ในปัจจุบันเทรนด์ การทำสีผม ได้รับความนิยมไปทั่วโลกค่ะ โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชีย ซึ่งปกติแล้วผมโทนสีอ่อนนั้นเป็นโทนสีผมที่ได้รับความนิยมมาก เพราะผมโทนนี้ให้ความรู้สึกที่สวยงาม สดใส เพิ่มความมั่นใจ และช่วยขับผิวให้สว่างขึ้น แต่ในการทำผมสีบลอนด์ เราจำเป็นต้องฟอกสีผมให้สว่างขึ้น เพื่อให้สีผมที่เราทำตรงตามชาร์จค่ะ ถึงแม้ว่าผมสีอ่อนมันจะมีความสวยงาม แต่สีผมเฉดนี้มันไม่ยั่งยืนเลยค่ะ เพราะคุณจะเริ่มเห็นสีผมค่อย ๆ จางหายไปในไม่กี่เดือนหลังจากที่คุณได้ทำสีผม สีผมที่เฟดออกจะเริ่มดูเป็นทองเหลืองและเป็นสีทูโทนที่คุณคงไม่พึงปรารถนา ถึงแม้ว่าการไปร้านเสริมสวยจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้แต่ราคาที่ต้องจ่ายอาจจะแพงเกินไป แต่โชคดีสำหรับคุณค่ะเพราะมีผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมอย่าง “แชมพูสีม่วง” ที่สามารถแก้ไขปัญหาสีผมเฟดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แชมพูสีม่วงเป็นแชมพูที่จะช่วยรักษาสีผมของคุณให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น นอกจากนี้สีในรูปแบบของแชมพูสีม่วงนั้นใช้งานง่ายและคืนสีผมของคุณอย่างมีประสิทธิภาพทุกครั้งที่คุณสระผม ดังนั้นเพื่อช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเป็นประโยชน์มากที่สุดสำหรับสีผมของคุณ เราก็ได้คัดเลือกแชมพูสีม่วงที่ดีที่สุดมารีวิวเป็นตัวเลือกไว้ให้คุณแล้วค่ะ ไปดูกันว่าแชมพูสีม่วงจากแบรนด์ไหนจะตอบโจทย์คุณบ้าง ?
แชมพูสีม่วง ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณที่สุด ?
- มีแมกนีเซียมเข้มข้น ช่วยปรับเส้นใยภายในเส้นผมเพื่อให้ผมนุ่มสลวย: L'Oreal Paris Serie Expert Silver แชมพูลอรีอัล
- ใช้กรดไฮยารูโลนิกคุณภาพสูง สามารถล็อกเม็ดสีเหลืองที่เส้นผมได้อย่างอยู่หมัด : Kérastase Blond Absolu Purple Shampoo แชมพูสำหรับผมทำสี
- ป้องกันการซีดจางของเส้นผมได้อย่างมีคุณภาพ เหมาะสำหรับเส้นผมที่ผ่านการกัดสีมาโดยเฉพาะ: L'Oreal Paris Ever Pure Brass Toning Purple Shampoo แชมพูสีม่วง
- ป้องกันการซีดจางของเส้นผม คงความเงางามและความแข็งแรงให้กับเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ: Tresemme Shampoo Bleached Hair แชมพูสูตรสีม่วง
- ใช้เทคโนโลยี Multi Spectrum Defense Complex ช่วยคงความสดใสของสีผมไว้อย่างยาวนาน: JOICO Color Balance Purple Silver Shampoo
- ฟื้นสภาพธรรมชาติของเส้นผมของคุณหลังจากการฟอกสี ใช้งานง่าย ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย: Lolane Pixxel Color Refresh Shampoo แชมพูสีม่วง
แชมพูสีม่วงคืออะไร ทำไมต้องใช้ ?
หากให้ทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ แชมพูสีม่วง ก็คือ แชมพูสระผมที่มีเนื้อสัมผัสเป็นสีม่วงค่ะ แชมพูชนิดนี้จะตอบโจทย์ได้ดีมาก หากคุณมีผมบลอนด์ตามธรรมชาติ มีผมเป็นสีเงิน สีเทา หรือผมทำสี เพราะผมที่ทำสีจำเป็นต้องใช้แชมพูที่เหมาะสมในการดูแลเส้นผม ปกติแล้วผมที่ผ่านการทำสี อาจได้รับความเสียหาย หรือมีแนวโน้มที่จะเป็นเฟดออกได้ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว มีปัจจัยหลายประกายมากที่ทำให้สีผมของเราซีดจางและเปลี่ยนไปเป็นสีเหลือง อาิทเช่น การได้รับรังสียูวี, คลอรีน หรือแร่ธาตุที่เจือปนในน้ำ หากคุณมีปัญหาเฉดผมเฟดออกและเริ่มเป็นสีเหลือง การใช้แชมพูสีม่วงจะช่วยปกป้องเส้นผมของคุณจากความเสียหายดังกล่าวได้ เพราะแชมพูสีม่วงจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน ช่วยลดความมันและลดปัญหาผมสีเหลืองที่ไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดีค่ะ
กระบวนการการทำงานของแชมพูสีม่วงนั้นง่ายมาก ๆ ตัวแชมพูจะช่วยแก้ไขโทนสีเหลืองในเส้นผม จากความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงล้อสีคุณจะเห็นว่าสีม่วงและสีเหลืองเป็นสีที่เสริมกันได้เป็นอย่างดี หมายความว่าสีทั้งสองสีนี้ จะตัดกันและกลบซึ่งกันและกัน (1) ในกระบวนการทำงานของแชมพูสีม่วงนั้น คล้ายกับกระบวนการแต่งหน้ามาก ๆ ค่ะ เพราะใช้เม็ดสีที่แตกต่างกันสำหรับอันเดอร์โทนของผิวที่แตกต่างกัน อาทิเช่น เรามักจะใช้สีเขียวเพื่อปกปิดจุดสิวสีแดง และใช้สีส้มเพื่อปกปิดรอยคล้ำ ในส่วนกับเส้นผมเราจะใช้แชมพูสีม่วงเพื่อปรับโทนผมสีเหลือง และใช้แชมพูสีน้ำเงินสำหรับปรับโทนผมสีส้มค่ะ แต่แน่นอนว่า ในปัจจุบันนี้คุณสามารถใช้ได้ง่ายขึ้น เพราะแชมพูสีม่วงส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมของเม็ดสีน้ำเงินอยู่ด้วย เพื่อใช้จัดการกับปัญหาเส้นผมทั้ง ผมโทนเหลือง และโทนสีส้ม ทำให้การใช้งานแชมพูสีม่วงนี้ได้ผลดีที่สุดกับ ผมฟอกขาว, ผมทำไฮไลท์ และผมสีบลอนด์ตามธรรมชาติ เพราะมันจะช่วยให้โทนสีผมสวยงามขึ้น แต่หากคุณมีผมสีดำหรือสีน้ำตาลไม่ควรที่จะใช้ค่ะ เพราะแชมพูสีม่วงนี้จะไม่ได้ช่วยอะไรคุณเลย
L'Oreal Paris Serie Expert Silver แชมพูลอรีอัล
มีแมกนีเซียมเข้มข้น ช่วยปรับเส้นใยภายในเส้นผมเพื่อให้ผมนุ่มสลวย
ราคา 699 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 500 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : แมกนีเซียมอะซิเตท, เฮกซิลซินนามัล, กรดแอสปาร์ติกและไกลซีน
เหมาะสำหรับ : ผมสีเทา ผมขาวและผมบลอนด์
Kérastase Blond Absolu Purple Shampoo แชมพูสำหรับผมทำสี
ใช้กรดไฮยารูโลนิกคุณภาพสูง สามารถล็อกเม็ดสีเหลืองที่เส้นผมได้อย่างอยู่หมัด
ราคา 1,020 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 250 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : กรดไฮยาลูโรนิกและดอกเอเดลไวส์
เหมาะสำหรับ : ผมขาวและผมบลอนด์
L'Oreal Paris Ever Pure Brass Toning Purple Shampoo แชมพูสีม่วง
ป้องกันการซีดจางของเส้นผมได้อย่างมีคุณภาพ เหมาะสำหรับเส้นผมที่ผ่านการกัดสีมาโดยเฉพาะ
ราคา 249 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 200 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : กรดซาลิไซลิกและดอกชบา
เหมาะสำหรับ : ผมขาวและผมบลอนด์
Tresemme Shampoo Bleached Hair แชมพูสูตรสีม่วง
ป้องกันการซีดจางของเส้นผม คงความเงางามและความแข็งแรงให้กับเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ราคา 279 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 250 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : น้ำมันโจโจ้บา, กลีเซอรีนและน้ำมันเมล็ดทานตะวัน
เหมาะสำหรับ : ผมบลอนด์
JOICO Color Balance Purple Silver Shampoo
ใช้เทคโนโลยี Multi Spectrum Defense Complex ช่วยคงความสดใสของสีผมไว้อย่างยาวนาน
ราคา 450 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 250 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : น้ำมันโจโจ้บา, กลีเซอรีนและน้ำมันเมล็ดทานตะวัน
เหมาะสำหรับ : ผมบลอนด์
Lolane Pixxel Color Refresh Shampoo แชมพูสีม่วง
ฟื้นสภาพธรรมชาติของเส้นผมของคุณหลังจากการฟอกสี ใช้งานง่าย ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย
ราคา 224 บาท*
ข้อมูลสินค้า
ปริมาณ : 250 มล.
ส่วนผสมที่สำคัญ : โปรวิตามินบี 5 และน้ำมันโอเมก้า
เหมาะสำหรับ : ผมบลอนด์และผมที่ผ่านการฟอกสี
เคล็ดลับในการเลือกซื้อแชมพูสีม่วง
1. ความเข้มข้นของแชมพู
การทำงานของแชมพูสีม่วงขึ้นอยู่กับทฤษฎีสีง่าย ๆ ในวงล้อสีทั่วไป ตาม วงล้อสี เฉดสีม่วงจะอยู่ที่ปลายด้านตรงข้ามของสีเหลือง และเมื่อสีที่ตัดกันมารวมกันก็จะทำให้เกิดความเป็นกลางซึ่งกันและกัน (1) ดังนั้นยิ่งแชมพูมีเม็ดสีม่วงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถขจัดผมสีเหลืองได้มากขึ้นเท่านั้น ปกติแล้วแชมพูสีม่วงนั้นแตกต่างกันไปตามเฉดสี แชมพูเฉดสีม่วงบางเฉดอาจจะดูสว่างขึ้นและโปร่งแสงกว่า ในขณะที่บางสีดูมืดและทึบแสง อย่างไรก็ตามในการเลือกซื้อคุณควรซื้อแชมพูสูตรที่มีเม็ดสีม่วงเข้มข้นค่ะ เพราะเฉดสีม่วงเข้มเหล่านี้สามารถให้เม็ดสีที่เข้มขึ้นและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ซึ่งแชมพูแบบนี้จะช่วยขจัดโทนสีเหลืองทองได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ในครั้งเดียว
2. ส่วนผสมบำรุงผม
เพื่อรักษาเฉดสีผมคุณจะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีที่สุดที่จะเลือกใช้แชมพูสีม่วงที่ช่วยรักษาสีผมของคุณและมีส่วนผสมที่ดีสำหรับเส้นผมของคุณในเวลาเดียวกัน ถ้าผมของคุณแห้งคุณจะได้ประโยชน์จากแชมพูสีม่วงที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันโจโจบา ส่วนผสมเหล่านี้ สามารถคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม และคงความชุ่มชื้นให้เส้นผมได้ดี ซึ่งผมที่มีสุขภาพดี มีความชุ่มชื้น มันจะไม่ชี้ฟูและเงางามมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีแชมพูสีม่วงที่มาพร้อมกับส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง และต่อสู้กับการหลุดร่วงของเส้นผมอีกด้วย ดังนั้นในการเลือกซื้อแชมพู เราขอแนะนำให้ซื้อแชมพูที่ตอบโจทย์กับ สภาพผมของคุณให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ของการดูแลผมในระยะยาวค่ะ
3. แชมพูที่เลือกต้องปราศจากซัลเฟต
ซัลเฟต เป็นส่วนประกอบทั่วไปที่รวมอยู่ในแชมพู และครีมนวดผมส่วนใหญ่ ซึ่งในการศึกษาบางชิ้นได้แสดงให้เห็นว่า ส่วนประกอบเหล่านี้สามารถทำลายสุขภาพเซลล์เส้นผมของคุณได้ โดยรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดของซัลเฟต นั่นคือ SLS ซึ่งย่อมาจาก Sodium Lauryl Sulfate สารชนิดนี้เป็นสารเคมีที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรก ความมัน และไขมัน ออกจากเส้นผมของคุณอย่างดีเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตามแชมพูและครีมนวดแบบดั้งเดิม อาจมีจำนวนซัลเฟตถึง 15% และอาจเป็นอันตรายได้ เนื่องจากส่วนประกอบดังกล่าว อาจเข้าไปสะสมและนำไปสู่ความเสียหายต่ออวัยวะต่าง ๆ ได้ เช่น หัวใจ, ตับ, ปอด และสมอง ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังระบุอีกด้วยว่า ซัลเฟต สามารถเป็นสารก่อมะเร็งได้ด้วย แต่อย่างนั้น มันก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นรูปธรรมที่สามารถเชื่อมโยงสารเคมีกับความเสี่ยงของมะเร็งได้ (2) แต่นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ส่วนใหญ่ มักแนะนำให้เลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมที่ไม่มีสารเคมีตัวนี้ เพื่อความปลอดภัย ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ คุณจำเป็นต้องตรวจสอบว่า แชมพูที่คุณเลือกมีซัลเฟตมากแค่ไหน ?
4. ความทนทานของแชมพูสีม่วง
ก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องนี้ คุณจำเป็นต้องถามตัวเองก่อนว่า คุณเคยใช้แชมพูสีม่วงมาก่อนหรือไม่ ? หากเคยใช้มาแล้ว คุณก็คงจะรู้ดีว่า ตัวแชมพูสีม่วงนั้นสามารถล็อกสีผมได้นานที่สุดภายในกี่วัน ? สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ครั้งแรกควรใช้แชมพูปริมาณปานกลางแล้วชโลมผมในขณะที่ผมเปียก โดยประสิทธิภาพของแชมพูสีม่วงจะขึ้นอยู่กับเวลาที่คุณใช้ในการหมักผม ขึ้นอยู่กับว่าคุณสระผมบ่อยแค่ไหน ? และคุณมีวิถีชีวิตอย่างไร ? อีกด้วยค่ะ ถ้าหากคุณตากแดดเป็นประจำ หรือว่ายน้ำเป็นประจำทุกวัน ความถี่ในการสระผมด้วยแชมพูม่วงก็ต้องเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันกับที่คุณจำเป็นต้องทาครีมกันแดดบ่อยขึ้น หากคุณทำกิจกรรมเหล้านี้เป็นประจำ
อ้างอิง
(2) Shampoo and Conditioners: What a Dermatologist Should Know?