อาหารจำพวกขนม เช่น เบเกอรี่ หรือเค้ก เป็นอาหารที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการทำเป็นอย่างมาก เพื่อให้มีรสชาติที่ดี ซึ่งส่วนผสมหลัก ๆ ที่มีอยู่ในขนมจำพวกนี้ก็คือ แป้ง, ยีสต์, ไข่ไก่, นม และยังมีส่วนผสมอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าก่อนที่เราจะทำขนม ส่วนผสมเราจะต้องเปะ ซึ่งคุณอาจจะต้องใช้เครื่องชั่งอาหารดิจิตอลเข้ามาช่วย หลังจากนั้นเราต้องผสมส่วนผสมเหล่านี้ให้เข้ากัน แม้ว่าเราจะสามารถผสม และนวดแป้งชนิดต่าง ๆ ด้วยมือได้ แต่งานเหล่านี้ จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากคุณใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในการผสม ซึ่งเราได้เรียกอุปกรณ์เหล่านี้ว่า “เครื่องผสมอาหาร (เครื่องตีแป้ง)” ค่ะ
เครื่องผสมอาหาร ในปัจจุบันนั้น มี 2 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน นั่นก็คือ เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ เหมาะสำหรับใช้ผสมของเหลว และเครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ เหมาะสำหรับตีครีม ตีไข่ขาว ตีแป้ง อีกทั้งยังสามารถใช้ผสมครีม น้ำตาล และเนย ลงในแป้งที่เบาและนุ่มได้อย่างง่ายดาย หลายคนอาจจะมองว่าเครื่องผสมอาหารนั้นไม่จำเป็น แต่เราขอบอกเลยค่ะว่า การผสมอาหารด้วยมือนั้นเป็นเรื่องที่เหนื่อยเอามาก ๆ อีกทั้งการนวดหรือผสมแป้งด้วยมือก็ไม่อาจจะการันตีได้ว่า ส่วนผสมที่ได้จะขึ้นฟูหรือไม่ ซึ่งคุณอาจจะเหนื่อยฟรี ๆ ดังนั้นการใช้เครื่องผสมอาหารจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ๆ และก็เหมาะสำหรับการใช้ทำแป้งทุกประเภทรวม ไปถึงยังใช้ในการบดเนื้อ แปรรูปอาหาร และทำอาหารอื่น ๆ ได้อีกด้วย ถ้าหากวันนี้คุณกำลังต้องการจะซื้อ เครื่องผสมอาหาร เราก็มีสินค้า และคำแนะนำในการเลือกซื้อมาฝากกันค่ะ
ซื้อ เครื่องตีแป้ง ยี่ห้อไหนดีและเหมาะกับคุณ ปี 2021
- เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ ขนาดเล็กพกพาง่าย มาพร้อมปุ่มเทอร์โบช่วยเร่งความเร็ว: Electrolux เครื่องผสมอาหารมือถือ รุ่น EHM3407
- ดีไซน์สวยงาม โดดเด่นทันสมัย มีมอเตอร์ทองแดง 1,000 วัตต์ สามารถผสมอาหารได้อย่างรวดเร็ว: Casiko เครื่องผสมอาหาร รุ่น SW5353S
- ผลิตจากวัสดุคุณภาพ มีความทนทานสูง มาพร้อมโถสเตนเลสความจุ 3.5 ลิตรเหมาะสำหรับใช้งานในครอบครัว: Electrolux เครื่องผสมอาหาร รุ่น EHSM3417
- เครื่องผสมอาหาร 7.5 ลิตร ใช้มอเตอร์พลังสูง เหมาะสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์: Russell Taylors เครื่องผสมอาหาร รุ่น SM-1500
- เครื่องนวดแป้งระบบอัตโนมัติ นวดแป้งและพักแป้งได้ตามความต้องการ: Bear เครื่องนวดแป้ง รุ่น A50B1
- ปรับความเร็วได้ถึง 10 ระดับ ช่วยให้การผสมอาหารเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น: Smeg เครื่องผสมอาหาร
เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ VS เครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ แบบไหนดีกว่ากัน ?
เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ และเครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ เป็นเครื่องมือที่มีไว้เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน นั่นก็คือ ใช้ผสมส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากัน แต่แน่นอนว่า ทั้ง 2 แบบ ก็มีความแตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ถ้าหากคุณอยากรู้ว่าจะต้องซื้อแบบไหนดี ? เราก็มีคำตอบมาฝากกันค่ะ
เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ
เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ เป็นเครื่องผสมอาหารที่คุณต้องพึ่งพามือตัวเองในการผสมอาหาร แต่ความสะดวกของมันก็คือคุณไม่จำเป็นต้องออกแรงเพราะเครื่องมีมอเตอร์ อุปกรณ์นี้มีการออกแบบที่ค่อนข้างธรรมดา มีราคาถูกกว่าและมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน หากคุณใช้เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ คุณสามารถบด ผสม หรือแม้แต่ตีส่วนผสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเครื่องมีการปรับความเร็วที่แตกต่างกันเพื่อให้คุณผสมอาหารได้อย่างแม่นยำ ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณต้องการที่จะเปลี่ยนรูปแบบการผสม คุณสามารถถอดหัวผสมออกและใส่หัวผสมในรูปแบบอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย
ข้อดี | ข้อเสีย |
+ ราคาไม่แพง + สามารถทำความสะอาดได้ง่าย + ใช้พื้นที่ในครัวน้อย + ผสมอาหารได้รวดเร็ว |
– มอเตอร์ค่อนข้างเล็ก – ไม่มีโถผสม – มีโอกาสที่ส่วนผสมจะกระเด็น – ผสมแป้งหนา ๆ ไม่ได้ |
เครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ
เครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ เป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องพยายามจับโถผสมให้แน่นเหมือนอย่างที่คุณต้องทำเมื่อใช้เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ เครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะมีมอเตอร์ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมโถผสมในตัววิธีนี้จะช่วยขจัดปัญหาน้ำหรือส่วนผสมกระเซ็น และจะทำให้การผสมอาหารเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก เครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะมักจะมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริม เช่น ตะขอเกี่ยวแป้ง พาย และที่ตีแป้ง ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ใดก็ได้ให้เหมาะกับงานของคุณ
ข้อดี | ข้อเสีย |
+ มีชามผสมขนาดใหญ่ + ส่วนผสมไม่กระเด็นออกมา + ชามผสมมีความมั่นคงมาก + ทำงานอัตโนมัติ |
– ทำความสะอาดได้ยาก – ราคาค่อนข้างสูง – ต้องใช้พื้นที่ในการจัดวาง |
Electrolux เครื่องผสมอาหารมือถือ รุ่น EHM3407
เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ ขนาดเล็กพกพาง่าย มาพร้อมปุ่มเทอร์โบช่วยเร่งความเร็ว
ราคา 990 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ประเภทของเครื่องผสมอาหาร : แบบมือถือ
กำลังไฟ : 450 วัตต์
ความจุของโถผสม : ไม่ระบุ
ปรับความเร็วได้ : 5 ระดับ
ขนาดของตัวเครื่อง : 20.1 x 9.6 x 15 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 1.15 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ตัววัสดุปลอดสาร BPA สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- ทำความสะอาดด้วยเครื่องล้างจานได้
- ปรับความเร็วได้ 5 ระดับมีปุ่มเทอร์โบเพื่อปรับความเร็ว
- จัดเก็บได้ง่ายเพราะตัวเครื่องมีขนาดเล็ก
ข้อควรพิจารณา
- หากใช้งานไปนาน ๆ เครื่องจะร้อน
- ไม่เหมาะสำหรับใช้ตีแป้ง
Casiko เครื่องผสมอาหาร รุ่น SW5353S
ดีไซน์สวยงาม โดดเด่นทันสมัย มีมอเตอร์ทองแดง 1,000 วัตต์ สามารถผสมอาหารได้อย่างรวดเร็ว
ราคา 2,459 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ประเภทของเครื่องผสมอาหาร : แบบตั้งโต๊ะ
กำลังไฟ : 1,000 วัตต์
ความจุของโถผสม : 5.5 ลิตร
ปรับความเร็วได้ : 6 ระดับ
ขนาดของตัวเครื่อง : 23.5 x 37 x 30 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 6.2 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- มีโถสเตนเลสที่มีความจุ 5.5 ลิตรเหมาะสำหรับการผสมอาหารในปริมาณมาก
- มาพร้อมมอเตอร์ทองแดงทรงพลัง 1,000 วัตต์
- สามารถตั้งค่าความเร็วได้ 6 ระดับอีกทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชัน Pulse
- มีไฟ LED สำหรับแสดงสถานะเพาเวอร์
ข้อควรพิจารณา
เสียงค่อนข้างดัง
Electrolux เครื่องผสมอาหาร รุ่น EHSM3417
ผลิตจากวัสดุคุณภาพ มีความทนทานสูง มาพร้อมโถสเตนเลสความจุ 3.5 ลิตรเหมาะสำหรับใช้งานในครอบครัว
ราคา 1,590 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ประเภทของเครื่องผสมอาหาร : แบบตั้งโต๊ะ
กำลังไฟ : 450 วัตต์
ความจุของโถผสม : 3.5 ลิตร
ปรับความเร็วได้ : 5 ระดับ
ขนาดของตัวเครื่อง : 30.9 x 21.9 x 36.6 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 2.5 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- คุ้มค่าคุ้มราคาหาซื้อได้ในราคาประหยัด
- มีขนาดมาตรฐานสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก
- ใช้งานง่ายและทำความสะอาดได้ง่าย
- มีมอเตอร์ทรงพลังทำให้ตัวเครื่องแข็งแกร่งและทนทาน
ข้อควรพิจารณา
ไม่เหมาะสำหรับใช้งานในเชิงพาณิชย์
Russell Taylors เครื่องผสมอาหาร รุ่น SM-1500
เครื่องผสมอาหาร 7.5 ลิตร ใช้มอเตอร์พลังสูง เหมาะสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์
ราคา 3,499 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ประเภทของเครื่องผสมอาหาร : แบบตั้งโต๊ะ
กำลังไฟ : 1,500 วัตต์
ความจุของโถผสม : 7.5 ลิตร
ปรับความเร็วได้ : 6 ระดับ
ขนาดของตัวเครื่อง : 40 x 36 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 6.3 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- มีมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง 1,500 วัตต์
- มีช่วงความเร็ว 6 ระดับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการผสมอาหาร
- ชามผสมมีขนาดใหญ่ที่ความจุ 7.5 ลิตร
- ทำความสะอาดง่ายได้ง่าย มีแผ่นกันลื่นเพื่อความมั่นคง
- เสียงค่อนข้างเบาถึงแม้จะใช้กำลังไฟสูง
ข้อควรพิจารณา
ค่อนข้างหนักในการเคลื่อนย้าย
Bear เครื่องนวดแป้ง รุ่น A50B1
เครื่องนวดแป้งระบบอัตโนมัติ นวดแป้งและพักแป้งได้ตามความต้องการ
ราคา 1,899 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ประเภทของเครื่องผสมอาหาร : แบบตั้งโต๊ะ
กำลังไฟ : 200 วัตต์
ความจุของโถผสม : 5 ลิตร
ปรับความเร็วได้ : 6 ระดับ
ขนาดของตัวเครื่อง : 26.2 x 29.6 x29.3 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 3.5 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ประหยัดพื้นที่ในการจัดวางเพราะมีขนาดเล็กกะทัดรัด
- ช่วยประหยัดพลังงานเพราะใช้กำลังไฟต่ำมาก
- ช่วยให้แป้งขึ้นฟูได้ดีเพราะมีระบบพักแป้ง
- เหมาะสำหรับการทำเบเกอรี่เพราะไม่ต้องนวดด้วยมือให้เหนื่อย
ข้อควรพิจารณา
ไม่เหมาะสำหรับใช้ผสมอาหาร
Smeg เครื่องผสมอาหาร
ปรับความเร็วได้ถึง 10 ระดับ ช่วยให้การผสมอาหารเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
ราคา 23,900 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ประเภทของเครื่องผสมอาหาร : แบบตั้งโต๊ะ
กำลังไฟ : 800 วัตต์
ความจุของโถผสม : 4.8 ลิตร
ปรับความเร็วได้ : 10 ระดับ
ขนาดของตัวเครื่อง : 37.8 x 40.2 x 22.1 ซม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง : 3.5 กก.
เหตุผลที่ควรซื้อ
- สามารถตั้งค่าความเร็ว 10 ระดับมีประสิทธิภาพสูง
- มีการออกแบบที่สะดุดตา ช่วยยกระดับห้องครัว
- สามารถทำความสะอาดด้วยเครื่องล้างจานได้อย่างปลอดภัย
- โครงสร้างทนทานสามารถใช้งานได้นานหลายปี
ข้อควรพิจารณา
ราคาสูง
คุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อ
1. ขนาดของโถผสม
เมื่อคุณเลือกซื้อเครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ ขนาดของโถผสม เป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะ เครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะมักจะมีความจุระหว่าง 3 – 10 ลิตร หากคุณชอบทำขนมเป็นงานอดิเรก ทำเป็นครั้งคราว เครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะที่มีชามผสมอาหารขนาดเล็ก จะรองรับความต้องการของคุณได้ดี แต่หากคุณกำลังวางแผนที่จะทำอาหารมื้อใหญ่ ต้องการผสมในปริมาณมาก ๆ ผสมแป้งที่หนาขึ้น การเลือกเครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะที่มีชามผสมขนาดใหญ่ขึ้น จะเหมาะสำหรับคุณมากกว่าค่ะ แต่หากคุณซื้อเครื่องผสมอาหารแบบมือถือ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องพิจารณาค่ะ เนื่องจากเครื่องผสมอาหารแบบมือถือไม่มีโถผสมมาให้นั่นเอง
2. กำลังไฟ
กำลังไฟของเครื่องผสมอาหารที่คุณเลือกซื้อ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จำเป็นต้องพิจารณาค่ะ โดยกำลังไฟขั้นต่ำที่เราอยากจะแนะนำเมื่อซื้อเครื่องผสมอาหาร ก็คือ 250 วัตต์ หากคุณวางแผนที่จะผสมพวกของเหลว หรือส่วนผสมที่ไม่หนามาก เครื่องผสมอาหารที่มีกำลังไฟต่ำก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าหากคุณต้องการใช้เครื่องผสมอาหารไปตีแป้งหรือส่วนผสมที่มีความเหนียวและหนามาก ๆ คุณก็จะต้องเลือกมอเตอร์ที่มีกำลังไฟ 400 วัตต์ ขึ้นไป เพราะมันจะมีกำลังในการผสมมากพอ และจะช่วยให้การผสมง่ายขึ้น แต่โปรดจำไว้ว่า แม้ว่าเครื่องผสมอาหารบางยี่ห้อ อาจอ้างว่า ใช้มอเตอร์ขนาด 500 วัตต์ แต่มันอาจใช้พลังงานมากกว่านั้นก็เป็นได้ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบสเปกให้มั่นใจก่อนซื้อค่ะ
3. การควบคุม และการตั้งค่า
ส่วนควบคุมของเครื่องผสมอาหาร มีตั้งแต่ แบบแป้นหมุน ปุ่มกด และระบบอัตโนมัติ โดยส่วนใหญ่เครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ มักจะมีการตั้งค่าความเร็วอยู่ที่ 3 ถึง 12 ระดับ ซึ่งมีความเร็วต่ำ ปานกลาง และสูง และมีระบบการทำงานอัตโนมัติ เริ่มและหยุดตามค่าที่คุณได้ตั้งเอาไว้ ซึ่งเป็นระบบพื้นฐาน ส่วนเครื่องผสมอาหารแบบมือถือ มักจะมีการตั้งค่าความเร็วอยู่ที่ 3 ถึง 7 ระดับ นอกจากนี้บางรุ่นยังมีฟังก์ชันพิเศษ อย่าง ปุ่ม Pulse เพื่อปรับให้ส่วนผสมมีความเสมอกัน โดยเครื่องผสมอาหารแบบมือถือ จะมีการออกแบบที่เรียบง่ายมาก ๆ เน้นใช้งานง่าย ส่วนเครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ จะมีฟังก์ชันที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เครื่องผสมอาหารบางรุ่น มีตัวจับเวลาภายใน และฟังก์ชันหยุดการทำงานอัตโนมัติ (เรียกอีกอย่างว่าระบบป้องกันการโอเวอร์โหลด) แม้ว่าจะไม่ใช่การควบคุมที่จำเป็นแต่ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างแน่นอนค่ะ
4. ขนาด และน้ำหนักโดยรวม
เครื่องผสมอาหารแบบมือถือ มักจะมีขนาดเล็ก กะทัดรัด ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องคำนึงเรื่องของขนาด แต่ถ้าหากคุณต้องการซื้อเครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ ขนาด และน้ำหนัก จะกลายเป็นเรื่องที่จำเป็นทันที เพราะมันมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ และต้องการพื้นที่ในการจัดวางพอสมควร ดังนั้นก่อนที่คุณจะซื้อเครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ คุณต้องวัดพื่นที่ เพื่อดูว่า คุณมีพื้นที่ในการจัดวางมากพอหรือไม่ หากคุณมีพื้นที่ในการจัดวางน้อย คุณอาจต้องการพิจารณาเครื่องที่มีขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบา เพื่อให้ง่ายต่อการจัดวางและเคลื่อนย้ายค่ะ