ออทิสติก(Autistic Disorder) หรือ Autism หลายคนคงได้ยินคำนี้มาเยอะแล้ว แต่อาจจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร โรคนี้เป็นการผิดปกติของพัฒนาการเด็กแบบหนึ่ง โดยที่เด็กไม่สามารถพัฒนาทักษะสังคม ทักษะทางภาษา และการสื่อความหมายได้เหมาะสมตามอายุวัย มีพฤติกรรม กิจกรรม และความสนใจ เป็นแบบแผนซ้ำๆเดิม ไม่มีความยืดหยุ่น ปัญหาดังกล่าวอาจมีตั้งแต่ในครรภ์ หรือตั้งแต่เล็ก แสดงให้เห็นก่อนอายุ 3 ขวบ ผู้เชี่ยวชาญโรคนี้ได้มีการพยายามศึกษารายละเอียดต่างๆ ของโรค แต่ยังหาสาเหตุที่แน่ชัดยังไม่ได้ แล้วอาการของออทิสติกก็มีให้สังเกตกันได้หลายอย่างนะคะ เราจะของแบ่งไปตามช่วงอายุ ดังนี้
ออทิสติกในเด็กเล็ก
อาการของออทิสติกในเด็กเล็ก ที่มักพบได้บ่อย ๆ ได้แก่ : (1)
- ไม่ตอบสนองเมื่อมีคนเรียกชื่อตัวเอง
- ไม่สบตาคนอื่น เมื่อคุยด้วย
- ไม่ยิ้มกลับ เมื่อมีคนยิ้มให้
- อารมณ์เสียได้อย่าง่ายดาย ถ้าได้ทานอาการที่มีรสชาติไม่ถูกใจ หรือได้รับกลิ่นที่ไม่ชอบ หรือได้ยินเสียงที่ไม่ชอบ
- มีการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ เช่นกระพือแขนโบกไปมา สะบัดนิ้ว หรือโยกร่างกายของเขา
- ไม่พูดโต้ตอบกับเด็กคนอื่นๆ
- พูดประโยคเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา
ออทิสติกในเด็กโต
อาการของออทิสติกในเด็กโต ที่มักพบได้บ่อย ๆ ได้แก่ : (1)
- ดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าคนอื่นคิดหรือรู้สึกอย่างไร
- ยากต่อการบอกความรู้สึกของตัวเอง ให้คนอื่นรู้ได้
- ชอบที่จะทำกิจวัตรประจำวันอย่างเคร่งครัดตามแบบแผนที่เขาเคยทำมาก่อน หากต้องปรับเปลี่ยนกิจวัตรจะรู้สึกอารมณ์เสียอย่างหนัก
- เมื่อมีความชอบในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เขาจะให้ความสนใจกับสิ่งนั้นเป็นอย่างมาก
- จะหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เมื่อบอกให้เขาทำบางสิ่งบางอย่าง
- ไม่ชอบสัมพันธ์กับเพื่อน ชอบอยู่คนเดียวมากกว่า
- บกพร่องทางการสื่อสาร
อาการอื่นๆ
อาการของออทิสติกอื่น ๆ ได้แก่ : (2)
- สมาธิสั้น ไม่จดจ่อกับการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
- มีความหุนหันพลันแล่น ทำอะไรโดยไม่คิด
- มีความก้าวร้าว
- ทำให้ตนเองได้รับอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง
- มีอารมณ์ที่ฉุนเฉียว
- มีพฤติกรรมการกินและการนอนที่ผิดปกติ
- มีอารมณ์หรือปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่ผิดปกติ
- ขาดความเกรงกลัว หรือในบางคนก็ขี้กลัวมากกว่าคนทั่วไป
ออทิสติกเกิดในเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายได้มากกว่ากัน ?
ออทิสติกเกิดขึ้นได้ในทั้งสองเพศ ลักษณะอาจจะแตกต่างกันในเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ยกตัวอย่างเช่น ในเด็กผู้หญิงที่เป็นออทิสติกจะมีความเงียบกว่าเด็กผู้ชาย, เก็บความรู้สึกและรับมือกับสถาการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีกว่า นั่นคือเราจะเจออาการออทิสติกน้อยในเด็กผู้หญิงนั่นเอง (1),(5)
พัฒนาการในเด็กออทิสติก
เด็กที่เป็นโรคออทิสติก มีพัฒนาการในแต่ละด้านที่แตกต่างกัน พวกเขาอาจมีความล่าช้าในด้านภาษา สังคม และทักษะการเรียนรู้ต่างๆ ในขณะที่พวกเขามีความสามารถในการเดินและเคลื่อนไหวไปมานั้นใกล้เคียงกับเด็กคนอื่นๆ เด็กออทิสติกบางคนอาจจะเก่งในการต่อจิ๊กซอ หรือแก้ปัญหาด้านคอมพิวเตอร์ แต่อาจจะมีปัญหากับการเข้าสังคม เช่นการพูดคุยหรือหาเพื่อน เด็กเหล่านี้อาจเรียนรู้ทักษะที่ยากลำบากก่อนที่พวกเขาจะเรียนรู้สิ่งที่ง่าย ตัวอย่างเช่น เด็กอาจจะอ่านคำศัพท์ยาว ๆ ได้ แต่ไม่สามารถบอกคุณได้ว่าเสียง “b” ทำให้เกิดเสียงอะไร เป็นต้น (2)
เด็กจะพัฒนาตัวเองไปตามลำดับของตนเอง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อไหร่ที่เด็กจะเรียนรู้ทักษะเฉพาะที่บกพร่องไปนั้นได้ แต่ช่วงอายุมีก็ความจำเพาะเจาะจงเช่นเดียวกัน ในช่วง 2-3 ขวบ สามารถที่จะใช้วัดการเรียนรู้ในการเข้าสังคม และพัฒนาการด้านอารมณ์ได้
เด็กออทิสติกไม่มีลักษณะอะไรที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ แต่พวกเขาอาจสื่อสาร โต้ตอบ ประพฤติ และการเรียนรู้ในรูปแบบที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่อื่นๆ ความสามารถในการเรียนรู้ การคิด และการแก้ปัญหาต่างๆ ของเขาในบางครั้งก็เหมือนจะเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมา แต่ในบางคนก็อาจจะดูเป็นอะไรที่ยาก ท้าทายความสามารถในการแก้ปัญหาของเขา เด็กออทิสติกบางคนก็ต้องการความช่วยเหลือหลายอย่างในชีวิตประจำวันของเขา บางคนก็สามารถทำอะไรหลายอย่างได้ด้วยตนเอง
เด็กส่วนใหญ่ที่เป็นโรคออทิสติกจะได้รับการวินิจฉัยตอนอายุครบ 3 ขวบ แต่ผู้เป็นคุณพ่อคุณแม่มักจะเห็นปัญหาพัฒนาการก่อน 3 ขวบก็ได้นั่นจะเป็นการดีมากค่ะ เพราะการวิจัยหลายๆแหล่งพบว่าการตรวจพบอาการออทิสติกตั้งแต่เนิ่นๆ และได้รับการดูแลที่ถูกต้องเหมาะสมในระยะแรกๆ ก็จะช่วยให้รักษาได้ง่ายขึ้น แก้ไขได้ตรงจุดมากขึ้น (3),(4)
ในบางครั้งพ่อแม่หลายๆ คนไม่ได้ระแวดระวังถึงสัญญาณออทิสติกที่เกิดขึ้นในระยะเริ่มต้น และอาจจะไม่ได้คิดถึงคำว่าออทิสติกเลยก็ว่าได้ คุณเป็นคนที่อยู่ใกล้ลูก และรู้จักลูกคุณดีที่สุด ดังนั้นอย่ารอจนให้ลูกแสดงอาการไปถึงขั้นที่ลูกไม่ยอมพูดเมื่อถึงอายุที่ควรพูดแล้วจึงค่อยเริ่มคิดถึงคำว่าออทิสติกนะคะ
อ้างอิง
(1) Signs of autism in children
(2) Signs and Symptoms of Autism Spectrum Disorders