หลายคนชื่นชอบที่จะปาร์ตี้เพราะมันสนุกสุดเหวี่ยงและลืมเรื่องร้าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลิกลากับคนรัก หรือความเครียดไปได้ แต่แน่นอนว่าเมื่อเราไปปาร์ตี้สิ่งที่ต้องมีคือ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ไม่ว่าจะเป็นไวน์ เหล้า เบียร์ นั่นเป็นเพราะว่าหากไปนั่งคุยกันเฉย ๆ หรือดื่มน้ำส้มมันอาจจะไม่สนุกและไม่ได้ปลดปล่อยตัวเอง หลายคนมีความชื่นชอบในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบดื่มเบียร์ไม่ดื่มเหล้า ดื่มเหล้าแต่ไม่ดื่มไวน์ แต่ผลสุดท้ายหากดื่มเยอะเกินไปก็ “เมา” เหมือนกันค่ะ อาการเมาเกิดขึ้นได้ทั่วไปเพราะความทนทานต่อแอลกอฮอล์ในแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนคอแข็งมากดื่มเบียร์เป็นลังยังไหว แต่บางคนแค่แก้วสองแก้วก็เมาแล้ว แล้วถ้า “เพื่อนเมา ! เราจะดูแลอย่างไรดี ?”
เมื่อมีคนเมาหนึ่งคน ความวุ่นวายย่อมจะเกิดขึ้น เพราะคนเมาไม่มีสติสัมปชัญญะและขาดความสมบูรณ์แบบของร่างกาย เราคงเคยเห็นในหนัง ละครและชีวิตจริงที่ว่าคนเมามักจะโวยวายไปทั่ว พูดคุยกับทุกคนและเต้นอย่างสุดเหวี่ยง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจนำพาไปสู่ความรุนแรงได้นั่นเอง ฉะนั้นก่อนที่จะถึงเหตุนั้นเราต้องเบรคให้มิดก่อน ! เพื่อป้องกันเพื่อนตัวดีของเราที่จะสร้างปัญหา หากตอนนี้คุณมีเพื่อนที่เมามากหรือพบเห็นคนเมาให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของเราดังต่อไปนี้
ตรวจสอบความปลอดภัย
1.เช็คว่าดื่มไปมากแค่ไหนแล้ว
การรู้ว่าเพื่อนดื่มอะไรเข้าไปและปริมาณเท่าไหร่? สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดคืออะไร สิ่งที่คุณต้องสังเกตคือเขาดื่มมากแค่ไหน? ดื่มเร็วแค่ไหน? และลิมิตในการดื่มมีแค่ไหน ? คุณจะต้องประเมินให้ขาด หากไม่สามารถพิจารณาจากสายตาเราขอแนะนำขั้นตอนต่อไปนี้
- ให้ลองถามคำถาม ลองถามว่า“คุณรู้สึกอย่างไร? คุณรู้หรือไม่ว่าคุณดื่มมากแค่ไหน? วันนี้คุณทานอะไรหรือยัง ?” ซึ่งคำถามนี้จะช่วยให้คุณทราบว่าพวกเขาดื่มไปมากแค่ไหน หากพวกเขาดื่มมากกว่า 5 แก้วในขณะท้องว่างพวกเขาอาจเมาจนเป็นอันตรายและอาจต้องได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์
- เช็คความผิดปกติของร่างกาย หากร่างกายของเขาเริ่มไม่สัมพันธ์กันและไม่สามารถเข้าใจคุณได้นั่นอาจเป็นสัญญาณของพิษจากแอลกอฮอล์ (1) พาไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด หากคุณดื่มด้วยอย่าขับรถ โทรเรียกรถพยาบาลหรือให้คนสติดีที่ไว้ใจได้ขับรถพาคุณและเพื่อนที่เมาไปโรงพยาบาล
ข้อควรระวัง : มีความเป็นไปได้ว่ามีใครบางคนได้ใส่บางสิ่งบางอย่างลงไปในเครื่องดื่มซึ่งอาจส่งผลต่อความมึนเมาอย่างรุนแรง การรู้ว่าพวกเขาดื่มมากแค่ไหนสามารถบอกคุณได้ว่าพวกเขาผิดปกติหรือไม่ ? ตัวอย่างเช่นหากใครบางคนดื่มไวน์ 1 หรือ 2 แก้ว แต่มีอาการมึนเมามากผิดปกติจนเป็นอันตราย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจมีบางอย่างใส่ลงไปในเครื่องดื่ม
2. แสดงตัวว่าคุณตั้งใจจะทำอะไรก่อนสัมผัสหรือเข้าใกล้คนเมา
วิธีนี้ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนของคุณเมามากแค่ไหน พวกเขาอาจสับสนและไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังพยายามทำ พวกเขาอาจไม่คิดอย่างมีเหตุมีผลและหากคุณพยายามบังคับให้พวกเขาทำอะไรบางอย่างอาจทำให้พวกเขาต่อต้านและอาจเป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น แสดงตัวด้วยความตั้งใจของคุณเสมอ
-
- หากพวกเขากำลังจะไปห้องน้ำและดูเหมือนจะมีปัญหาในการเข้าไปให้พูดว่า “เฮ้ฉันอยู่ที่นี่ถ้าคุณต้องการอะไร ให้ฉันช่วยไหม”
- อย่าแตะต้องหรือเคลื่อนย้ายใครบางคนโดยไม่ถามว่าเขาก่อน
- ถ้าพวกเขาหมดสติพยายามปลุกพวกเขาด้วยการโทรหาพวกเขาเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีสติ คุณสามารถตะโกนว่า“เฮ้! สบายดีไหม?”
- หากพวกเขาไม่ตอบสนองต่อข้อความใด ๆ ของคุณและดูเหมือนจะหมดสติให้โทรขอความช่วยเหลือจากแพทย์ทันที
3. ตรวจหาสัญญาณพิษจากแอลกอฮอล์
พิษของแอลกอฮอล์อาจถึงแก่ชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและถูกต้อง หากพวกเขามีผิวซีด ผิวหนังของพวกเขารู้สึกเย็นและชื้นเมื่อสัมผัสหรือมีรูปแบบการหายใจช้าหรือผิดปกติให้โทรเรียกรถพยาบาลหรือนำส่งโรงพยาบาลทันที สัญญาณเพิ่มเติมของพิษจากแอลกอฮอล์ ได้แก่ อาเจียน อาการสับสนและหมดสติ หากมีอาการชักชีวิตของพวกเขาอาจตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง อย่าเสียเวลาเรียกรถพยาบาลให้พาไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด (1),(2)
4. พาไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้ทำร้ายตัวเองและผู้อื่น
พยายามพาพวกเขากลับบ้านเพื่อที่พวกเขาจะได้มีสติและไม่ทำร้ายใคร แต่หากคนที่คุณช่วยไม่ใช่เพื่อนและคุณไม่รู้จักบุคคลนั้นให้พยายามหาคนที่รู้จักพวกเขาเพื่อช่วยให้พวกเขาปลอดภัย ถ้าเมาเกินกว่าจะดูแลตัวเองได้ก็ต้องพาไปที่ปลอดภัย ระวังอย่าขับรถหากคุณดื่มและอย่าปล่อยให้คนเมาขับยานพาหนะ คุณสามารถเรียก Grab หรือ Uber ได้เพื่อกลับบ้านอย่างปลอดภัย
วิธีช่วยให้คนเมานอนหลับ ได้อย่างปลอดภัย
1.อย่าปล่อยให้คนเมาหลับโดยไม่มีใครดูแล
ร่างกายของคนเมาจะดูดซับแอลกอฮอล์ต่อไป แม้ว่าจะหลับหรือหมดสติไปก็ตามซึ่งอาจทำให้เกิดพิษจากแอลกอฮอล์ได้ พวกเขาอาจสำลักอาเจียนจนเสียชีวิตได้หากหลับผิดท่า อย่าคิดว่าคนเมาจะสบายดีเมื่อหลับไป (3)
เคล็ดลับ: เช็กจากสิ่งต่อไปนี้: หากผิวหนังที่ชื้นหรือเป็นสีฟ้า, หากเกิดอาการหมดสติ, หากอ้วกโดยไม่สามารถควบคุมได้และ หากหายใจช้าหรือผิดปกติ โดยถ้าคนเมามีอาการเหล่านี้ให้นำส่งโรงพยาบาลทันที
2.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขานอนตะแคงโดยมีหมอนหนุน
หากบุคคลนั้นไม่มีความเสี่ยงต่อการเป็นพิษจากแอลกอฮอล์ การนอนหลับจะทำให้ร่างกายมีเวลาในการรับมือกับแอลกอฮอล์และกำจัดมันออกจากกระแสเลือด อย่างไรก็ตามพวกเขาอาจเสี่ยงต่อการอาเจียนขณะนอนหลับและสำลัก ตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่าพวกเขานอนตะแคงโดยมีหมอนหนุนเพื่อป้องกันไม่ให้กลิ้งไปด้านหลัง
3. ปลุกพวกเขาทุก ๆ 5-10 นาทีในชั่วโมงแรก
แม้ว่าพวกเขาจะหยุดดื่มแอลกอฮอล์ร่างกายของพวกเขาก็ยังคงประมวลผลแอลกอฮอล์ที่พวกเขาบริโภคไปแล้ว นั่นหมายความว่าความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด (BAC) อาจเพิ่มขึ้นขณะหลับ (3) ในชั่วโมงแรกที่พวกเขาหลับไปให้ปลุกทุก ๆ 5-10 นาที และตรวจหาสัญญาณของพิษจากแอลกอฮอล์ หลังจากชั่วโมงแรกหากดูเหมือนว่าพวกเขาทำได้ดีคุณสามารถตรวจสอบได้ทุก ๆ ชั่วโมงได้
4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีคนอยู่ด้วยตลอดทั้งคืน
หากเพื่อนเมามาก ควรดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเป็นพิษจากแอลกอฮอล์หรือสำลักอาเจียน ควรมีใครบางคนอยู่ด้วยข้ามคืนเพื่อตรวจการหายใจ หากคนที่คุณช่วยคุณไม่ได้ไม่รู้จักให้ถามว่าคุณสามารถโทรหาใครสักคนให้มารับได้ไหมและหากคุณอยู่ที่ร้านอาหารหรือบาร์และไม่รู้จักคนเมาให้แจ้งพนักงานว่ามีคนเมาอยู่ในสถานที่ซึ่งอาจต้องการความช่วยเหลือ อย่าทิ้งบุคคลนั้นจนกว่าคุณจะมั่นใจว่าจะมีคนดูแลพวกเขาได้
ช่วยเรียกสติกลับคืนมา
1. ห้ามไม่ให้พวกเขาดื่มแอลกอฮอล์ต่อ
หากพวกเขาเมาแล้วจริง ๆ การบริโภคแอลกอฮอล์เพิ่มเติมจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตรายจากพิษของแอลกอฮอล์ การดื่มอย่างต่อเนื่องจะทำให้การตัดสินใจของพวกเขาแย่ลงและอาจทำให้ตัวเองหรือผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
- พยายามพูดตรง ๆ และปฏิเสธที่จะดื่มแอลกอฮอล์อีกต่อไป บอกพวกเขาว่า “ฟังนะฉันคิดว่าคุณดื่มมากเกินไปแล้วและฉันก็กังวลเล็กน้อย ฉันให้คุณดื่มไม่ได้อีกแล้ว”
- เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับคนเมาที่ชอบทะเลาะวิวาท ลองหันเหความสนใจของพวกเขาด้วยเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์
- หากคุณไม่สามารถทำให้คน ๆ นั้นฟังคุณได้ให้พยายามให้คนใกล้ตัวพูดให้เขาเลิกดื่มแอลกอฮอล์
- หากคุณไม่สามารถทำให้พวกเขาฟังคุณได้และคุณกังวลว่าพวกเขาอาจจะก่อเหตุรุนแรงหรืออาจทำร้ายตัวเองหรือคนอื่น ๆ ให้โทรแจ้งตำรวจ
2. หาดื่มเปล่าสะอาดให้ดื่ม
น้ำมีประโยชน์มากมาย เพราะจะช่วยเจือจางความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดและช่วยให้มีสติได้เร็วขึ้น แอลกอฮอล์ยังทำให้ร่างกายขาดน้ำ ดังนั้นการให้น้ำจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น บางครั้งอาจจะให้พวกเขาดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อการกีฬา เช่น เกเตอเรดเพื่อทดแทนโซเดียมและอิเล็กโทรไลต์ที่ร่างกายอาจหมดไปขณะดื่ม (4),(5)
3. หาอาหารให้พวกเขากิน
อาหารที่มีไขมัน เช่น ชีสเบอร์เกอร์และพิซซ่าสามารถช่วยลดผลกระทบของแอลกอฮอล์และชะลอการดูดซึมจากกระเพาะอาหารเข้าสู่กระแสเลือด การรับประทานอาหารไม่ได้ลดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด แต่สามารถช่วยให้รู้สึกดีขึ้นและลดการดูดซึมต่อไป อย่าให้อาหารมากเกินไปเพราะอาจจะทำให้เขาอาเจียนออกมาได้ แต่อย่าปล่อยให้พวกเขากลืนพิซซ่าทั้งชิ้นและเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะติดคอหรืออาเจียนออกมา (4)
4. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ (เว้นแต่ว่าจำเป็น)
มักจะพูดกันว่าการดื่มกาแฟสักแก้วจะช่วยให้ใครบางคนมีสติ อย่างไรก็ตามในขณะที่กาแฟหนึ่งถ้วยจะทำให้พวกเขาตื่นตัวมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ลดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด นอกจากนี้คาเฟอีนในกาแฟสามารถทำให้ขาดน้ำได้ซึ่งอาจทำให้ร่างกายสามารถประมวลผลแอลกอฮอล์ได้ช้าลงและเพิ่มผลเสียของอาการเมาค้าง อีกทั้งกาแฟดำสามารถทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองและทำให้อาเจียนได้หากไม่คุ้นเคยกับการดื่ม
5. อย่าบังคับให้อาเจียน
การบังคับให้อาเจียนจะไม่ลดแอลกอฮอล์ที่อยู่ในกระแสเลือด ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือลดระดับของเหลว หากขาดน้ำร่างกายจะใช้เวลานานขึ้นในการประมวลผลและกรองแอลกอฮอล์ออกจากระบบ หากพวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องอาเจียนให้อยู่กับพวกเขาเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ล้มลงและทำร้ายตัวเอง การอาเจียนเป็นวิธีธรรมชาติที่ร่างกายของพวกเขาพยายามขับไล่แอลกอฮอล์ที่อาจยังอยู่ในกระเพาะอาหารออกไป
6. ปล่อยให้เวลาผ่านไปพอสมควรเพื่อให้พวกเขามีสติ
เมื่อแอลกอฮอล์อยู่ในกระแสเลือดวิธีเดียวที่จะกำจัดออกได้คือให้เวลากับร่างกาย เพราะการกรองแอลกอฮอล์ออก ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการดื่ม 1 แก้ว มีปัจจัยหลายประการที่กำหนดระยะเวลาที่ร่างกายต้องการเพื่อให้ร่างกายประมวลผลแอลกอฮอล์ออกจากกระแสเลือดได้อย่างเต็มที่ แต่เป็นวิธีเดียวที่จะขจัดผลกระทบของแอลกอฮอล์ได้อย่างเต็มที่แม้แต่การพักผ่อนทั้งคืนในบางครั้งก็ไม่เพียงพอที่จะประมวลผลแอลกอฮอล์ที่พวกเขาบริโภคเข้าไปได้อย่างเต็มที่
อ้างอิง
(1) Understanding the Dangers of Alcohol Overdose