ประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่มีแสงแดดตลอดทั้งปี แม้ว่าจะมีฝนและเมฆมากเป็นบางช่วง แต่ก็ยังมีแสงแดดส่องผ่านเข้ามาอยู่ดี ซึ่งปกติแล้วดวงอาทิตย์จะปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี) ออกมา โดยมันสามารถสร้างความเสียหายให้กับผิวของคุณได้ ถ้าหากคุณอยู่ภายใต้แสงแดดที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน ๆ ผิวของคุณจะไหม้ และจะเริ่มสูญเสียความกระชับส่งผลให้เกิดสัญญาณของริ้วรอยก่อนวัย รอยคล้ำ และกระบนใบหน้า (1),(2) ดังนั้นเพื่อป้องกันการถูกแดดเผา และลดความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดบนผิวของคุณ คุณจะต้องใช้ “ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า” ค่ะ
ซึ่งครีมกันแดดจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันที่กั้นระหว่างผิวของคุณและรังสียูวีเพื่อป้องกันความร้อนและอันตรายจากแสงแดด ขอบอกเลยว่า แม้อันตรายจากดวงอาทิตย์จะมองไม่เห็นหรือมีอุณหภูมิไม่สูงนัก แต่รังสีอัลตราไวโอเลตและรังสีอื่น ๆ ที่ปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ยังคงเป็นอันตรายต่อผิวของคุณและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ (1) สำหรับครีมกันแดดนั้น จะแตกต่างจากเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางชนิดที่ให้ผลลัพธ์ที่มองเห็นได้ทันที เพราะปกติแล้วครีมกันแดดที่ทาบนผิว จะไม่ได้ให้ความขาว กระจ่างใสมากนัก แต่จะช่วยป้องกันความเสียหายจากรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งถ้าหากคุณ ทาครีมกันแดดบนผิวหน้า ตัวครีมจะช่วยปกป้องผิวของคุณในระยะยาว หากคุณใช้เป็นประจำ คุณจะสังเกตเห็นได้เลยว่า ผิวของคุณดูอ่อนกว่าวัยกว่าคนที่ไม่ทาครีมกันแดดค่ะ หากวันนี้คุณกำลังมองหา ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า อยู่ เราก็มีสินค้าและคำแนะนำในการเลือกซื้อมาฝากกันค่ะ
ซื้อ ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี
- ครีมกันแดดช่วยดูแลผิว สามารถกันน้ำและเหงื่อได้สูงสุด 80 นาที: Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk
- ครีมกันแดดเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่ทิ้งคราบขาวไว้บนผิว: BIORE UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++
- ครีมกันแดดเนื้อแมตต์ เกลี่ยง่าย ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดสิว: La Roche Posay Anthelios XL Drytouch SPF 50+
- เนื้อสัมผัสแบบเจล ให้ความแมตต์ทันที ตอบโจทย์ผู้ที่มีผิวมัน: Eucerin Sun Dry Touch Oil Control Face SPF50+
- ช่วยปกป้องแสงแดดได้นานถึง 8 ชม. ไร้สารเคมีจึงไม่อันตรายต่อผิว: Smooth E Physical White Babyface SPF50+ PA+++
- ครีมกันแดดในตำนาน อ่อนโยนปราศจากกลิ่น กันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ: MizuMi UV Water Serum SPF50+ PA++++
ทำไมต้องใช้ ครีมกันแดด ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวของเราอย่างไร ?
ครีมกันแดด ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิว เราสามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะที่เพื่อดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่เป็นอันตราย ปกติแล้วครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวของเราจากการระคายเคือง ผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัย และแม้กระทั่งมะเร็งผิวหนัง (1) เราขอบอกเลยว่าการทาครีมกันแดด ไม่ควรจำกัดอยู่แค่ช่วงฤดูร้อนเพียงอย่างเดียวค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ หรือมรสุม เราก็ต้องทาครีมกันแดดค่ะ เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ แสงจากหลอดไฟ และแสงสีฟ้าของหน้าจอสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตก็เป็นอันตรายกับผิวของเราได้เช่นกัน (3) ดังนั้นป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าค่ะ ต่อไปนี้เราไปดูกันว่าทำไมเราจึงควรใช้ครีมกันแดด และเราก็จะพาไปดูประโยชน์ต่าง ๆ ของครีมกันแดดกันค่ะ
- ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนัง : การใช้ครีมกันแดดเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้ (4) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของมะเร็งผิวหนัง ซึ่งเป็นหนึ่งในภาวะที่ร้ายแรงที่สุดที่ทำให้เกิดอัตราการเสียชีวิตถึง 75%
- ช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัย : การใช้ครีมกันแดดสามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยของใบหน้าที่เกิดจากแสงอัลตราไวโอเลต อีกทั้งยังสามารถช่วยชะลอการพัฒนาของผิวหนังที่หยาบกร้าน และริ้วรอยส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์อยู่ตลอดเวลา (5)
- ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ : ครีมกันแดดช่วยในการรักษาโทนสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ และนอกจากการชะลอความชราของผิวแล้ว ครีมกันแดดยังช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีผิวและช่วยป้องกันจุดด่างดำบนใบหน้าอีกด้วย
- ป้องกันการโดนแดดเผา : การถูกแดดเผาเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นทันที แต่ความเสียหายจากแสงแดดเกิดขึ้นตลอดช่วงชีวิต (2) แม้ว่าการอาบแดดและความเสียหายจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีผิวสีอ่อนกว่า แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีโทนสีเข้มได้เท่าๆ กัน
- ครีมกันแดดมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ : ครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ง่ายมาก และมีรูปแบบมากมายให้เราได้เลือกใช้ เช่น สเปรย์ ครีม เจล และครีมกันแดดแบบผสมมอยส์เจอไรเซอร์ ด้วยเหตุนี้การทาครีมกันแดดจึงสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ
แต่ก่อนที่คุณจะซื้อครีมกันแดด คุณจะต้องเข้าใจถึงประโยชน์ของการใช้ครีมกันแดด และเหตุผลที่ต้องใช้เป็นประจำ อีกทั้งคุณควรรู้ด้วยว่าต้องใช้ครีมกันแดดบ่อยแค่ไหน ? หากคุณรู้จักครีมกันแดดดี คุณจะสามารถปกป้องผิวของคุณจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ ในการทาครีมกันแดดเราขอแนะนำเลยว่า ให้ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ถึงแม้คุณอาจไม่ได้ตระหนักถึงประโยชน์ของมันในตอนนี้ แต่ในระยะยาวคุณจะสังเกตเห็นผลได้อย่างชัดเจนแน่นอน และในการทาครีมกันแดดทุกครั้งควรทาครีมกันแดดทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความเสียหาย หากเป็นครีมกันแดดผิวหน้า เราขอแนะนำให้ใช้ครีมร่วมกับสเปรย์กันแดดเนื้อน้ำ เพื่อการป้องกันแบบสูงสุดค่ะ
Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk
ครีมกันแดดช่วยดูแลผิว สามารถกันน้ำและเหงื่อได้สูงสุด 80 นาที
ราคา 469 บาท*
ข้อมูลสินค้า
รูปแบบผลิตภัณฑ์ : น้ำนม
ประเภทของครีมกันแดด : แบบผสม
ปริมาณ : 60 มล.
ค่า SPF/PA : SPF50+ PA++++
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ผิวแห้งและผิวธรรมดา
กันน้ำและกันเหงื่อ : ✔
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ผสานเทคโนโลยีการดูแลผิวชั้นยอด
- ปกป้องผิวจากความร้อนและแสงแดดได้ดีมาก
- ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว เมื่อทาแล้วผิวจะไม่แห้ง
- กันน้ำและเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ทาเป็นไพรเมอร์ได้
ข้อควรพิจารณา
ไม่เหมาะกับผิวมันเพราะอาจจะทำให้หน้ามันเยิ้ม
BIORE UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++
ครีมกันแดดเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่ทิ้งคราบขาวไว้บนผิว
ราคา 349 บาท*
ข้อมูลสินค้า
รูปแบบผลิตภัณฑ์ : เอสเซนส์
ประเภทของครีมกันแดด : แบบเคมี
ปริมาณ : 50 มล.
ค่า SPF/PA : SPF 50+ PA++++
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ทุกสภาพผิว
กันน้ำและกันเหงื่อ : ✔
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ตัวเนื้อสัมผัสมีความบางเบามาก ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ
- กันน้ำและเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและกระจ่างใส
- มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกไม่ทำให้ผิวแห้ง
ข้อควรพิจารณา
มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม
La Roche Posay Anthelios XL Drytouch SPF 50+
ครีมกันแดดเนื้อแมตต์ เกลี่ยง่าย ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดสิว
ราคา 1,105 บาท*
ข้อมูลสินค้า
รูปแบบผลิตภัณฑ์ : เจล
ประเภทของครีมกันแดด : แบบเคมี
ปริมาณ : 50 มล.
ค่า SPF/PA : SPF 50+
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ทุกสภาพผิว
กันน้ำและกันเหงื่อ : ✔
เหตุผลที่ควรซื้อ
- เนื้อสัมผัสจะบางเบา ไม่ทำให้ผิวเกิดความมันและก็ไม่ทำให้ผิวแห้ง
- ไม่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว
- ช่วยป้องกันจุดด่างดำจากแสงแดดได้ดีมาก
- ปกป้องรังสียูวีได้ทั้ง UVA และ UVB
ข้อควรพิจารณา
ราคาค่อนข้างสูง
Eucerin Sun Dry Touch Oil Control Face SPF50+
เนื้อสัมผัสแบบเจล ให้ความแมตต์ทันที ตอบโจทย์ผู้ที่มีผิวมัน
ราคา 1,260 บาท*
ข้อมูลสินค้า
รูปแบบผลิตภัณฑ์ : เจล
ประเภทของครีมกันแดด : แบบเคมี
ปริมาณ : 50 มล.
ค่า SPF/PA : SPF 50+ PA+++
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ผิวมันหรือผิวที่เป็นสิวได้ง่าย
กันน้ำและกันเหงื่อ : ✔
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ครีมกันเเดดช่วยปกป้องได้ทั้ง UVA และ UVB
- ให้ความแมตต์ ช่วยควบคุมความมันได้ดีมาก
- กันน้ำและเหงื่อได้มีประสิทธิภาพ ควบคุมได้ตลอดทั้งวัน
- ป้องกันผิวจากริ้วรอย กระและฝ้าได้ดี
ข้อควรพิจารณา
อาจจะไม่เหมาะกับผิวแห้ง
Smooth E Physical White Babyface SPF50+ PA+++
ช่วยปกป้องแสงแดดได้นานถึง 8 ชม. ไร้สารเคมีจึงไม่อันตรายต่อผิว
ราคา 709 บาท*
ข้อมูลสินค้า
รูปแบบผลิตภัณฑ์ : ครีม
ประเภทของครีมกันแดด : แบบกายภาพ
ปริมาณ : 40 มล.
ค่า SPF/PA : SPF50+ PA+++
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ทุกสภาพผิว
กันน้ำและกันเหงื่อ : ✔
เหตุผลที่ควรซื้อ
- กันน้ำและกันแดดได้ยาวนานโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
- ส่วนผสมส่วนใหญ่มาจากธรรมชาติ ไม่มีสารอันตราย
- ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ในขณะเดียวกันก็จะช่วยปลอมประโลมผิวด้วย
- ป้องกันผิวไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา
อาจจะมีความมันเยิ้มได้ระหว่างวัน
MizuMi UV Water Serum SPF50+ PA++++
ครีมกันแดดในตำนาน อ่อนโยนปราศจากกลิ่น กันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ราคา 1,380 บาท*
ข้อมูลสินค้า
รูปแบบผลิตภัณฑ์ : เซรั่ม
ประเภทของครีมกันแดด : แบบกายภาพ
ปริมาณ : 40 มล.
ค่า SPF/PA : SPF50+ PA++++
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ทุกสภาพผิว
กันน้ำและกันเหงื่อ : ✔
เหตุผลที่ควรซื้อ
- เป็นครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น
- ไม่ทำให้หน้ามันและให้ลุคแมตต์
- ไม่ทิ้งคราบสีขาวไว้บนผิวของเรา
- ไม่มีกลิ่นเพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม
ข้อควรพิจารณา
ต้องให้ความชุ่มชื้นกับผิวก่อนใช้เพราะผิวอาจจะแห้งเกินไป
วิธีเลือกซื้อครีมแดดสำหรับผิวหน้าที่ดีที่สุด
1. ประเภทของครีมกันแดด
ในปัจจุบัน ครีมกันแดด สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้
1.1 ครีมกันแดดทางกายภาพ : หรือบางครั้งเรียกว่า ครีมกันแดดแร่ มักจะมีส่วนผสม เช่น ไททาเนียมไดออกไซด์และซิงค์ออกไซด์ ซึ่งเป็นเกราะป้องกันเพื่อสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลต ข้อเสีย คือ ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมเหล่านี้มักจะทิ้งคราบสีขาวทำให้เกลี่ยได้ยากมาก ๆ
1.2 ครีมกันแดดทางเคมี : ในทางกลับกันครีมกันแดดแบบเคมีทำมาจากส่วนผสม เช่น oxybenzone, avobenzone, octisalate, octocrylene, homosalate และ octinoxate ซึ่งสามารถดูดซับแสงแดด ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมี ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนเพียงเล็กน้อยกับผิว และถึงแม้จะไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง แต่เมื่อคนที่มีผิวแพ้ง่ายทาผิวหนังก็อาจเกิดรอยแดงได้
นอกจากครีมกันแดดทางกายภาพและครีมกันแดดทางเคมีแล้วก็ยังมีครีมกันแดดแบบผสมเช่นกัน ซึ่งครีมกันแดดแบบผสมจะมีส่วนผสมจากธรรมชาติ และเคมีไว้ในหลอดเดียวสามารถใช้ได้ง่าย อีกทั้งยังไม่ทิ้งคราบขาวเอาไว้ค่ะ ขอบอกเลยว่าครีมกันแดดแบบผสมเป็นครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับใช้กับใบหน้ามากที่สุดค่ะ
2. ระดับ SPF และ PA
เมื่อพูดถึงครีมกันแดดสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ระดับ SPF และ PA เพราะเราขอบอกเลยว่าการทาครีมกันแดดลงบนผิวของคุณเป็นชั้น ๆ ติดกันหลายชั้น จะไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้เลย หากครีมกันแดดนั้นไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ ในการเลือกซื้อครีมกันแดดเราขอแนะนำให้เลือกซื้อครีมกันแดดที่ SPF50 เพราะมันจะสามารถป้องกันรังสี UVB ได้ถึง 98% นอกจากค่า SPF แล้วเราขอให้มองหาการจัดอันดับ PA หรือที่เรียกว่า Protection Grade เพราะถ้าหากครีมกันแดดยิ่งมีเครื่องหมาย “+” มากเท่าไหร่ การป้องกันรังสี UVA ก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วครีมกันแดดที่คุณซื้อต้องมีค่า PA อย่างน้อย PA +++ (3 บวก) ขอบอกเลยว่าทั้งค่า SPF และ PA จะทำงานควบคู่กัน เพื่อปกป้องคุณจากรังสีอัลตราไวโอเลตทั้ง 2 ประเภท อีกทั้งยังช่วยป้องกันผิวไหม้จากแดด และความเสียหายที่แทรกซึมลึกเข้าไปในชั้นของผิวหนัง
3. สภาพผิว
ครีมกันแดดนั้นมีหลากหลายชนิด ซึ่งก็มักจะถูกออกแบบมาเพื่อผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ สำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง เราขอแนะนำให้มองหาครีมกันแดดที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เช่น ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก เพราะครีมชนิดนี้จะดูดความชื้นจากสิ่งแวดล้อม สำหรับผิวมันและผิวผสม เลือกโลชั่นหรือครีมกันแดดสูตรเจล เพราะครีมกันแดดแบบนี้จะมีน้ำหนักเบาและไม่ทิ้งความมันไว้บนใบหน้า อีกทั้งเราอยากให้คุณมองหาฉลาก “Non-Comedogenic” และ “ปราศจากน้ำมัน” เพื่อป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตันค่ะ สำหรับผิวบอบบาง และเป็นสิวง่าย ให้เลือกครีมกันแดดที่ปราศจากน้ำหอมและควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ด้วยค่ะ
4. หลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีน้ำมัน
ผู้ที่มีผิวมันคงจะเข้าใจถึงความลำบากในการทาครีมกันแดดดี เพราะเราคงไม่ต้องการให้ผิวของตัวเอง โดนแสงแดดทำร้าย แต่อีกทางหนึ่ง คุณก็คงไม่ชอบครีมกันแดดที่ทำให้ผิวมันเยิ้ม เราขอบอกเลยว่า แม้ว่าแบรนด์ครีมกันแดดจำนวนมากอาจจะมีเนื้อสัมผัสที่มันเยิ้ม แต่ก็ไม่เสมอไปค่ะ ทางออกที่ดีที่สุดของคุณก็คือ เลือกซื้อครีมกันแดดที่เป็นสูตรปราศจากน้ำมัน ครีมกันแดดสูตรนี้จะโปร่งสบาย และบางเบา ซึ่งไม่เพียงแต่ทำงานได้ดีภายใต้การแต่งหน้าเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ซ้ำกับเครื่องสำอางได้โดยไม่อุดตันรูขุมขนหรือทำลายลุคการหน้าของคุณ
5. กันน้ำและกันเหงื่อ
ครีมกันแดดที่ดีที่สุดจะติดทนนานตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่ร้อน และชื้น เมื่อเราซื้อเครื่องสำอางเราก็ต้องซื้อเครื่องสำอางที่กันน้ำและกันเหงื่อ นับประสาอะไรกับครีมกันแดด หากคุณซื้อครีมกันแดดที่ไม่กันน้ำและเหงื่อ ผิวของคุณต้องประสบกับความมันเยิ้ม และเมื่อสัมผัสกับน้ำหรือเหงื่อครีมกันแดดก็จะเสื่อมประสิทธิภาพ และไม่สามารถกันแดดได้นั่นเองค่ะ ดังนั้นเพื่อป้องกันไว้ก่อนให้เลือกครีมกันแดดที่กันน้ำและเหงื่อได้
อ้างอิง
(1) Ultraviolet (UV) Radiation and Sun Exposure
(3) Can Light Emitted from Smartphone Screens and Taking Selfies Cause Premature Aging and Wrinkles?