ตู้แช่ไวน์ ยี่ห้อไหนดี? – มีฟังก์ชันครบ รักษาสภาพไวน์ได้ดีเยี่ยม

ตู้แช่ไวน์ ที่ดีที่สุด
ตู้แช่ไวน์ ที่ดีที่สุด

หากคุณเป็นคนที่รักการดื่มไวน์เป็นชีวิตจิตใจ คุณจำเป็นต้องมี “ตู้แช่ไวน์” ไว้ในบ้านค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่าตู้แช่ไวน์ไม่จำเป็น เพราะตู้เย็นและตู้แช่เครื่องดื่มก็สามารถแช่ไวน์ได้ แต่ความจริงไม่ใช่เลยค่ะ ตู้เย็นและตู้แช่เครื่องดื่ม ไม่สามารถใช้เพื่อแช่ไวน์ได้ เพราะจะทำให้รสชาติของไวน์เปลี่ยนไป อีกทั้งอาจทำให้ไวน์ราคาแพงของคุณ ไม่สามารถดื่มได้อีกต่อไปด้วยเหตุนี้ตู้แช่ไวน์จึงมีความสำคัญมาก ๆ หากคุณเป็นคอไวน์อย่างแท้จริง ตู้แช่ไวน์เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อเก็บไวน์โดยเฉพาะ มันจะช่วยรักษาไวน์ไว้ในอุณหภูมิ และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โดยจะมีตัวควบคุมความชื้น และเทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิตอลที่จะช่วยควบคุมสภาพแวดล้อม เพื่อให้เราสามารถจัดเก็บไวน์ที่เหมาะสม นอกจากนี้ตู้แช่ไวน์บางเครื่องยังได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับบ้านสมัยใหม่ในปัจจุบัน

ปกติแล้ว ไวน์ นั้น ถือเป็นเครื่องดื่มที่มีความละเอียดอ่อนมาก ถ้าหากคุณเก็บไว้ในที่ที่ไม่เหมาะสม หรือเก็บไว้ในที่ที่อากาศเย็นเกินไป แห้งเกินไป หรือเก็บไว้ในตู้เย็นแช่อาหารธรรมดา ๆ เป็นเวลานาน ๆ กลิ่นจากอาหารที่อยู่ในตู้เย็นสามารถปนเปื้อนรสชาติของไวน์ได้ค่ะ แน่นอนค่ะว่า ไวน์ก็จะเสียรสชาติ ดังนั้นการจัดเก็บไวน์ในตู้แช่ไวน์โดยเฉพาะ จะช่วยให้ไวน์มีคุณภาพที่เหมาะสม และคงรักษารสชาติไวน์ไว้ได้ ข้อดีอีกประการของตู้แช่ไวน์ก็คือ คุณสามารถบรรจุไวน์ในตู้แช่ไวน์ได้มากกว่า ตู้เย็นในครัว แม้แต่ตู้แช่ไวน์ขนาดเล็กก็สามารถบรรจุขวดไวน์ได้มากถึง 30 ขวดเลยทีเดียว หากวันนี้คุณกำลังหาซื้อตู้แช่ไวน์อยู่เราก็มีสินค้าและคำแนะนำดี ๆ ในการเลือกสินค้ามาฝากกันค่ะ

ซื้อ ตู้แช่ไวน์ ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ

[summary item=”5502,5507,5510,5512,5514″]

ตู้แช่เครื่องดื่ม vs. ตู้แช่ไวน์ แตกต่างกันอย่างไร ควรแช่ไวน์ด้วยอุปกรณ์ไหนดี ?

ตู้แช่เครื่องดื่ม และตู้แช่ไวน์ นั้น มีความแตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ เพราะปกติแล้วเครื่องดื่มที่ผ่านการแช่ในตู้แช่เครื่องดื่ม จะมีความเย็น แต่ในการแช่ไวน์ไวน์ที่ดีจะต้องจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม อุณหภูมิที่ใช้ในการเก็บไวน์ จะต้องไม่เย็น หรืออุ่นมากจนเกินไป ต่อไปนี้เป็นความแตกต่างระหว่างตู้แช่เครื่องดื่มและตู้แช่ไวน์ที่คุณควรรู้ เพราะข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณรู้ว่าอุปกรณ์ไหนที่จะตอบโจทย์คุณมากที่สุดค่ะ

1. อุณหภูมิ

อุณหภูมิ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการจัดเก็บไวน์ สำหรับไวน์ส่วนใหญ่อุณหภูมิในการจัดเก็บที่เหมาะสมที่สุด คือ ระหว่าง 7 °C ถึง 18°C แต่ตู้แช่เครื่องดื่มหรือตู้เย็นมักจะรักษาอุณหภูมิเฉลี่ยไว้ที่ 4°C หรืออาจจะต่ำกว่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าอุณหภูมิเท่านี้ไม่เหมาะกับการแช่ไวน์เลย นอกจากนี้ความสม่ำเสมอของอุณหภูมิเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ ความผันผวนของตู้แช่เครื่องดื่มนั้น ไม่คงที่และมันจะเป็นปัญหาสำหรับการแช่ไวน์ที่มีจุกไม้ก๊อก อุณหภูมิที่ผันผวนอาจทำให้จุกไม้ก๊อกแห้งและแตกซึ่งอาจทำให้เกิดการรั่วซึมของขวดไวน์หรือทำให้ไวน์เน่าเสียได้

  • การสั่นสะเทือนของตัวเครื่อง : ตู้แช่เย็นจะต้องใช้มอเตอร์และคอมเพรสเซอร์ เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานอาจเกิดการสั่นสะเทือนและเสียงดังได้ ดังนั้นหากไวน์เกิดการสั่น2ะเทือนอย่างต่อเนื่องอาจจะทำให้เครื่องดื่มเกิดคลื่นและมีน้ำแข็งเกาะซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสมบูรณ์แบบของไวน์ขวดโปรด แต่การใช้ตู้แช่ไวน์จะรักษาอุณหภูมิของไวน์ได้คงที่ ไม่เกิดการสั่นสะเทือนถึงแม้ว่าตู้แช่ไวน์จะใช้พลังงานจากคอมเพรสเซอร์ แต่ก็มีระบบดูดซับแรงสั่นสะเทือนในตัวซึ่งช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและลดเสียงรบกวนได้
  • การปนเปื้อน : คนส่วนใหญ่ชอบดื่มไวน์ เพราะไวน์มีรสชาติเข้มข้น และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ แน่นอนค่ะว่า การแช่ไวน์ที่ไม่ถูกต้อง อาจจะทำให้ไวน์มีกลิ่นและรสชาติที่ผิดปกติ แต่หากคุณแช่ไวน์เอาไว้ในตู้แช่ไวน์ ระดับของความชื้นจะถูกรักษาไว้อย่างคงที่เพื่อให้จุกไม้ก๊อกมีความแน่นหนา และตู้แช่ไวน์ยังลดความชื้นได้ดีมาก ทำให้ช่วยรักษารสชาติตามธรรมชาติของไวน์ได้ดีมาก ๆ ค่ะ

หากคุณชอบดื่มไวน์เป็นประจำโปรดจำไว้เสมอว่าตู้เย็น และตู้แช่เย็นทั่ว ๆ ไป ไม่สามารถเก็บไวน์ได้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมและไม่สามารถรองรับไวน์ชนิดต่าง ๆ ที่ต้องการอุณหภูมิต่างกันได้ ดังนั้นหากคุณต้องการแช่ไวน์เราขอแนะนำให้ซื้อ ตู้แช่ไวน์ แยกเท่านั้นค่ะ เพราะปกติแล้วตู้แช่ไวน์ ทำขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้จุกขวดไวน์แห้ง รักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมของไวน์ อีกทั้งยังคงรักษารสชาติของไวน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ซึ่งในข้อนี้ตู้เย็นและตู้แช่เครื่องดื่มทำไม่ได้

[product_table item=”5502,5507,5510,5512,5514″]

เคล็ดลับในการเลือกซื้อตู้แช่ไวน์

ตู้แช่ไวน์ มีหลายประเภท มีหลายขนาด และหลายสไตล์มาก ๆ ค่ะ การเลือกตู้แช่ไวน์ที่เหมาะสม มันจะขึ้นอยู่กับปัจจัยบางอย่างที่เป็นลักษณะเฉพาะสำหรับคุณทั้ง ขนาดของไวน์, ประเภทของไวน์ที่คุณชื่นชอบ, และลักษณะทางกายภาพ อาทิเช่นข้อกำหนดด้านการออกแบบ และพื้นที่จัดวางที่คุณมี ต่อไปนี้จะเป็นเคล็ดลับที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกตู้แช่ไวน์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้ค่ะ

1. ประเภทของตู้แช่ไวน์

  • ตู้แช่ไวน์แบบตั้งโต๊ะ : เป็นตู้แช่ไวน์ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด และผู้ที่ชอบดื่มเป็นครั้งคราว ตู้แช่ไวน์แบบตั้งโต๊ะมีให้เลือกหลายขนาด สามารถเก็บไวน์ 6 – 24 ขวด ได้เป็นอย่างดี
  • ตู้แช่ไวน์แบบบิวท์อิน : ตู้แช่ไวน์แบบนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีมากแต่อาจมีราคาสูง แต่ขอบอกเลยว่าตู้แช่ไวน์แบบนี้มีข้อดีมากมายค่ะ ข้อดีอย่างหนึ่งของตู้แช่ไวน์แบบบิวท์อินคือ ไม่ต้องมีพื้นที่ในการระบายอากาศรอบ ๆ ตัวเครื่อง ซึ่งต่างจากตู้แช่ไวน์แบบตั้งโต๊ะ เพราะหากคุณซื้อตู้แช่ไวน์แบบตั้งโต๊ะคุณต้องมีพื้นที่เพียงพอเพื่อให้ความเย็นกระจายตัวได้อย่างเหมาะสมและไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่ข้อเสียของตู้แช่ไวน์แบบบิวท์อินคือย้ายสถานที่ตั้งได้ลำบากมาก
  • ตู้แช่ไวน์แบบตั้งพื้น : เป็นตู้แช่ไวน์แบบตั้งตรงอิสระและมีราคาปานกลาง มีหลายขนาด แต่คุณต้องพิจารณาถึงขนาดพื้นที่ที่คุณมีด้วย เพราะหากคุณไม่มีที่ว่างก็ติดตั้งไม่ได้ ประโยชน์ที่ดีที่สุดของตู้แช่ไวน์ประเภทนี้ ก็คือ คุณสามารถวางได้เกือบทุกที่ในบ้าน

2. โซนทำความเย็น

สำหรับตู้แช่ไวน์ที่มีความจุมากขึ้น คุณจะพบว่าหลายรุ่นมีโซนทำความเย็นแบบโซนเดี่ยว หรือสองโซน หากคุณเป็นคนชอบดื่มเฉพาะไวน์ขาว หรือชอบดื่มเฉพาะไวน์แดง คุณจะต้องซื้อตู้แช่ไวน์โซนเดี่ยวนั่นเป็นเพราะว่าคอลเล็กชันไวน์ส่วนใหญ่ของคุณสามารถเก็บไวน์ไว้ที่อุณหภูมิเท่ากันได้ อย่างไรก็ตามหากคุณชอบไวน์ทั้ง 2 ประเภทคุณอาจต้องอัปเกรดเป็นตู้แช่ไวน์แบบดูอัลโซน เพื่อจัดเก็บไวน์ที่ต้องการใช้อุณหภูมิที่แตกต่างกัน

  • คูลลิ่งโซนเดี่ยว : เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักสะสมไวน์มือใหม่ เพราะเครื่องทำความเย็นแบบโซนเดี่ยว จะเพียงพอสำหรับความต้องการของคุณค่ะ สามารถรักษาไวน์ที่อุณหภูมิเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตู้แช่ไวน์แบบนี้ มักจะมีราคาค่อนข้างประหยัด และหาซื้อได้ง่าย
  • คูลลิ่งโซนคู่ : เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่มีความเข้าใจในไวน์ที่จะต้องจัดเก็บไว้เป็นอย่างดี ตู้เก็บไวน์แบบนี้สามารถเก็บไวน์ไว้ในอุณหภูมิที่แตกต่างกันได้ หากคุณมีประสบการณ์ในการสะสมไวน์ คุณก็น่าจะมีทั้งไวน์แดงและไวน์ขาว ตู้แช่ไวน์แบบสองโซนมีประโยชน์มาก เพราะไวน์แดงจะไม่แช่เย็นที่อุณหภูมิเดียวกันกับไวน์ขาว หากคุณไม่ได้ตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมให้กับไวน์ ไวน์เหล่านั้นอาจเสียได้ง่าย ๆ แน่นอนว่าเครื่องทำความเย็นแบบคู่มักจะมีราคาแพงกว่า แต่ก็จะไม่ทำให้ไวน์ของคุณ สูญเสียรสชาติอย่างแน่นอนค่ะ

3. ช่วงอุณหภูมิของตู้แช่ไวน์

ไวน์แต่ละชนิดมีอุณหภูมิในการจัดเก็บที่แตกต่างกัน สำหรับไวน์ขาวแบบเบาและแบบมีฟอง ควรจัดเก็บอยู่ที่อุณหภูมิระหว่าง 5 ถึง 8 องศาเซลเซียส ในทางกลับกันไวน์ขาวแบบฟูลบอดี้ และไวน์แดงผลไม้ จะต้องจัดเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 8 ถึง 12 องศาเซลเซียส แต่ถ้าหากคุณมีไวน์แดงที่รสชาติเข้มข้น คุณจะต้องจัดเก็บไวน์ชนิดนี้ไว้ในอุณหภูมิที่สูงกว่าเดิมที่โดยเริ่มตั้งแต่ 17 ถึง 19 องศาเซลเซียสค่ะ ดังนั้นในการซื้อตู้แช่ไวน์คุณจะต้องเลือกซื้อตู้แช่ไวน์ที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อให้ไวน์ของคุณยังคงสภาพดีไว้ ไม่เปลี่ยนแปลง

4. ความจุและขนาดของตู้แช่ไวน์

ตู้แช่ไวน์ขนาดเล็กจะมีความจุขวดที่จำกัด โดยทั่วไปแล้วตู้แช่ไวน์ที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุด สามารถเก็บขวดไวน์ที่คุณชื่นชอบได้ประมาณ 12 ขวด หรือมากกว่านั้น แต่แน่นอนว่าความจุของตู้แช่ไวน์นั้น มีให้เลือกหลายแบบโดยคุณสามารถเลือกได้ตามงบประมาณ และจำนวนขวดไวน์ที่คุณต้องการเก็บ ส่วนขนาดของตู้แช่ไวน์ จะสัมพันธ์กับความจุของตู้แช่ไวน์ ตู้แช่ไวน์ขนาดเล็กส่วนใหญ่ จะมีรูปทรงสี่เหลี่ยม และมักจะใช้พื้นที่บนเคาน์เตอร์ไม่มากนัก แต่หากคุณซื้อตู้แช่ไวน์ที่มีความจุมากขึ้น ขนาดของมันก็จะใหญ่มากขึ้นเช่นกันค่ะ

5. ระบบทำความเย็นเทอร์โมอิเล็กทริก vs. คอมเพรสเซอร์

กระบวนการเทอร์โมอิเล็กทริกได้รับความนิยมมาก เนื่องจากแทบไม่มีการสั่นสะเทือนใด ๆ เลย และยังปราศจากเสียงรบกวนด้วย แต่ปกติแล้วตู้แช่ไวน์แบบคอมเพรสเซอร์มีประสิทธิภาพมากกว่า ตู้แช่ไวน์แบบเทอร์โมอิเล็กทริก ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีถ้าหากคุณต้องการตู้แช่ไวน์ที่มีความจุขนาดใหญ่ คอมเพรสเซอร์สามารถรักษาอุณหภูมิไว้ให้เท่าเดิมได้ แม้ในพื้นที่ที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง โปรดทราบว่าตู้แช่ไวน์แบบคอมเพรสเซอร์มักจะมีราคาแพงกว่าตู้แช่ไวน์แบบอื่น และโปรดจำไว้เสมอว่า ไม่มีตัวเลือกที่ดีที่สุดให้เลือก สิ่งที่เหมาะสมตามความชอบของคุณทั้งในด้านระดับเสียง งบประมาณ และความจุ

6. คุณสมบัติพิเศษเพิ่มเติม

  • ระบบควบคุมความชื้น : ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีความจุกจิกมากค่ะ ไม่เพียงแต่ต้องการแช่เย็นที่อุณหภูมิที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังต้องการความชื้นในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอีกด้วย หากไวน์ของคุณสัมผัสกับความชื้นในระดับต่ำ ไม้ก๊อกอาจจะแห้งได้ ซึ่งจะทำให้อากาศเข้าไปในขวดไวน์และทำลายรสชาติไวน์ของคุณ ดังนั้นตู้แช่ไวน์ที่มาพร้อมคุณสมบัติการควบคุมความชื้นจะช่วยในการจัดการความชื้นในอากาศได้ดีค่ะ
  • ระบบป้องกันการสั่นสะเทือน : ตู้แช่ไวน์ที่ทำงานด้วยระบบคอมเพรสเซอร์ของตู้เย็น อาจมีปัญหาทั้งเรื่องเสียง และการสั่นสะเทือน ดังนั้นควรซื้อตู้แช่ไวน์ที่ผ่านการติดตั้งระบบป้องกันการสั่นสะเทือนในคอมเพรสเซอร์หรือในโครงสร้างของตัวทำความเย็น เพื่อช่วยลดการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวน สำหรับผู้ชื่นชอบไวน์โดยเฉพาะคุณลักษณะนี้จะสร้างความมั่นใจได้ดีมาก เนื่องจากการสั่นสะเทือนระดับไมโครอาจส่งผลเสียต่อสีและรสชาติของไวน์
  • ถ่านกรองอากาศ : แนะนำให้มองหาตัวกรองอากาศแบบถ่านในตู้แช่ไวน์เพราะมันจะกรองอากาศที่เข้าสู่เครื่องทำความเย็น และป้องกันกลิ่นที่อาจส่งผลต่อรสชาติของไวน์ ตัวกรองอากาศสามารถช่วยลดการสะสมของฝุ่นภายในตู้แช่ไวน์และคุณควรเปลี่ยนตัวกรองอากาศเหล่านี้ทุก 6-12 เดือน
  • ฟังก์ชันอัจฉริยะ : ฟังก์ชันอัจฉริยะ เช่น ระบบควบคุมแบบสัมผัส และจอแสดงผลดิจิตอล ทำให้เครื่องทำความเย็นใช้งานได้ง่ายมาก ๆ ขณะนี้มีตู้แช่ไวน์ที่เข้ากันได้กับสมาร์ทโฟนบางรุ่นในตลาด ถึงแม้ว่าคุณจะสั่งจากระยะไกล ก็ยังสามารถควบคุมอุณหภูมิของตัวทำความเย็นได้
  • แสงสว่าง : ตู้แช่ไวน์ขนาดใหญ่ และขนาดกลางจะมีไฟ LED สีฟ้า ที่มักจะมีแสง 2 ระดับ สำหรับการอ่านฉลาก และให้บรรยากาศที่นุ่มนวล เพื่ออวดไวน์ของคุณเมื่อคุณต้องการ แสงสว่างจะช่วยยกระดับตู้แช่ไวน์ได้เป็นอย่างดีค่ะ