“มูฟออนเป็นวงกลมทำยังไงดีคะพี่สาว” “พี่คะหนูมูฟออนเป็นรูปไก่ : ไก่มาได้มั๊บ กลับมาได้มั๊ย” หลายคนคงจะเคยถามและถูกถามคำถามแบบนี้และคำตอบก็เป็นอะไรที่ทำได้ยากเหลือเกิน คนที่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้รู้กันดีว่าสาหัสจนเอาชีวิตแทบไม่รอด มันเจ็บจี๊ด ๆ อยู่ในใจ บ้างก็ตัดผมเปลี่ยนสไตล์เป็นคนใหม่จนแทบจำไม่ได้ บ้างก็เข้าออกร้านเหล้าเป็นว่าเล่นจนเพื่อนไม่ไหวจะแบก บ้างก็หันไปเข้าสายรักสุขภาพ
ไม่มีใครไม่เคยอกหักค่ะ การมูฟออนของแต่ละคนนั้นอาจจะไม่เหมือนกัน บ้างก็เปลี่ยนแปลงไปทางที่ดีขึ้น บ้างก็เปลี่ยนไปทางแย่ลง ดังนั้นวันนี้เราจึงมีแนวทางมูฟออนสำหรับนักมูฟออนมือใหม่มาฝาก เพื่อที่ทุกคนจะก็าวข้ามความเสียใจและเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจค่ะ มาเติบโตขึ้นไปพร้อม ๆ กันนะคะ
1. ให้เวลากับตัวเอง
เมื่อความสัมพันธ์ยุติลงหรือเมื่อเกิดการเลิกราจะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีด้านอารมณ์และร่างกาย ทำให้เรามีความรู้สึกเหงา, รู้สึกไม่เป็นที่รัก, หดหู่ และไร้ค่า หลายคนจึงเลือกที่จะประชดชีวิตด้วยการตัดผมใหม่ด้วยกรรไกรตัดผม หรือปัตตาเลี่ยน, ไปท่องเที่ยว หรือเที่ยวกลางคืน เพื่อทำให้ตัวเองไม่รู้สึกเหงา แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่าการแก้ปัญหาแบบนี้ อาจจะทำให้รู้สึกดีแค่ในช่วงแรกแค่นั้นค่ะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักคุณจะรู้สึกขมขื่นกับชีวิต, เบื่อหน่าย, หดหู่, กลัว, รู้สึกแย่กับตัวเอง และเริ่มออกเดทกับคนมากมาย ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้นี่แหละค่ะ ที่จะส่งผลกับความสัมพันธ์ระยะยาวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แทนที่จะวิ่งหาความสุขกับคนหมู่มาก ทำไมเราไม่ลองให้เวลากับตัวเองสักหน่อยล่ะ? ใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อค้นหาว่าจริง ๆ แล้วเรารู้สึกอย่างไรกันแน่ คุณอาจจะเคยคิดว่าเขาคนนั้นคือคนที่ใช่ คนที่เกิดมาเพื่อเรา ถึงแม้ว่าเขาจะแสดงออกชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วว่าเขาไม่ได้อยากเป็นแม้กระทั่งเพื่อนหรือคนในครอบครัวก็ตาม นั่นเป็นเพียงแค่ความคิด เป็นสิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับจากเขาเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วความรู้สึกของคุณเป็นอย่างไรกันแน่ คุณควรจะใช้เวลาตรงนี้เพื่อค้นความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง
2. ความเศร้าไม่ได้แย่เสมอไป
ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาคนนั้นจะจบลงแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเพื่อนหรือครอบครัวของเขาจะจบลงด้วยนะคะ คุณอาจจะสูญเสียพื้นที่ที่รู้สึกปลอดภัย, สถานะภาพทางสังคม, หรืออะไรก็ตามที่คุณจินตนาการว่าจะทำร่วมกับเขา ไม่มีอะไรอยู่คงทนตลอดไปหรอกค่ะ คุณอาจจะต้องใช้เวลาอยู่กับความเศร้าโศกสักพักเพื่อยอมรับว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้อยู่กับคุณอีกต่อไปแล้ว หลายคนคงจะคิดว่าคิดว่า “แหม ก็พูดได้สิหล่อนไม่ได้เสียใจเหมือนฉันนี่” แต่จริง ๆ แล้วร่างกายและสมองของเราจะหลีกเลี่ยงความเศร้าโศกเสียใจต่าง ๆ นานาโดยธรรมชาติอยู่แล้วค่ะ เพราะการเผชิญหน้ากับความจริงเป็นเรื่องที่เจ็บปวดเหลือเกิน หลายคนจึงเลือกที่เข้าสังคมหรือไปเที่ยวคลับบาร์ต่าง ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจมอยู่กับความเสียใจนั่นเองค่ะ แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะส่งผลเสียต่าง ๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคเครียด โรคซึมเศร้า, วิตกกังวล, ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง, ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง, สภาวะตึงเครียด, สิ้นหวัง รวมไปถึงความคิดหมกมุ่นต่าง ๆ นานา ใช่ค่ะ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมูฟออนไม่ได้สักที แต่การเผชิญหน้ากับความเศร้าเหล่านั้นจะทำให้คุณสามารถควบคุมความรู้สึกและพลังงานของตัวเองได้ดีขึ้น คุณคงไม่อยากให้ความสัมพันธ์ครั้งใหม่เต็มไปด้วยอคติใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้นการยอมรับความเสียใจและความจริงจึงเป็นวิธีที่จะทำให้คุณมูฟออนได้อย่างแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจค่ะ
อ่านเพิ่มเติม
3. ความเศร้า 5 ขั้นตอน
ความเศร้า 5 ขั้นตอน ของ Dr. Elisabeth Kubler-Ross (1) เป็นวิธีการที่เป็นที่นิยมมากในหมู่ชาวมูฟออนก็ว่าได้ค่ะ ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีเรื่องราวและความเศร้าที่ต้องเผชิญไม่เหมือนกัน แต่การฝึกฝน 5 ขั้นตอนนี้จะเป็นแนวทางที่จะนำคุณไปสู่ความสุขได้อย่างไม่ยากเลย
- ปฎิเสธ (การไม่ยอมรับความจริง)
- โกรธ (ความตึงเครียดของร่างกาย, ความหงุดหงิด และความไม่พอใจ)
- ต่อรอง (การวิงวอนหรือไหว้พระขอพรต่าง ๆ )
- หดหู่ (เศร้า, รู้สึกว่างเปล่า, รู้สึกผิด, นอนไม่หลับ, เบื่ออาหาร และสิ้นหวัง)
- ยอมรับความจริง เมื่อข้ามผ่านความรู้สึกทั้งหมดไปแล้ว สุดท้ายคุณจะยอมรับความจริงและพบเจอความสุข
ในระหว่างการฝึกฝน คุณจะต้องตระหนักรับรู้ถึง ความรู้สึก, พฤติกรรม, ความคิด, และปฎิกิริยาทางร่างของคุณอยู่เสมอนะคะ ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่าพยายามควบคุมหรือบังคับมัน การก้าวผ่านความเสียใจเป็นเรื่องยากและต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นอย่าฝืนหรือทรมาณตัวเอง
4. โซเชียลดีท็อกซ์ (Social Detox)
เขาทำอะไร, อยู่ที่ไหน, อยู่กับใคร, แฟนใหม่หน้าตาเป็นยังไง, หาใหม่ได้ดีกว่าเราหรือเปล่า และคำถามอีกมากมาย เป็นปัญหาใหญ่ของนักมูฟออนมือสมัครเล่น ดังนั้นคุณ ๆ ทั้งหลายจึงชอบเผลอไปส่องหรือกดดูสตอรี่ของเขาทุก 3 นาที บางคนแข็งใจบล็อกไปแล้วแต่ก็ขอยืมมือถือเพื่อนมาส่องสักหน่อย มันห้ามใจไม่ได้จริง ๆ ใช่ไหมคะ แต่การกระทำเหล่านี้แหละเป็นตัวการที่จะทำให้เรามูฟออนไม่ได้ เพราะการวิตกกังวลและความรู้สึกอยากรู้เรื่องราวของเขาตลอดเวลาหรือการได้ยินเสียงแจ้งเตือนเข้าบ่อย ๆ นั้นอาจจะเป็นสัญญาณของอาการ F.O.M.O (Fear of missing out) (2) หรือหนักกว่านั้นบางคนอาจจะพยายามเข้าระบบเพื่อดูว่าเขาคุยกับใครบ้าง อย่าหาทำนะคะเพราะพฤติกรรมแบบนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายและติดคุกได้เลยนะ ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะเจาะแก่การทำโซเชียลดีท็อกซ์ที่สุดแล้วค่ะ ลองปิดเสียงการแจ้งเตือนหรือลบแอปที่ไม่จำเป็นออก, จำกัดเวลาการเล่นโซเชียล, ใช้เวลาอยู่กับตัวเองและคนรอบข้าง หรือหางานอดิเรกใหม่ ๆ ทำโดยไม่ต้องกังวลว่าในโซเชียลจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แล้วคุณจะพบว่ามิตรภาพที่อยู่ตรงหน้าสำคัญกว่าเรื่องราวข่าวสารในมือถืออีกนะคะ
5. สติมาปัญญาเกิด
ลองสูดหายใจเข้าลึก ๆ, ทำสมาธิ, ทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ใช้สติและความสงบ และปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ เป็นไปตามที่ควรจะเป็น อย่าพยายามยึดติดหรือบังคับสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นไปตามใจต้องการ แล้วความรู้สึกแย่ ๆ ที่คอยกัดกินหัวใจของเราอย่างยาวนานก็จะค่อย ๆ หลุดหายไปในที่สุด คุณจะค้นพบตัวตนที่แท้จริงและเป็นคนใหม่ที่สดใสราวสายรุ้ง
6. ออกเดทกับตัวเอง
นักมูฟออนมือสมัครเล่น มักจะประสบปัญหาในการพยายามคิดว่าตัวเองเคยเป็นอย่างไรก่อนเจอเขา และพวกเขามักจะเห็นตัวเองตอนที่มีความสุขหรือความทุกข์กับความสัมพันธ์จนลืมไปว่าตัวเองเคยทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม, เป็นที่สนใจ และมีสเน่ห์แค่ไหนตอนที่พวกเขายังโสด จริง ๆ แล้วการเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครสักคนไม่ควรจะทำให้สิ่งเหล่านี้ในตัวคุณลดลงเลยนะคะ และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณควรจะลองออกเดทกับตัวเองดูบ้าง เพราะการออกเดทกับตัวเองจะทำให้คุณค้นพบว่าจริง ๆ แล้วคุณต้องการอะไร อยากให้ความสัมพันธ์เป็นไปในทิศทางไหน และการเดทกับตัวเองมีวิธีง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
- เลือกเวลาที่คุณรู้สึกว่าเหมาะที่สุดในการเดทกับตัวเอง พยายามทำตัวให้ว่างและหลีกเลี่ยงวันที่มีนัดสำคัญ
- วางแผนว่าจะทำอะไรบ้าง ควรทำสิ่งที่อยากจะทำจริง ๆ
- เตรียมตัวออกเดท เลือกชุดที่สวยและมั่นใจที่สุดเพื่อตัวเอง
- ออกเดทอย่างมีสติ พร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ และสนุกไปกับช่วงเวลาที่มีค่าเหล่านั้น
7. จดจำไว้นะใจเจ้าเอย
อย่าลืมว่าทำไมเราต้องกลับมาเป็นคนโสดอีกครั้ง คุณอาจจะคิดว่า “เอ๊า แล้วทั้งหมดที่ทำมามันจะมีค่าอะไรล่ะ” จริง ๆ แล้วเมื่อก้าวผ่านความเศร้าโศกเสียใจและยอมรับความจริงได้แล้ว คุณจะรู้สึกได้ว่าการที่ต้องจดจำหรือนึกย้อนกลับไปว่าทำไมความสัมพันธ์ครั้งนี้ต้องจบลงมันไม่ได้เป็นเรื่องที่เจ็บปวดเลยค่ะ กลับกันความทรงจำและสิ่งเหล่านี้จะคอยย้ำเตือนให้คุณใช้ชีวิตอย่างมีสติและเติบโตขึ้นเป็นคนใหม่ ความผิดหวังและประสบการณ์จะทำหน้าที่ซ่อมแซมรอยรั่วที่จะเกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ในอนาคต ความเจ็บปวดเหล่านั้นจะสอนให้เรารู้จักรัก และวันหนึ่งคุณก็จะพบเจอกับความรักที่เต็มไปด้วยความสุขและความสมหวังโดยไม่ต้องพยายามค่ะ
สุดท้ายแล้ว เราก็หวังว่าคุณจะสามารถก้าวผ่านความยากลำบากในช่วงนี้ไปได้ อย่าลืมนะคะ ความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดคือการรักตัวเองค่ะ วันนี้เราอาจจะยังเสียใจและเฝ้าถามว่าทำไมเราต้องเจอกับความเสียใจแบบนี้ด้วย แต่วันหนึ่งที่คุณหายดีคุณจะเป็นคนใหม่ที่รักและเห็นคุณค่าในตัวเองค่ะ ขอเอาใจช่วยนักมูฟออนมือใหม่ให้สามารถก้าวต่อไปได้อย่างเข้มแข็งนะคะ ขอให้ทุกคนเติบโตเป็นอย่างดี สวัสดีค่ะ
อ้างอิง