โทนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี – มอบรูขุมขนที่กระชับ ขจัดสิ่งสกปรก ปรับให้หน้าใส ไร้สิว

โทนเนอร์ ที่ดีที่สุด
โทนเนอร์ ที่ดีที่สุด

ผิวหน้าของเราเป็นส่วนที่สำคัญและต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษค่ะ เพราะถ้าหากเราละเลยเพียงนิดเดียว ผิวของเราจะเสียหาย โดยอาจจะแห้งหรือเกิดปัญหาสิวให้ปวดหัวได้ค่ะ ซึ่งนอกจาก การล้างหน้า ด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โฟมล้างหน้า หรือเครื่องล้างหน้า แล้ว คุณก็จำเป็นจะเป็นต้องให้ความชุ่มชื้นกับผิวด้วยค่ะ และทางเลือกที่ดีที่สุด ในการดูแลผิวได้ทันทีหลังจากการล้างหน้าก็คือ การใช้ “โทนเนอร์” ค่ะ ซึ่งมันเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ที่ปกติแล้วโทนเนอร์จะเป็นสูตรน้ำ สามารถใช้งานเป็นน้ำตบ หรือใช้ร่วมกับฟองน้ำแต่งหน้าหรือสำลีเพื่อเช็ดผิวได้ โดยโทนเนอร์สามารถช่วยลดขนาดรูขุมขน เพิ่มความชุ่มชื้น และจะช่วยทำความสะอาดผิวจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ด้วยค่ะ

นอกจากนี้ โทนเนอร์ ยังได้รับการออกแบบมาให้สามารถช่วยคืนความสมดุลค่า pH ของผิวได้ด้วย เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่าง ๆ หรือสบู่เหลวล้างมือ เพราะปกติแล้วการทำความสะอาดผิวทั่วไปจะทำลายความสมดุลของผิว ทำให้ผิวของเราเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์อื่น ๆ โทนเนอร์ จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องมีไว้ในกระเป๋าผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพราะมันสามารถช่วยดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปกติแล้วโทนเนอร์นั้นมีหลายแบรนด์มากค่ะ เนื่องจากในแต่ละแบรนด์ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิว หากเราเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะสมกับผิว ผิวของคุณจะมีความชุ่มชื้นและสดชื่นตลอดเวลาอย่างแน่นอนค่ะ หากวันนี้คุณกำลังมองหาโทนเนอร์ดี ๆ อยู่เราก็มีสินค้ามาแนะนำกันค่ะ

โทนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ?

[summary item=”6316,6319,6321,6323,6325,6327,6329″]

โทนเนอร์คืออะไร ทำไมต้องใช้ ?

หลายคนอาจจะสงสัยว่า โทนเนอร์ คืออะไรกันแน่ ? โดยสรุปแล้วโทนเนอร์ได้รับการออกแบบมา เพื่อลดของรูขุมขน เพิ่มความกระชับผิวชั่วคราว ขจัดน้ำมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกตามธรรมชาติออก ซึ่งโทนเนอร์สามารถช่วยลดขนาดรูขุมขนได้แบบชั่วคราว และทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้โทนเนอร์ยังช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรก น้ำมัน และคราบอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าการใช้โฟมล้างหน้าเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้มันก็ยังช่วยปกป้องผิวจากสิ่งแวดล้อมได้ดีมากด้วย การใช้โทนเนอร์ดูแลผิวหน้ามักจะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ใบหน้าดูสดใส และสดชื่นมากขึ้น ซึ่งเราทุก ๆ คนสามารถใช้โทนเนอร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีผิวมัน หรือผิวแห้ง คุณก็สามารถใช้ได้ค่ะ เพียงเลือกให้ถูกสูตรก็เพียงพอแล้วค่ะ เนื่องจาก โทนเนอร์ ไม่มีส่วนผสมที่ทำร้ายผิว ซึ่งส่วนประกอบส่วนใหญ่มักจะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแห้ง ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินที่อุดตันรูขุมขน ปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย ปกป้องและช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอด้วย และต่อไปนี้เป็นประโยชน์อีกหลาย ๆ ประการ ของการใช้โทนเนอร์ ค่ะ

  • ลดการเกิดรูขุมขน : เมื่อรูขุมขนดูเล็กลงผิวของคุณจะดูเรียบเนียนและเงางามมากขึ้น โทนเนอร์บำรุงผิวหน้าจะช่วยสร้างผิวของคุณให้เปล่งประกายมากขึ้น แม้ว่าออกจากบ้านแบบหน้าสดก็ไม่มีหวั่นค่ะ
  • ช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยต่าง ๆ : โทนเนอร์บำรุงผิวหน้าได้รับการคิดค้นขึ้น เพื่อช่วยให้ผิวของคุณสะอาด และช่วยปลอบประโลมผิวจากมลภาวะภายนอกได้ดีมากด้วย
  • ช่วยกระชับผิวชั่วคราว : โทนเนอร์บำรุงผิวหน้าเป็นตัวฟื้นฟูผิวที่น่าอัศจรรย์ และช่วยให้ผิวดูกระชับ ดูเต่งตึงขึ้น หากคุณใช้เป็นประจำวันละสองครั้งแล้วคุณจะรู้สึกถึงความแตกต่างทันทีค่ะ
  • ให้ความสดชื่น : การฉีดพ่นโทนเนอร์เป็นวิธีเติมความสดชื่นที่ดีที่สุดของผิว หากคุณทำเป็นประจำในกิจวัตรประจำวันของคุณ ผิวของคุณจะชุ่มชื้นและมีความสดชื่นตลอดเวลา
  • ช่วยปลอบประโลมผิว : การใช้โทนเนอร์บำรุงผิวหน้า ถือเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการช่วยปลอมประโลมผิว ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อน หรือความรู้สึกไม่สบายผิวได้ชั่วคราว
  • ช่วยขจัดความมันและเมคอัพ : การใช้โทนเนอร์ในการดูแลผิวทุกวัน สามารถช่วยให้ผิวของคุณสะอาดอย่างเป็นธรรมชาติและขจัดสิ่งสกปรกอื่น ๆ ได้ดีมากเลยทีเดียวค่ะ
  • ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น : โทนเนอร์สำหรับผิวหน้าสามารถให้ความชุ่มชื่นตามธรรมชาติและช่วยเพิ่มการดูดซึมมอยส์เจอไรเซอร์ที่คุณใช้อยู่เป็นประจำ ดังนั้นผิวของคุณจะชุ่มชื้นและไม่แห้งอย่างแน่นอน

[product_table item=”6316,6319,6321,6323,6325,6327,6329″ info=”1″]

เคล็ดลับในการเลือกซื้อโทนเนอร์

1. สภาพผิวและส่วนผสม

  • ผิวแห้ง : หากคุณมีผิวหนังที่แห้ง คุณควรจะเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก กลีเซอรีน และน้ำดอกกุหลาบ ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และบำรุงผิวที่แห้งกร้าน ปกติแล้วกลีเซอรีน และกรดไฮยาลูโรนิกพบได้ตามธรรมชาติบนผิวหนัง งานหลักของของมันคือ ให้ความชุ่มชื้นผิว และล็อกความชุ่มชื้นของผิว นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากปัจจัยแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น ฝุ่นควัน และแสงแดด ส่วนน้ำดอกกุหลาบก็มีประโยชน์มากมายรวมไปถึงการป้องกันริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น ปรับสมดุลความมันในผิวของคุณให้ดูเปล่งปลั่ง สดใสและอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ส่วนผสมอื่น ๆ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการให้ความชุ่มชื้น ได้แก่ สารสกัดจากเมล็ดมะรุม คอลลาเจนจากพืช น้ำมันเมล็ดบีจา สารสกัดจากเปลือกต้นวิลโลว์ และสารสกัดจากมะละกอ
  • ผิวมัน : หากคุณมีผิวมันให้เลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก ซึ่งเป็นส่วนผสมที่คุณมักจะสามารถพบได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว อย่างกระดาษซับหน้ามัน เนื่องจากสามารถจัดการกับปัญหาสิวและความมันได้ กรดซาลิไซลิกจะช่วยกำจัดแบคทีเรียเพื่อทำความสะอาดรูขุมขน นอกจากนี้ยังสามารถเจาะลึกเข้าไปในชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่สามารถช่วยทำความสะอาดและจัดการกับรูขุมขนได้ ได้แก่ น้ำมันทีทรี และสารสกัดจากวิชฮาเซลค่ะ
  • ผิวที่เป็นสิวง่าย : หากคุณมีผิวที่เป็นสิวได้ง่ายให้เลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ AHA และ BHA AHA และ BHA เป็นส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวซึ่งจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนผิวของคุณ ส่วนผสมทั้งสองมีความแตกต่างกันเล็กน้อยกับ AHA เป็นสารที่ละลายน้ำได้จึงช่วยผลัดเซลล์ผิวของคุณ ในขณะเดียวกัน BHA เป็นน้ำมันที่ละลายน้ำได้มันจะเจาะลึกเข้าไปภายในรูขุมขนผิวของคุณและให้การทำความสะอาดจากภายใน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่อ่อนโยนเพียงพอสำหรับผิวบอบบางและระคายเคืองด้วยค่ะ

2. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์ เป็นส่วนประกอบที่ค่อนข้างพบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ในบางครั้งแอลกอฮอล์อาจถูกเรียกว่า เมทานอล (Methanol), ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (Isopropyl Alcohol) หรือเอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol) ซึ่งส่วนใหญ่โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะทำให้ผิวของเรารู้สึกสะอาดและปราศจากน้ำมัน แต่แอลกอฮอล์ก็อาจจะทำให้ผิวของเรารู้สึกแห้งได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางและผิวแห้ง แม้ว่าแอลกอฮอล์อาจทำความสะอาดผิวของคุณจากสิ่งสกปรกได้จริง แต่ก็สามารถเอาน้ำมันธรรมชาติของผิวออกไปด้วย ซึ่งนี่จะเป็นอันตรายต่อผิวในระยะยาว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ลองใช้โทนเนอร์สูตรพิเศษที่ปราศจากแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันอาการคันและรักษาระดับความชื้นและ pH ของผิวให้สมดุลค่ะ

3. หลีกเลี่ยงสารระคายเคืองผิว

หากคุณต้องการดูแลผิวให้ปลอดภัย คุณจำเป็นต้องอยู่ให้ห่างจากสารเคมีที่รุนแรง นอกจากแอลกอฮอล์แล้วสิ่งที่คุณต้องหลีกเลี่ยงคือ สี น้ำหอม และพาราเบน แต่ถ้าหากคุณใช้สารเหล่านี้ในปริมาณที่น้อยหรือมีความเข้มข้นต่ำ มันก็จะไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน ปกติแล้วพาราเบนเป็นสารกันบูดที่ช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์ความงาม แต่เพื่อความปลอดภัยควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่ไม่มีกลิ่นหรือมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติแทนแล้วเลือกใช้โทนเนอร์ที่ปราศจากพาราเบน แต่สุดท้ายแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความชอบและสภาพผิวของเราค่ะ