ลิปทินท์เกาหลี ยี่ห้อไหนดี? – เม็ดสีแน่น สีชัดทนนาน ให้ริวฝีปากที่ดูฉ่ำวาวตลอดวัน

ลิปทินท์เกาหลี ที่ดีที่สุด
ลิปทินท์เกาหลี ที่ดีที่สุด

ริมฝีปากที่ดูสุขภาพดีเป็นที่ต้องการของใครหลาย ๆ คน ดังนั้นถ้าหากคุณอยากให้ริมฝีปากดูสวย คุณจะต้องบำรุงริมฝีปากจากภายในสู่ภายนอกค่ะ ซึ่งเราทุกคนต่างทราบกันดีว่า การบำรุง และดูแลริมฝีปาก จากภายนอกนั้น สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการทาลิปบาล์ม, ลิปออยล์ หรือสครับปากค่ะ แต่บางทีการดูแลริมฝีปากให้อมชมพู ดูเป็นธรรมชาติ เป็นเรื่องที่ยากมาก และจะต้องใช้เวลามากพอสมควร ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงแก้ปัญหาด้วยการใช้ลิปสติก ซึ่งในบางครั้งลิปสติกเอง ก็จะมีเนื้อที่หนักมากเกินไป และทำให้คุณรู้สึกไม่สบายริมฝีปาก หากคุณกำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ เราเลยอยากแนะนำให้ใช้ “ลิปทินท์” ค่ะ

แต่ลิปทินท์ที่เราจะนำเสนอกันในวันนี้ก็คือ “ลิปทินท์เกาหลี” ค่ะ ซึ่งเป็นไอเทมยอดนิยมที่ขายดีมาก ๆ ค่ะ เพราะไม่ว่าคุณจะต้องการลุคที่เป็นธรรมชาติ หรือลุคที่ดูเบา ๆ แบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินเคป็อป คุณก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้ลิปทินท์ อีกทั้งลิปทินท์เกาหลียังสามารถใช้ได้ทั้งที่ริมฝีปาก และพวงแก้มอีกด้วยค่ะ ตอนนี้เราไปดูกันค่ะว่าลิปทินท์ตัวไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุด

ลิปทินท์เกาหลี ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ?

[summary item=”6779,6781,6783,6785,6787,6789″]

เคล็ดลับในการเลือกซื้อลิปทินท์เกาหลี

1. รูปแบบของลิปทินท์

ลิปทินท์เกาหลี ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของเหลวค่ะ แต่สูตรของลิปทินท์ก็ยังคงแตกต่างกันไป บางชนิดมีลักษณะเป็นน้ำ ในขณะที่บางชนิดมีลักษณะเหมือนครีม โดยลิปทินท์แต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของเม็ดสี และความสบายที่ริมฝีปากด้วยค่ะ ตอนนี้เราไปเจาะลึกกันค่ะว่า ลิปทินท์สูตรไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุด ?

  • ลิปทินท์แบบน้ำ (Water Lip Tint) : เป็นลิปทินท์ที่หาซื้อได้ง่าย และมีสีสันให้เลือกมากที่สุดค่ะ ลิปทินท์แบบน้ำมีความคงตัว สามารถสร้างรูปแบบของสี และเลเยอร์ได้ง่าย ๆ โดยลิปทินท์แบบน้ำจะให้ความสดใสแก่ริมฝีปากได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทาและเกลี่ยง่ายได้ด้วยค่ะ
  • ลิปทินท์แบบเจล (Gel Lip Tint) : จะมีเนื้อสัมผัสแบบเจลลี่ที่ให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำและสบายริมฝีปาก ซึ่งแบบเจลจะมีเนื้อสัมผัสที่คล้ายคลึงกับลิปทินท์แบบน้ำ แต่เม็ดสีของลิปทินท์แบบเจลจะมีความหนาแน่น และใช้ได้ง่ายกว่า เพราะไม่เหนียวเหนอะหนะ ยิ่งไปกว่านั้น ลิปทินท์แบบเจล สามารถให้ความมันเงาได้มากกว่าค่ะ
  • ลิปทินท์แบบครีม (Cream Lip Tint) : จะมีเม็ดสีที่แน่นมาก และติดทนนานกว่าแบบอื่น ๆ หากคุณต้องการให้มีสีที่เข้มเป็นพิเศษ ลิปทินท์แบบครีมจะเหมาะสำหรับคุณที่สุดค่ะ ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วลิปทินท์ของเกาหลีจะขึ้นชื่อว่าติดทนนานอยู่แล้ว แต่ลิปทินท์แบบครีมก็ยังติดทนนานกว่าลิปทินท์แบบอื่น ๆ อยู่ดีค่ะ

2. ฟินิชลุค

ลิปทินท์เกาหลี มีฟินิชลุคทั้งแบบแมตต์ และแบบมันวาว ดังนั้นไม่ว่าจะลุคไหนที่คุณกำลังมองหาก็มีลิปทินท์เที่เหมาะกับคุณอย่างแน่นอนค่ะ โดยถ้าหากคุณไม่ชอบความฉ่ำวาว คุณก็สามารถเลือกแบบแมตต์แทนได้ค่ะ เนื่องจากมันสามารถช่วยเบลอริมฝีปาก และให้ความนุ่มนวลได้ โดยไม่ทำให้รู้สึกหนักบนริมฝีปาก ในทางกลับกันถ้าหากคุณต้องการมีลุคที่ดูหรูหรา แวววาว และแลดูเปล่งประกาย คุณก็ควรใช้ลิปทินท์ที่มีความมันเงาจะดีกว่าค่ะ ลิปทินท์เกาหลี ส่วนใหญ่มักจะให้ผลลัพธ์แบบแวววาว และให้สีสันที่ดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นทางออกที่ดีที่สุดของคุณ หากคุณต้องการให้ริมฝีปากของคุณ  ดูอวบอิ่ม และชุ่มชื้นค่ะ

3. เฉดสี

  • สีชมพู และสีม่วง : เหมาะสำหรับผิวโทนเย็น หากคุณมีอันเดอร์โทนเย็น หรือมีเส้นเลือดเป็นสีฟ้า ลิปทินท์สีชมพูและสีม่วงจะเหมาะกับคุณมาก ๆ ค่ะ เพราะมันจะทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น และช่วยให้ริมฝีปาก แลดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับผิวมากขึ้น
  • สีแดง และสีส้ม : เหมาะสำหรับผิวโทนอุ่น หากเส้นเลือดที่แขนของคุณเป็นสีเขียว แสดงว่า คุณมีอันเดอร์โทนอุ่น หากคุณมีอันเดอร์โทนอบอุ่นให้มองหาลิปทินท์โทนสว่าง เช่น สีส้ม สีส้มแดง และสีน้ำตาลแดง เพราะเฉดสีแบบนี้จะช่วยปรับผิวให้ดูดีขึ้นได้ค่ะ
  • ใช้งานได้ทุกสี : เหมาะสำหรับผิวโทนกลาง ถ้าหากคุณมีอันเดอร์โทนที่เป็นกลาง คุณก็สามารถเลือกลิปทินท์ได้ทั้ง สีโทนอุ่น หรือโทนเย็น ค่ะ เนื่องจากผิวโทนกลางสามารถใช้ได้กับเฉดสีที่หลากหลาย ถ้าคุณเลือก โทนสีอบอุ่นหรือโทนสีเย็น คุณจะยังคงดูสวยงามอยู่เสมอค่ะ

4. ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก

นอกจากสีที่ติดทนนานแล้ว ลิปทินท์เกาหลี ยังเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คนด้วย เนื่องจากมีหลายสูตรให้ความชุ่มชื้น ช่วยป้องกันไม่ให้ริมฝีปากของคุณแห้ง แม้หลังจากทาไปนาน ๆ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ลิปทินท์เกาหลี มักประกอบด้วย น้ำมันจากพืช เช่น อาร์แกน, โจโจบา, อะโวคาโด, ดาวเรือง, เมล็ดฝ้าย, ดอกทานตะวัน และน้ำมันโรสฮิป นอกจากนี้ ลิปทินท์บางยี่ห้อยังมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นทั่ว ๆ ไป เช่น ว่านหางจระเข้ และเชียบัตเตอร์ ถ้าหากคุณต้องการความคุ้มค่า ให้มองหา ลิปทินท์เกาหลีที่มีสูตรมอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากแห้งโดยเฉพาะ ด้วยสิ่งเหล่านี้ คุณสามารถมั่นใจได้ว่า การตกแต่งริมฝีปากของคุณจะสวยงาม และจะไม่แห้งแตกในตอนเที่ยงอย่างแน่นอนค่ะ

[product_table item=”6779,6781,6783,6785,6787,6789″ info=”1″]

คำถามที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับการใช้ลิปทินท์

1. ลิปทินท์สามารถไล่เฉดสีได้หรือไม่ ?

แน่นอนว่า ได้ค่ะ วิธีการสร้างชั้นสีคือ การเกลี่ย ถ้าหากคุณต้องการการปกปิดที่มากขึ้น หรือให้สีสันที่เข้มขึ้นคุณต้องทาลิปทินท์ที่ดูหนา ๆ หน่อยค่ะ คุณยังจะแบ่งชั้นสีให้ทาลิปทินท์เข้ม ๆ ที่ด้านในของริมฝีปาก และค่อย ๆ เกลี่ยสีออกมาให้มันเริ่มเบลอ ๆ นิดหน่อยค่ะ

2. ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ด้วยการใช้ลิปทินท์ได้หรือไม่ ?

แม้ว่าการใช้ลิปทินท์เพียงอย่างเดียวสามารถทำให้ริมฝีปากของคุณดูอวบอิ่มขึ้นได้ แต่การจับคู่ลิปทินท์ เข้ากับผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปากอื่น ๆ ก็สามารถช่วยให้ริมฝีปากของคุณดูอิ่มเอิบขึ้นได้เช่นกัน หากอยากให้ริมฝีปากดูสวย แนะนำให้ใช้ลิปทินท์ ลิปกลอส และลิปสติกไปพร้อม ๆ กันค่ะ

3. ลิปทินท์ทาแก้มได้ไหม ?

ทาได้แน่นอนค่ะ แต่คุณจะต้องทาและเกลี่ยให้เรียบเนียน เพื่อให้ผิวดูสม่ำเสมอ หากต้องการทาลิปทินท์ที่พวงแก้ม แนะนำให้ทารองพื้นแบบน้ำหรือแบบครีม เกลี่ยด้วยฟองน้ำแต่งหน้าในเรียบเนียนเสมอกัน เพราะมันจะช่วยให้แก้มของคุณดูมีน้ำมีนวลขึ้นเล็กน้อย และเบลนด์สีได้ง่ายดายยิ่งขึ้น หากคุณต้องการทาแป้งทับลงไป คุณจะต้องทา หลังจากใช้ลิปทินท์ไปแล้วเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ