้อสมาร์ททีวีก็คือตัวเครื่องสามารถใช้บริการสตรีมออนไลน์ เช่น Netflix, YouTube, Disney+ Hotstar และ Spotify หากคุณเคยใช้บางบริการบางอย่าง เช่น Apple TV หรือ Chromecast แสดงว่าคุณคงคุ้นเคยกับความสามารถของอุปกรณ์เหล่านี้อยู่แล้วเนื่องจากสมาร์ททีวีก็มีการทำงานที่คล้ายคลึงกับบริการที่ได้กล่าวมาข้างต้นค่ะ ความแตกต่างของทีวีทั่วไปและสมาร์ททีวีก็คือ ทีวีแบบเก่าจะแสดงเนื้อหาของทีวีโดยต้องพึ่งพาเสาอากาศ HDTV, เคเบิลหรือแหล่งสัญญาณ A/V อื่น ๆ แต่สมาร์ททีวีนั้นมีโพรเซสเซอร์ที่ทรงพลัง มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่าย ทีวีสมัยใหม่จึงเป็นเหมือนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่มีความสามารถมากกว่าทีวีทั่วไป สมาร์ททีวีมีลักษณะเช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สมาร์ทโฮม เพราะตัวเครื่องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและรองรับแอปต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้สมาร์ททีวีบางเครื่องยังสามารถสั่งการด้วยเสียงได้ โดยระบบ Amazon Alexa หรือ Google Assistant

สำหรับการสลับช่องสัญญาณและค้นหาโปรแกรม สมาร์ททีวีส่วนใหญ่จะทำงานร่วมกับลำโพงอัจฉริยะเพื่อให้เสียงดังและฟังชัดมากยิ่งขึ้น  นอกจากนี้สมาร์ททีวีบางเครื่องยังมาพร้อมกับคุณสมบัติสมาร์ทโฮมที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ดีอีกด้วย

รูปภาพจาก panasonic.com

Panasonic สมาร์ททีวี รุ่น TH-32HS550T

Android TV จอภาพคมชัด รับชมสตรีมมิ่งต่าง ๆ ได้อย่างจุใจ

ราคา 8,490 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาดทีวี : 32 นิ้ว

ขนาดตัวเครื่อง : 73.2 x 43.9 x 8.3 ซม.

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 3.5 กก.

เทคโนโลยีจอภาพ : Direct LED

ความคมชัดระดับ : HD 720p

ใช้ระบบ Android TV : ✔

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • ตัวทีวีมีความแม่นยำของภาพที่ยอดเยี่ยม
  • รองรับระบบ HDR ทำให้จอภาพมีความคมชัด
  • เชื่อมต่อกับระบบสตรีมมิ่งได้หลากหลายรวมถึง Netflix และ YouTube
ข้อควรพิจารณา

มีความคมชัดของจอภาพเพียง HD 720p เท่านั้น

Panasonic เป็นสมาร์ททีวีที่โดดเด่นในเรื่องของการออกแบบและคุณสมบัติที่น่าสนใจ ทำให้สมาร์ททีวีเครื่องนี้เป็นทีวีขนาด 32 นิ้วที่แข็งแกร่งอีกรุ่นหนึ่ง ตัวทีวีมีความคมชัดระดับ HD Ready LCD นอกจากนี้ยังใช้ไฟแบ็คไลท์ LED ดีไซน์เรียบหรูพร้อมตัวเลือกการติดตั้งทั้ง 2 แบบคือแบบตั้งพื้นหรือแบบติดผนังนั่นเอง  ตัวเครื่องมีคุณสมบัติการประมวลผลมากมายเพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพของภาพระดับสูงสุด เช่น ประสิทธิภาพคอนทราสต์สูง รองรับ HDR และการหรี่ไฟแบ็คไลท์แบบปรับได้ นอกจากนี้ยังมีโหมดภาพมากมายรวมถึงโหมดกีฬาและเกมโดยเฉพาะ สมาร์ททีวีขนาด 32 นิ้วนี้มี My Home Screen 3.0 ของ Panasonic ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับบริการสตรีมมิ่ง เช่น Netflix และ YouTube นอกจากนี้คุณสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชัน Android ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ในแง่ของการเชื่อมต่อตัวเครื่องมีอินพุต HDMI สองช่อง พอร์ต USB Bluetooth และ Wi-Fi ในตัว ระบบเสียงของตัวเครื่องก็ดีมากผ่านการเสริมด้วยโหมดเสียงหลายโหมด รวมถึงระบบเสียงรอบทิศทางเสมือนจริง
รูปภาพจาก tcl.com

TCL สมาร์ททีวี รุ่น 40S6500

สมาร์ททีวีระบบ Android TVควบคุมระบบการทำงานแบบอัจฉริยะด้วย Google Assistant

ราคา 8,690 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาดทีวี : 40 นิ้ว

ขนาดตัวเครื่อง : 90.09 x 51.63 x 7.41 ซม.

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 6.37 กก.

เทคโนโลยีจอภาพ : Direct LED

ความคมชัดระดับ : HD 1080p

ใช้ระบบ Android TV : ✔

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • สามารถเชื่อมต่อกับ Google Play ได้สะดวก ดู Netflix Disney+ hotstar และ YouTube ได้
  • ตัวเครื่องใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องติดตั้งให้ยุ่งยาก
  • เสียงดังและคมชัดด้วยระบบ Dolby Vision 
  • ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับคุณภาพ
ข้อควรพิจารณา

มีความคมชัดของจอภาพเพียง HD 720p เท่านั้น

TCL สมาร์ททีวีที่ราคาถูกมากทำให้ทีวีเครื่องนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับงบประมาณ คุณสามารถเปิดทีวีเพื่อใช้สตรีมมิ่งที่คุณชื่นชอบได้ เช่น Netflix Disney+ hotstar และ YouTube ได้อีกทั้งทีวียังเป็นระบบ Android TVสามารถเชื่อมต่อกับ Google Play ได้อย่างสะดวก เมื่อซื้อทีวีนี้ไปคุณจะสามารถเริ่มดูภาพยนตร์และรายการทีวีได้ทันทีที่แกะออกจากกล่อง เมนูหลักที่ปรับปรุงใหม่ทำให้ง่ายต่อการเลือกแอปและอุปกรณ์เล่นเกมคอนโซล ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอขนาด 40 นิ้วให้ความละเอียด 1080p ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นรายการและภาพยนตร์ที่คุณโปรดปรานทั้งหมดจึงมีภาพที่สวยงามได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งเสียงก็คมชัดมากเพราะระบบเสียงเป็นแบบ Dolby Vision ในการใช้งานคุณสามารถที่จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณให้เป็นรีโมตสั่งงานด้วยเสียงเพื่อการค้นหาและการท่องเว็บที่ง่ายขึ้นหรือคุณสามารถเชื่อมต่อทีวีของคุณกับลำโพงอัจฉริยะ Alexa หรือ Google Assistant เพื่อขยายการควบคุมด้วยเสียง  อีกทั้งทีวีมีช่องเสียบหูฟังสำหรับการฟังและเล่นเกมเป็นส่วนตัว เมื่อคุณไม่ต้องการให้เสียงรบกวนผู้อื่นในบ้าน อพาร์ตเมนต์หรือหอพักของคุณ
รูปภาพจาก th.sharp

Sharp Smart UHD TV 4K สมาร์ททีวี รุ่น 4T-C50BK1X

สมาร์ททีวีระบบ 4K มาพร้อมเทคโนโลยี HDR ช่วยให้มองเห็นภาพบนหน้าจอได้ชัด

ราคา 11,890 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาดทีวี : 50 นิ้ว

ขนาดตัวเครื่อง : 112.2 x 70.8 x 25.3 ซม.

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 12.5 กก.

เทคโนโลยีจอภาพ : LED

ความคมชัดระดับ : Ultra HD (4K)

ใช้ระบบ Android TV : ✔

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • รองรับ Wi-Fi และบลูทูธ ช่วยให้สามารถสตรีมเนื้อหาวิดีโอจาก Netflix, Music, Spotify และ Youtube ได้
  • มีแอปสตรีมมิ่งบางตัวในตัวเช่น Facebook, YouTube ฯลฯ ช่วยให้เข้าถึงระบบสังคมเกือบทั้งหมด
  • ตอบสนองทุกความต้องการด้านการสื่อสารบนเว็บไซต์
  • ตัวเครื่องมีระบบ 4K ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการรับชมภาพยนตร์ HD
ข้อควรพิจารณา
  • รีโมตบางเฉียบอาจจะแตกหักได้ง่าย
  • ไม่เหมาะสำหรับการใช้เล่นเกม
Sharp Smart UHD TV 4K สมาร์ททีวีที่ใช้เทคโนโลยีวิดีโอ HDR กลไกนี้ผสานเข้ากับเนื้อหาของทีวี 4k เพื่อให้ผู้ชมได้รับชมทีวีที่มีความละเอียดทั้งในแนวนอนหรือแนวตั้ง ตัวเครื่องจะสร้างเนื้อหาภาพ เสียงหรือวิดีโอที่คมชัด ตัวเครื่องมีมาตรฐานโทรทัศน์ความละเอียดสูงพิเศษ (UHDTV) ได้รับการรับรองโดย International Telecommunication Union & Consumer Technology Association อัตราส่วนภาพเป็นมาตรฐาน 16:9 ช่วยให้มองภาพได้ชัด ตัวเครื่องมีหน้าจอขนาดถึง 50 นิ้วเหมาะสำหรับบ้านขนาดใหญ่ มีระบบเสียง Original Surround ที่สามารถให้เสียงคมชัดรอบทิศทางเลยทีเดียว ตัวเครื่องสามารถรองรับแอปพลิเคชันได้อย่างหลากหลาย รวมถึง YouTube, Netflix, Music และ Spotify ตัวเครื่องสามารถเชื่อมต่อ WiFi ได้ ใช้งานได้อย่างสะดวกมากเลยทีเดียว
รูปภาพจาก mi.com

Xiaomi Mi สมาร์ททีวี P1 55 นิ้ว

ความชัดจอภาพระดับ 4K สามารถดูทีวีผ่านแอปได้มากกว่า 20 แอป

ราคา 15,990 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาดทีวี : 55 นิ้ว

ขนาดตัวเครื่อง : 123.4 x 28.5 x78 ซม.

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 11.7 กก.

เทคโนโลยีจอภาพ : QLED

ความคมชัดระดับ : Ultra HD (4K)

ใช้ระบบ Android TV : ✔

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • ตัวทีวีสามารถติดผนังหรือวางพร้อมขาตั้งก็ได้  
  • มาพร้อมระบบ Google Assistant ที่มาพร้อมไมโครโฟนบนรีโมต
  • มุมมองภาพ 178 องศา สามารถมองภาพได้ชัด
  • รองรับการดูทีวีผ่านแอปได้อย่างหลากหลาย รวมถึง YouTube, Netflix และ Disney+ Hotstar
ข้อควรพิจารณา

ตัวทีวีปรับขาตั้งไม่ได้

Xiaomi Mi สมาร์ททีวี 55 นิ้ว ถือว่าเป็นทีวีหนึ่งในรุ่นของ Xiaomi TV ที่ดีที่สุด ตัวหน้าจอมาพร้อม Ultra HD (4K) ซึ่งเป็นระบบ Smart Android TV ตัวหน้าจอแสดงผล 4K นั้นชัดมาก ๆ ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การรับชมได้เป็นอย่างดี เพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงวิดีโอที่มีคุณภาพสูงได้ ทีวีมีระดับคอนทราสต์ที่เหมาะสมที่สุดและสีสันที่หลากหลายช่วยให้ได้รับประสบการณ์การรับชมที่น่าพึงพอใจ ความละเอียดหน้าจอ Ultra HD (4K) 3840 x 2160 พิกเซล พร้อมมุมมองการรับชม 178 องศา มอบประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยม ตัวเครื่องจะมีโหมดภาพ 5 โหมด เช่น ภาพยนตร์ มาตรฐาน กีฬา แบบกำหนดเองและแบบสดใสเพื่อช่วยให้คุณสามารถดูภาพได้อย่างสดใส นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมคุณสมบัติวิดีโอที่มีประโยชน์อื่น ๆ ได้แก่ การควบคุมอุณหภูมิสีและการควบคุมสัญญาณรบกวนแบบไดนามิก โหมดเสียงต่าง ๆ ได้แก่ เกม แบบกำหนดเอง ภาพยนตร์ ข่าวและแบบมาตรฐาน มีเอาต์พุตเสียง 20 วัตต์พร้อมระบบเสียง Dolby™ เพียงพอสำหรับการเปิดฟังในห้องเพื่อให้ได้เสียงคมชัด ทีวีนี้เป็นทีวีแบบครบวงจรที่สามารถเข้าถึงวิดีโอที่หลากหลาย บนจอแสดงผล 4K คุณสามารถรับชมเนื้อหาจากแอปมากกว่า 20 แอป เช่น YouTube, Netflix และ Disney+ Hotstar ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทีวีที่ครบเครื่องมาก ๆ เลยทีเดียว
รูปภาพจาก sony.co.th

SONY โอแอลอีดี สมาร์ททีวี รุ่น KD-65A8G

สมาร์ททีวีหน้าจอคมชัด 4K มาพร้อมระบบเสียงที่ยอดเยี่ยม

ราคา 65,990 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาดทีวี : 65 นิ้ว

ขนาดตัวเครื่อง : 145 x 85.4 x 29 ซม.

น้ำหนักของตัวเครื่อง :  22.5 กก.

เทคโนโลยีจอภาพ : OLED

ความคมชัดระดับ : Ultra HD (4K)

ใช้ระบบ Android TV : ✔

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • ตัวทีวีมีคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม
  • สามารถเข้าถึงแอพโปรดของคุณได้อย่างรวดเร็ว 
  • สีสันมีความสมจริง ทีวีสว่างเพียงพอสำหรับการดูในเวลากลางวัน
  • รองรับ Google Assistant 
  • ลำโพงในตัวใช้งานได้ดี ตัวเสียงคมชัด
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูง
  • ไม่มีตัวเลือกสำหรับ Bluetooth A2DP (เช่น เอาต์พุตเสียง)
SONY OLED สมาร์ททีวีที่มีความหรูหราของสี ความชัดเจนของภาพและมีมุมมองการรับชมที่กว้าง ตัวทีวีนี้มาพร้อมหน้าจอ 65 นิ้ว มาพร้อมระบบ 4K Ultra HD Smart OLED TV ซึ่งจะทำให้คุณประทับใจในการดูภาพในหน้าจอทีวี ตัวเครื่องมีระบบ OLED ที่เปล่งแสงได้เองจำนวน 8 ล้านพิกเซล จอแสดงผล TRILUMINOUS ที่มีความคมชัดและความสว่าง เมื่อคุณรับชมทีวีเครื่องนี้คุณจะไม่พบภาพสะท้อน สามารถทำให้ดูภาพได้อย่างสบายตา นอกจากนี้ระบบ 4K HDR Processor X1 Extreme สามารถประมวลผลภาพในแบบเรียลไทม์ได้อย่างมีคุณภาพ เสียงที่เปล่งออกมาจากทีวีนั้นไม่ได้มาจากลำโพงเท่านั้นแต่ยังมาจากทั้งหน้าจออีกด้วย ซึ่งคุณสมบัตินี้เป็นคุณสมบัติที่ทันสมัยมาก คุณจะไม่สามารถพบคุณสมบัตินี้ได้ในทีวี LED หรือ OLED หรือ QLED ธรรมดา กระบวนการเสียงมาจากหน้าจอเกิดขึ้นเพราะตัวกระตุ้นด้านหลังทีวีที่สั่น เมื่อรวมกับแอคทูเอเตอร์คู่จะเป็นซับวูฟเฟอร์เพื่อให้เสียงเป็นเสียงเบสที่แน่น อีกทั้งยังมีระบบ ClearAudio+ เพื่อให้เสียงเอฟเฟกต์ที่ชัด นอกจากนี้ตัวเครื่องยังทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งให้Google Assistan และแค็ตตาล็อกแอป Play Store แก่คุณ พร้อมกับมีการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับ Apple Air Play, Apple Home Kit และ Chromecast อีกด้วย
รูปภาพจาก samsung.com

Samsung สมาร์ททีวีนีโอ คิวแอลอีดี รุ่น QA55QN85AAKXXT

สมาร์ททีวีอเนกประสงค์ ดูหนังและเล่นเกมได้สะดวก หน้าจอคมชัด มาพร้อมเสียงกระหึ่มรอบทิศทาง

ราคา 44,990 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ขนาดทีวี : 65 นิ้ว

ขนาดตัวเครื่อง : 146.3 x 84.8 x 17.2 ซม.

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 17.7 กก.

เทคโนโลยีจอภาพ : QLED 

ความคมชัดระดับ : Ultra HD (4K)

ใช้ระบบ Android TV : ✘

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • ทีวีมีคุณภาพของภาพและเสียงที่โดดเด่น
  • สลับแอปและใช้งานได้อย่างง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก 
  • มาพร้อมที่เก็บสายไฟในตัว
  • ความคมชัดของภาพระดับ 4K มอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้รับชม 
  • มีระบบ Quantum Dot ตัวสีชัดเจนและชัดแจ๋ว
ข้อควรพิจารณา

ราคาสูง

นี่เป็นหนึ่งในโทรทัศน์รุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung เพื่อช่วยยกระดับตัวเลือกความบันเทิงภายในบ้านของคุณ ตัวเครื่องใช้แผง LED ขนาดเล็กแบบใหม่ทั้งหมดและเทคโนโลยี QLED ของ Samsung เพื่อสร้างพิกเซลของรูปภาพที่มีความคมชัด ตัวเครื่องมีขอบเขตสีที่กว้างและคอนทราสต์ที่สมดุลให้กับจอภาพ ระบบของจอภาพเป็นแบบ 4K คมชัดและให้ภาพที่สวยงามสม่ำเสมอ ด้วยระบบปฏิบัติการ Tizen คุณจะสามารถใช้แอปที่โหลดไว้ล่วงหน้า เช่น Prime Video , Netflix และ SamsungTV+ เพื่อให้คุณเข้าถึงความบันเทิงสด ข่าวสารและกีฬาโดยไม่ต้องสมัครสมาชิกเคเบิลหรือดาวเทียมราคาแพง  ลำโพงในตัวใช้เทคโนโลยี SpaceFit Sound ซึ่งเป็นระบบใหม่ของ Samsung ที่ทำงานร่วมกับเซนเซอร์เชิงนิเวศเพื่อสร้างประสบการณ์เสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทางเสมือนจริง รีโมตสั่งงานด้วยเสียงทำงานร่วมกับ Youtube Thai Voice Search สำหรับการควบคุมแบบแฮนด์ฟรี ตัวเครื่องมีการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย ช่วยเพิ่มสไตล์ที่สวยงามให้กับโฮมเธียเตอร์ของคุณ ใครที่ต้องการเล่นเกมก็สามารถต่อกับทีวีนี้ได้เพราะมีระบบ 4K 120Hz  ให้ภาพที่เคลื่อนไหวแบบคมชัด

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อ

1. ขนาดของหน้าจอ

สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อซื้อสมาร์ททีวีก็คือขนาดหน้าจอ ขนาดหน้าจอจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่คุณต้องการวาง ขนาดห้อง และจำนวนคนที่จะรับชมในเวลาที่กำหนด ในการซื้อสมาร์ททีวีคุณสามารถวัดระยะห่างจากเตียง เก้าอี้ หรือโซฟาจากทีวีเพื่อค้นหาขนาดหน้าจอโดยประมาณที่ต้องการได้ ถ้าระยะการรับชมน้อยกว่า 1.5 เมตรให้เลือกทีวีขนาด 32 นิ้ว หากระยะห่างอยู่ระหว่าง 1.5 – 1.8 เมตรให้เลือกซื้อสมาร์ททีวี 43 นิ้ว สำหรับสมาร์ททีวี 46 หรือ 50 นิ้วยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดูทีวีที่มีระยะห่าง 1.8 – 2 เมตร สำหรับระยะทางการรับชมที่มากกว่า 2.5 เมตร คุณสามารถซื้อทีวี 50 และ 55 นิ้วได้ โดยปกติทีวีขนาด 40 นิ้วจะเหมาะกับห้องนั่งเล่น อย่างไรก็ตามหากคุณมีห้องขนาดใหญ่จะดีกว่าหากใช้ทีวีขนาด 46-50 นิ้วขึ้นไป แต่แน่นอนค่ะว่าการซื้อทุกอย่างไม่มีการบังคับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณพอใจ เพราะขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ทีวีก็จะยิ่งมีราคาสูงขึ้นเช่นกัน

2. หน้าจอของทีวี 

สมาร์ททีวีมีหน้าจอประเภทต่าง ๆ มากมายให้เราได้เลือกซื้อ ซึ่งหน้าจอทั้งหมดทำงานในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน เทคโนโลยีแต่ละอย่างมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน ดังนั้นนี่คือจุดสำคัญพื้นฐานบางประการที่ต้องพิจารณา

  • LED TV: Direct LED จอแสดงผลเหล่านี้ได้รับแสงพื้นหลังจากอาร์เรย์ของ LED (ไดโอดเปล่งแสง) ที่ด้านหลังหน้าจอโดยตรงจึงช่วยให้สามารถหรี่แสงเฉพาะที่ได้ ซึ่งหมายถึงตัวเครื่องจะแสดงผลได้ดีทั้งในพื้นที่ที่มีความสว่างและความมืด นอกจากนี้ทีวี LED ยังประหยัดพลังงานและมีช่วงสีที่ชัดเจนกว่า แต่เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงในการติดตั้งระบบอาร์เรย์ ทีวีราคาถูกจึงมักจะใช้หน้าจอ Edge-Lit LED แทนหน้าจอ LED แบบ Direct หรือ Full-Array
  • LED TV: Edge LED สำหรับทีวีเหล่านี้ไฟ LED ของแบ็คไลท์จะติดตั้งอยู่ที่ขอบของแผงควบคุม การจัดวางแบบนี้ทำให้ได้จอแสดงผลสวยงามและให้ระดับคอนทราสต์ที่เหนือกว่าระบบทั่วไปเล็กน้อย แต่หน้าจอแบบนี้ไม่มีประสิทธิภาพหากเทียบกับ Direct LED แต่หน้าจอทีวีนี้มีราคาถูกมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ทีวี LED ส่วนใหญ่ในปัจจุบันใช้เทคโนโลยีนี้
  • OLED TV ไฟแบ็คไลท์บนชุด OLED ทำได้โดยการส่งกระแสไฟฟ้าผ่านฟิล์มเรืองแสงที่เปล่งแสงออกมา เทคนิคนี้ให้สีของทีวีได้ดีกว่า ให้คอนทราสต์สูงและยังช่วยให้หน้าจอของทีวีมีความบางและยืดหยุ่นเป็นพิเศษอีกด้วย นี่คือเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สมาร์ททีวีแบรนด์ LG, Sony, Philips และ Panasonic ได้นำมาใช้
  • QLED (Quantum Dot) QLED หรือ Quantum Dot LED TV เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างระบบ OLED และระบบ LED เทคโนโลยีหน้าจอใหม่นี้ใช้เลเยอร์จุดควอนตัมระหว่างไฟพื้นหลัง LED และเลเยอร์ LCD ส่งผลให้ได้สีและความสว่างที่ดีกว่าระบบ LED Quantum Dot เป็นระบบภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ททีวี Samsung ที่มักจะทำงานร่วมกับ LED TV เทคโนโลยีนี้สามารถผลิตภาพที่มีสีสันได้ดีมากกว่า อีกทั้งยังมีความคมชัดที่เหนือชั้นกว่าอีกด้วย นอกจากนี้ทีวีเหล่านี้ยังมีสีสันที่สดใสมาก ๆ เหมาะสำหรับการใช้ดูหนังมาก

3. เทคโนโลยีคุณภาพเสียง

  • Dolby : ระบบเสียงแบบนี้มักจะมาพร้อมเสียงเซอร์ราวด์ 5 ช่องสัญญาณ เสียงดิจิตอลนี้ได้อำนวยความสะดวกในการแปลงสัญญาณเสียงเป็นรูปแบบดิจิตอลผ่านการเข้ารหัส ดังนั้นเราจะได้รับประสบการณ์ด้านเสียงที่ดี สมาร์ททีวีในปัจจุบันมักจะใช้ระบบนี้ ทำให้มีความชัดเจนของเสียงที่ดีมาก ดังนั้นเมื่อเปิดสมาร์ททีวีที่มีระบบเสียงนี้จะทำให้คุณได้รับความสนุกสุดมันเมื่อดูหนังนั่นเอง
  • DTS : ระบบเสียง DTS มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับระบบ Dolby ในการผลิตเสียงเซอร์ราวด์ ในตอนเริ่มต้น DTS จะผลิตเสียงผ่านรูปแบบเสียงเซอร์ราวด์หลายรูปแบบ เริ่มจาก 5 ช่อง ไปจนถึง 7 ช่องทำให้เสียงมีความคมชัดพอ ๆ กับระบบ Dolby หากคุณต้องการระบบเสียงแบบนี้ให้มองหาคำย่อในทีวี เช่น DTS, DTS HD เป็นต้น

4. เทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อ

การเชื่อมต่อเป็นสิ่งที่ทำให้สมาร์ททีวีรุ่นปัจจุบันมีความฉลาด “การเชื่อมต่อ” ที่เราพูดถึงเราหมายถึงการมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เพราะการจะดูทีวีให้มีประสิทธิภาพนั้นทีวีจะต้องให้ความบันเทิงสูงสุดผ่านสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อนำเนื้อหาที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ตไปยังทีวีหน้าจอขนาดใหญ่ของ ของคุณ โดยการเชื่อมต่อนั้นมีหลายวิธีมากโดยคุณสามารถมองหาได้ดังนี้ค่ะ

  • Chromecast : ตอนนี้สมาร์ททีวีส่วนใหญ่มาพร้อมกับ Chromecast ในตัว คุณสามารถใช้ผ่านสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าถึงเนื้อหาเสียง วิดีโอและดูบนหน้าจอทีวีของคุณได้ เป็นการดีที่คุณไม่ต้องลำบากมากในการเข้าถึง YouTube, Netflix, Amazon Prime, Google Play, HotStar ฯลฯ เพราะรีโมคคอนโทรลของระบบนี้มักจะมาพร้อมกับปุ่มเฉพาะเพื่อให้เข้าถึงความบันเทิงได้ง่ายในคลิกเดียว
  • Bluetooth : Bluetooth เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและค่อนข้างมีประสิทธิภาพ คุณยังสามารถใช้เพื่อเชื่อมต่อทีวีของคุณกับลำโพงเพื่อเพลิดเพลินกับเสียงเพลงที่ไพเราะ วิธีการใช้งานของ Bluetooth ยังคงเหมือนเดิม เพียงจับคู่อุปกรณ์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อ เมื่อจับคู่อุปกรณ์แล้วคุณสามารถดูเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดายบนโทรทัศน์โดยใช้อุปกรณ์ที่จับคู่ (การ์ดข้อมูล สายเคเบิลข้อมูล ฯลฯ) หากต้องการคุณยังสามารถจำลองการแสดงผลของสมาร์ทโฟนหรือแล็ปท็อปบนหน้าจอทีวีที่ใหญ่ขึ้นเพื่อเพลิดเพลินกับภาพที่ใหญ่ขึ้นและมีคุณภาพสูงมากขึ้นนั่นเอง
  • พอร์ต HDMI และ USB : พอร์ต HDMI และ USB มักจะมีให้ในทีวีเพื่อรองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น การ์ดข้อมูลหรือสายเคเบิลข้อมูล คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์และเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้โดยใช้พอร์ตเหล่านี้

เมื่อทีวีของคุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแล้ว คุณสามารถชมภาพยนตร์ วิดีโอ รายการโทรทัศน์ ฯลฯ ได้ตามต้องการ ด้วยการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทางเลือกของคุณจึงไร้ขีดจำกัด และหากคุณชอบการเล่นเกมมากสมาร์ททีวีก็มีเกมคอนโซลเช่นกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันนับร้อยผ่าน Google Play Store นั่นเอง

5. โพรเซสเซอร์

เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ทีวีก็มีชิปโพรเซสเซอร์สำหรับประมวลผลวิดีโอเช่นกัน ยิ่งโพรเซสเซอร์มีประสิทธิภาพมากเท่าใด ผลการประมวลผลวิดีโอก็จะยิ่งดีขึ้นและเร็วขึ้นเท่านั้น หากโพรเซสเซอร์ไม่มีประสิทธิภาพเราจะเห็นผลกระทบของโพรเซสเซอร์ในปัญหาต่าง ๆ เช่น การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในภาพที่สโลว์โมชั่นหรือมีภาพเบลอเป็นต้น โพรเซสเซอร์มีความสามารถในการตรวจจับแสงโดยรอบในห้องที่ติดตั้งทีวีของคุณ หลังจากตรวจพบแล้วโพรเซสเซอร์จะปรับระดับความสว่างเพื่อให้มองเห็นภาพได้ชัดเจน

6. ความละเอียดของหน้าจอ

ความละเอียดหน้าจอเป็นตัวกำหนดจำนวนพิกเซลบนหน้าจอ หากทีวีที่มีความละเอียดที่สูงขึ้นหมายถึงจำนวนพิกเซลและคุณภาพของภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น ปัจจุบันเราไม่แนะนำให้ซื้อสมาร์ททีวีที่รองรับ HD แต่ให้เลือกใช้ระบบ Full-HD หรือ 4K แทนหากงบประมาณของคุณเอื้ออำนวย ระบบUltra-HD (4K) มีจำนวนพิกเซลมากกว่า Full-HD ถึง 4 เท่า ดังนั้นวัตถุบนหน้าจอจะดูสมบูรณ์และมีรายละเอียดมากขึ้น ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีตอนนี้เรายังมีทีวีที่มีความคมชัดถึง 8K ด้วย นอกจากนี้ คุณควรตรวจสอบว่าทีวีมี HDR หรือไม่ HDR หรือ High Dynamic Range ที่จะช่วยเพิ่มสีสัน เพิ่มระดับคอนทราสต์ที่มากขึ้นและให้ความสว่างที่เพิ่มขึ้นด้วย ทีวี 4K ส่วนใหญ่รองรับมาตรฐาน HDR10 ซึ่งจะทำให้มีสีที่ชัดมาก

7. Refresh Rate

อัตราการรีเฟรชคือจำนวนครั้งที่จอจะแสดงผลเนื้อหาต่อวินาที อัตรารีเฟรชเรตถูกกำหนดเป็นเฮิรตซ์ (Hz) อัตราการรีเฟรชมาตรฐานสำหรับการแสดงทีวีคือ 60Hz อย่างไรก็ตามหากคุณซื้อทีวีราคาแพง คุณควรมองหาตัวเลขที่สูงกว่า อัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้น เช่น 90Hz, 120Hz, 144Hz หรือมากกว่า อัตรารีเฟรชที่มากกว่าจะให้การเคลื่อนไหวที่ราบรื่นยิ่งขึ้น คุณจะไม่เห็นความพร่ามัวในภาพที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว คุณสมบัตินี้ไม่ใช่คุณสมบัติที่ต้องมี แต่เป็นสำคัญหากคุณวางแผนที่จะเล่นเกมหรือใช้ทีวีเป็นจอภาพสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ