โทนเนอร์ เป็นสกินแคร์ที่จำเป็นสำหรับเรามาก ๆ ค่ะ เพราะโทนเนอร์สามารถช่วยในการทำความสะอาด ดูแลผิว และยังจะช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้โทนเนอร์กลายเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองข้ามไปได้ค่ะ แต่ในปัจจุบันโทนเนอร์มีหลายแบรนด์มาก ๆ ทำให้การเลือกซื้อโทนเนอร์สักอันนึงมาใช้งาน กลายเป็นเรื่องที่ตัดสินใจมาก แต่ถ้าหากคุณอยากให้ผิวดูดีขึ้น และไร้การระคายเคืองแนะนำให้ใช้ “โทนเนอร์สูตรไร้แอลกอฮอล์” ค่ะ
โทนเนอร์ สูตรปราศจากแอลกอฮอล์ เป็นสกินแคร์ยอดนิยมค่ะ เพราะมันจะทำความสะอาดผิวของคุณ โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือเพิ่มความแห้งให้กับผิว ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ใช้ได้ดีกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีผิวมัน หากคุณต้องการวิธีการทำความสะอาดผิวที่นุ่มนวลและอ่อนโยนยิ่งขึ้น การเลือกซื้อ โทนเนอร์สูตรไร้แอลกอฮอล์ มันจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ ในวันนี้เราเลยอยากเอาใจ คนที่มีผิวมัน ด้วยการนำเสนอ โทนเนอร์ สูตรไร้แอลกอฮอล์ สำหรับผิวมัน กันค่ะ ไปดูกันว่าจะมีแบรนด์ไหนอ่อนโยนและเหมาะกับผิวของคุณมากที่สุด
โทนเนอร์ สูตรไร้แอลกอฮอล์ สำหรับผิวมันยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ?
[summary item=”7150,7152,7153,7154,7156,7157″]
จริงหรือไม่ที่แอลกอฮอล์ในสกินแคร์ไม่ดีต่อผิว?
แอลกอฮอล์ คือคำที่ใช้เรียกกลุ่มของเหลว แต่ทุกวันนี้มักเรียก แอลกอฮอล์ ว่า “เอธานอล” ซึ่งได้มาจาก การหมักน้ำตาลหรือการหมักชีวมวลค่ะ แอลกอฮอล์สามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลากหลายชนิด เช่น โลชั่นบำรุงผิว, ไนท์ครีม, สกินแคร์, โทนเนอร์, น้ำหอม ฯลฯ เหตุผลก็คือ แอลกอฮอล์มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย, ละลายไขมัน, ทำหน้าที่เป็นสารกันบูดและป้องกันการปนเปื้อนของจุลินทรีย์รวมไปถึงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ หลายคนไม่อยากใช้แอลกอฮอล์เพราะคิดว่าเป็นอันตรายต่อผิว แต่จริง ๆ แล้วแอลกอฮอล์จะส่งผลเสียต่อผิวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของแอลกอฮอล์ที่ใช้ และความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ค่ะ
ปริมาณแอลกอฮอล์ 5% หรือน้อยกว่านั้น จะไม่ส่งผลเสียต่อผิว เพราะจะระเหยไปหมดในขณะที่ทาผลิตภัณฑ์ลงบนผิว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่ผิวจะแห้งแต่หากใช้แอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากกว่านั้น แอลกอฮอล์จะทำลายชั้นไขมันของผิวหนัง เพราะแอลกอฮอล์มีคุณสมบัติดูดความชื้นซึ่งหมายความว่าแอลกอฮอล์จะดึงน้ำออกจากผิวหนังทำให้ผิวแห้งค่ะ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วค่ะว่าในปัจจุบันมีแอลกอฮอล์หลายชนิด
ซึ่งเอทานอล จัดอยู่ในประเภทแอลกอฮอล์ที่ไม่ดีค่ะ เพราะจะทำลาย และทำให้ผิวแห้ง ส่วนแอลกอฮอล์ที่ดีก็จะถูกเรียกว่ากลุ่มแอลกอฮอล์ไขมัน เพราะได้รับกรดไขมันจากพืช ไม่เป็นพิษต่อผิวหนังและย่อยสลายได้ทางชีวภาพ แอลกอฮอล์ชนิดนี้มีคุณสมบัติปรับสภาพและให้ความชุ่มชื้นพร้อมบรรเทาอาการระคายเคือง ดังนั้นหากคุณซื้อสกินแคร์แล้วเจอกับส่วนผสมอย่าง บีเฮนิลแอลกอฮอล์, แอลกอฮอล์ซีเทียริล, แอลกอฮอล์เซทิล, ลาโนลินแอลกอฮอล์ และสตีเอริลแอลกอฮอล์ ไม่ต้องตกใจค่ะ เพราะมันจะไม่ทำให้ผิวแห้งอย่างแน่นอน (1)
[product_table item=”7150,7152,7153,7154,7156,7157″ info=”1″]
เคล็ดลับในการเลือกซื้อโทนเนอร์สูตรไร้แอลกอฮอล์สำหรับผิวมัน
1. รูปแบบของโทนเนอร์ประเภทต่าง ๆ
- โทนเนอร์ทั่วไป มักจะรวมอยู่ในขั้นตอนการดูแลผิว ซึ่งขั้นตอนนี้มีความสำคัญค่ะ เพราะจะสามารถขจัดสิ่งสกปรกฝังแน่นหรือเครื่องสำอางที่ตกค้างบนผิวได้ การใช้โทนเนอร์ทั่วไป ที่ปราศจากแอลกอฮอล์เป็นประจำ ก็เพียงพอแล้วกับการทำความสะอาดผิวหน้าที่มีความมันค่ะ ผลิตภัณฑ์นี้มักจะมีลักษณะเป็นน้ำ และเนื้อจะมีความบางเบา หากต้องการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน แนะนำให้ใช้สำลีแผ่นค่ะ
- ไมเซล่า วอเตอร์ (Micellar Water) ทำหน้าที่เป็นคลีนเซอร์ และโทนเนอร์ในหนึ่งเดียว ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพมากค่ะ ด้วยคุณประโยชน์หลายประการ ผลิตภัณฑ์นี้จึงถูกใช้เป็นโทนเนอร์บำรุงผิวหน้า ไมเซล่า วอเตอร์เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำและปราศจากแอลกอฮอล์ ซึ่งอ่อนโยนแต่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก สามารถขจัดเมคอัพกันน้ำ สิ่งสกปรกและความมันได้ แต่จะไม่รู้สึกเหนอะหนะเมื่อทาลงบนผิว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีน ที่มักจะอยู่ในผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผิวแห้ง เพื่อช่วยให้ผิวนุ่ม
- เอสเซนส์ (Essence) เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวที่ทรงพลังค่ะ ผลิตภัณฑ์นี้ มีส่วนผสมของ โทนเนอร์และเซรั่ม ปกติจะใช้หลังจากโทนเนอร์และใช้ก่อนเซรั่ม นอกจากนี้เอสเซนส์ยังช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง เนื้อสัมผัสของเอสเซนส์จะมีเนื้อสัมผัสกลาง ๆ ระหว่างโทนเนอร์และเซรั่ม เพราะไม่เป็นน้ำเหมือนโทนเนอร์แต่ไม่หนาเกินไปเหมือนเซรั่ม ส่วนที่ดีที่สุดของการใช้ผลิตภัณฑ์นี้คือสร้างชั้นความชุ่มชื้นและให้การบำรุงอีกชั้นหนึ่งค่ะ
2. เลือกโทนเนอร์ที่มีกรดไฮดรอกซีเพื่อผลัดเซลล์ผิว
- AHAs หากคุณกำลังมองหาโทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ซึ่งช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ฝังแน่นออกจากผิว ให้เลือกโทนเนอร์แบบที่มีกรดอัลฟ่าไฮดรอกซีหรือ AHA เพราะ AHA เป็นส่วนประกอบที่ละลายน้ำได้ สามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดริ้วรอย และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ AHA ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ กรดไกลโคลิก กรดแลคติก กรดซิตริก และกรดแมนเดลิก แต่ถึงแม้ว่าสารเหล่านี้จะให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ต้องใช้ AHA ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีผิวบอบบาง
- BHA หรือที่เรียกว่า Beta-Hydroxy Acids เป็นส่วนประกอบที่ละลายในน้ำมันได้ สามารถซึมลึกเข้าไปในชั้นผิวของเราและจัดการกับรูขุมขนที่อุดตัน โทนเนอร์ปราศจากแอลกอฮอล์พร้อม BHA เหมาะกับสภาพผิวมัน เนื่องจากจะช่วยแก้ปัญหาสาเหตุหลักของความมัน BHA ชนิดที่พบมากที่สุดคือกรดซาลิไซลิก เป็นส่วนผสมที่มีศักยภาพในการรักษาสิว สิวหัวดำและสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขนอย่างล้ำลึก นอกจากนี้การใช้กรดซาลิไซลิกในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยรักษาสภาพผิวที่แพ้ง่าย เช่น การอักเสบ รอยแดงและโรคโรซาเซียได้
- PHAs หรือที่เรียกว่า Poly-Hydroxy Acids จะคล้าย ๆ กับ AHAs มากค่ะ เพราะสามารถขจัดเซลล์ผิวได้ แต่ AHAs มีขนาดโมเลกุลแตกต่างจาก PHA เพราะ PHA มีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่กว่า AHA ซึ่งหมายความว่า PHA จะอ่อนโยนต่อผิว PHAs เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายเพราะสารขัดผิวที่อ่อนโยนเหล่านี้จะไม่แทรกซึมลึกเข้าไปในผิวหนังชั้นนอก อีกทั้งยังสามารถช่วยในการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วโดยไม่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง PHA ชนิดทั่วไป ได้แก่ กรดแลคโตไบโอนิก กาแลคโตสและกรดกลูโคนิก
3. เช็กสารสกัดของโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติควบคุมความมันและให้ความชุ่มชื้น
- สารสกัดจากวิชฮาเซล มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมายาวนานหลายศตวรรษ เนื่องจากมีประโยชน์ต่อผิวหลายประการ สารสกัดนี้สามารถสมานผิวได้ตามธรรมชาติช่วยควบคุมน้ำมันส่วนเกินจากผิวและลดรูขุมขนกว้าง นอกจากนี้วิชฮาเซลยังสามารถช่วยบรรเทาอาการคันและการอักเสบได้อีกด้วย แม้ว่าวิชฮาเซลจะปลอดภัยสำหรับทุกสภาพผิว แต่หากคุณมีผิวแห้งหรือแพ้ง่ายต้องใช้ส่วนผสมนี้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจทำให้ผิวแห้งเกินไปหรือระคายเคือง (1)
- น้ำกุหลาบ กรดไฮยาลูโรนิก และกลีเซอรีน น้ำกุหลาบเป็นส่วนผสมทางพฤกษศาสตร์อเนกประสงค์ที่เหมาะกับผิวมัน เพราะจะช่วยปรับสมดุลและฟื้นฟูระดับ pH ของผิวตามธรรมชาติ ส่วนผสมนี้ยังช่วยเติมน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ลดรอยแดงและคงความอ่อนเยาว์ของผิว ส่วนกรดไฮยาลูโรนิกและกลีเซอรีนเป็นสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ กลีเซอรีนให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของคุณและป้องกันไม่ให้ผิวรู้สึกตึงหรือแห้ง ในขณะที่กรดไฮยาลูโรนิกปลอดภัยสำหรับผิวทุกประเภท เพราะจะช่วยล็อกความชื้นและปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิวทำให้นุ่มและดูอ่อนกว่าวัย
- สารสกัดจากดอกดาวเรือง, ใบบัวบก และว่านหางจระเข้ การใช้โทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์และมีส่วนผสมที่ช่วยผ่อนคลายผิว เช่น ดาวเรือง ใบบัวบก และว่านหางจระเข้สามารถช่วยบรรเทาอาการนี้ได้ สารทั้งสามเหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิวและผิวมันด้วย คุณสมบัติในการรักษาและให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ดาวเรืองช่วยรักษาแผลเป็น ใบบัวบกจะช่วยปกป้องผิวของคุณจากรังสียูวี ในขณะเดียวกันว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบที่ช่วยปลอบประโลมผิวของคุณ
อ้างอิง