ลิปทินท์เกาหลี ยี่ห้อไหนดี? – เม็ดสีแน่น สีชัดทนนาน ให้ริวฝีปากที่ดูฉ่ำวาวตลอดวัน

ลิปทินท์เกาหลี ที่ดีที่สุด
ลิปทินท์เกาหลี ที่ดีที่สุด

ริมฝีปากที่ดูสุขภาพดีเป็นที่ต้องการของใครหลาย ๆ คน ดังนั้นถ้าหากคุณอยากให้ริมฝีปากดูสวย คุณจะต้องบำรุงริมฝีปากจากภายในสู่ภายนอกค่ะ ซึ่งเราทุกคนต่างทราบกันดีว่า การบำรุง และดูแลริมฝีปาก จากภายนอกนั้น สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการทาลิปบาล์ม, ลิปออยล์ หรือสครับปากค่ะ แต่บางทีการดูแลริมฝีปากให้อมชมพู ดูเป็นธรรมชาติ เป็นเรื่องที่ยากมาก และจะต้องใช้เวลามากพอสมควร ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงแก้ปัญหาด้วยการใช้ลิปสติก ซึ่งในบางครั้งลิปสติกเอง ก็จะมีเนื้อที่หนักมากเกินไป และทำให้คุณรู้สึกไม่สบายริมฝีปาก หากคุณกำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ เราเลยอยากแนะนำให้ใช้ “ลิปทินท์” ค่ะ

แต่ลิปทินท์ที่เราจะนำเสนอกันในวันนี้ก็คือ “ลิปทินท์เกาหลี” ค่ะ ซึ่งเป็นไอเทมยอดนิยมที่ขายดีมาก ๆ ค่ะ เพราะไม่ว่าคุณจะต้องการลุคที่เป็นธรรมชาติ หรือลุคที่ดูเบา ๆ แบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินเคป็อป คุณก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้ลิปทินท์ อีกทั้งลิปทินท์เกาหลียังสามารถใช้ได้ทั้งที่ริมฝีปาก และพวงแก้มอีกด้วยค่ะ ตอนนี้เราไปดูกันค่ะว่าลิปทินท์ตัวไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุด

ลิปทินท์เกาหลี ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ?

เคล็ดลับในการเลือกซื้อลิปทินท์เกาหลี

1. รูปแบบของลิปทินท์

ลิปทินท์เกาหลี ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของเหลวค่ะ แต่สูตรของลิปทินท์ก็ยังคงแตกต่างกันไป บางชนิดมีลักษณะเป็นน้ำ ในขณะที่บางชนิดมีลักษณะเหมือนครีม โดยลิปทินท์แต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของเม็ดสี และความสบายที่ริมฝีปากด้วยค่ะ ตอนนี้เราไปเจาะลึกกันค่ะว่า ลิปทินท์สูตรไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุด ?

  • ลิปทินท์แบบน้ำ (Water Lip Tint) : เป็นลิปทินท์ที่หาซื้อได้ง่าย และมีสีสันให้เลือกมากที่สุดค่ะ ลิปทินท์แบบน้ำมีความคงตัว สามารถสร้างรูปแบบของสี และเลเยอร์ได้ง่าย ๆ โดยลิปทินท์แบบน้ำจะให้ความสดใสแก่ริมฝีปากได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทาและเกลี่ยง่ายได้ด้วยค่ะ
  • ลิปทินท์แบบเจล (Gel Lip Tint) : จะมีเนื้อสัมผัสแบบเจลลี่ที่ให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำและสบายริมฝีปาก ซึ่งแบบเจลจะมีเนื้อสัมผัสที่คล้ายคลึงกับลิปทินท์แบบน้ำ แต่เม็ดสีของลิปทินท์แบบเจลจะมีความหนาแน่น และใช้ได้ง่ายกว่า เพราะไม่เหนียวเหนอะหนะ ยิ่งไปกว่านั้น ลิปทินท์แบบเจล สามารถให้ความมันเงาได้มากกว่าค่ะ
  • ลิปทินท์แบบครีม (Cream Lip Tint) : จะมีเม็ดสีที่แน่นมาก และติดทนนานกว่าแบบอื่น ๆ หากคุณต้องการให้มีสีที่เข้มเป็นพิเศษ ลิปทินท์แบบครีมจะเหมาะสำหรับคุณที่สุดค่ะ ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วลิปทินท์ของเกาหลีจะขึ้นชื่อว่าติดทนนานอยู่แล้ว แต่ลิปทินท์แบบครีมก็ยังติดทนนานกว่าลิปทินท์แบบอื่น ๆ อยู่ดีค่ะ

2. ฟินิชลุค

ลิปทินท์เกาหลี มีฟินิชลุคทั้งแบบแมตต์ และแบบมันวาว ดังนั้นไม่ว่าจะลุคไหนที่คุณกำลังมองหาก็มีลิปทินท์เที่เหมาะกับคุณอย่างแน่นอนค่ะ โดยถ้าหากคุณไม่ชอบความฉ่ำวาว คุณก็สามารถเลือกแบบแมตต์แทนได้ค่ะ เนื่องจากมันสามารถช่วยเบลอริมฝีปาก และให้ความนุ่มนวลได้ โดยไม่ทำให้รู้สึกหนักบนริมฝีปาก ในทางกลับกันถ้าหากคุณต้องการมีลุคที่ดูหรูหรา แวววาว และแลดูเปล่งประกาย คุณก็ควรใช้ลิปทินท์ที่มีความมันเงาจะดีกว่าค่ะ ลิปทินท์เกาหลี ส่วนใหญ่มักจะให้ผลลัพธ์แบบแวววาว และให้สีสันที่ดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นทางออกที่ดีที่สุดของคุณ หากคุณต้องการให้ริมฝีปากของคุณ  ดูอวบอิ่ม และชุ่มชื้นค่ะ

3. เฉดสี

  • สีชมพู และสีม่วง : เหมาะสำหรับผิวโทนเย็น หากคุณมีอันเดอร์โทนเย็น หรือมีเส้นเลือดเป็นสีฟ้า ลิปทินท์สีชมพูและสีม่วงจะเหมาะกับคุณมาก ๆ ค่ะ เพราะมันจะทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น และช่วยให้ริมฝีปาก แลดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับผิวมากขึ้น
  • สีแดง และสีส้ม : เหมาะสำหรับผิวโทนอุ่น หากเส้นเลือดที่แขนของคุณเป็นสีเขียว แสดงว่า คุณมีอันเดอร์โทนอุ่น หากคุณมีอันเดอร์โทนอบอุ่นให้มองหาลิปทินท์โทนสว่าง เช่น สีส้ม สีส้มแดง และสีน้ำตาลแดง เพราะเฉดสีแบบนี้จะช่วยปรับผิวให้ดูดีขึ้นได้ค่ะ
  • ใช้งานได้ทุกสี : เหมาะสำหรับผิวโทนกลาง ถ้าหากคุณมีอันเดอร์โทนที่เป็นกลาง คุณก็สามารถเลือกลิปทินท์ได้ทั้ง สีโทนอุ่น หรือโทนเย็น ค่ะ เนื่องจากผิวโทนกลางสามารถใช้ได้กับเฉดสีที่หลากหลาย ถ้าคุณเลือก โทนสีอบอุ่นหรือโทนสีเย็น คุณจะยังคงดูสวยงามอยู่เสมอค่ะ

4. ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก

นอกจากสีที่ติดทนนานแล้ว ลิปทินท์เกาหลี ยังเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คนด้วย เนื่องจากมีหลายสูตรให้ความชุ่มชื้น ช่วยป้องกันไม่ให้ริมฝีปากของคุณแห้ง แม้หลังจากทาไปนาน ๆ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ลิปทินท์เกาหลี มักประกอบด้วย น้ำมันจากพืช เช่น อาร์แกน, โจโจบา, อะโวคาโด, ดาวเรือง, เมล็ดฝ้าย, ดอกทานตะวัน และน้ำมันโรสฮิป นอกจากนี้ ลิปทินท์บางยี่ห้อยังมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นทั่ว ๆ ไป เช่น ว่านหางจระเข้ และเชียบัตเตอร์ ถ้าหากคุณต้องการความคุ้มค่า ให้มองหา ลิปทินท์เกาหลีที่มีสูตรมอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากแห้งโดยเฉพาะ ด้วยสิ่งเหล่านี้ คุณสามารถมั่นใจได้ว่า การตกแต่งริมฝีปากของคุณจะสวยงาม และจะไม่แห้งแตกในตอนเที่ยงอย่างแน่นอนค่ะ

romandthailand.com

Rom & nd Juicy Lasting Tint ลิปทินท์

โดดเด่นด้วยความแวววาวที่ทำให้ริมฝีปากของคุณดูอวบอิ่ม

ราคา 173 บาท*

ข้อมูลสินค้า

รูปแบบของลิปทินท์ : น้ำ

ปริมาณ : 5.5 กรัม

ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก : น้ำมันโจโจบาและสารสกัดจากเมล็ดฝ้าย

เฉดสี : 27 สี

ฟินิชลุค : มันวาว

หากคุณชอบให้ริมฝีปากดูเย้ายวนและฉ่ำวาว คุณจะต้องชอบลิปทินของ Rom & nd Juicy Lasting Tint อย่างแน่นอนค่ะ เพราะสามารถเพิ่มความเงางามให้กับริมฝีปากของคุณได้ ตัวลิปทินท์จะให้เอฟเฟกต์ความเงางามได้เป็นอย่างดี แต่เฉดสีจะไม่จางลงไป เพราะสีแน่นมากค่ะ ด้วยส่วนผสมของน้ำมันโจโจบาและสารสกัดจากเมล็ดฝ้าย สามารถบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นขึ้นอย่างแน่นอน ลิปทินท์ตัวนี้แตกต่างจากลิปทินท์เกาหลีส่วนใหญ่ที่มีเพียงไม่กี่เฉดสี เพราะลิปมีให้เลือกถึง 27 เฉดสีด้วยกัน ช่วยให้คุณหาเฉดสีได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงสีผิว ไม่ว่าจะเป็นสีม่วง ชมพู นู้ด สีแดง และสีน้ำตาล ลิปทินท์จากแบรนด์นี้จะมีให้คุณเลือกอย่างจะใจแน่นอนค่ะ

รูปภาพจาก innisfree.com

Innisfree Vivid Cotton Ink Blur ลิปทินท์

ลิปทินท์เนื้อแมตต์ บางเบาสบายริมฝีปาก แม้ผู้ที่มีปากแห้งก็ใช้งานได้

ราคา 190 บาท*

ข้อมูลสินค้า

รูปแบบของลิปทินท์ : ครีม

ปริมาณ : 4 กรัม

ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก : สารสกัดจากโรสฮิป

เฉดสี : 8 สี

ฟินิชลุค :แมตต์

ถ้าคุณชอบลิปทินท์เนื้อแมตต์ แต่คุณกังวลว่าริมฝีปากจะแห้ง ให้ลองใช้ลิปทินท์ Innisfree Vivid Cotton Ink Blur ตัวนี้ดูค่ะ ลิปทินท์จะแตกต่างจากลิปแมตต์อื่น ๆ ที่มักจะหนักและแห้ง ลิปทินท์ตัวนี้มีลักษณะเป็นแมตต์ที่ด้านนอก แต่ยังคงความรู้สึกชุ่มชื้นจากภายใน ถึงแม้จะเป็นเนื้อแมตต์ แต่ก็สบายริมฝีปากมาก ๆ เพราะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มลมุน และโปร่งสบาย สามารถทาลงบนริมฝีปากได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ลิปทินท์ยังประกอบด้วยน้ำมันโรสฮิปที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากของคุณ และช่วยให้ติดทนนาน ไม่ว่าจะกินน้ำหรือกินอาหารมัน ๆ ก็ไม่เลอะหรือซีดจางอย่างแน่นอนค่ะ ต้องลองนะคะ

รูปภาพจาก apieu.com

A’pieu Juicy Pang Tint ลิปทินท์

ลิปทินท์เนื้อฉ่ำ ให้ความชุ่มชื่นเป็นพิเศษเทำให้ริมฝีปากของคุณดูอวบอิ่ม

ราคา 225 บาท*

ข้อมูลสินค้า

รูปแบบของลิปทินท์ : น้ำ

ปริมาณ : 4.5 กรัม

ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก : สารสกัดจากกุหลาบ น้ำผึ้งและแอปเปิ้ล

เฉดสี : 12 สี

ฟินิชลุค : มันเงา

เนรมิตเรียวปากของคุณให้สวยปังด้วยลิปทินท์จาก A’pieu Juicy Pang Tint เป็นลิปทินท์ที่มาพร้อมสีสันที่สดใส เป็นธรรมชาติ และให้ความกลอสแบบเงาวาวที่ช่วยให้ริมฝีปากของคุณดูเอิบอิ่มและชุ่มชื้นขึ้น โดยไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ นอกจากนี้ยังเป็นทางออกที่ดีที่สุดของคุณ หากคุณกังวลเกี่ยวกับริมฝีปากแตก เนื่องจากช่วยให้ริมฝีปากของคุณชุ่มชื้นด้วยส่วนผสมของน้ำผึ้ง แอปเปิ้ล และสารสกัดจากดอกกุหลาบ ไม่ว่าคุณจะต้องการลุคแบบฟูลออน หรือออมเบร ผลิตภัณฑ์นี้ก็ช่วยคุณได้อย่างแน่นอนค่ะ ลิปทินท์จะติดทนนานและไม่เลอะง่าย อีกทั้งยังมาใน 12 เฉดสีสวยที่เหมาะกับทุกสภาพผิวด้วยค่ะ

รูปภาพจาก stylenandaen.com

3CE Velvet Lip Tint ลิปทินท์

ลิปทินท์เนื้อกำมะหยี่ ช่วยให้ริมฝีปากนุ่มและเรียบเนียน

ราคา 690 บาท*

ข้อมูลสินค้า

รูปแบบของลิปทินท์ : ครีม

ปริมาณ : 4.5 กรัม

ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก : น้ำมันเมล็ดทานตะวันและดาวเรือง

เฉดสี : 20 สี

ฟินิชลุค : แมตต์

3CE Velvet Lip Tint ลิปทินท์จากแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแบรนด์หนึ่ง ลิปทินท์มาในเฉดสีสดใส มีตั้งแต่เฉดสีโทนกลาง สีชมพูอ่อน ไปจนถึงสีแดงสด และโทนสีเข้ม ด้วยเนื้อสัมผัสเหมือนกำมะหยี่ ทำให้เราไม่รู้สึกหนักริมฝีปากเมื่อทา ดังนั้นลิปทินท์ตัวนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดี ถ้าคุณกำลังมองหาลิปสติกตัวใหม่อยู่ โดยลิปทินท์ตัวนี้จะติดทนนานมาก ๆ สามารถเกลี่ยได้ง่าย ถึงแม้จะให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ แต่ริมฝีปากยังดูเป็นธรรมชาติค่ะ ขอบอกเลยว่า ลิปทินท์จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างลุคริมฝีปากแบบไล่ระดับ หรือออมเบรอย่างเป็นธรรมชาติ

รูปภาพจาก etude.com

Etude House Dear Darling Tint ลิปทินท์

ลิปทินท์สีสันสดใส ให้ความชุ่มชื้นและไม่ทำให้ริมฝีปากของคุณแห้ง

ราคา 160 บาท*

ข้อมูลสินค้า

รูปแบบของลิปทินท์ : เจล

ปริมาณ : 5 กรัม

ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก : สารสกัดจากทับทิมและโซปเบอร์รี่

เฉดสี : 9 สี

ฟินิชลุค : มันวาว

Etude House เป็นหนึ่งในแบรนด์ K-beauty ลิปทินท์จะมีราคาถูกมากค่ะ เหมาะสำหรับทุกสภาพสีผิวนอกจากนี้ยังติดทนนานอีกด้วย คุณจึงมั่นใจได้ว่าลิปทินท์จะติดอยู่บนริมฝีปากของคุณตลอดวัน ลิปทินท์ Dear Darling Tint มาในเฉดสีแดงผลไม้หลากเฉดสี ช่วยให้คุณแต่งแต้มริมฝีปากสีสันสดใสได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าคุณจะชอบสีแดงโทนอุ่นหรือโทนเย็นก็สามารถใช้งานได้ค่ะ นอกเหนือจากช่วงเฉดสีแล้วสูตรของลิปทินท์ยังให้ความชุ่มชื้นเพราะมีการผสมของสารสกัดจากทับทิมและโซปเบอร์รี่ที่อุดมด้วยแร่ธาตุที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ริมฝีปากของคุณอย่างเต็มที่ค่ะ

รูปภาพจาก periperacosmetic.com

Peripera Ink Mood Matte Tint ลิปทินท์

ลิปทินท์เนื้อแมตต์ ใช้ทาริมฝีปากและแก้มได้ในหนึ่งเดียว

ราคา 319 บาท*

ข้อมูลสินค้า

รูปแบบของลิปทินท์ : ครีม

ปริมาณ : 4 กรัม

ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก : –

เฉดสี : 8 สี

ฟินิชลุค : แมตต์

Peripera Ink Mood Matte Tint เป็นลิปทินท์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความรู้สึกหนัก ๆ บนริมฝีปาก เนื้อของลิปทินท์จะบางเบามากอาจจะลืมไปเลยว่าทาลิปอยู่ค่ะ ในแง่ของประสิทธิภาพลิปทินท์จะให้ผลลัพธ์แบบแมตต์ แต่คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะว่ามันสบายปากมากค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นลิปทินท์ตัวนี้ยังเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบของคุณหากคุณต้องการจัดการเอฟเฟกต์แบบสีปากเบลอ ๆ เพราะเนื้อลิปจะโปร่งสบายเป็นพิเศษ ติดทนนานมาก ถึงแม้ว่าลิปจะบางเบามากแต่ก็ยังให้สีสันที่สดใส ดังนั้นจึงสามารถใช้งานได้ทุกลุคและทุกวันค่ะ

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

คำถามที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับการใช้ลิปทินท์

1. ลิปทินท์สามารถไล่เฉดสีได้หรือไม่ ?

แน่นอนว่า ได้ค่ะ วิธีการสร้างชั้นสีคือ การเกลี่ย ถ้าหากคุณต้องการการปกปิดที่มากขึ้น หรือให้สีสันที่เข้มขึ้นคุณต้องทาลิปทินท์ที่ดูหนา ๆ หน่อยค่ะ คุณยังจะแบ่งชั้นสีให้ทาลิปทินท์เข้ม ๆ ที่ด้านในของริมฝีปาก และค่อย ๆ เกลี่ยสีออกมาให้มันเริ่มเบลอ ๆ นิดหน่อยค่ะ

2. ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ด้วยการใช้ลิปทินท์ได้หรือไม่ ?

แม้ว่าการใช้ลิปทินท์เพียงอย่างเดียวสามารถทำให้ริมฝีปากของคุณดูอวบอิ่มขึ้นได้ แต่การจับคู่ลิปทินท์ เข้ากับผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปากอื่น ๆ ก็สามารถช่วยให้ริมฝีปากของคุณดูอิ่มเอิบขึ้นได้เช่นกัน หากอยากให้ริมฝีปากดูสวย แนะนำให้ใช้ลิปทินท์ ลิปกลอส และลิปสติกไปพร้อม ๆ กันค่ะ

3. ลิปทินท์ทาแก้มได้ไหม ?

ทาได้แน่นอนค่ะ แต่คุณจะต้องทาและเกลี่ยให้เรียบเนียน เพื่อให้ผิวดูสม่ำเสมอ หากต้องการทาลิปทินท์ที่พวงแก้ม แนะนำให้ทารองพื้นแบบน้ำหรือแบบครีม เกลี่ยด้วยฟองน้ำแต่งหน้าในเรียบเนียนเสมอกัน เพราะมันจะช่วยให้แก้มของคุณดูมีน้ำมีนวลขึ้นเล็กน้อย และเบลนด์สีได้ง่ายดายยิ่งขึ้น หากคุณต้องการทาแป้งทับลงไป คุณจะต้องทา หลังจากใช้ลิปทินท์ไปแล้วเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ