เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี? – รสชาติอร่อยทุกรอบที่ทำ ช่วยประหยัดเวลา

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่ดีที่สุด
เครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่ดีที่สุด

การทำกาแฟเองให้อร่อยทุกรอบเป็นเรื่องที่ยากเพราะคุณต้องบดกาแฟด้วยเครื่องบดเมล็ดกาแฟ กะปริมาณน้ำ กรองผงกาแฟและก็มีขั้นตอนซับซ้อนอีกหลากหลายขั้นตอนที่ต้องทำเพื่อให้ได้กาแฟสักแก้ว ด้วยขั้นตอนที่ยุ่งยากเหล่านี้อาจทำให้คุณรำคาญใจเลยเลือกที่จะซื้อกาแฟตามร้านกาแฟทั่วไปแทน และนอกจากการซื้อกาแฟดื่มทุกวันจะทำให้คุณต้องเสียเงินแล้ว คุณยังต้องเสียเวลาในการต่อคิวอีกด้วย ดังนั้นเราเลยอยากจะขอแนะนำ “เครื่องชงกาแฟแคปซูล” ค่ะ

เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลนั้นสามารถทำกาแฟแสนอร่อยได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคุณแค่ต้องมีตัวเครื่องและแคปซูลกาแฟเท่านั้น แถมบางรุ่นยังสามารถปรับแต่งเครื่องดื่มได้ด้วยตนเอง ปรับสัดส่วนของน้ำและอุณหภูมิตามรสนิยมของคุณได้ ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของเครื่องชงกาแฟแคปซูลคือสามารถใช้งานได้ง่าย คุณเพียงแค่ใส่แคปซูลกาแฟแล้วกดปุ่มโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ เลย

เครื่องชงกาแฟแคปซูลยังช่วยคุณประหยัดพื้นที่ เพราะมีขนาดกะทัดรัดและเหมาะสำหรับห้องครัวขนาดเล็กหรือที่ทำงาน แต่แน่นอนว่าปัจจุบันการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นมีความซับซ้อนมากขึ้นเพราะมีการผลิตเครื่องชงกาแฟแคปซูลออกมาในหลายยี่ห้อ ดังนั้นคุณต้องเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด โดยจะต้องพิจารณาจากคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น ความจุน้ำ ขนาด และแรงดันน้ำ ซึ่งวันนี้เราก็มีคำแนะนำในการเลือกซื้อมาฝากกันค่ะ

เครื่องชงกาแฟแคปซูลคืออะไร ทำไมต้องซื้อ?

เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลใช้วิธีการที่คล้ายกับเครื่องชงกาแฟแบบดริปอัตโนมัติเพราะเมื่อน้ำร้อนผสมกับกาแฟบด ตัวเครื่องจะสกัดรสชาติของกาแฟแล้วกาแฟก็จะหยดลงในถ้วยกาแฟที่คุณเตรียมไว้ ความแตกต่างระหว่างเครื่องชงกาแฟธรรมดาและเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลคือวิธีที่คุณใส่กาแฟลงในเครื่อง แทนที่จะใช้กาแฟที่ผ่านการบดใหม่ ๆ ลงไปในเครื่องแต่เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลจะใช้กาแฟที่บรรจุอยู่ในแคปซูลแทน โดยจะมีกาแฟหลากหลายชนิดให้เราได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นเอสเพรสโซ่ ลาเต้หรือคาปูชิโน่ ซึ่งกาแฟเหล่านี้ก็ใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็วโดยคุณไม่จำเป็นต้องไปบดกาแฟหรือตีฟองนมให้วุ่นวาย ขอบอกเลยว่าเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลนั้นตอบโจทย์คนทำงานมากที่สุดค่ะ

ต่อไปนี้เราไปดูประโยชน์ของเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลกันค่ะ คุณจะได้พิจารณาว่าควรซื้อหรือไม่

ประโยชน์ของเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล

  • ใช้งานง่าย หากคุณใช้เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการตวงหรือบดกาแฟ เพียงแค่ใส่แคปซูลกาแฟลงในเครื่องแล้วกดปุ่มสตาร์ทก็จะได้กาแฟทั้งเย็นและร้อนไว้ดื่มแล้ว
  • รวดเร็ว การทำงานของเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลมีความรวดเร็วมาก เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลบางยี่ห้อสามารถทำกาแฟได้ในเวลาประมาณ 2-3 นาที ในขณะที่เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลบางยี่ห้อที่มีราคาสูงสามารถทำกาแฟได้ในเวลาไม่ถึงนาทีค่ะ
  • เครื่องดื่มที่ได้มีความหลากหลาย หากคุณใช้เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลคุณสามารถหาซื้อแคปซูลกาแฟได้ในทุกรสชาติ อีกทั้งยังสามารถใช้ทำเครื่องดื่มที่ไม่ใช่กาแฟ เช่น แอปเปิลไซเดอร์ ชาเขียวและช็อกโกแลตร้อนได้

ซื้อ แคปซูลกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ปี 2564

แคปซูลกาแฟคืออะไร หาซื้อได้ที่ไหน ?

แคปซูลกาแฟมีลักษณะเป็นภาชนะพลาสติกที่มีซีลอะลูมิเนียมฟอยล์ซึ่งจะมีกาแฟบดอยู่ด้านใน ในบางยี่ห้ออาจจะมีโกโก้ ชาเขียว นมและไซเดอร์อื่น ๆ อยู่ในแคปซูลด้วย แคปซูลกาแฟนั้นทำงานได้ 2 แบบคือระบบเปิดและระบบปิด หมายความว่าแคปซูลแบบเปิดสามารถใช้งานกับเครื่องชงกาแฟแคปซูลได้ทุกเครื่อง แต่แคปซูลแบบปิดสามารถใช้ได้กับเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่เป็นแบรนด์เดียวกับกาแฟเท่านั้น  ซึ่งตัวอย่างแคปซูลระบบปิดก็คือแคปซูลกาแฟ Nespresso ในการใช้งานแคปซูลกาแฟ Nespresso คุณสามารถใช้แคปซูลกาแฟที่เข้ากันได้กับกาแฟประเภทนี้เท่านั้นและอาจจะมียี่ห้อที่เฉพาะเจาะจงด้วย ในสมัยก่อนการหาซื้อแคปซูลกาแฟเป็นเรื่องที่ยากมากในไทย อาจจะต้องสั่งพรีออเดอร์สินค้ามาเอง แต่ในตอนนี้คุณไม่ต้องยุ่งยากแล้วค่ะเพราะแคปซูลกาแฟในไทยมีให้เลือกเยอะขึ้น อีกทั้งหากคุณซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลคุณก็จะได้แคปซูลกาแฟแถมไปด้วยในบางยี่ห้อ ซึ่งแคปซูลกาแฟที่ทางแบรนด์แถมไปก็จะสามารถเป็นไกด์ไลน์ให้กับผู้ซื้อได้ว่าต่อไปควรจะเลือกซื้อแคปซูลกาแฟแบบไหน แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลคุณต้องทำความรู้จักกับแคปซูลกาแฟ Nespresso และ Dolce Gusto กันก่อนค่ะ โดยการพิจารณาแคปซูลกาแฟทั้ง 2 แบบนี้จะทำให้คุณสามารถเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟและแคปซูลกาแฟได้ง่ายขึ้น

1. Nespresso

จุดเด่น

  • กลิ่นและรสชาติของกาแฟที่ผลิตโดยเครื่องชงกาแฟ Nespresso มีความเข้มข้นกว่า Dolce Gustoโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้แคปซูลกาแฟระดับไฮเอนด์
  • แคปซูลกาแฟ Nespresso เป็นหนึ่งในแคปซูลกาแฟชนิดเดียวในตลาดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ในขณะที่แคปซูลกาแฟ Dolce Gusto ไม่สามารถรีไซเคิลได้
  • เครื่องชงกาแฟ Nespresso สามารถผลิตกาแฟที่มีเข้มข้นและครีม่าได้อย่างลงตัว

จุดด้อย

  • เครื่องชงกาแฟ Nespresso และแคปซูลกาแฟมักจะมีราคาสูงกว่า Dolce Gusto แต่คุณภาพมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
  • แคปซูล Dolce Gusto มีจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปและซูเปอร์มาร์เก็ต ในขณะที่แคปซูล Nespresso มักจะต้องสั่งซื้อทางออนไลน์

2. Dolce Gusto

จุดเด่น

  • ข้อได้เปรียบที่ชัดเจนที่สุดของเครื่องชงกาแฟ Dolce Gusto คือจะมีราคาที่ถูกกว่าเครื่องชงกาแฟ Nespresso และแน่นอนว่าแคปซูลกาแฟก็มีราคาถูกลงเช่นกัน
  • เครื่องชงกาแฟ Dolce Gusto ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟระยะยาวหรือชอบดื่มในปริมาณมาก เพราะบางยี่ห้อมีขนาดใหญ่และมีความจุของถังเก็บน้ำหลายลิตร
  • นอกจากจะได้ซื้อแคปซูลกาแฟในราคาที่ถูกแล้วคุณยังสามารถซื้อแคปซูลช็อกโกแลตร้อน ชาเขียวและแคปซูลชนิดอื่นที่เข้ากันได้กับเครื่องชงกาแฟ Dolce Gusto ได้ ด้วยเหตุนี้เครื่องดื่มที่คุณทานจะมีความหลากหลายมากขึ้น

จุดด้อย

  • กาแฟของ Dolce Gusto มีลักษณะเป็นกลาง ไม่ค่อยมีความโดดเด่นและเหมาะสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์มากกว่า
  • กาแฟที่ได้จากแคปซูลและเครื่องชงกาแฟ Dolce Gusto นั้นผลิตกาแฟเอสเปรสโซออกมาได้ไม่ดีนัก ในขณะที่ Nespresso สามารถชงกาแฟเอสเพรสโซที่มีกลิ่นหอมและให้รสชาติที่เข้มข้นมากกว่า
รูปภาพจาก krups.com

KRUPS เครื่องชงกาแฟแรงดัน PICCOLO XS KP1A0166

เครื่องชงกาแฟราคาประหยัด ขนาดกะทัดรัดใช้งานง่าย

ราคา 1,490 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ความจุแท็งก์น้ำ :  0.8 ลิตร

ขนาด  : 13.6 x 27.6 x 26.6 ซม. 

กำลังไฟ : 1,600 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 2.4 กก.

แรงดันน้ำ (บาร์) : 15 บาร์

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาได้ง่าย
  • มีกำลังไฟสูงถึง 1,600 วัตต์ทำกาแฟได้อย่างรวดเร็ว
  • ทำเครื่องดื่มทั้งเย็นและร้อนได้ 
  • ตัวเครื่องจะปิดการทำงานอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน
ข้อควรพิจารณา

ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้งานเพราะตัวเครื่องวางไว้ในที่ชื้นไม่ได้

KRUPS PICCOLO XS เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลขนาดกะทัดรัด มีแท็งก์น้ำที่มีความจุ 0.8 ลิตร เครื่องชงกาแฟแคปซูลนี้มีขนาดที่เล็กกว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบอื่นเล็กน้อยแต่ประสิทธิภาพก็ยังคงคลาสสิกเหมือนเดิม เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลนี้เหมาะสำหรับห้องครัวขนาดเล็ก ตัวเครื่องสามารถรองรับแคปซูลดั้งเดิมแบบทั่วไปได้ ด้วยกำลังไฟ 1,600 วัตต์ สามารถชงกาแฟได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้คุณสามารถดื่มกาแฟได้เร็วกว่าเครื่องชงกาแฟรุ่นเก่าของทางแบรนด์ ตัวเครื่องมีแรงดัน 15 บาร์ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงมาก กาแฟที่ได้จึงมีความครีม่ามาก ๆ จุดเด่นอีกอย่างของเครื่องชงกาแฟแคปซูลนี้คือโหมดอีโคแบบ 1 นาทีสามารถประหยัดพลังงานได้ดีมาก เหมาะอย่างยิ่งหากคุณมักจะเปิดตัวเครื่องทิ้งไว้โดยไม่ได้ตั้งใจหลังจากใช้งาน ส่วนกากกาแฟทั้งหมดจะบรรจุอยู่ในตัวกรองด้านหลังเพื่อให้การใช้งานมีความสะอาดนั่นเอง
รูปภาพจาก duchess.co.th

Duchess เครื่องชงกาแฟแคปซูล CM6200

เครื่องชงกาแฟแรงดันน้ำ 20 บาร์ ชงกาแฟได้อย่างรวดเร็ว

ราคา 2,148 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ความจุแท็งก์น้ำ : 0.65 ลิตร

ขนาด : 13.5 x  32.5 x 22.5  ซม. 

กำลังไฟ : 1,500 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 3 กก.

แรงดันน้ำ (บาร์) : 20 บาร์ 

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • ตัวเครื่องทำงานเร็วและมีประสิทธิภาพ 
  • ชงกาแฟได้ทุกรูปแบบ
  • น้ำหนักเบา พกพาสะดวกและไม่เปลืองพื้นที่
ข้อควรพิจารณา

ไม่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่

Duchess เครื่องชงกาแฟแคปซูล CM6200 เครื่องชงกาแฟนี้มีสไตล์เรียบง่ายและแนวคลาสสิก ตัวเครื่องใช้งานได้ง่ายมาก ปิดตาชงกาแฟก็ยังได้เลยค่ะ เครื่องชงกาแฟแคปซูลนี้สามารถชงกาแฟได้ทุกประเภทตั้งแต่เอสเพรสโซที่นุ่มละมุนและเข้มข้น ไปจนถึงลาเต้แบบครีม่าที่เหนียวนุ่ม กาแฟที่ได้จากการใช้เครื่องชงกาแฟเครื่องนี้มีรสชาติที่ดีและเข้มข้นมาก อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมชวนลิ้มลอง ตัวเครื่องมีความจุถังน้ำ 0.65 ลิตรเหมาะสำหรับคอกาแฟที่มีพื้นที่ในบ้านไม่มาก แต่ถึงตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กแต่ทำงานได้เร็วมากเพราะมีแรงดันน้ำถึง 20 บาร์เลยทีเดียว  ถาดรองแก้วของเครื่องสามารถปรับระดับได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกาแฟแก้วใหญ่หรือเล็กก็ชงได้อย่างแน่นอน
รูปภาพจาก krups.com

KRUPS เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น KP3408

เครื่องชงกาแฟที่สามารถชงกาแฟได้ทุกรูปแบบ ใช้งานได้เพียงแค่กดปุ่มเดียว

ราคา 3,490 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ความจุแท็งก์น้ำ :  0.8 ลิตร

ขนาด : 11 x 27.2 x 27.1 ซม. 

กำลังไฟ : 1,500 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 1.9 กก.

แรงดันน้ำ (บาร์) : 15 บาร์

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด จึงสามารถเคลื่อนย้ายเครื่องชงกาแฟไปได้ทุกที่
  • ใช้งานง่ายและเนื่องจากถาดรองน้ำแบบปรับได้
  • ตัวเครื่องจะหยุดทำงานอัตโนมัติหลังจากไม่ได้ใช้งาน
ข้อควรพิจารณา

อาจจะมีการรั่วไหลบ้างเป็นครั้งคราว

KRUPS เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น KP3408 เครื่องชงกาแฟขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา มาพร้อมฟังก์ชันมากมายสำหรับการชงกาแฟ สามารถชงกาแฟได้ในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับอุณหภูมิ ปริมาณและความเข้มข้นของกาแฟได้อย่างง่ายดาย ตัวเครื่องสามารถชงกาแฟได้ทุกรูปแบบเลยไม่ว่าจะเป็นลาเต้หรือเอสเปรสโซ กาแฟที่ได้จะมีความเข้มข้นสูงมาก รสชาติก็จะดีเยี่ยม เครื่องชงกาแฟมีแรงดันถึง 15 บาร์สามารถชงกาแฟได้อย่างรวดเร็ว ตัวเครื่องใช้งานได้ง่ายมากสามารถทำงานได้แค่การกดปุ่มเดียวเท่านั้น ตัวเครื่องมีการออกแบบที่ดูทันสมัย ช่วยยกระดับห้องครัวได้เป็นอย่างดีเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเครื่องชงกาแฟขนาดเล็กและใช้งานได้ครบวงจรค่ะ
รูปภาพจาก mi.com

Xiaomi เครื่องชงกาแฟแรงดัน SCISHARE S1103

เครื่องชงกาแฟแคปซูลอัจฉริยะ ควบคุมได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน

ราคา 2,790 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ความจุแท็งก์น้ำ :  0.58 ลิตร

ขนาด  : 10 x 34 x 26 ซม. 

กำลังไฟ : 1,200 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 5 กก.

แรงดันน้ำ (บาร์) : 19 บาร์

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • เครื่องชงกาแฟที่สมบูรณ์แบบสำหรับคอกาแฟ 
  • ขนาดเล็กกระทัดรัด 
  • สามารถควบคุมเครื่องดื่มของคุณได้ครบทุกด้าน  
  • ควบคุมเครื่องผ่านแอปได้สะดวก 
ข้อควรพิจารณา

น้ำหนักของตัวเครื่องค่อนข้างเยอะ

Xiaomi เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่สามารถควบคุมได้ง่ายมาก ใช้งานง่ายและคุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอน ตัวเครื่องมีการควบคุมการไหลของกาแฟซึ่งจะป้องกันไม่ให้กาแฟหกเลอะเทอะและสามารถควบคุมปริมาณกาแฟที่คุณกินได้ ตัวเครื่องใช้งานได้ง่ายมากแม้แต่ผู้สูงอายุก็สามารถใช้งานได้ง่าย เพราะมีไฟ LED ที่บ่งบอกสถานะต่าง ๆ ทำให้ใช้งานง่ายและรวดเร็ว ตัวเครื่องมีหัวสกัดกาแฟให้เลือกถึง 8 สเกลและมีแรงดันถึง 19 บาร์ ทำให้คุณสามารถปรับแต่งรสชาติให้เหมาะกับรสนิยมที่หลากหลายได้ง่าย ตัวเครื่องสามารถประหยัดพลังงานได้ดีด้วยคุณสมบัติปิดเครื่องอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้งาน 15 นาที ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องกังวลหากคุณปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อออกจากบ้าน ตัวเครื่องมีถาดรองน้ำหยดแบบปรับได้ที่เหมาะกับขนาดถ้วยกาแฟทั้งหมดที่คุณมี อีกทั้งตัวเครื่องยังมีขนาดกะทัดรัด จึงสามารถใช้ได้ในห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร หรือแม้แต่บนโต๊ะในสำนักงานและใช้ได้กับกาแฟแคปซูลหลายยี่ห้อ
รูปภาพจาก nespresso.com

Nespresso เครื่องชงกาแฟแรงดัน Essenza Mini

เครื่องชงกาแฟแคปซูลดีไซน์โมเดิร์น เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก

ราคา 7,300 บาท*

ข้อมูลสินค้า

ความจุแท็งก์น้ำ :  0.6 ลิตร

ขนาด  : 8.4 x 33 x 20.4 ซม. 

กำลังไฟ : 1,250 วัตต์

น้ำหนักของตัวเครื่อง : 2.3 กก.

แรงดันน้ำ (บาร์) : 19 บาร์

เหตุผลที่ควรซื้อ
  • ประหยัดพื้นที่
  • มีให้เลือกหลายสี
  • ประหยัดไฟ ลดการใช้พลังงาน
ข้อควรพิจารณา
  • ภาชนะบรรจุแคปซูลมีขนาดเล็ก
  • ไม่มีหัวตีฟองนม
Nespresso Essenza Mini เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซขนาดกะทัดรัดแต่ทรงพลังนี้เหมาะมากสำหรับห้องครัวที่มีขนาดเล็ก การดีไซน์สวยงามมากเลยทีเดียวเพราะแท็งก์น้ำจะอยู่ด้านหลังเครื่องแทนที่จะกินพื้นที่ด้านข้าง ดังนั้นจึงพอดีกับพื้นที่ที่บางเฉียบได้อย่างง่ายดาย แม้ตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กมากแต่ยังมีแรงดันของน้ำถึง 19 บาร์ ตัวเครื่องจึงผลิตกาแฟได้อย่างรวดเร็ว เครื่องชงกาแฟแคปซูลนี้สามารถใช้งานได้ง่ายมาก สามารถชงกาแฟได้ 2 รูปแบบคือเอสเพรสโซและลุงโก ไม่เหมาะกับกาแฟที่เติมนมเพราะไม่มีหัวตัวฟองนมค่ะ ตัวเครื่องจะสามารถประหยัดพลังงานได้ดี เนื่องจากตัวเครื่องจะปิดตัวเองอัตโนมัติหลังจากไม่ได้ใช้งานประมาณ 9 นาที ตัวเครื่องมีการดีไซน์ในสไตล์โมเดิร์น มีการแถมแคปซูลกาแฟประเภทต่าง ๆ ถึง 14 แคปซูล ใครที่มีพื้นที่น้อยหรือชอบทานกาแฟดำต้องลองเครื่องชงกาแฟแคปซูลตัวนี้ค่ะ

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูล

1. ความจุของแท็งก์น้ำ

เครื่องชงกาแฟแคปซูลทุกเครื่องจะมีแท็งก์น้ำแบบเติมได้ ดังนั้นโปรดตรวจสอบขนาดของแท็งก์น้ำก่อนตัดสินใจซื้อ แท็งก์น้ำที่มีความจุน้อยกว่า 1 ลิตรจะต้องเติมน้ำบ่อยขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณชอบดื่มกาแฟทั้งวัน ดังนั้นเราขอแนะนำเลยว่าหากคุณดื่มกาแฟไม่บ่อยนักหรือดื่มแค่ในตอนเช้าให้เลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีความจุของแท็งก์น้ำน้อยกว่า 1 ลิตร แต่หากคุณดื่มกาแฟทั้งวันหรือใช้ดื่มกันหลาย ๆ คนให้เลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีความจุของแท็งก์น้ำมากกว่า 1 ลิตรเพื่อป้องกันความวุ่นวายในเวลาน้ำหมดกะทันหัน

2. แรงดันน้ำ (บาร์)

แรงดันน้ำคือแรงที่เครื่องชงกาแฟแคปซูลใช้ในการสูบน้ำผ่านแคปซูล หากมีแรงดันน้ำมากขึ้นเท่าไหร่กาแฟก็จะทำเสร็จเร็วขึ้นเท่านั้น อีกทั้งยังมีผลในเรื่องของรสชาติอีกด้วย แนะนำให้มองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีอย่างน้อย 15 บาร์เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ถ้าคุณไม่ได้เคร่งครัดเรื่องของเวลามากนักก็สามารถเลือกแรงดันน้ำที่ต่ำกว่านั้นได้  ในบางครั้งแรงดันน้ำที่มากขึ้นก็อาจจะส่งผลต่อราคาของตัวเครื่องที่แพงขึ้นเช่นกัน

3. ฟังก์ชันปริมาณของเครื่องดื่ม

ฟังก์ชันปริมาณของเครื่องดื่มที่ต้องการเป็นฟังก์ชันเสริมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟเอสเปรสโซในตอนเช้าหรือชอบดื่มลาเต้ในช่วงสุดสัปดาห์ เครื่องชงกาแฟแคปซูลบางเครื่องมีระบบให้เราได้เลือกเครื่องดื่มในปริมาณต่าง ๆ มากมาย ซึ่งฟังก์ชันนี้มักจะมีความสามารถในการปรับปริมาณน้ำที่จ่ายออกมาให้เหมาะกับรสนิยมการดื่มกาแฟของคุณ อีกทั้งคุณยังสามารถบันทึกการตั้งค่ากาแฟแก้วโปรดของคุณเพื่อสร้างเครื่องดื่มส่วนตัวที่ทำซ้ำได้อย่างง่ายดายและสะดวก ซึ่งฟังก์ชันแบบนี้มักจะมีอยู่ในเครื่องชงกาแฟแคปซูลราคาแพง

4. ขนาดของช่องใส่แก้วกาแฟ

ก่อนที่จะซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลให้ตรวจสอบว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่คุณเลือกมีที่ว่างเพียงพอสำหรับใช้วางถ้วยกาแฟถ้วยโปรดของคุณหรือไม่ นั่นเป็นเพราะเครื่องชงกาแฟแคปซูลบางรุ่นมีแท่นวางที่แคบซึ่งไม่สามารถใส่แก้วหรือถ้วยกาแฟขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นหากคุณชอบทานเอสเพรสโซ่ควรมองหาช่องหรือรางใส่แก้วแบบปรับได้วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการกระเซ็นของกาแฟ แต่ยังช่วยให้คุณสามารถทานกาแฟได้ในปริมาณที่ต้องการ