หม้ออัดแรงดัน (Pressure Cooker) – คำแนะนำในการเลือกซื้อ !

วิธีเลือกซื้อหม้ออัดแรงดัน (Pressure Cooker)
วิธีเลือกซื้อหม้ออัดแรงดัน (Pressure Cooker)

สำหรับคนที่ชอบทำอาหารส่วนใหญ่จะรู้ดีว่าเวลาในการทำอาหารนั้น มันมีความสำคัญมากเพียงใด อาหารบางเมนูอาจใช้เวลาหลาย ๆ ชั่วโมง ทำให้เราเสียเวลาในการทำอย่างอื่น โดยเฉพาะอาหารที่ต้องตุ๋นเพื่อให้มันเปื่อยนุ่ม อย่างพวกเนื้อสัตว์ทั้งหลาย อาทิเช่น เนื้อวัว ตีนไก่ ขาหมู ปลาหมึกทาโกะ และอื่น ๆ ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้ต้องใช้เวลาในการต้มและเคี่ยวนานเพื่อไม่ให้เนื้อสัมผัสมีความเหนียว หากคุณต้องเปิดแก๊ส เตาอบหรือใช้หม้อตุ๋นไฟฟ้านาน ๆ ก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก วันนี้ เราจึงขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ “หม้ออัดแรงดัน (Pressure Cooker)” อุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณปรุงอาหารได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบเท่ากับการปรุงอาหารแบบเดิม ๆ

ในปัจจุบันนอกจากหม้อทอดไร้น้ำมันแล้ว หม้ออัดแรงดันก็กำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เพราะมันมาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงรวมถึงวาล์วปล่อยแรงดันซ้ำซ้อน ดังนั้นจึงไม่มีการปะทุของน้ำอีกต่อไป แหวนปิดผนึกของหม้อก็จะช่วยสร้างซีลกันอากาศซึ่งจะไม่ทำให้ไอน้ำเล็ดลอดออกไปได้เว้นแต่คุณจะกดวาล์วนิรภัยหรือตัวควบคุม การซื้อ หม้ออัดแรงดัน เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะสิ่งที่คุณจะได้กลับมาคือเวลา และนี่ก็คือคำแนะนำของเรา ที่จะช่วยคุณเลือกซื้อหม้ออัดแรงดัน ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุดค่ะ

ดูเพิ่มเติม: ซื้อ หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดีที่สุด

หม้ออัดแรงดัน (Pressure Cooker) ทำงานอย่างไร ?

หม้ออัดแรงดัน ทำงานโดยการไล่อากาศออกจากออกจากหม้อ และดักจับไอน้ำที่เกิดจากของเหลวที่เดือดอยู่ภายใน สิ่งนี้จะเพิ่มแรงดันภายใน ซึ่งทำให้อุณหภูมิในการปรุงอาหารสูงกว่าปกติ เมื่อรวมกับการถ่ายเทความร้อนสูงจากไอน้ำแล้ว มันจะทำให้อาหารสุกได้เร็วขึ้น โดยจะใช้เวลาเหลือเพียง ครึ่งหนึ่ง ไปจนถึงถึงหนึ่งในสี่ ของเวลาที่ใช้ทำอาหารแบบเดิม ๆ หลังจากปรุงอาหารด้วยความดัน ไอน้ำจะลดลงกลับสู่ความดันบรรยากาศปกติ เพื่อให้สามารถเปิดภาชนะได้อย่างปลอดภัย (1)

ประโยชน์ของหม้ออัดแรงดัน

ทำไมต้องใช้หม้ออัดแรงดัน ?

รวดเร็ว

การใช้หม้ออัดแรงดันจะลดเวลาในการปรุงอาหารลงเหลือ 1 ใน 3 (หรือมากกว่า) การตุ๋นที่โดยปกติต้องจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง จะลดเหลือแค่ 20-40 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถตุ๋นเนื้อสัตว์ที่มีความเหนียวอย่างขาหมู ตีนไก่ และเนื้อวัว ได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้อาหารนุ่มและละลายในปาก

ช่วยให้สุขภาพดี

การใช้หม้ออัดแรงดันในการทำอาหารจะทำให้อาหารยังคงมีสารอาหารมากขึ้น 50% การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่าการปรุงอาหารด้วยแรงดันยังคงมีวิตามินและแร่ธาตุมากกว่าการนึ่งโดยไม่ใช้ความดันและแม้กระทั่งการอบด้วยไมโครเวฟ (2) นอกจากนี้สารพิษในอาหารบางชนิดก็สามารถลดลงได้ด้วยการปรุงอาหารด้วยความดัน การศึกษาของเกาหลีเกี่ยวกับอะฟลาทอกซินในข้าว (เกี่ยวข้องกับเชื้อราแอสเปอร์จิลลัส ) แสดงให้เห็นว่าการหุงด้วยความดันสามารถลดความเข้มข้นของอะฟลาทอกซินได้ถึง 32% ของปริมาณในข้าวที่ไม่ได้ปรุงเมื่อเทียบกับ 77% จากการหุงธรรมดา (1),(3)

ประหยัด

หม้ออัดแรงดันจะใช้ ก๊าซหรือไฟฟ้า และน้ำน้อยลงได้ถึง 70% หม้ออัดแรงดันมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมากกว่าประสิทธิภาพของมันเทียบได้กับการประหยัดพลังงานจากการเปลี่ยนไปใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน ดังนั้นหากคุณเปลี่ยนหลอดไฟในบ้านเพื่อประหยัดพลังงานก็ถึงเวลาเปลี่ยนเครื่องครัวด้วยเช่นกัน

ใช้งานง่าย

หม้ออัดแรงดันวิธีใช้งานง่ายเพียงเติมน้ำและรอเวลา การปรุงอาหารด้วยหม้ออัดแรงดันก็เหมือนกับการปรุงอาหารทั่วไปยกเว้นว่าต้องใช้น้ำเพียงเล็กน้อยโดยใช้เวลาน้อยลง เมื่อคุณเรียนรู้การทำงานของหม้ออัดแรงดันของคุณแล้วก็เพียงแค่ต้องมีการตรวจสอบเล็กน้อยเมื่อแรงดันถึงจุดที่กำหนด (สำหรับหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าคุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยเพราะตัวเครื่องจะทำงานอัตโนมัติ)

ง่ายต่อการทำความสะอาด

การใช้หม้ออัดแรงดันจะไม่มีการกระเซ็นของน้ำอีกต่อไป การปรุงอาหารในภาชนะที่ปิดสนิทไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดสิ่งที่หกออกมา นอกจากนี้ฐานหม้ออัดแรงดันส่วนใหญ่ยังปลอดภัยกับเครื่องล้างจานด้วย

มีความปลอดภัย

หม้ออัดแรงดันมีกลไกเพื่อความปลอดภัยหลายชั้นมากขึ้น โดยหม้ออัดแรงดันในปัจจุบันยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ป้องกันการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ซึ่งช่วยใช้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจ

ประเภทของ หม้ออัดแรงดัน 

1. หม้ออัดแรงดันแบบใช้แก๊ส

ด้วยหม้ออัดแรงดันแบบใช้แก๊สคุณจะควบคุมความร้อนได้เหมือนกับหม้อทั่วไปที่ใช้บนเตาแก๊ส หากคุณถนัด สะดวกในการใช้งานแบบนี้ ให้มองหาหม้ออัดแรงดันสเตนเลสหรืออะลูมิเนียม หม้ออัดแรงดันอะลูมิเนียมนั้นมีราคาถูกกว่าแต่ก็มีความทนทานน้อยกว่าเช่นกัน อีกทั้งอะลูมิเนียมยังสามารถทำปฏิกิริยากับอาหารที่เป็นกรดได้ด้วย ดังนั้นหม้ออัดแรงดันสเตนเลสอาจจะเหมาะกว่าในการใช้งานบนเตาแก๊ส

หม้ออัดแรงดันแบบใช้แก๊ส

หม้ออัดแรงดันแบบใช้แก๊ส เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่ต้องการความเร็วในการทำอาหาร และต้องการประหยัดพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากมีความร้อนและแรงดันสูงกว่าไฟฟ้า
  • ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความทนทานมากกว่าความสะดวก แน่นอนว่าหม้ออัดแรงดันแบบไฟฟ้าสามารถอยู่ได้ไม่กี่ปีเป็นปกติของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ที่จะมีอายุของมัน แต่หม้ออัดแรงดันที่ใช้งานบนเตาแก๊ส มันก็เหมือนหม้อปกติค่ะ คือ มีอายุหลายสิบปี หลายชั่วอายุคน
  • ผู้ที่ต้องการลองใช้เทคนิคการปรุงอาหารด้วยแรงดันขั้นสูง บางเมนูอาหารต้องการแรงดันที่สูงขึ้นเพื่อให้อาหารนิ่มและอร่อยขึ้น ในข้อนี้หม้ออัดแรงดันแบบไฟฟ้าอาจจะทำไม่ได้
  • ผู้ที่ต้องการทำอาหารแบบรวดเร็วเนื่องจากแรงดันของเครื่องจะออกเร็วกว่าระบบไฟฟ้า

2. หม้ออัดแรงดันแบบใช้ไฟฟ้า

หม้ออัดแรงดันไฟฟ้า มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ตั้งโปรแกรมได้สำหรับเวลาในการปรุงอาหาร และการตั้งค่าสำหรับฟังก์ชันการปรุงอาหารที่แตกต่างกัน ในบางยี่ห้อสามารถใช้ทำโยเกิร์ต ใช้หุงข้าว หรือใช้เป็นหม้อตุ๋นได้ ข้อดีอย่างหนึ่งของหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าคือไม่ใช้พื้นที่บนเตาแก๊สซึ่งทำให้สะดวกในการปรุงอาหารมื้อใหญ่

หม้ออัดแรงดันแบบใช้ไฟฟ้า

หม้ออัดแรงดันแบบใช้ไฟฟ้า เหมาะกับใคร ?

  • มือใหม่ หรือผู้ที่กังวลเกี่ยวกับการตั้งค่าความร้อน เพราะหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าจะทำงานโดยอัตโนมัติไม่ต้องควบคุมความร้อนอยู่หน้าเตา
  • หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าหลายยี่ห้อสามารถทำงานได้อย่างหลากหลาย บางยี่ห้อสามารถใช้งานแทนหม้อตุ๋น หม้อหุงข้าว และเครื่องทำโยเกิร์ตได้
  • เหมาะสำหรับคนที่มีห้องครัวจำกัด หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าเป็นเครื่องมือการปรุงอาหารอัตโนมัติจึงเหมาะสำหรับบ้านที่ไม่ได้ใช้แก๊สหรืออพาร์ตเมนต์ที่ใช้เตาแก๊สไม่ได้
  • เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเพราะไม่จำเป็นต้องจำไว้ว่าแก๊สเปิดอยู่หรือไม่รวมทั้งสามารถวางหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าได้ที่ความสูงเท่าใดก็ได้
  • หม้ออัดแรงดันไฟฟ้าง่ายต่อการเคลื่อนย้าย อีกทั้งในบางยี่ห้อยังมีระบบตัดไฟอัตโนมัติจึงเป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างจะปลอดภัยมากเลยทีเดียว

หม้ออัดแรงดันปลอดภัยหรือไม่?

หม้ออัดแรงดันปลอดภัยอย่างแน่นอน หม้ออัดแรงดันในปัจจุบันมีกลไกด้านความปลอดภัยที่ซับซ้อนหลายประการ ไม่ต้องกังวลในการใช้มากเกินไปเพราะหม้ออัดแรงดันแบบไฟฟ้าและแบบเตาแก๊สก็ต้องมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยดังต่อไปนี้

1. ฝาปิดล็อค จะทำให้หม้อความดันปิดอย่างแน่นหนา หากมีอะไรเกิดขึ้นภายใน คุณก็จะได้รับความปลอดภัยอยู่เสมอ หม้อจะไม่มีการระเบิด หรือมีปัญหาอย่างแน่นอน เว้นเสียแต่ว่า คุณปิดฝาไม่สนิท

ฝาปิดล็อค

2. การปล่อยแรงดัน ถ้าหากแรงดันภายในหม้อสูงเกินไปวาล์วแรงดันหลักจะปล่อยแรงดันพิเศษออก หากวาล์วตัวแรกอุดตันจะมีวาล์วตัวที่สองที่จะช่วยลดแรงดันได้

3. ช่องระบายอากาศแบบฝาปิด หากวาล์วปล่อยแรงดันไม่สามารถปล่อยแรงดันส่วนเกินออกได้ วาล์วดังกล่าวจะออกจากส่วนตัดเล็ก ๆ ในฝาหรือเข้าไปในตัวหม้ออัดแรงดันทำให้การปรุงอาหารราบรื่นไร้อันตราย

4. ระบบปิดอัตโนมัติ นี่เป็นข้อดีอีกประการหนึ่งของหม้ออัดแรงดันแบบไฟฟ้าหากมีอะไรไปติดอยู่ด้านในหรือมีความผิดปกติ ตัวเครื่องจะรู้ตัวอัตโนมัติและตัดไฟโดยทันที โปรดรู้ไว้ว่าหม้ออัดแรงดันบางรุ่นโดยเฉพาะรุ่นพรีเมี่ยมจะมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

วิธีเลือกซื้อหม้ออัดแรงดันที่ดีที่สุด

การซื้อหม้ออัดแรงดัน เป็นการลงทุนระยะยาวดังนั้นคุณต้องตรวจสอบข้อดีข้อเสียของคุณสมบัติอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังซื้อเครื่องมือที่คุ้มค่ากับการลงทุน ด้วยตัวเลือกมากมายในตลาดอาจเป็นงานที่ท้าทายสำหรับคุณในการเลือกตัวเลือกที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด ดังนั้นวันนี้เราก็มีคำแนะนำในการเลือกซื้อหม้ออัดแรงดันซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกหม้ออัดแรงดันที่เหมาะสมได้

1. ขนาด

การเลือกขนาดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณอาจไม่ต้องการหม้ออัดแรงดันที่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ในขณะที่หม้ออัดแรงดันขนาดเล็กจะทำให้คุณต้องทำอาหารหลาย ๆ ครั้ง แต่หม้อขนาดใหญ่จะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ปัจจัยในการตัดสินใจอย่างง่ายในขณะที่เลือกความจุหม้ออัดแรงดันก็คือจำนวนสมาชิกในครอบครัว สำหรับครอบครัวที่มีขนาดเล็ก ความจุ 2 – 3 ลิตร จะเหมาะพอดี แต่สำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิก 5 คนขึ้นไป หม้ออัดแรงดัน ขนาด 6 ลิตรขึ้นไป ก็เพียงพอแล้ว สำหรับคนโสดหรือคู่รักหม้ออัดแรงดันขนาด 1 หรือ 1.5 ลิตร จะเป็นขนาดที่เหมาะค่ะ

2. วัสดุ

    • ฮาร์ดโนไดซ์ คือ อะลูมิเนียมเคลือบแข็งที่จะไม่ทำปฏิกิริยากับส่วนผสมที่เป็นกรด เป็นตัวนำความร้อนที่ดีเยี่ยม น้ำหนักเบาปราศจากคราบและทนต่อการปรุงอาหาร มีความทนทานที่ยอดเยี่ยม แต่ราคาเเพง และไม่สามารถใช้ฝอยขัดหม้อในการทำความสะอาดได้
    • สเตนเลส เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อน มีความทนทานที่ดี สามารถใช้ฝอยขัดหม้อในการทำความสะอาดได้ ไม่ทำปฏิกิริยากับส่วนผสมที่เป็นกรดแต่มีราคาแพงกว่าหม้ออัดแรงดันอะลูมิเนียม ไม่ใช่ตัวนำความร้อนที่ดีมากนักและมีแนวโน้มที่จะเกิดคราบได้ง่าย
    • อะลูมิเนียม อะลูมิเนียมนั้นมีราคาที่ประหยัด เป็นตัวนำความร้อนที่ดีเยี่ยม น้ำหนักเบา สามารถใช้ฝอยขัดหม้อในการทำความสะอาดได้ แต่แน่นอนว่าไม่ค่อยทนทานเท่าไหร่นัก มีแนวโน้มที่จะเกิดคราบและเกิดการกัดกร่อนได้ง่ายและมีปฏิกิริยาต่อส่วนผสมที่เป็นกรด

3. ความทนทาน

ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นหม้ออัดแรงดัน เป็นการลงทุนระยะยาวเนื่องจากคุณทุกคนต้องการให้ใช้งานได้นาน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ คุณต้องคำนึงถึงความทนทานของวัสดุ หม้ออัดแรงดันสเตนเลสมีความแข็งแรง และทนทานสูง ไม่สูญเสียความมันวาวไปกับการใช้งาน และยังทนต่อการกัดกร่อนอีกด้วย คุณสามารถปรุงอาหารประเภทใดก็ได้ที่คุณต้องการเนื่องจากไม่ตอบสนองต่อกรดใด ๆ จึงปลอดภัยที่จะใช้ อาจมีราคาแพงเมื่อเทียบกับหม้ออัดแรงดันที่ทำจากอะลูมิเนียม

4. สามารถทำความสะอาดด้วยเครื่องล้างจาน

ในขณะที่คุณซื้อหม้ออัดแรงดันคุณควรหาคู่มือ หรือสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ในเครื่องล้างจานหรือไม่ (กรณีที่บ้านของคุณใช้เครื่องล้างจาน) คุณสามารถทำความสะอาดหม้ออัดแรงดันที่ทำจากสเตนเลส หรืออะลูมิเนียมในเครื่องล้างจานได้อย่างง่ายดาย แต่หม้ออัดแรงดันแบบฮาร์ดโนไดซ์นั้น มันไม่ปลอดภัยสำหรับเครื่องล้างจาน ดังนั้นก่อนที่คุณจะซื้อผลิตภัณฑ์ให้ตรวจสอบว่าสามารถทำความสะอาดในเครื่องล้างจานได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ?

5. การรับประกัน

คุณสามารถเลือกแบรนด์ที่คุณคิดว่าคุ้มค่ากับเงินของคุณมากที่สุด แต่อย่าลืมว่าคุณต้องตรวจสอบการรับประกันสำหรับหม้ออัดแรงดันด้วย การพิจารณาการรับประกันเป็นสิ่งสำคัญมากเนื่องจากจะช่วยให้คุณประหยัดเงินในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้น อย่าลืมตรวจสอบอุปกรณ์เสริมและชิ้นส่วนที่สามารถเปลี่ยนได้ภายใต้ระยะเวลารับประกันโดยบริษัท ผู้ผลิต


อ้างอิง 

(1) Pressure cooking

(2) Effect of household cooking methods on nutritional and anti nutritional factors in green cowpea (Vigna unguiculata) pods

(3) Effect of pressure cooking on aflatoxin B1 in rice