เดี๋ยวนี้หลายคนผันตัวมาเป็นยูทูปเบอร์ทำคลิปอัพลงในโซเชียลมีเดียกันแล้ว ซึ่งอาชีพยูทูปเบอร์ (Youtuber) หรืออาชีพวล็อกเกอร์ (Vlogger) สามารถสร้างรายได้ให้เราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว และอาวุธสำคัญของอาชีพนี้ก็คือ “กล้องถ่ายรูป” นั่นเองค่ะ แล้วก็มีหลายคนที่อยากจะลองทำอาชีพนี้บ้างเหมือนกันแต่ก็ต้องพับเก็บเข้ากรุไว้ก่อนเพราะไม่รู้จะซื้อกล้องถ่ายรูปแบบไหนดี เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาลองทำความรู้จักกับกล้องถ่ายรูปไปพร้อม ๆ กันดีกว่าค่ะ
ประเภทของกล้องถ่ายรูป มีอะไรบ้าง ?
กล้องถ่ายรูปหลัก ๆ ที่เป็นที่รู้จักจะมีด้วยกัน 4 ประเภทค่ะ
1. Instant Camera
หลายคนคงจะรู้จักกล้องถ่ายรูปประเภทนี้ในชื่อกล้องโพลารอยด์ จริง ๆ แล้วคำว่าโพลารอยด์เป็นชื่อของบริษัทที่ผลิตกล้องถ่ายรูปประเภทนี้ค่ะ (1) ข้อดีของกล้องถ่ายรูปประเภทนี้คือรูปถ่ายจะปริ้นท์ออกมาทันทีที่คุณกดถ่ายโดยไม่จำเป็นต้องมีปริ้นเตอร์ รูปแต่ละใบจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะเราไม่สามารถกำหนดสีหรือปรับแต่งรูปได้เลยค่ะ
2. Film Camera
กล้องถ่ายรูปสุดคลาสสิคประเภทนี้มีมานานหลายร้อยปีแล้วค่ะ การทำงานของกล้องประเภทนี้ก็คือคุณจะต้องใส้ม้วนฟิล์มเข้าไปภายในตัวเครื่อง เราจะเห็นรูปภาพผ่านเลนส์โดยกระจกสะท้อน เมื่อคุณถ่ายรูปจนหมดม้วน คุณจะต้องนำฟิล์มไปล้างและอัดหรือสแกนลงในคอมพิวเตอร์ ซึ่งกระบวนการนี้จะใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแพง แต่ถึงอย่างนั้นกล้องถ่ายรูปประเภทนี้ก็เป็นที่นิยมสำหรับชาววินเทจหรือคนที่ชอบการถ่ายรูปแบบย้อนยุค
3. Digital Camera (Compact / DSLR)
กล้องประเภทนี้ถูกผลิตขึ้นมาแทนกล้องฟิล์มเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมาเอง ซึ่งกล้องถ่ายรูปดิจิตอลสามารถถ่ายรูปและวีโอที่มีความละเอียดสูงได้ แตกต่างจากกล้อง Instant และกล้องฟิล์มที่ถ่ายได้เฉพาะรูปภาพ โดยกล้องดิจิตอลจะใช้ระบบเซนเซอร์ในการรับแสงและใช้เมมโมรีการ์ดแทนม้วนฟิล์ม (2) ข้อดีของเมมโมรีการ์ดคือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้จนกว่าจะหมดอายุการใช้งาน มีโหมดการทำงานทั้งแบบอัตโนมัติและแบบตั้งค่าด้วยตัวเอง สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ มีทั้งแบบ Compact และ DSLR
4. Mirrorless Camera
กล้องมิลเลอร์เลสได้รับการพัฒนามาจากกล้อง DSLR มีฟังก์ชั่นและการทำงานไม่ต่างจากกล้องดิจิตอลสักเท่าไหร่ จุดเด่นก็คือมีการใช้จอ LCD แทนกระจกสะท้อนภาพ ทำให้ภาพที่มองเก็นผ่านเลนส์นั้นมีความใกล้เคียงกับภาพจริงมากขึ้น (3)
สำหรับวงการยูทูปเบอร์หรือบล็อกเกอร์นั้นจะนิยมใช้กล้องดิจิตอล (compact / DSLR) และกล้องมิลเลอร์เลสในการถ่ายทำ เพราะกล้องสองประเภทนี้สามารถอัดวิดีโอได้นั่นเอง ถึงตอนนี้คุณคงอยากจะทราบแล้วว่ากล้องดิจิตอลและกล้องมิลเลอร์เลสมีการทำงานแตกต่างกันอย่างไร เรามาดูกันต่อเลยค่ะ
กล้องดิจิตอลคอมแพค ( Digital Compact Camera )
กล้องถ่ายรูปที่เหมาะสำหรับมือใหม่เพราะมีขนาดเล็ก, น้ำหนักเบา, ทนทาน, ใช้งานง่าย และราคาถูก (2) ซึ่งกล้องคอมแพคก็จะแบ่งได้เป็น 3 แบบย่อย ดังนี้ค่ะ
Standard Compacts
กล้องคอมแพคแบบธรรมดาจะมีระบบตั้งค่าแบบอัตโนมัติ, เลนส์ซูม และแฟลชในตัวซึ่งคุณจะไม่สามารถตั้งค่าและเปลี่ยนเลนส์ได้ ตัวกล้องจะไม่มีช่องมองภาพหรือ viewfinder โดยคุณจะเห็นภาพจากจอ LCD หลังจากที่คุณเล็งจนได้ระยะที่พอใจแล้วคุณแค่กดปุ่มถ่ายรูป แค่นี้คุณก็ได้รูปที่คุณต้องการแล้วค่ะ
Zoom Compacts
จุดเด่นคือเลนส์ซูมของกล้องคอมแพคชนิดนี้จะดีว่าเลนส์ซูมของชนิด Standard แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้เหมือนกล้องถ่ายรูปชนิดอื่น ซึ่งเลนส์ของกล้องซูมคอมแพคสามารถซูมได้ในระยะ 28 – 300 มิลลิเมตร และหลาย ๆ รุ่นมีความคมชัดไม่น้อยกว่า 12 เมกะ พิกเซล เลยทีเดียว
Advance Compacts
กล้องชนิดนี้นี้มีคุณภาพสูงกว่ากล้องคอมแพคแบบธรรมดาและแบบซูม ซึ่งกล้องชนิดนี้ให้ความคมชัดของภาพสูง คุณต้องตั้งค่ารูปภาพและโฟกัสด้วยตัวเอง นอกจากนี้กล้องบางรุ่นสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ด้วย
แต่สิ่งที่ต้องระวังสำหรับกล้องดิจิตอลคือ ปุ่มตั้งค่าต่าง ๆ รวมถึงช่องไมโครโฟนจะถูกติดตั้งอยู่ที่ด้านบนของตัวกล้อง และเนื่องจากกล้องมีขนาดเล็กอาจจะทำให้นิ้วมือของคุณปิดช่องไมโครโฟนหรือทับบางส่วนของเลนส์ซึ่งอาจจะทำให้คุณภาพเสียงของวิดีโอไม่ดีเท่าที่ควร
กล้อง DSLR (Digital Single Lens Reflex Camera)
กล้อง DSLR เป็นที่นิยมของนักถ่ายภาพมืออาชีพ ตัวกล้องมีขนาดใหญ่, ค่อนข้างหนัก และราคาแพง สามารถตั้งค่าได้ด้วยตัวเองหรือแบบอัตโนมัติ ปุ่มกดต่าง ๆ จะอยู่บริเวณด้านหน้า จอภาพสามารถหมุนได้อย่างอิสระ เปลี่ยนเลนส์ได้หลายรูปแบบ เช่น เลนส์ถ่ายภาพบุคคล, เลนส์หน้าชัดหลังเบลอ, เลนส์ถ่ายรูประยะใกล้ หรือเลนส์มุมกว้าง มีรูรับแสงกว้างทำให้ได้รูปที่มีความละเอียดสูง สามารถถ่ายได้หลากหลายแนว มีช่องมองภาพแบบ OVF (Optical Viewfinder) ที่ช่วยให้ไม่เปลืองแบตเตอรี่ มีการใช้งานระบบแอนาล็อกทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ (4) ข้อเสียของกล้อง DSLR คือช่องมองภาพแบบ OVF จะทำให้ภาพที่มองเห็นไม่เหมือนกับความเป็นจริงมากนัก ซึ่งปัญหานี้จะเกิดกับการถ่ายภาพในระยะใกล้
กล้องมิลเลอร์เลส (Mirrorless Camera)
กล้องมิลเลอร์เลสคือการผสมผสานกันระหว่างกล้อง Compact กับกล้อง DSLR ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือกล้องขนาดเล็ก, น้ำหนักเบา, ราคาถูก และมีฟังก์ชั่นหลาย ๆ อย่างเหมือนกล้อง DSLR กล้องมิลเลอร์เลสให้รูปภาพที่มีความละเอียดสูง เปลี่ยนเลนส์ได้ (3) เสียงกดชัตเตอร์เงียบกว่า DSLR ซึ่งในบางรุ่นอาจจะมีโฟกัสในทุกจุดของเฟรมทำให้ภาพมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi หรือ Bluetooth ทำให้คุณสามารถสั่งการและถ่ายโอนไฟล์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น มีช่องมองภาพแบบ EVF (Electronic Viewfinder) ทำให้ภาพที่คุณมองเห็นในช่องมองภาพมีความใกล้เคียงกับความเป็นจริง ข้อเสียคือคุณอาจจะมองภาพในช่อง EVF ลำบากหากอยู่ในที่ที่มีแสงน้อย
คำแนะนำสำหรับการดูแลรักษากล้องถ่ายรูป
- ไม่ควรให้กล้องถ่ายรูปโดนความชื้นเพราะจะทำให้กล้องเสื่อมสภาพได้
- ไม่ควรวางหรือกระแทกกล้องแรง ๆ เพราะอาจจะทำให้เลนส์เกิดความเสียหาย
- ไม่ควรให้เลนส์กล้องโดนแสงแดดโดยตรงเพราะจะทำให้เลนส์เสียหาย
- ควรทำความสะอาดกล้องด้วยอุปกรณ์สำหรับกล้องโดยเฉพาะ
อ้างอิง