ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี? – ทาง่ายหน้าไม่มัน ติดทนนาน สู้แดดอย่างมั่นใจ

ครีมกันแดด สำหรับผิวหน้า ที่ดีที่สุด
ครีมกันแดด สำหรับผิวหน้า ที่ดีที่สุด

ประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่มีแสงแดดตลอดทั้งปี แม้ว่าจะมีฝนและเมฆมากเป็นบางช่วง แต่ก็ยังมีแสงแดดส่องผ่านเข้ามาอยู่ดี ซึ่งปกติแล้วดวงอาทิตย์จะปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี) ออกมา โดยมันสามารถสร้างความเสียหายให้กับผิวของคุณได้ ถ้าหากคุณอยู่ภายใต้แสงแดดที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน ๆ ผิวของคุณจะไหม้ และจะเริ่มสูญเสียความกระชับส่งผลให้เกิดสัญญาณของริ้วรอยก่อนวัย รอยคล้ำ และกระบนใบหน้า (1),(2) ดังนั้นเพื่อป้องกันการถูกแดดเผา และลดความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดบนผิวของคุณ คุณจะต้องใช้ “ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า” ค่ะ

ซึ่งครีมกันแดดจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันที่กั้นระหว่างผิวของคุณและรังสียูวีเพื่อป้องกันความร้อนและอันตรายจากแสงแดด ขอบอกเลยว่า แม้อันตรายจากดวงอาทิตย์จะมองไม่เห็นหรือมีอุณหภูมิไม่สูงนัก แต่รังสีอัลตราไวโอเลตและรังสีอื่น ๆ ที่ปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ยังคงเป็นอันตรายต่อผิวของคุณและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ (1) สำหรับครีมกันแดดนั้น จะแตกต่างจากเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางชนิดที่ให้ผลลัพธ์ที่มองเห็นได้ทันที เพราะปกติแล้วครีมกันแดดที่ทาบนผิว จะไม่ได้ให้ความขาว กระจ่างใสมากนัก แต่จะช่วยป้องกันความเสียหายจากรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งถ้าหากคุณ ทาครีมกันแดดบนผิวหน้า ตัวครีมจะช่วยปกป้องผิวของคุณในระยะยาว หากคุณใช้เป็นประจำ คุณจะสังเกตเห็นได้เลยว่า ผิวของคุณดูอ่อนกว่าวัยกว่าคนที่ไม่ทาครีมกันแดดค่ะ หากวันนี้คุณกำลังมองหา ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า อยู่ เราก็มีสินค้าและคำแนะนำในการเลือกซื้อมาฝากกันค่ะ

ซื้อ ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี

[summary item=”5161,5164,5167,5170,5173,5176″]

ทำไมต้องใช้ ครีมกันแดด ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวของเราอย่างไร ?

ครีมกันแดด ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิว เราสามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะที่เพื่อดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่เป็นอันตราย ปกติแล้วครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวของเราจากการระคายเคือง ผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัย และแม้กระทั่งมะเร็งผิวหนัง (1) เราขอบอกเลยว่าการทาครีมกันแดด ไม่ควรจำกัดอยู่แค่ช่วงฤดูร้อนเพียงอย่างเดียวค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ หรือมรสุม เราก็ต้องทาครีมกันแดดค่ะ เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ แสงจากหลอดไฟ และแสงสีฟ้าของหน้าจอสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตก็เป็นอันตรายกับผิวของเราได้เช่นกัน (3) ดังนั้นป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าค่ะ ต่อไปนี้เราไปดูกันว่าทำไมเราจึงควรใช้ครีมกันแดด และเราก็จะพาไปดูประโยชน์ต่าง ๆ ของครีมกันแดดกันค่ะ

  • ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนัง : การใช้ครีมกันแดดเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้ (4)  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของมะเร็งผิวหนัง ซึ่งเป็นหนึ่งในภาวะที่ร้ายแรงที่สุดที่ทำให้เกิดอัตราการเสียชีวิตถึง 75% 
  • ช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัย : การใช้ครีมกันแดดสามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยของใบหน้าที่เกิดจากแสงอัลตราไวโอเลต อีกทั้งยังสามารถช่วยชะลอการพัฒนาของผิวหนังที่หยาบกร้าน และริ้วรอยส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์อยู่ตลอดเวลา (5) 
  • ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ : ครีมกันแดดช่วยในการรักษาโทนสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ และนอกจากการชะลอความชราของผิวแล้ว ครีมกันแดดยังช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีผิวและช่วยป้องกันจุดด่างดำบนใบหน้าอีกด้วย
  • ป้องกันการโดนแดดเผา : การถูกแดดเผาเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นทันที แต่ความเสียหายจากแสงแดดเกิดขึ้นตลอดช่วงชีวิต (2) แม้ว่าการอาบแดดและความเสียหายจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีผิวสีอ่อนกว่า แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีโทนสีเข้มได้เท่าๆ กัน
  • ครีมกันแดดมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ : ครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ง่ายมาก และมีรูปแบบมากมายให้เราได้เลือกใช้ เช่น สเปรย์ ครีม เจล และครีมกันแดดแบบผสมมอยส์เจอไรเซอร์ ด้วยเหตุนี้การทาครีมกันแดดจึงสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ

แต่ก่อนที่คุณจะซื้อครีมกันแดด คุณจะต้องเข้าใจถึงประโยชน์ของการใช้ครีมกันแดด และเหตุผลที่ต้องใช้เป็นประจำ อีกทั้งคุณควรรู้ด้วยว่าต้องใช้ครีมกันแดดบ่อยแค่ไหน ? หากคุณรู้จักครีมกันแดดดี คุณจะสามารถปกป้องผิวของคุณจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ ในการทาครีมกันแดดเราขอแนะนำเลยว่า ให้ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ถึงแม้คุณอาจไม่ได้ตระหนักถึงประโยชน์ของมันในตอนนี้ แต่ในระยะยาวคุณจะสังเกตเห็นผลได้อย่างชัดเจนแน่นอน และในการทาครีมกันแดดทุกครั้งควรทาครีมกันแดดทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความเสียหาย หากเป็นครีมกันแดดผิวหน้า เราขอแนะนำให้ใช้ครีมร่วมกับสเปรย์กันแดดเนื้อน้ำ เพื่อการป้องกันแบบสูงสุดค่ะ

[product_table item=”5161,5164,5167,5170,5173,5176″]

วิธีเลือกซื้อครีมแดดสำหรับผิวหน้าที่ดีที่สุด

1. ประเภทของครีมกันแดด

ในปัจจุบัน ครีมกันแดด สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้

1.1 ครีมกันแดดทางกายภาพ : หรือบางครั้งเรียกว่า ครีมกันแดดแร่ มักจะมีส่วนผสม เช่น ไททาเนียมไดออกไซด์และซิงค์ออกไซด์ ซึ่งเป็นเกราะป้องกันเพื่อสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลต ข้อเสีย คือ ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมเหล่านี้มักจะทิ้งคราบสีขาวทำให้เกลี่ยได้ยากมาก ๆ

1.2 ครีมกันแดดทางเคมี : ในทางกลับกันครีมกันแดดแบบเคมีทำมาจากส่วนผสม เช่น oxybenzone, avobenzone, octisalate, octocrylene, homosalate และ octinoxate ซึ่งสามารถดูดซับแสงแดด ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมี ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนเพียงเล็กน้อยกับผิว และถึงแม้จะไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง แต่เมื่อคนที่มีผิวแพ้ง่ายทาผิวหนังก็อาจเกิดรอยแดงได้

นอกจากครีมกันแดดทางกายภาพและครีมกันแดดทางเคมีแล้วก็ยังมีครีมกันแดดแบบผสมเช่นกัน ซึ่งครีมกันแดดแบบผสมจะมีส่วนผสมจากธรรมชาติ และเคมีไว้ในหลอดเดียวสามารถใช้ได้ง่าย อีกทั้งยังไม่ทิ้งคราบขาวเอาไว้ค่ะ ขอบอกเลยว่าครีมกันแดดแบบผสมเป็นครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับใช้กับใบหน้ามากที่สุดค่ะ

2. ระดับ SPF และ PA

เมื่อพูดถึงครีมกันแดดสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ระดับ SPF และ PA เพราะเราขอบอกเลยว่าการทาครีมกันแดดลงบนผิวของคุณเป็นชั้น ๆ ติดกันหลายชั้น จะไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้เลย หากครีมกันแดดนั้นไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ ในการเลือกซื้อครีมกันแดดเราขอแนะนำให้เลือกซื้อครีมกันแดดที่ SPF50 เพราะมันจะสามารถป้องกันรังสี UVB ได้ถึง 98% นอกจากค่า SPF แล้วเราขอให้มองหาการจัดอันดับ PA หรือที่เรียกว่า Protection Grade เพราะถ้าหากครีมกันแดดยิ่งมีเครื่องหมาย “+” มากเท่าไหร่ การป้องกันรังสี UVA ก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วครีมกันแดดที่คุณซื้อต้องมีค่า PA อย่างน้อย PA +++ (3 บวก) ขอบอกเลยว่าทั้งค่า SPF และ PA จะทำงานควบคู่กัน เพื่อปกป้องคุณจากรังสีอัลตราไวโอเลตทั้ง 2 ประเภท อีกทั้งยังช่วยป้องกันผิวไหม้จากแดด และความเสียหายที่แทรกซึมลึกเข้าไปในชั้นของผิวหนัง

3. สภาพผิว ​​

ครีมกันแดดนั้นมีหลากหลายชนิด ซึ่งก็มักจะถูกออกแบบมาเพื่อผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ สำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง เราขอแนะนำให้มองหาครีมกันแดดที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เช่น ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก เพราะครีมชนิดนี้จะดูดความชื้นจากสิ่งแวดล้อม สำหรับผิวมันและผิวผสม เลือกโลชั่นหรือครีมกันแดดสูตรเจล เพราะครีมกันแดดแบบนี้จะมีน้ำหนักเบาและไม่ทิ้งความมันไว้บนใบหน้า อีกทั้งเราอยากให้คุณมองหาฉลาก “Non-Comedogenic” และ “ปราศจากน้ำมัน” เพื่อป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตันค่ะ สำหรับผิวบอบบาง และเป็นสิวง่าย ให้เลือกครีมกันแดดที่ปราศจากน้ำหอมและควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ด้วยค่ะ

4. หลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีน้ำมัน

ผู้ที่มีผิวมันคงจะเข้าใจถึงความลำบากในการทาครีมกันแดดดี เพราะเราคงไม่ต้องการให้ผิวของตัวเอง โดนแสงแดดทำร้าย แต่อีกทางหนึ่ง คุณก็คงไม่ชอบครีมกันแดดที่ทำให้ผิวมันเยิ้ม เราขอบอกเลยว่า แม้ว่าแบรนด์ครีมกันแดดจำนวนมากอาจจะมีเนื้อสัมผัสที่มันเยิ้ม แต่ก็ไม่เสมอไปค่ะ ทางออกที่ดีที่สุดของคุณก็คือ เลือกซื้อครีมกันแดดที่เป็นสูตรปราศจากน้ำมัน ครีมกันแดดสูตรนี้จะโปร่งสบาย และบางเบา ซึ่งไม่เพียงแต่ทำงานได้ดีภายใต้การแต่งหน้าเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ซ้ำกับเครื่องสำอางได้โดยไม่อุดตันรูขุมขนหรือทำลายลุคการหน้าของคุณ

5. กันน้ำและกันเหงื่อ

ครีมกันแดดที่ดีที่สุดจะติดทนนานตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่ร้อน และชื้น เมื่อเราซื้อเครื่องสำอางเราก็ต้องซื้อเครื่องสำอางที่กันน้ำและกันเหงื่อ นับประสาอะไรกับครีมกันแดด หากคุณซื้อครีมกันแดดที่ไม่กันน้ำและเหงื่อ ผิวของคุณต้องประสบกับความมันเยิ้ม และเมื่อสัมผัสกับน้ำหรือเหงื่อครีมกันแดดก็จะเสื่อมประสิทธิภาพ และไม่สามารถกันแดดได้นั่นเองค่ะ ดังนั้นเพื่อป้องกันไว้ก่อนให้เลือกครีมกันแดดที่กันน้ำและเหงื่อได้


อ้างอิง 

(1) Ultraviolet (UV) Radiation and Sun Exposure

(2) Sunburn

(3) Can Light Emitted from Smartphone Screens and Taking Selfies Cause Premature Aging and Wrinkles?

(4) Sun Safety

(5) Anti-aging and Sunscreens: Paradigm Shift in Cosmetics