ไม่ว่าจะใช้อุ่นอุ่นอาหาร หรือละลายอาหารแช่แข็ง “ไมโครเวฟ” ก็สามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์แบบ ปัจจุบันไมโครเวฟกลายเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ในครัวที่จำเป็นไปแล้ว โดยเฉพาะคนที่อยู่บนคอนโดฯ และหอพักซึ่งจะขาดไมโครเวฟไปไม่ได้เลย เนื่องจากไมโครเวฟนั้น สะดวก ใช้งานง่ายและไม่สร้างความยุ่งยากให้กับคุณ แค่นำอาหารเข้าไปในไมโครเวฟ ปิดฝา ตั้งเวลา จากนั้นก็รอรับประทาน คุณก็จะได้อาหารเสริฟร้อน ๆ แล้วล่ะค่ะ
ปัจจุบันนี้ไมโครเวฟมีมากมายหลายแบรนด์ให้เลือกค่ะ โดยแต่ละแบรนด์ก็จะมีคุณสมบัติที่หลากหลายแตกต่างกัน บางรุ่นมีการตั้งค่าสำหรับการปรุงอาหารในแบบอื่น ๆ ด้วย อาทิเช่น การย่าง การนึ่ง และอื่น ๆ นอกจากนั้นแล้วไมโครเวฟยังมีหลายรูปแบบและหลายขนาดให้คุณเลือกด้วย ตั้งแต่รุ่นเล็ก ๆ สำหรับวางบนเคาน์เตอร์ ไปจนถึงรุ่นที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งสามารถติดตั้งกับผนังหรือตู้เก็บของได้ หากคุณกำลังจะซื้อไมโครเวฟเครื่องแรก หรือทดแทนเครื่องเก่าของคุณที่กำลังจะพัง คุณอาจจะต้องการคำแนะนำในการเลือกซื้อ วันนี้เราก็มีคำแนะนำดี ๆ มาให้คุณค่ะ เพื่อช่วยคุณในการมองหาไมโครเวฟที่ดีที่สุด สำหรับความต้องการในการปรุงอาหารของคุณ และเหมาะสมกับพื้นที่ของคุณค่ะ
ดูเพิ่มเติม ไมโครเวฟ ที่ดีที่สุด – สำหรับอุ่นอาหาร ใช้งานทั่วไปในครัวเรือน
ไมโครเวฟทำงานอย่างไร?
ไมโครเวฟถูกผลิตขึ้นภายในเตาอบด้วยหลอดอิเล็กตรอนที่เรียกว่า แมกนีตรอน ไมโครเวฟจะสะท้อนให้เห็นภายในเตาอบที่เป็นโลหะ ซึ่งพวกมันถูกดูดซึมโดยอาหาร ไมโครเวฟทำให้โมเลกุลของน้ำในอาหารสั่น สร้างความร้อนใช้ปรุงอาหาร นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอาหารที่มีน้ำสูงจึงสามารถปรุงสุกได้เร็วกว่าอาหารอื่น ๆ พลังงานไมโครเวฟจะเปลี่ยนเป็นความร้อนเนื่องจากอาหารถูกดูดซับและไม่ทำให้อาหารมี “กัมมันตภาพรังสี” หรือ “การปนเปื้อน” (1)
เมื่อเทียบกับการปรุงอาหารตามปกติ การปรุงอาหารด้วยไมโครเวฟจะประหยัดพลังงานมากกว่า เนื่องจากอาหารร้อนเร็วกว่า ด้วยพลังงานที่ใช้ทำให้อาหารร้อนได้ง่ายกว่าทำให้เราใช้พลังไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนในทางโภชนาการการปรุงอาหารในไมโครเวฟไม่ได้ทำให้คุณค่าทางโภชนาการลดน้อยลงเลย จริง ๆ แล้วอาหารในไมโครเวฟสามารถเก็บวิตามิน และแร่ธาตุไว้ได้ดีมาก เนื่องจากเตาไมโครเวฟสามารถให้ความร้อนได้เร็วโดยไม่ต้องใส่น้ำในไมโครเวฟ (1)
[advertise_list item=”3805,3807″]
รูปแบบของไมโครเวฟ
1. ไมโครเวฟแบบตั้งโต๊ะ (Countertop) ไมโครเวฟแบบตั้งโต๊ะเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมันมีราคาประหยัด ติดตั้งได้ง่าย และรวดเร็ว เพียงแค่เสียบปลั๊กก็สามารถใช้งานได้แล้ว หากคุณซื้อไมโครเวฟแบบตั้งโต๊ะคุณสามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ตามต้องการ ทำให้มันเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของการซื้อไมโครเวฟ เหมาะสำหรับห้องครัวขนาดเล็กมีพื้นที่บนเคาน์เตอร์เล็กน้อย ๆ
2. ไมโครเวฟแบบ Over The Range (OTR) เป็นที่นิยมในหลาย ๆ บ้าน และตามชื่อที่แนะนำไมโครเวฟสไตล์นี้ ได้รับการออกแบบมาให้ติดตั้งบนเตาอบของคุณ โดยมันสามารถวางซ้อนกับเตาอบได้เลย ไมโครเวฟแบบ Over The Range มีเครื่องดูดควันหรือพัดลมดูดอากาศในตัวช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากครัวของคุณในขณะที่คุณทำอาหารได้ คุณอาจมีข้อจำกัด ในการเลือกใช้ไมโครเวฟ OTR เนื่องจากคุณจะต้องมีรุ่นที่พอดีกับเตาอบของคุณ อีกทั้งไมโครเวฟ OTR มีความซับซ้อนในการติดตั้งพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่เคยใช้มาก่อน
3. ไมโครเวฟแบบบิวท์อิน (Built In) หากคุณเป็นแฟนตัวยงของเตาอบติดผนัง คุณอาจชอบรูปลักษณ์ของไมโครเวฟแบบบิวท์อินเช่นกัน ซึ่งมันมีการออกแบบมาให้ติดตั้งเข้าไปภายในช่องหรือตู้ ช่วยทำให้ครับของคุณดูสวยงาม และช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ แต่การติดตั้งอาจต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ เนื่องจากมันค่อนข้างยุ่งยาก ไมโครเวฟแบบบิวท์อิน มีราคาแพงกว่าตัวเลือกอื่น ๆ อย่างมาก โปรดรู้ไว้ว่าไมโครเวฟแบบตั้งโต๊ะบางรุ่นมีชุดอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้สามารถติดตั้งแบบบิวท์อินได้เช่น ซึ่งอาจเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดเงินได้มากกว่าค่ะ
4. ไมโครเวฟแบบลิ้นชัก (Drawer) ไมโครเวฟแบบลิ้นชัก หรือลิ้นชักอุ่นอาหารแบบบิวท์อิน ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งอยู่ใต้เคาน์เตอร์ครัวของคุณ เป็นการซ่อนเอาไว้ ช่วยให้ครัวคุณดูเรียบร้อยมากขึ้น ไมโครเวฟแบบนี้จะต้องดึงออกมาจากตู้เหมือนลิ้นชักปกติ โมเดลของตัวเครื่องนี้ไม่มีแผ่นรองจานทำให้สะดวกในการทำความสะอาด ผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวมักจะพบว่าไมโครเวฟแบบลิ้นชักเข้าถึงได้ง่ายกว่า ตัวเลือกไมโครเวฟแบบอื่น ๆ ไมโครเวฟแบบรุ่นลิ้นชักมีระบบป้องกันด็กเพื่อให้พวกเขาปลอดภัยที่จะใช้ในบ้านที่มีเด็ก และก็แน่นอนค่ะ ไมโครเวฟแบบลิ้นชักมาพร้อมความซับซ้อนในการติดตั้งมากที่สุด และมีราคาแพงกว่ารูปแบบอื่น ๆ อีกด้วย
[advertise_list item=”3810,3812″]
ประเภทของไมโครเวฟ
1. ไมโครเวฟธรรมดา ไมโครเวฟธรรมดาทั่วไป ทำงานบนหลักการของไมโครเวฟที่จะส่งความร้อนผ่านภาชนะพลาสติก หรือแก้วเพื่ออุ่นอาหาร ไมโครเวฟทั่วไปมี 2 ประเภทคือแบบโซโล่ (Solo) และแบบย่าง (Gril) ไมโครเวฟทั้ง 2 ประเภทนี้ ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก แต่คุณสามารถปรุงอาหารย่าง และตั้งค่าล่วงหน้าขณะปรุงอาหารได้ หากใช้ไมโครเวฟแบบย่าง เตาไมโครเวฟแบบโซโล่ มีประโยชน์ในการอุ่นอาหาร และปรุงอาหารสูตรง่าย ๆ โดยเฉพาะ ส่วนเตาไมโครเวฟแบบย่างเป็นการปรับปรุงไมโครเวฟแบบโซโลให้มีคุณสมบัติเพิ่มเติมคือสามารถย่างได้
2. ไมโครเวฟแบบพาความร้อน (Convection) ทำงานบน 2 เทคโนโลยีพร้อม ๆ กัน มันมีเทคโนโลยีการทำความร้อนเพิ่มเติมในไมโครเวฟ แบบพาความร้อน เป็นการผสมผสานระหว่างไมโครเวฟและการแผ่รังสีจากแสงที่เข้มข้นจากหลอดไฟฮาโลเจนแบบควอตซ์ ซึ่งจะช่วยให้ปรุงอาหารได้เร็วขึ้น และเพิ่มรสชาติให้กับอาหารของคุณได้ด้วย ไมโครเวฟแบบพาความร้อนจะมีพัดลมที่ด้านหลังของเตา ซึ่งช่วยในการหมุนเวียนอากาศร้อน มันจะช่วยเพิ่มความเร็วในการปรุงอาหาร และสามารถช่วยทำให้อาหารกรอบขึ้น ไมโครเวฟประเภทนี้ใช้เทคโนโลยีหลายอย่างในการอุ่นอาหาร ตามปกติแล้ว จะมีราคาแพงกว่าไมโครเวฟทั่วไป อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการอุ่นอาหารทอดและยังคงความกรอบไว้อยู่ เราขอแนะนำให้คุณซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันแทนค่ะ
[advertise_list item=”3815,3817″]
วิธีการเลือกซื้อไมโครเวฟ
1. ขนาดและความจุ สิ่งสำคัญคือ ต้องเลือกซื้อไมโครเวฟที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณ นอกจากนี้ต้องเลือกไมโครเวฟให้เหมาะกับรูปแบบห้องครัวของคุณด้วย ไมโครเวฟอาจมีขนาดแตกต่างกันไปมาก ดังนั้นอย่าลืมวัดพื้นที่ขนาดชั้นวางของพื้นที่ตู้ ฯลฯ เพื่อให้แน่ใจว่าไมโครเวฟของคุณจะพอดีกับพื้นที่ว่างที่มีอยู่ และเมื่อทำการวัดพื้นที่ของคุณ อย่าลืมเผื่อพื้นที่ระบายอากาศที่ตรงกับคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง ความจุของไมโครเวฟนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น บางรุ่นจะมีความจุตั้งแต่ 17 ลิตร ไปจนถึงความจุที่มากกว่า 32 ลิตร
2. คุณสมบัติที่ควรพิจารณา
-
- เมนูปรุงอาหารอัตโนมัติ คุณสมบัตินี้มาพร้อมโปรแกรมที่สามารถตั้งล่วงหน้าได้ ซึ่งช่วยในการเตรียมสูตรอาหารต่าง ๆ ให้ง่ายขึ้น สิ่งที่คุณต้องทำคือเลือกประเภทของอาหาร และน้ำหนัก ไมโครเวฟจะคำนวณเวลาที่ต้องการโดยอัตโนมัติและตั้งค่าพลังงานให้เหมาะสม
-
เมนูปรุงอาหารอัตโนมัติ - สิ่งอำนวยความสะดวกและตัวล็อกป้องกันเด็ก สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังให้มากกับการใช้ไมโครเวฟคือ ไม่ควรเปิดเตาอบตรงกลางระหว่างการปรุงอาหารบ่อย ๆ เพราะภายในเครื่องอาจมีความร้อนสูงมาก ปกติแล้วเด็กมักจะมีความอยากรู้อยากเห็น พวกเขาอาจทำในสิ่งที่คุณห้ามไม่ให้ทำ ดังนั้นไมโครเวฟที่ดีจะต้องมาพร้อมกับอุปกรณ์ล็อกป้องกันเด็กเพื่อป้องกันเด็ก ๆ ของคุณออกจากอุบัติเหตุที่ไม่จำเป็น
- ระบบละลายน้ำแข็ง คุณสมบัติการละลายน้ำแข็งช่วยให้คุณสามารถละลายอาหารได้โดยไม่ต้องรอให้อาหารแช่แข็งละลายเอง ซึ่งปกติแล้วไมโครเวฟเกือบทุกยี่ห้อและเกือบทุกประเภทจะมีคุณสมบัตินี้มาให้่ การใช้สิ่งอำนวยความสะดวกนี้ทำได้ง่ายเพราะคุณต้องใส่น้ำหนักของอาหารและปล่อยให้ไมโครเวฟทำส่วนที่เหลือเอง และคุณยังสามารถตั้งค่าตัวเลือกการละลายน้ำแข็งด้วยตนเองได้โดยขึ้นอยู่กับน้ำหนักของอาหารด้วย ข้อดีของสิ่งอำนวยความสะดวกนี้คือ คุณสามารถนำอาหารออกจากไมโครเวฟได้โดยตรง รสชาติของอาหารจะไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
- การตั้งความร้อนล่วงหน้า อาหารบางอย่าง เช่น เค้ก และขนมอบ ต้องใช้เวลามากในการปรุง สิ่งนี้สามารถทำให้ไมโครเวฟใช้เวลาและพลังงานมาก อาหารเหล่านี้คุณต้องอุ่นที่อุณหภูมิคงที่ก่อนเริ่มปรุงอาหาร โดยปกติแล้วสูตรอาหารอาจมีการบอกว่าให้วอร์มไมโครเวฟล่วงหน้าที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส การมีคุณสมบัติเป็นเรื่องง่ายในการปรุงอาหาร
- การจับเวลา ตัวจับเวลาอัตโนมัติเป็นสิ่งที่ควรมีในไมโครเวฟซึ่งจะช่วยให้ไมโครเวฟทำงานได้ขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของอาหารและน้ำหนักของอาหาร การตั้งเวลาช่วยให้คุณดูแลงานอื่น ๆ ในครัวได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหาร ระบบจะปิดโดยอัตโนมัติหลังจากหมดเวลาที่กำหนดไว้ที่จุดเริ่มต้นของขั้นตอน
3. กำลังไฟ กำลังไมโครเวฟจะวัดเป็นวัตต์ และกำหนดว่าไมโครเวฟสามารถเตรียมอาหารได้เร็วเพียงใด กำลังไฟไมโครเวฟอยู่ในช่วงประมาณ 800 ถึง 1300 วัตต์ ไมโครเวฟขนาดใหญ่ต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อให้อาหารร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไมโครเวฟที่มีกำลังสูงมักจะมีราคาแพงกว่า หากไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการทำความร้อน คุณสามารถประหยัดเงินได้ด้วยการเลือกใช้ไมโครเวฟที่มีกำลังไฟต่ำกว่า พลังงานไม่ควรเป็นจุดสนใจหลักของคุณเมื่อเลือกไมโครเวฟ โปรแกรมฟังก์ชันและคุณสมบัติต่าง ๆ มีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลเหนือยูทิลิตี้ของเครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น พิจารณาขนาดภายในให้เข้ากับขนาดจานและภาชนะสำหรับทำอาหารของคุณด้วย
4. ทำความสะอาดได้ง่าย การทำความสะอาดไมโครเวฟไม่ใช่เรื่องสนุก อย่างไรก็ตามเป็นความจำเป็นที่ควรเลือกไมโครเวฟที่มีคุณสมบัติที่จะช่วยลดความยุ่งยากในการดูแลรักษา สิ่งสำคัญคือ ต้องขจัดอาหารและไขมันที่หกออกจากช่องไมโครเวฟได้สะดวก เนื่องจากมันจะสามารถดูดซับพลังงานไมโครเวฟและส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม ไมโครเวฟส่วนใหญ่มีถาดหมุน อย่างไรก็ตามสามารถซื้อไมโครเวฟแบบวางแท่นวางได้ การที่อาหารตกลงไปในช่องว่างน้อยลงทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายกว่ามาก บางยี่ห้อมีผนังด้านหลังโค้งลดมุมฉากที่ทำความสะอาดยากและให้พื้นที่ภายในที่ใช้งานได้มากขึ้น นอกจากนี้คุณสามารถดูวิธีทำความสะอาดไมโครเวฟได้ง่าย ๆ ที่ “วิธีทำความสะอาดไมโครเวฟ”
อ้างอิง