น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ยี่ห้อไหนดี? – ช่วยดูแลผิวพรรณ และบำรุงเส้นผม

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่ดีที่สุด
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่ดีที่สุด

ในปัจจุบัน น้ำมันมะพร้าวกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากค่ะ นั่นก็เป็นเพราะว่าน้ำมันมะพร้าวถือเป็นหนึ่งในน้ำมันที่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด (1) และสามารถนำมาใช้ในด้านต่าง ๆ ได้อย่างอเนกประสงค์ ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นน้ำมันประกอบอาหารแล้ว คุณสามารถนำน้ำมันมะพร้าวมาบำรุงผิวของคุณได้ โดยจะใช้เป็นทรีตเมนต์ หรือใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวก็ได้ค่ะ ขอบอกเลยว่าการใช้น้ำมันมะพร้าวกับผิวสามารถรักษาสภาพผิวและปรับปรุงคุณภาพของผิวได้ดีมาก ๆ ค่ะ (2) อีกทั้งคุณยังสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวร่วมกับเส้นผมได้ด้วย เพื่อให้ผมของคุณนุ่มสลวย เงางาม

แต่แน่นอนว่าในการเลือกซื้อน้ำมันมะพร้าวนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายเลย เพราะน้ำมันมะพร้าวมีหลายเกรดหลายราคามากค่ะ ดังนั้นในการเลือกซื้อน้ำมันมะพร้าวที่ดีที่สุด เราขอแนะนำ “น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น” เนื่องจากมันมีองค์ประกอบที่แตกต่างกับน้ำมันมะพร้าวทั่วไปมาก น้ำมันมะพร้าวที่ผ่านการสกัดเย็นจะสามารถรักษาวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และคอเลสเตอรอลไว้ ช่วยให้มันมีประโยชน์มาก

แต่เนื่องด้วยประเทศไทยของเรามีมะพร้าวเยอะมาก ๆ และยังถือเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกหลักของเราด้วยค่ะ ฉะนั้นน้ำมันมะพร้าวในประเทศไทย จึงมีหลายแบรนด์ หลายราคามาก ๆ ทำให้เราเลือกซื้อได้ยากยิ่งขึ้น ดังนั้นในวันนี้เรามาเพื่อช่วยทุกคนค่ะ เราขอแนะนำแบรนด์น้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็นที่ดีที่สุด รวมไปถึงแนะนำวิธีการเลือกซื้อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ดี ๆ และมีคุณภาพ มาฝากกันค่ะ

ซื้อ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ

[summary item=”5343,5346,5348,5350,5354,5357″ info=”1″]

น้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์ต่อผิวและเส้นผมอย่างไร ทำไมต้องซื้อ ?

หากคุณไม่เคยใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมมาก่อน เราขอบอกเลยว่าคุณพลาดมาก ๆ ค่ะ เพราะแท้ที่จริงแล้ว น้ำมันมะพร้าว นั้น เป็นน้ำมันที่ดีที่สุดสำหรับผิว และเส้นผม น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันจากธรรมชาติสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดอันตรายอย่างแน่นอน ต่อไปนี้เป็นประโยชน์ของการใช้น้ำมันมะพร้าวกับผิวและเส้นผมค่ะ

ประโยชน์ต่อผิว

  • ใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ได้ : ผิวของเราต้องการความชุ่มชื้นสูงมาก ดังนั้นการใช้น้ำมันมะพร้าว เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นเรื่องที่ดีมาก น้ำมันมะพร้าวสามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของคุณได้เช่นเดียวกับน้ำมันอื่น ๆ นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวยังมีกรดลอริก ซึ่งเป็นส่วนประกอบประมาณ 50% ของกรดไขมันในน้ำมันมะพร้าว สามารถขจัดกลากเกลื้อนที่เกิดจากแบคทีเรียได้ด้วย (1),(2),(3) ถึงแม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะมีกลิ่นหอมแต่ก็เป็นกลิ่นหอมจากธรรมชาติ ปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองอย่างแน่นอน 
  • ลดการอักเสบ : การอักเสบของผิวหนังนั้น รักษาได้ยากมาก ๆ แต่ถ้าคุณมีน้ำมันมะพร้าวก็ไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไปเพราะหนึ่งในคุณสมบัติของน้ำมันมะพร้าวก็คือต่อต้านการอักเสบ ซึ่งหมายความว่าไม่เพียงแต่จะรักษาอาการอักเสบของผิวเท่านั้น แต่ยังสามารถป้องกันการอักเสบได้ดีมากด้วย นอกจากประโยชน์อันยอดเยี่ยมนี้แล้วน้ำมันมะพร้าวยังช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีอีกด้วยค่ะ 
  • สามารถช่วยรักษาบาดแผลได้ : ในน้ำมันมะพร้าวมีสารต้านแบคทีเรีย สารต้านการอักเสบ และสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นน้ำมันมะพร้าวจึงเป็นน้ำมันที่ดีที่สุด ในการรักษาปัญหาผิวของคุณ น้ำมันมะพร้าวไม่เพียงแต่สามารถรักษาบาดแผลของคุณได้ แต่ยังป้องกันการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย ดังนั้นทุกครั้งที่คุณได้รับบาดเจ็บคุณสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์เพื่อดูแลบาดแผลที่ผิวหนังได้

ประโยชน์ต่อเส้นผม

  • แก้ไขและป้องกันผมเสีย : ในน้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยสารอาหารสามารถปรับสมดุลของเส้นผมได้ดีมาก ตัวน้ำมันมะพร้าวจะให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ซึ่งจะช่วยบำรุงผมและฟื้นฟูผมเสีย อีกทั้งถ้าหากคุณมีปัญหาผมบาง, แห้งหยาบ และชี้ฟู การใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นประจำสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ค่ะ 
  • ปรับสมดุลโปรตีนของเส้นผม : น้ำมันมะพร้าวสามารถปรับสมดุลโปรตีนในเส้นผมของคุณได้เพื่อช่วยให้เส้นผมของคุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น (4) อีกทั้งการใช้น้ำมันมะพร้าวยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้หนังศีรษะของคุณรู้สึกเย็นขึ้น และผ่อนคลาย เพราะปกติแล้วน้ำมันมะพร้าวสามารถดูดซึมได้ง่าย จึงช่วยรักษาความร้อน และความแห้งกร้านได้ดีเพื่อให้หนังศีรษะของคุณอยู่ในสภาพที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด
  • ใช้เป็นครีมนวดผมและทรีตเมนต์ได้ :  การใช้น้ำมันมะพร้าวไม่เพียงแต่ปรับปรุงสุขภาพหนังศีรษะของคุณเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นครีมนวดผมและทรีตเมนต์ได้ดีเยี่ยมอีกด้วย ประโยชน์หลักของน้ำมันมะพร้าวคือ การปรับสภาพผม ให้ความชุ่มชื้นและผ่อนคลาย ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้เส้นผมของคุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นและลดอาการแตกปลายได้เป็นอย่างดี

[product_table item=”5343,5346,5348,5350,5354,5357″ info=”1″]

เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำมันมะพร้าวที่ดีที่สุด

1. รูปแบบของน้ำมันมะพร้าว 

  • น้ำมันมะพร้าวแบบ Refined : น้ำมันมะพร้าวประเภทนี้ เป็นน้ำมันที่ผลิตด้วยกระบวนการ “Refined Coconut Oil” กระบวนการนี้จะสกัดน้ำมันจากเนื้อมะพร้าวแห้งที่ผ่านการบีบอัด น้ำมันประเภทนี้ ต้องผ่านการ RBD ซึ่งหมายถึงการกลั่น, การฟอกขาว และการดับกลิ่น เหตุผลที่ต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ เหล่านี้ก็เพราะว่าเนื้อมะพร้าวแห้งนั้นไม่เหมาะสมสำหรับการบริโภค และน้ำมันจำเป็นต้องผ่านกระบวนการกรองสิ่งเจือปนต่าง ๆ ออกเพื่อให้มีคุณภาพมากขึ้น น้ำมันมะพร้าวประเภทนี้สามารถทนต่ออุณหภูมิการปรุงอาหารได้ดีมาก ขอบอกก่อนเลยว่า น้ำมันมะพร้าวประเภทนี้ จะดีมากหากคุณมีงบจำกัด เพราะปกติแล้วจะมีราคาถูกมาก ๆ เหมาะสำหรับการนำมาใช้ทอด ใช้เป็นน้ำมันอาบน้ำ หรือสบู่ แต่ไม่เหมาะกับการรับประทานโดยตรง
  • น้ำมันมะพร้าวแบบ Unrefined : น้ำมันมะพร้าวประเภทนี้มักมาในรูปแบบ Virgin และ Extra-virgin ซึ่งทำมาจากการกดมะพร้าวสดดิบ โดยใช้วิธีการทางกลแบบไม่ได้เติมสารเคมีใด ๆ รสชาติของน้ำมันมะพร้าว อาจมีรสอ่อนถึงเข้มข้นมาก สามารถใช้ทานได้ สำหรับใครที่งงว่า Virgin และ Extra-virgin แตกต่างกันอย่างไร ? เราขอบอกเลยว่า แทบจะไม่แตกต่างกันเลยเป็นเพียงกลอุบายทางการตลาดเท่านั้น
  • น้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็น (Cold-pressed) : การสกัดเย็นต้องผ่านการกดด้วยใบพัดหรือการหมุนเหวี่ยง ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีการสกัดน้ำมันจากมะพร้าวแห้งหรือมะพร้าวสดก็ได้ โดยน้ำมันมะพร้าวชนิดนี้ เป็นที่ได้รับความนิยมมาก เพราะน้ำมันมะพร้าวที่ผ่านการสกัดเย็นมีไขมันที่มีความเสถียรสูง และจะไม่เหม็นหืน แต่ถ้าหากคุณต้องการน้ำมันมะพร้าวที่อ่อนโยนเป็นพิเศษให้มองหาน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นแบบแรงเหวี่ยง (Centrifuge) เพราะน้ำมันมะพร้าวประเภทนี้จะไม่ได้รับความร้อนในระหว่างการสกัดจึงอ่อนโยน และมีกลิ่นบางเบามากกว่าค่ะ

2. ความบริสุทธิ์ของน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวที่คุณเลือกต้องมีความบริสุทธิ์แบบ 100% เท่านั้น เพราะหากคุณเลือกน้ำมันมะพร้าวที่ไม่บริสุทธิ์ การใช้งานก็จะหมดความหมาย เพราะคุณค่าของน้ำมันมะพร้าวจะด้อยลงไป อีกทั้งน้ำมันมะพร้าวที่ไม่บริสุทธิ์ 100% อาจมีการปนเปื้อนของน้ำหอม น้ำ และสารแต่งกลิ่น เมื่อเราใช้งานจะไม่ได้รับประสิทธิภาพเทียบเท่ากับน้ำมันมะพร้าวแบบ 100% ได้ ขอบอกเลยว่าน้ำมันมะพร้าวแบบบริสุทธิ์นั้นมีประสิทธิภาพสูงมากสามารถใช้งานได้จริงและเห็นผลจริง ดังนั้นอย่าตกเป็นเหยื่อของทาสการตลาด เราขอแนะนำให้อ่านฉลากของผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อก่อนเสมอค่ะ

3. อายุในการจัดเก็บรักษา

น้ำมันมะพร้าวมักจะมาในหลายรูปแบบให้เราได้เลือกซื้อ ซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละแบบจะมีอายุการจัดเก็บที่แตกต่างกัน การใช้งานน้ำมันมะพร้าวที่หมดอายุ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง และไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ ในการเลือกซื้อน้ำมันมะพร้าวคุณไม่ควรเลือกน้ำมันมะพร้าวแบบ RBD ที่มีอายุการเก็บรักษายาวนาน เพราะน้ำมันมะพร้าวแบบนี้มักจะผ่านกระบวนการทางเคมีหลายอย่าง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณ เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้น้ำมันมะพร้าว แบบดั้งเดิม หรือออร์แกนิกแทน เพราะถึงแม้จะมีอายุการจัดเก็บไม่นานแต่จะปลอดภัยต่อการใช้งานมากกว่าค่ะ

4. สีและกลิ่น

น้ำมันมะพร้าวมักจะมีสีขาวเมื่อเป็นของแข็งและจะไม่มีสีเมื่อกลายเป็นของเหลว ถ้าหากน้ำมันมะพร้าวมีการเปลี่ยนสี มันอาจหมายความได้ว่าน้ำมันมะพร้าวนั้นมีการผสมสารเคมีบางอย่างลงไปด้วย นอกจากเรื่องสีแล้ว เรื่องกลิ่นก็สำคัญมาก ๆ เช่นกันค่ะ น้ำมันมะพร้าวที่บริสุทธิ์ควรมีกลิ่น และมีรสชาติเหมือนมะพร้าว แต่ไม่ควรเข้มข้น และแรงมากเกินไป หากน้ำมันมะพร้าวมีกลิ่นไหม้ หรือมีกลิ่นควัน แสดงว่า น้ำมันมะพร้าวนั้นได้รับความร้อนมากเกินไป และอาจเก็บสารอาหารได้ไม่มากนัก


อ้างอิง 

(1) Oil, coconut

(2) A randomized double-blind controlled trial comparing extra virgin coconut oil with mineral oil as a moisturizer for mild to moderate xerosis

(3) Fatty Acids and Derivatives as Antimicrobial Agents

(4) Effect of mineral oil, sunflower oil, and coconut oil on prevention of hair damage