ออยล์ทาผิว (Body Oil) ยี่ห้อไหนดี? – บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี

เรื่องของผิวเป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ เราเชื่อเหลือเกินค่ะว่า ทุกคนปรารถนาที่จะมีผิวนุ่ม ชุ่มชื้นและดูโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยากมาก ๆ หากเราไม่ได้ดูแลผิวอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอากาศในประเทศไทยของเรา ที่เป็นอากาศร้อนชื้น ดังนั้นบางคนจะมีปัญหาผิวแห้งกร้าน และขาดความชุ่มชื้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ทุกคนเลือกใช้คือ ครีม และโลชั่น แต่เราขอบอกเลยค่ะว่า แค่ครีมและโลชั่นไม่ได้เพียงพอต่อผิว ดังนั้นเราเลยอยากขอแนะนำให้คุณใช้ “ออยล์ทาผิว (Body Oil)” มากกว่า

หลายคนไม่ชอบ ออยล์ เพราะขึ้นชื่อว่าน้ำมัน หลาย ๆ คนมักจะคิดว่ามันต้องเหนียว แต่เรื่องนี้สามารถมองข้ามไปได้เลยค่ะเพราะเราสามารถเลือกสูตรออยล์ทาผิวให้เหมาะกับตัวเองได้ ซึ่งออยล์ทาผิวมีประโยชน์ต่อผิวมาก ๆ ค่ะ สามารถป้องกันผิวแห้งได้ดีมาก ๆ เนื่องจากออยล์ทาผิวมีน้ำมันและมีความชื้นสูง นอกจากออยล์ทาผิวจะช่วยในการดูแลผิวแล้วเรายังสามารถใช้ออยล์ทาผิว สำหรับดูแลเส้นผมได้ด้วย จะใช้เป็นน้ำมันนวด หรืออโรมาเธอราพีก็ได้ค่ะ ตอนนี้เราไปดูกันค่ะว่าออยล์ทาผิวจากแบรนด์ไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด?

ออยล์ทาผิว (Body Oil) ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ?

• ออยล์ทาผิวสูตรพรีเมียม ช่วยคืนความเต่งตึงของผิวเหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์ : Clarins Tonic Body Treatment Oil ออยล์ทาผิว
• ออยล์สูตรอเนกประสงค์ ใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า : NUXE Huile Prodigieuse Multi Purpose Dry Oil ออยล์ทาผิว
• ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% ไม่อันตรายต่อผิว: Burt's Bees Mama Bee Nourishing Body Oil ออยล์ทาผิว
• น้ำมันอเนกประสงค์ช่วยลดรอยแผลเป็นและรอยแตกลาย: Bio Oil ออยล์ทาผิว
• ออยล์ทาผิวยอดนิยมซึมซาบเร็วและเนื้อบางเบา: Neutrogena Body Oil ออยล์ทาผิว
• ออยล์บำรุงผิวกายให้ความชุ่มชื่น มาพร้อมกลิ่นหอมผ่อนคลาย: Palmer's Cocoa Butter Formula Moisturizing Body Oil With Vitamin E ออยล์ทาผิว

ออยล์ทาผิว (Body Oil) มีประโยชน์อย่างไร ?

ออยล์ทาผิว (Body Oil) เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวมาก ๆ ค่ะ แต่หลายคนอาจจะรู้สึกเหนียวเหนอะหนะเลยไม่อยากจะใช้ แต่ออยล์ทาผิวเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับปรุงคุณภาพผิวได้ดี เพราะออยล์ทาผิวมีความสมดุลระหว่างน้ำมัน และส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นในอัตราส่วน 9:1 ทำให้ออยล์ทาผิวมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นสูงกว่าครีมทาตัว และก็บอดี้มิลค์บำรุงผิวกาย

เมื่อเทียบเนื้อสัมผัสกันแล้ว ออยล์ทาผิวจะมีเนื้อสัมผัสที่เกลี่ยได้ง่ายกว่าหากเทียบกับครีมทาตัวและโลชั่น จุดที่น่าสนใจคือความคุ้มค่าค่ะ เพราะว่าใช้เพียงนิดเดียว ออยล์ทาผิวก็สามารถเกลี่ยได้ทั่วร่างกายค่ะ ง่ายต่อการใช้นวดผิว และช่วยบำรุงผิวระหว่างนวดได้ดีมาก ซึ่งออยล์ทาผิวส่วนใหญ่ จะผลิตจากน้ำมันจากธรรมชาติ 100% ปลอดภัยสำหรับผิวบอบบาง ในการใช้คุณสามารถผสมออยล์ทาผิวในอ่างแล้วแช่ หรือจะใช้หลังจากอาบน้ำในขณะที่ผิวยังชื้นอยู่ก็ได้ค่ะ

เคล็ดลับในการเลือกซื้อออยล์ทาผิว (Body Oil)

1. เช็กส่วนผสมที่เหมาะกับผิว

• น้ำมันโจโจ้บา : เป็นส่วนประกอบจากพืช ที่อุดมไปด้วยกรดไขมัน ที่มีคุณสมบัติในการฟื้นบำรุงผิว และทำให้ผิวนุ่ม ซึ่ง น้ำมันโจโจ้บาจะมีความบางเบาและมีเนื้อสัมผัสคล้ายกับน้ำมันตามธรรมชาติของผิวค่ะ ทำให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่ายและล้ำลึก ขอบอกเลยค่ะว่า น้ำมันโจโจ้บาเป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมสำหรับผิวแห้ง
• น้ำมันอาร์แกน : อุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดอนุมูลอิสระ ชะลอความชรา และช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ น้ำมันอาร์แกนสามารถปิดกั้นรังสียูวี เพื่อป้องกันความเสียหายจากแสงแดดได้
• น้ำมันอัลมอนด์ : ประกอบด้วยไตรกลีเซอไรด์ และกรดไขมันหลายชนิด ที่สามารถปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว ผิวและสีผิว นอกจากนี้น้ำมันอัลมอนด์ยังสามารถช่วยลดรอยแผลเป็นและรอยแตกลายได้ดีมาก
• น้ำมันดอกทานตะวัน : อุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิก กรดโอเลอิก และวิตามินอี ซึ่งมีประโยชน์ในการเสริมสร้างเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวสามารถดูดซับและกักเก็บความชื้นได้
• น้ำมันมะกอก : เป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมอีกชนิดนึง ที่มีประโยชน์มากมาย เพราะน้ำมันมะกอก เป็นสารช่วยให้ผิวนุ่ม มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวได้ดี และยังยับยั้งริ้วรอยก่อนวัยและสามารถล้างเครื่องสำอางได้อย่างประสิทธิภาพ
• น้ำมันมะพร้าว : มีประโยชน์ต่อผิวมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวหนัง มีคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรียและต้านการอักเสบ พร้อมมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ สมานแผล และอาจชะลอความชราของผิวได้ด้วย

2. เนื้อสัมผัสของออยล์

ออยล์ทาผิว แต่ละชนิดมีเนื้อสัมผัสที่ไม่เหมือนกันค่ะ ซึ่งหมายความว่า ออยล์ทาผิวบางชนิดมีความบางมาก ในขณะที่บางชนิดก็มีความหนืด และซึมได้ยาก สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เราขอแนะนำให้เลือกใช้ออยล์ทาผิวที่บางเบา เพราะจะซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย และไม่ทิ้งความรู้สึกมันเยิ้มไว้บนผิว แต่ในทางกลับกันให้เลือกออยล์ทาผิวที่ข้นกว่าหรือหนืดกว่า หากคุณต้องการใช้เป็นน้ำมันนวด ออยล์ทาผิวที่ข้นกว่าจะทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่น และสามารถให้ความชุ่มชื้นได้นาน นอกจากนี้คุณยังไม่จำเป็นต้องทาซ้ำเป็นระยะ ๆ เพราะบำรุงได้อย่างล้ำลึกจริง ๆ ค่ะ

3. กลิ่นหอมของออยล์

ออยล์ทาผิว ส่วนใหญ่ทำมาจากน้ำมันหอมระเหย จึงมีกลิ่นที่แตกต่างกันไปค่ะ แต่แน่นอนว่า การได้กลิ่นที่คุณชอบ มันไม่เพียงแต่ทำให้กิจวัตรการดูแลผิวสนุกขึ้นเท่านั้น แต่กลิ่นยังส่งผลต่ออารมณ์ของคุณด้วย ตัวอย่างเช่น ออยล์ทาผิวที่มีส่วนผสมลาเวนเดอร์ และคาโมมายล์ มีผลทำให้รู้สึกสงบ และผ่อนคลาย ออยล์ทาผิวเหล่านี้เหมาะที่สุดในการใช้งานก่อนนอนเพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายและเตรียมคุณให้พร้อมสำหรับการนอนหลับ ในขณะเดียวกันยูคาลิปตัส และสเปียร์มินต์ ที่มีกลิ่นหอมสดชื่นและสะอาด สามารถช่วยให้คุณได้เติมพลังก่อนเริ่มต้นวันใหม่

4. เช็กวันหมดอายุ

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก่อนซื้อ ออยล์ทาผิว คือ เราต้องเช็กวันหมดอายุของออยล์ทาผิวก่อน คุณคงไม่อยากซื้อออยล์ทาผิวที่จะหมดอายุในอีกไม่กี่เดือนอย่างแน่นอน เว้นแต่คุณจะมั่นใจว่าตัวเองสามารถใช้ผลิตภัณฑ์จนหมดก่อนวันหมดอายุ ซึ่งเมื่อออยล์ทาผิวถึงวันหมดอายุ เนื้อสัมผัส กลิ่น และสีจะเริ่มเปลี่ยนไป เลยไม่เหมาะที่จะใช้งานค่ะ ซึ่งการเสื่อมสภาพของออยล์ทาผิวเกิดจากการออกซิเดชั่น การเกิดออกซิเดชันจะเกิดขึ้นเมื่อน้ำมันได้รับผลกระทบจากออกซิเจนในอากาศ สามารถลดอายุการใช้งาน และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้ สิ่งสำคัญก็คือ ต้องเรียนรู้ว่า ยิ่งออยล์ทาผิวสัมผัสกับอากาศมากขึ้นเท่าไหร่ระดับของการเกิดออกซิเดชันก็จะสูงขึ้นเท่านั้นค่ะ