การแต่งหน้าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ต้องใช้ความพยายามสูง แต่หากต้องการให้การแต่งหน้าประสบความสำเร็จ คุณจะต้องบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นซะก่อน ซึ่งในปัจจุบันก็มีอยู่มากมาย อาทิเช่น มาส์กโคลน, โทนเนอร์ หรือเซรั่มวิตามินซี เป็นต้น เพื่อทำให้ใบหน้าเรียบเนียน และเหมาะสำหรับการลงรองพื้นเป็นขั้นตอนถัดไปค่ะ แต่หากการดูแลผิวต้องใช้เวลาที่นานเกินไปเราก็มีตัวช่วยพิเศษ นั่นก็คือ การใช้ “ไพรเมอร์” นั่นเองค่ะ
ซึ่ง ไพรเมอร์ ถือเป็นเครื่องสำอางที่สำคัญเป็นอย่างมากในการแต่งหน้า เพราะมันสามารถปรับผิวให้เรียบเนียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปกติแล้วผิวหน้าของเรานั้นยากที่จะสม่ำเสมอกัน ถึงแม้ว่าเราจะดูแลผิวเป็นอย่างดี เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายของเรา มักจะไม่คงที่ค่ะ ทำให้เกิดปัญหาสิวตามมา ซึ่งแน่นอนค่ะว่า หากไม่ผ่านการรักษาสิวที่ดี ใบหน้าก็จะมีรูขุมขนกว้าง มีรอยสิว และเห็นความไม่สม่ำเสมอค่ะ แต่หากเรามีเครื่องสำอางอย่าง ไพรเมอร์ มันก็จะสามารถช่วยเราได้อย่างแน่นอน ไพรเมอร์จะปรับผิวของเราให้เรียบเนียน ทำให้การแต่งหน้าของเราง่ายดายและดูไร้ที่ติ นอกจากนี้ไพรเมอร์ยังช่วยเครื่องสำอางติดทนนานอีกด้วย
หากคุณไม่ทาไพรเมอร์ก่อน เมคอัพต่าง ๆ ที่คุณทาจะค่อย ๆ ละลายและจางลงได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อเครื่องสำอางต่าง ๆ หลุดลอกออก มันก็จะทำให้ใบหน้าเกิดความมันเยิ้ม ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยากมาก ๆ ค่ะ แต่ในการเลือกซื้อ คุณต้องซื้อ ไพรเมอร์ ที่มีคุณภาพสูง เพราะถ้าไพรเมอร์ไม่มีคุณภาพ แน่นอนค่ะว่า มันจะไม่สามารถช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานได้ และที่สำคัญมันอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวอีกด้วย หากวันนี้คุณกำลังมองหาไพรเมอร์ดี ๆ อยู่เราก็มีสินค้ามาแนะนำกันเช่นเคยค่ะ
ไพรเมอร์ ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ?
- ไพรเมอร์สูตรพิเศษช่วยปรับโทนสีผิวและให้การปกป้องแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพ : Innisfree Mineral make up base SPF 30 PA++ (สีพีช)
- ไพรเมอร์เนื้อแมตต์ ควบคุมความมันได้ยาวนาน 16 ชม.: Maybelline Fit Me Primer SPF20
- อำพรางรูขุมขนได้เป็นอย่างดี มีประกายไข่มุกช่วยให้ผิวดูโกลว์เป็นธรรมชาติ : The Face Shop Tone Up Primer
- ไพรเมอร์ชั้นนำจากแบรนด์เกาหลี ปกปิดรูขุมขนให้ได้อย่างเรียบเนียน : ETUDE Face Blur Smoothing ไพรเมอร์
- ไพรเมอร์อเนกประสงค์ในตำนาน เนื้อบางเบา เกลี่ยง่ายและไม่เป็นคราบ: Benefit The POREfessional
- บางเบาซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว มาพร้อม SPF 50 ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดที่เป็นอันตราย : Bobbi Brown ไพรเมอร์ Primer Plus Protection SPF 50
- มีส่วนผสมของไข่มุกสูตรพิเศษ ช่วยให้ผิวเปล่งประกายทุกครั้งที่ใช้ : Laura Mercier Pure Canvas Primer ไพรเมอร์
ไพรเมอร์มีความสำคัญอย่างไร ทำไมต้องใช้?
ไพรเมอร์ เปรียบเสมือนโฟโต้ชอปในโลกของการแต่งหน้าค่ะ หากคุณใช้ไพรเมอร์ มันจะช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียนและช่วยให้เมคอัพของคุณติดทนนานขึ้น โดยไพรเมอร์นั้นถูกออกแบบมาให้เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่อย่างไรก็ตาม มันเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวมันหรือผิวแห้งมากที่สุด เพราะคุณสมบัติของไพรเมอร์คือ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยลดความมันไปในตัวค่ะ อีกทั้งไพรเมอร์ส่วนใหญ่มักจะใช้ส่วนผสมพิเศษ เพื่อช่วยให้ใบหน้าของคุณปราศจากรูขุมขน ช่วยเบลอรูขุมขนกว้าง ปรับผิวให้เรียบเนียน และแก้ไขสีผิวให้สม่ำเสมอค่ะ นอกจากนี้ไพรเมอร์ยังช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย และรอยดำจากแสงแดดได้ดีมากอีกด้วย ต่อไปนี้เป็นประโยชน์หลัก ๆ ของการใช้ไพรเมอร์ค่ะ
- ไพรเมอร์ที่มีเนื้อแมตต์ สามารถช่วยลดความมันของผิวได้ โดยการดูดซับความมันส่วนเกินที่ออกมาจากผิว
- ไพรเมอร์ จะช่วยปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น
- ไพรเมอร์ จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น เหมาะสำหรับวันที่ต้องทำกิจกรรมเป็นเวลานาน
- ไพรเมอร์ สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของคุณได้
- ไพรเมอร์ สามารถช่วยเบลอผิว และลดการปรากฏตัวของรูขุมขนได้
Innisfree Mineral make up base SPF 30 PA++ (สีพีช)
ไพรเมอร์สูตรพิเศษช่วยปรับโทนสีผิวและให้การปกป้องแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพ
ราคา 337 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 40 มล.
ค่า SPF : SPF 30 PA++
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ผิวมัน
แก้ไขสีผิวได้ : ✔
Maybelline Fit Me Primer SPF20
ไพรเมอร์เนื้อแมตต์ ควบคุมความมันได้ยาวนาน 16 ชม.
ราคา 199 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 30 มล.
ค่า SPF : SPF 20
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ผิวมัน
แก้ไขสีผิวได้ : ✘
The Face Shop Tone Up Primer
อำพรางรูขุมขนได้เป็นอย่างดี มีประกายไข่มุกช่วยให้ผิวดูโกลว์เป็นธรรมชาติ
ราคา 599 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 30 มล.
ค่า SPF : SPF 20 PA++
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ผิวมัน
แก้ไขสีผิวได้ : ✔
ETUDE Face Blur Smoothing ไพรเมอร์
ไพรเมอร์ชั้นนำจากแบรนด์เกาหลี ปกปิดรูขุมขนให้ได้อย่างเรียบเนียน
ราคา 650 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 35 มล.
ค่า SPF : SPF 33 PA++
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ผิวแพ้ง่ายและผิวบอบบาง
แก้ไขสีผิวได้ : ✘
Benefit The POREfessional
ไพรเมอร์อเนกประสงค์ในตำนาน เนื้อบางเบา เกลี่ยง่ายและไม่เป็นคราบ
ราคา 1,450 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 35 มล.
ค่า SPF : –
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ผิวมัน
แก้ไขสีผิวได้ : ✘
Bobbi Brown ไพรเมอร์ Primer Plus Protection SPF 50
บางเบาซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว มาพร้อม SPF 50 ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดที่เป็นอันตราย
ราคา 1,600 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 40 มล.
ค่า SPF : SPF 50
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ผิวบอบบาง
แก้ไขสีผิวได้ : ✘
Laura Mercier Pure Canvas Primer ไพรเมอร์
มีส่วนผสมของไข่มุกสูตรพิเศษ ช่วยให้ผิวเปล่งประกายทุกครั้งที่ใช้
ราคา 800 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 25 มล.
ค่า SPF : SPF 30 PA +++
เหมาะสำหรับสภาพผิว : ทุกสภาพผิว
แก้ไขสีผิวได้ : ✔
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการเลือกซื้อไพรเมอร์
1. สภาพผิว
- ผิวมัน : หากคุณมีผิวมันให้เลือกไพรเมอร์ที่ปราศจากน้ำมัน เพราะหากไพรเมอร์มีน้ำมัน มันจะยิ่งทำให้ผิวของคุณมีความมันมากขึ้น ดังนั้นคุณควรเลือกไพรเมอร์ที่มีน้ำมันน้อยหรือไม่มีน้ำมันเลย โดยเราขอแนะนำให้เลือกไพรเมอร์ที่มีการกำกับว่าปราศจากน้ำมันปิโตรเลียม ลาโนลิน ปาล์ม หรือน้ำมันมะพร้าว เพราะน้ำมันเหล่านี้จะอุดตันรูขุมขน ปกติแล้วไพรเมอร์ที่ปราศจากน้ำมัน มักจะใช้น้ำหรือซิลิโคนเป็นส่วนผสมแทน แต่ส่วนผสมเหล่านี้จะไม่ทำให้ผิวของคุณเกิดความมันเพิ่มขึ้นค่ะ ดังนั้นหากคุณมีผิวมัน แนะนำให้เลือกซื้อไพรเมอร์ที่ปราศจากน้ำมันค่ะ
- ผิวแห้งและรูขุมขนกว้าง : หากคุณมีผิวแห้ง ขอแนะนำให้เลือกไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมของซิลิโคน ไพรเมอร์ชนิดนี้สามารถลดการปรากฏตัวของรูขุมขนและริ้วรอยได้ นอกจากนี้ยังช่วยเบลอผิวและช่วยให้ผิวสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น ไพรเมอร์ซิลิโคนเหมาะอย่างยิ่ง สำหรับการเติมเต็มริ้วรอยและช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันไปในตัว หากคุณเลือกไพรเมอร์ชนิดนี้ ผิวของคุณจะไม่แห้งและลดรูขุมขนได้อย่างแน่นอนค่ะ
- ผิวที่เป็นสิวได้ง่าย : เราขอแนะนำให้เลือกไพรเมอร์เนื้อบางเบาค่ะ โดยจะต้องมีป้ายกำกับว่า Non-comedogenic ซึ่งจะมีน้ำมันน้อยและไม่อุดตันรูขุมขน ส่งผลให้มันไม่ก่อให้เกิดสิว และไม่ไปอุดตันรูขุมขนค่ะ แต่โปรดจำไว้เสมอว่ามาตรฐานการผลิตไพรเมอร์อาจแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ ซึ่งทำให้ยากต่อการพิจารณาว่าไพรเมอร์ที่เลือกไม่ก่อให้เกิดสิวได้จริง ๆ หรือไม่ ? แต่ทางที่ดีให้พยายามหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่มี ไอโซโพรพิลไมริสเตท, ไอโซโพรพิลพาลมิเทต, บิวทิลสเตียเรต รวมทั้ง ขี้ผึ้ง และโกโก้บัตเตอร์ ค่ะ
2. ค่า SPF
เราขอแนะนำให้ใช้ไพรเมอร์ที่มีค่า SPF เสมอ เพราะค่า SPF เป็นปัจจัยในการป้องกันแสงแดด ยิ่งมีค่า SPF สูง ก็จะยิ่งทำให้คุณได้รับการปกป้องจากแสงแดดมากขึ้น เราขอแนะนำให้เลือกไพรเมอร์ที่มีค่า SPF30 เป็นอย่างต่ำค่ะ เพราะสามารถกรองรังสียูวีได้ 96.7% ในขณะที่ไพรเมอร์ที่มีค่า SPF50 สามารถป้องกันแสงแดดได้ถึง 98% นอกจากนี้ควรดูว่าไพรเมอร์ที่คุณได้เลือกมีค่า PA หรือไม่ ? เพราะหากมีค่า PA ด้วยก็หมายความว่านอกจากไพรเมอร์จะช่วยป้องกันรังสี UVB ได้แล้ว มันยังช่วยปกป้องรังสี UVA ได้ด้วย แต่อย่าลืมตรวจสอบส่วนผสม อย่างไททาเนียมไดออกไซด์ด้วยนะคะ ซึ่งสารชนิดนี้มีหน้าที่ในการปิดกั้นรังสียูวี ตลอดจนเพิ่มความกระจ่างใสของผิว และปกปิดรอยตำหนิ และส่วนผสมที่เป็นประโยชน์อีกอย่างหนึ่งคือ ซิงค์ออกไซด์ โดยมันจะช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน จัดการกับปัญหาสิวและป้องกันรังสี UVA /UVB ค่ะ
3. เลือกไพรเมอร์ที่มีสี
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสีผิวที่สม่ำเสมอ ทุกคนต้องมีปัญหาสิว และรอยดำอยู่บ้าง สิวและรอยดำนี้จะส่งผลให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นควรเลือกไพรเมอร์ที่มีสีเพื่อแก้ไขปัญหานี้ เทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับวงล้อสีหากเราใช้สีตรงข้ามกันในวงล้อสีจะทำให้สีเป็นกลางมากขึ้น ตัวอย่างเช่น สีเขียวเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสีแดง ดังนั้นไพรเมอร์สีเขียว จึงเหมาะสำหรับการจัดการกับรอยแดงจากสิว แต่หากคุณมีปัญหาผิว เช่น รอยคล้ำใต้ตา หรือผิวหมองคล้ำ ไพรเมอร์สีม่วงจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ ในทางกลับกัน หากคุณมีเส้นเลือดที่ชัดหรือมีรอยฟกช้ำไพรเมอร์สีเหลืองก็จะดีที่สุดสำหรับการแก้ไขปัญหานี้ค่ะ