อาการภูมิแพ้ เป็นอาการที่พบได้บ่อยมาก ๆ ในทุกวัยค่ะ บางคนอาจจะรู้ว่าตัวเองแพ้อะไรแต่บางคนอาจจะไม่ทราบถึงสาเหตุ โดยอาการภูมิแพ้นั้น มันสามารถทำให้เกิด “โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้” ได้ ซึ่งโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ก็คือ การอักเสบภายในจมูกที่เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ เช่น ละอองเกสร ฝุ่น เชื้อรา หรือสะเก็ดของผิวหนังจากสัตว์บางชนิด ภาวะนี้เป็นภาวะที่พบได้บ่อยมาก โดยคาดว่าจะส่งผลกระทบประมาณ 1 ในทุก ๆ 5 คน โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้มักจะทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัด เช่น จาม คัน คัดจมูก หรือน้ำมูกไหล อาการเหล่านี้มักจะเริ่มทันทีหลังจากสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ (1),(2),(3)
บางคนเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้บ่อยมาก เพราะพวกเขาไวต่อสารก่อภูมิแพ้ตามฤดูกาล เช่น ละอองเกสรของต้นไม้หรือหญ้า คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้มีอาการเล็กน้อยที่สามารถรักษาได้ง่าย และมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับบางคนอาการจะรุนแรงและต่อเนื่องทำให้เกิดปัญหาการนอนหลับและรบกวนการใช้ชีวิตในประจำวัน อาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ในบางครั้งจะดีขึ้นตามลำดับ แต่อาจใช้เวลานานหลายปีในการรักษา ซึ่งอาการจะไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ค่ะ (1),(2) ต่อไปเราจะไปดูสาเหตุของการเกิดโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้กันค่ะ
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้คืออะไร?
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เป็นปฏิกิริยาการแพ้ชนิดหนึ่ง คล้าย ๆ กับการแพ้อาหาร มันจะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณทำปฏิกิริยากับบางสิ่งในสภาพแวดล้อมของคุณมากเกินไป แต่ปกติแล้วสารก่อภูมิแพ้จะเป็นสารที่ไม่เป็นอันตราย แต่สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ได้ สารก่อภูมิแพ้ทั่วไปที่ทำให้เกิดโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ได้แก่ ละอองเกสร (โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ชนิดนี้เรียกว่าไข้ละอองฟาง) เช่นเดียวกับสปอร์ของเชื้อรา ไรฝุ่นในบ้าน และสะเก็ดผิวหนังหรือน้ำลายจากสัตว์บางชนิด (1) ซึ่งโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้เป็นการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ที่เฉพาะเจาะจง โดยละอองเรณูจากดอกไม้เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยที่สุดในโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ค่ะ ซึ่งจะมีอาการน้ำมูกไหล, คัดจมูก, ไอ, เจ็บคอ, เคืองตา, น้ำตาไหล, ใต้ตาดำคล้ำ, ปวดหัวบ่อย และลมพิษ ซึ่งโดยปกติแล้วคุณจะมีอาการเหล่านี้ทันทีหลังจากสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ (1),(2),(3)
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
เมื่อร่างกายของคุณสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้มันจะปล่อยสารฮีสตามีนออกมา ซึ่งสารนี้เป็นสารเคมีธรรมชาติที่ปกป้องร่างกายของคุณจากสารก่อภูมิแพ้ สารเคมีนี้อาจทำให้เกิดโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และอาการของโรคได้ เช่น น้ำมูกไหล จาม และคันตา นอกจากละอองเกสรของดอกไม้แล้ว อาจมีสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ (1),(2),(3) ได้แก่
- เกสรหญ้า
- ไรฝุ่น
- สะเก็ดผิวหนังและขนของสัตว์
- น้ำลายของสัตว์
- เชื้อรา
ในบางช่วงเวลาของปีละอองเกสรจากดอกไม้อาจเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ได้เป็นพิเศษ ซึ่งเกสรของต้นไม้และดอกไม้พบได้บ่อยในฤดูใบไม้ผลิ ส่วนหญ้าและวัชพืชจะผลิตละอองเกสรออกมามากขึ้นในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงค่ะ ต่อไปนี้เราจะไปเจาะลึกสารก่อภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยพร้อมกับวิธีการรักษาค่ะ
1. สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง
สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง ประกอบด้วยเศษผิวหนังชิ้นเล็ก ๆ ที่ตายแล้วซึ่งจะเป็นสะเก็ดที่ออกมาจากผิวหนังสัตว์ สิ่งนี้สามารถพบได้ในอากาศและบนพื้นผิวที่สัมผัสกับสัตว์เลี้ยง เนื่องจากสารก่อภูมิแพ้นี้มีน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็กจึงเกาะติดกับเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ และพรมได้ง่าย ส่งผลให้ง่ายต่อการแพร่กระจายไปรอบ ๆ สภาพแวดล้อม หากคุณทำความสะอาดไม่ดีพอ สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยงบางประเภทมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดอาการแพ้มากกว่าชนิดอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น การแพ้แมวจะรุนแรงกว่าการแพ้สุนัข ซึ่งการแพ้สุนัขและแมวส่งผลกระทบต่อประชากร 10%-20% ทั่วโลก (4) หากคุณแพ้สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยงแต่ต้องการเลี้ยงสัตว์ให้ปรึกษาแพทย์ ถามแพทย์ว่าสัตว์หรือสายพันธุ์บางประเภทจะปลอดภัยสำหรับคุณหรือไม่ หากคุณมีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อลดอาการแพ้ เช่น
- อาบน้ำสัตว์เลี้ยงของคุณเป็นประจำ
- ดูดฝุ่นพื้นและเฟอร์นิเจอร์เป็นประจำ
- เปลี่ยนและซักผ้าปูที่นอนของคุณเป็นประจำ
- นำสัตว์เลี้ยงของคุณให้ห่างจากพื้นเฟอร์นิเจอร์และไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงของคุณอยู่ในห้องนอนของคุณ
- ดูดฝุ่นและทำความสะอาดพรมอย่างสม่ำเสมอ
2. เชื้อรา
เชื้อราที่เราพูดถึงเป็นกลุ่มของเชื้อราที่เติบโตในที่ชื้น มันสามารถเติบโตได้เกือบทุกที่ในสภาพที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น มันมักจะเติบโตในหรือรอบ ๆ ชั้นใต้ดิน, โรงรถ, ผนัง, พื้นห้องน้ำ, เครื่องปรับอากาศ รวมไปถึงตู้เย็น ถ้าหากบ้านของคุณมีการระบายอากาศที่ไม่ดีและมีความชื้นสูง แน่นอนคุณจะต้องเจอปัญหาเรื่องเชื้อรา เพื่อช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา คุณควรทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ระบายอากาศบริเวณที่ชื้น เช่น ใช้พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำขณะอาบน้ำ
- ติดตั้งเครื่องลดความชื้นในบริเวณที่รู้สึกชื้นหรือมีกลิ่นอับ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณทำความสะอาดตัวกรองและคอยส์ของเครื่องลดความชื้นเป็นประจำ
- ขจัดแหล่งความชื้นส่วนเกิน เช่น ซ่อมแซมท่อรั่ว
- รักษารางน้ำและพื้นที่ระบายน้ำอื่นๆ รอบบ้านของคุณให้ปลอดโปร่ง
หากเชื้อราลามไปทั่วบ้านของคุณโดยมีขนาดใหญ่กว่า 10 ตารางฟุต ให้พิจารณาจ้างผู้เชี่ยวชาญมาทำความสะอาด
3. ไรฝุ่น
ไรฝุ่นเป็นแมลงตัวเล็ก ๆ ที่อาศัยอยู่ในบ้าน พวกมันจะกินเซลล์ผิวหนังของมนุษย์และความชื้นในอากาศ ร่างกาย น้ำลาย และอุจจาระของพวกมันยังประกอบเป็นฝุ่นและอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้นเพื่อช่วยป้องกันไรฝุ่นคุณควรทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- คลุมที่นอนและหมอนด้วยพลาสติกปิดซิป
- ซักผ้าปูที่นอนและพรมปูพื้นในน้ำร้อนเป็นประจำ
- เปลี่ยนพรมในบ้านของคุณให้เป็นกระเบื้องหรือพื้นไม้
- ใช้วัสดุปิดหน้าต่างแบบแข็ง เช่น มู่ลี่แทนผ้าม่าน
- ดูดฝุ่นบ้านของคุณเป็นประจำ แนะนำให้ลงทุนในเครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรองฝุ่นละอองประสิทธิภาพสูง (HEPA) และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตในการทำความสะอาดหรือเปลี่ยนเครื่องใหม่เป็นประจำ
4. แมลงสาบ
แมลงบางชนิดโดยเฉพาะแมลงสาบ สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ ถ้าหากมีแมลงสาบในบ้านหรือที่ทำงานของคุณ คุณอาจจะสูดดมอุจจาระ น้ำลาย และอนุภาคเล็ก ๆ ของแมลงสาบเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งแมลงสาบนั้นกำจัดได้ยาก พวกมันเจริญเติบโตได้ในเกือบทุกสภาวะ แต่ขอบอกเลยว่าพวกมันชอบพื้นที่ที่มีความชื้นมาก และมีอาหาร และต่อไปนี้ เป็นเคล็ดลับเพื่อช่วยป้องกันการระบาดของแมลงสาบค่ะ
- อย่าทิ้งเศษอาหารของคุณหรืออาหารของสัตว์เลี้ยงไว้นอกบ้าน
- ปิดฝาถังขยะ ล้างจานและทำความสะอาดเศษอาหารทันที
- ปิดผนึกรอยร้าวในผนังและพื้นของคุณ ซึ่งขอบอกเลยว่าแมลงสาบสามารถเข้าไปในบ้านได้
- แก้ไขหรือทำความสะอาดแหล่งความชื้นส่วนเกินในบ้าน
- ใช้เหยื่อและกับดักเพื่อจัดการกับแมลงสาบ
การป้องกันโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
ถ้าหากคุณเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเป็นส่วนสำคัญในการจัดการกับอาการภูมิแพ้ของคุณ แม้ว่ามันจะเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่มันมีอยู่ทุก ๆ ที่ได้ ดังนั้นคุณต้องรู้ก่อนว่าอะไรที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ? ดังนั้นเพื่อการหลีกเลี่ยงที่ง่ายขึ้น คุณควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะพวกเขาสามารถทำการทดสอบอาการแพ้ให้คุณได้ เมื่อระบุหาสาเหตุอาการแพ้ของคุณได้แล้ว คุณสามารถหลีกเลี่ยงหรือจำกัดสิ่งกระตุ้นอาการแพ้เหล่านั้นได้ วิธีที่เหมาะสมคือทำให้บ้านของคุณสะอาดและได้รับการดูแลอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น คุณควรทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ เบาะ และเปลี่ยนผ้าปูที่นอนของคุณอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้การซ่อมแซมรอยรั่วและแหล่งความชื้นส่วนเกินอื่น ๆ ยังช่วยลดปัจจัยกระตุ้นอาการแพ้ได้อีกด้วยค่ะ (1),(2)
อ้างอิง
(2) Allergic rhinitis (Medlineplus)
(3) Allergic Rhinitis: an Overview
(4) Dog and Cat Allergies: Current State of Diagnostic Approaches and Challenges