แก้วเก็บอุณหภูมิร้อน-เย็น ยี่ห้อไหนดี เก็บความร้อน/ความเย็น ได้นานตลอดวัน

แก้วเก็บอุณหภูมิร้อน - เย็น ที่ดีที่สุด
แก้วเก็บอุณหภูมิร้อน - เย็น ที่ดีที่สุด

การที่เราได้ดื่ม เครื่องดื่ม อย่าง น้ำผลไม้เย็น ๆ สักแก้ว หรือกาแฟร้อน ๆ สักถ้วย ในระหว่างวัน คงจะทำให้เรารู้สึกดีไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะทุกคน ? ซึ่งถึงแม้ว่าเครื่องดื่มของเราจะอร่อยขนาดไหนก็ตาม แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเย็นก็จะละลายหายไป ส่วนของความร้อนก็จะกลายเป็นเย็นชืดทันที ดังนั้นเครื่องดื่มที่เราตั้งใจทำหรือซื้อมาก็จะแปรสภาพไปโดยปริยายค่ะ แต่ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว เพราะเพียงแค่คุณมี “แก้วเก็บอุณหภูมิร้อน-เย็น” เครื่องดื่มของคุณก็จะคงอยู่ได้นานตลอดวันแล้วค่ะ

โดย แก้วเก็บอุณหภูมิ มีโครงสร้างที่ประกอบด้วยผนังสองชั้น และซีลสุญญากาศ จึงสามารถกักเก็บอุณหภูมิเครื่องดื่ม ให้ร้อนหรือเย็นจัดเป็นเวลานานหลายชั่วโมงได้ ซึ่งแก้วเก็บอุณหภูมิส่วนใหญ่นี้ จะช่วยป้องกันการควบแน่นของหยดน้ำ อีกทั้งยังมีฝาปิดแบบล็อกที่สามารถช่วยป้องกันการรั่วซึมหรือน้ำกระเซ็นได้เป็นอย่างดีค่ะ โดยแก้วเก็บอุณหภูมิสามารถใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณสามารถลิ้มรสชาร้อน หรือชาเย็น ในอุณหภูมิที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยให้เราเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มหลากชนิดในทุกเวลาอีกด้วย

แก้วเก็บอุณหภูมิร้อน – เย็น ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ?

[summary item=”6801,6803,6805,6807,6809,6812″]

ประโยชน์ของการใช้แก้วเก็บอุณหภูมิ

การมี แก้วเก็บอุณหภูมิ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุก ๆ คนค่ะ เพราะสามารถช่วยให้คุณลิ้มรสกับเครื่องดื่มสุดโปรดได้โดยไม่ต้องกลัวว่าเครื่องดื่มของคุณจะเย็นชืด หรือแปรสภาพไปเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ, ชาสมุนไพร, น้ำดื่ม หรือเครื่องดื่ม เกลือแร่ก็สามารถใส่ลงไปในแก้วเก็บอุณหภูมิได้ค่ะ ซึ่งจุดเด่นของแก้วเก็บอุณหภูมิคือ สามารถเก็บได้ทั้งแบบร้อนและเย็นค่ะ เพราะตัวแก้วจะมีฉนวนหุ้มแบบสองชั้น ช่วยให้เก็บอุณหภูมิได้นานเป็นพิเศษ ซึ่งหากคุณมีแก้วเก็บอุณหภูมิคุณสามารถนำติดตัวไปได้ทุกที่ เพื่อให้คุณสามารถจิบเครื่องดื่มได้ทุกเวลา นอกจากนี้แทนที่คุณจะซื้อเครื่องดื่มทุกครั้ง ที่คุณออกไปทำงาน คุณสามารถทำเครื่องดื่มแก้วโปรดในแบบของคุณเองโดยใช้แก้วเก็บอุณหภูมิในการจัดเก็บ วิธีนี่สามารถช่วยให้คุณประหยัดเงินในระยะยาว และยังถือเป็นการช่วยลดขยะพลาสติกที่ก่อให้เกิดมลพิษได้อีกด้วย

[product_table item=”6801,6803,6805,6807,6809,6812″ info=”1″]

เคล็ดลับในการเลือกซื้อแก้วเก็บอุณหภูมิ

1. รูปแบบของแก้วเก็บอุณหภูมิ

  • แก้วเก็บอุณหภูมิที่มีสุญญากาศ : แน่นอนค่ะว่าแก้วเก็บอุณหภูมิทุกยี่ห้อไม่ได้ถูกผลิตขึ้นมาเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งวิธีการเก็บรักษาเครื่องดื่มให้ร้อนหรือเย็นนั้นขึ้นอยู่กับการออกแบบและวัสดุที่ใช้ค่ะ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณซื้อแก้วเก็บอุณหภูมิแบบสุญญากาศค่ะ เนื่องจากมันจะมีฉนวนกันความร้อนที่ดีที่สุดอยู่ด้วย ซึ่งถึงแม้ว่าแก้วเก็บอุณหภูมิจะมีผนังสองชั้นเสมอ แต่มันก็ไม่ได้ปิดผนึกด้วยสุญญากาศเสมอไป โดยในแก้วน้ำที่ปิดสนิท สุญญากาศช่องว่างระหว่างผนังทั้งสองนั้น จะอัดแน่นด้วยอากาศ ส่งผลให้การถ่ายเทความร้อนไปยังชั้นนอกนั้นเป็นไปได้ยากค่ะ วิธีนี้ช่วยให้คุณเก็บเครื่องดื่มร้อนได้ดี และยังป้องกันไม่ให้แก้วน้ำของคุณมีหยดน้ำออกมา เมื่อใส่เครื่องดื่มเย็น ๆ
  • แก้วเก็บอุณหภูมิที่สามารถรักษาอุณหภูมิได้นาน : แน่นอนจุดประสงค์หลักในการซื้อแก้วเก็บอุณหภูมิ ก็คือ การรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มของคุณให้อยู่ได้นานขึ้น ดังนั้นระยะเวลาที่สามารถเก็บรักษาอุณหภูมิได้ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ แก้วเก็บอุณหภูมิปิดผนึกสุญญากาศธรรมดา สามารถเก็บอุณหภูมิได้เพียง 2 ชั่วโมง เท่านั้น ในขณะที่แก้วเก็บอุณหภูมิบางยี่ห้อ สามารถเก็บรักษาความเย็นได้นานกว่า 24 ชั่วโมง หรือ รักษาความร้อนนานกว่า 12 ชั่วโมง นี่ก็คือหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณต้องมองหาเมื่อซื้อแก้วเก็บอุณหภูมิค่ะ
  • แก้วเก็บอุณหภูมิแบบสเตนเลส : ปกติแล้วแก้วน้ำพลาสติกจะมีน้ำหนักเบา และมันมีให้เลือกหลายแบบ แต่จะไม่มีฉนวนกันความร้อนมากนัก แม้ว่าแก้วน้ำพลาสติกของคุณจะหุ้มฉนวนสุญญากาศหรือผนังสองชั้น แต่มันยังมีฉนวนกันความร้อนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับแก้วสเตนเลส โดยสเตนเลสเป็นวัสดุที่นำความร้อนต่ำ และเป็นฉนวนความร้อนสูง ดังนั้นหากคุณให้ความสำคัญกับ การรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่ม แก้วเก็บอุณหภูมิแบบสเตนเลส เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของคุณค่ะ

2. ฝาปิด

  • ฝาปิดแบบมีหูหิ้ว : เป็นแก้วที่ออกแบบมาเพื่อพกพาโดยเฉพาะค่ะ ทำให้มันสามารถพกพาได้สะดวกมาก ๆ แต่แก้วเก็บอุณหภูมิแบบมีหูหิ้ว บางรุ่นมีช่องเปิดอยู่ด้านบน จึงอาจทำให้มีการรั่วไหลได้เมื่อแก้วล้ม ในขณะเดียวกัน ก็มีบางยี่ห้อที่ไม่มีช่องเปิด ทำให้สามารถรับรองได้ว่า เครื่องดื่มจะไม่หกเลอะเทอะอย่างแน่นอนค่ะ
  • ฝาปิดแบบสแน็ปอิน : เป็นแก้วที่สามารถถอดฝาทั้งหมดออกได้อย่างง่ายดาย ทำให้คุณสามารถผสมเครื่องดื่มของคุณให้เข้ากันได้ง่าย ๆ ค่ะ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ดี ถ้าหากคุณทำเครื่องดื่มกินเองเป็นประจำ ซึ่งนอกจากฝาปิดจะถอดออกได้แล้ว ฝาปิดแบบนี้ยังมีปะเก็นยางให้ด้วย ช่วยให้น้ำไม่หกออกมาเลย คุณจึงสามารถวางไว้บนโต๊ะและจิบน้ำในขณะที่ทำงานได้อย่างสะดวก แต่คุณก็ต้องระวัง เพราะหากปิดฝาไม่แน่น อาจจะทำให้เกิดการรั่วไหลได้เช่นกันค่ะ
  • ฝาปิดแบบเกลียว : เป็นแก้วที่จะช่วยป้องกันการหกรั่วไหลได้เป็นอย่างดีค่ะ และคุณยังพลิกฝาส่วนบนเพื่อดื่มได้อีกด้วย แก้วเก็บอุณหภูมิแบบฝาเกลียวสามารถนำติดตัวไปได้ทุกที่ โดยไม่ต้องกลัวว่าเครื่องดื่มจะหกเลอะเทอะ แต่อย่าลืมปิดฝา เพื่อรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มของคุณไว้ และหลีกเลี่ยงการหกเลอะเทอะโดยไม่ได้ตั้งใจค่ะ

3. ความจุ

  • 940 – 1,200 มล. : หากคุณเป็นคนที่ชอบดื่มน้ำเป็นประจำ ชอบไปยิม, เล่นสเก็ตบอร์ด หรือไปวิ่งเพื่อออกกำลังกาย คุณสามารถเลือกซื้อแก้วเก็บอุณหภูมิที่มีความจุระหว่าง 940 – 1,200 มล. ได้ค่ะ หากมีแก้วเก็บอุณหภูมิปริมาณนี้ คุณสามารถใส่น้ำแข็งลงในเครื่องดื่ม เพื่อให้เย็นได้นานหลายชั่วโมง จำไว้นะคะว่า แก้วเก็บอุณหภูมิที่มีความจุสูงไม่ได้มีราคาแพงเสมอไป เพราะมันขึ้นอยู่กับวัสดุด้วยค่ะ
  • 470 – 700 มล. : แก้วเก็บอุณหภูมิที่มีความจุ 470 – 700 มล. เป็นแก้วขนาดกลางที่สามารถพกติดตัวไปทำงาน หรือไปไหนก็ตามได้อย่างสะดวก ถ้าหากคุณต้องการแก้วที่ไม่เทอะทะ และพกพาสะดวกแก้วน้ำความจุ 470 มล. ก็ถือว่ากำลังดีค่ะ เพราะจะมีขนาดกะทัดรัด จัดเก็บง่าย ในขณะเดียวกันคุณสามารถหาแก้วน้ำขนาด 700 มล. ได้ ถ้าต้องการแก้วที่ใหญ่กว่า แต่ก็พกพาสะดวกด้วย
  • 350 มล. : แก้วเก็บอุณหภูมิขนาด 350 มล. เป็นขนาดกะทัดรัด และพกพาได้สะดวกที่สุดค่ะ ถ้าหากคุณกำลังมองหาแก้วน้ำที่จะพกติดตัวไปด้วย เมื่อคุณออกไปข้างนอกสัก 2-3 ชั่วโมง นอกจากนั้นคุณยังสามารถใช้แก้วน้ำขนาดเล็กนี้เพื่อดื่มเครื่องดื่มแก้วโปรดของคุณระหว่างทางไปที่ทำงานหรือในช่วงพักของคุณได้ค่ะ