วันเวลาผ่านไปกระแสและเทรนด์การใส่ใจสุขภาพก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้คนส่วนใหญ่มักมีส่วนร่วมในกิจกรรมฟิตเนสต่าง ๆ กันมากขึ้น เช่น การเข้ายิม การออกกำลังกาย และการเล่นโยคะ แต่เมื่อพูดถึงกีฬาที่ทำได้ง่าย ใช่พื้นที่ไม่มาก และไม่ยุ่งยาก แน่นอนค่ะกีฬาที่เราหมายถึงนั่นก็คือ “การเล่นโยคะ” นั่นแหละค่ะ โยคะถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด หากคุณต้องการเพิ่มสมาธิและฟื้นฟูความสมดุลให้กันร่างกาย การออกกำลังกายด้วยโยคะไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ง่ายขึ้น แต่ยังเป็นการทำสมาธิรูปแบบหนึ่งที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและจิตใจของคุณได้เป็นอย่างดี อีกทั้งโยคะยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมของเรา เนื่องจากการออกกำลังกายชนิดนี้ จะช่วยยืดกล้ามเนื้อและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และยังบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้ดีมากอีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าการโยคะและการยืดลำตัว จะเป็นเรื่องที่ง่าย แต่หากจะให้ได้ผลดีที่สุด คุณควรทำโยคะบนพื้นผิวที่เรียบและสม่ำเสมอ ด้วยการใช้ “เสื่อโยคะ” อุกปรณ์ง่าย ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับร่างกาย
นอกจากเสื่อโยคะจะมีพื้นผิวที่เรียบ และสม่ำเสมอแล้ว เสื่อโยคะยังให้การยึดเกาะที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บระหว่างการเล่นอีกด้วย หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเสื่อโยคะมีประโยชน์แค่การโยคะเท่านั้นแต่จริง ๆ แล้วมันมีประโยชน์หลายอย่างมาก เพราะคุณสามารถใช้เพื่อทำ Abs workout และ Plank ได้อีกด้วยค่ะ หากวันนี้คุณกำลังมองหาเสื่อโยคะดี ๆ อยู่ เราก็มีสินค้าและคำแนะนำในการเลือกซื้อเสื่อโยคะมาฝากกันค่ะ
ซื้อ เสื่อโยคะ ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ
[summary item=”5405,5410,5416,5420,5422,5425″ info=”1″]
เคล็ดลับในการเลือกซื้อเสื่อโยคะ
1. วัสดุ
วัสดุที่ใช้ทำเสื่อโยคะมักจะบ่งบอกถึงความทนทาน และเนื้อสัมผัส อีกทั้งวัสดุยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอายุการใช้งานอีกด้วย ซึ่งด้านล่างนี้เราได้จัดเตรียมข้อมูลรายละเอียดของวัสดุต่างๆ ไว้เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าวัสดุใดเหมาะสมกับความต้องการของคุณ
- เสื่อโยคะโพลีไวนิลคลอไรด์ (PVC) : วัสดุที่เป็นพลาสติกนี้มีความทนทานสูงมาก ยึดเกาะได้ดี และทำความสะอาดได้ง่าย แต่ขอบอกก่อนเลยว่าเสื่อโยคะพีวีซีไม่สามารถดูดซับเหงื่อได้ ดังนั้นถ้าหากคุณมีเหงื่อออกมากขณะเล่นโยคะ ตัวเลือกนี้ไม่เหมาะกับคุณ เพราะเสื่ออาจลื่นได้ เนื่องจาก PVC ไม่มีส่วนผสมของยางธรรมชาติ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ยางธรรมชาติ จะสามารถใช้เสื่อโยคะชนิดนี้ได้ แต่วัสดุนี้ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่สามารถย่อยสลายได้ อีกทั้งผู้ที่เป็นโรคหอบหืด หรือมีปัญหาการหายใจอื่น ๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้เสื่อโยคะพีวีซี
- เสื่อโยคะยาง : ทำจากยางธรรมชาติ ซึ่งสามารถย่อยสลายได้เอง ดังนั้นเสื่อโยคะยางจึงเป็นทางเลือกยอดนิยมที่ใช้กันมากที่สุด เสื่อโยคะประเภทนี้จะเหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการเล่นโยคะและผู้เริ่มต้นฝึกเล่นโยคะ ซึ่งเราขอบอกเลยว่ายางเป็นวัสดุที่กันลื่นได้ดีมากที่สุด เสื่อโยคะที่ผลิตจากวัสดุนี้จึงมีการยึดเกาะสูงและกันเหงื่อได้ด้วย อีกทั้งตัววัสดุจะรองรับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม แต่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ และหากใช้แรงกดมากเกินไปอาจเกิดรอยตามร่างกายได้ นอกจากนี้ถ้าหากคุณแพ้น้ำยางให้หลีกเลี่ยงการซื้อเสื่อยางธรรมชาติค่ะ
- เสื่อโยคะเทอร์โมพลาสติกอีลาสโตมิเตอร์ (TPE) : วัสดุนี้เป็นการผสมผสานพลาสติก และยางโพลีเมอร์เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งทำให้มีความทนทาน ยืดหยุ่น และให้การกันกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม โดยวัสดุชนิดนี้มีพื้นผิวที่มีความนุ่มเป็นพิเศษเหมือนเจล มีน้ำหนักเบา มีคุณภาพสูง และมีอายุการใช้งานยาวนานมาก อีกทั้งเสื่อโยคะ TPE ถือว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก ๆ เพราะมันสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ดังนั้นเมื่อลองเทียบกับเสื่อโยคะ PVC เสื่อโยคะแบบนี้จะมีความทนทานน้อยกว่า แต่จะให้การยึดเกาะที่ดี และยังมีราคาถูกกว่าอีกด้วย
- เสื่อโยคะโฟม : วัสดุนี้เป็นวัสดุลาเท็กซ์หรือพทาเลต ซึ่งมักจะมีน้ำหนักประมาณ 1 ถึง 2 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับความหนา สำหรับวัสดุนี้ถือเป็นเสื่อโยคะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะให้ความสบายและมีประสิทธิภาพในระดับเดียวกันกับเสื่อโยคะ TPE อีกทั้งเสื่อโยคะโฟมจะไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย อีกทั้งยังมีราคาถูก เหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกโยคะทุกวัน
2. ความหนาของเสื่อโยคะ
ความหนาของเสื่อโยคะเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ เพราะความหนาจะเป็นปัจจัยเพื่อกำหนดความสะดวกสบาย การเลือกเสื่อโยคะต้องเลือกความหนาที่เหมาะสม เพื่อให้มันสามารถช่วยรองรับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากเสื่อโยคะบางเกินไปคุณอาจเจ็บเข่า เจ็บขา และแขน ได้ ในขณะออกกำลังกาย แต่ถ้าเสื่อหนาเกินไปมันก็ยากที่จะฝึกท่าทรงตัว ปกติแล้วเสื่อโยคะมีให้เลือกหลายระดับความหนาดังต่อไปนี้ค่ะ
- เสื่อโยคะแบบบาง (หนา 1/16 นิ้ว หรือ 2 มม.) : เสื่อโยคะแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกการทรงตัวเป็นประจำ อย่างไรก็ตามข้อเสียของเสื่อโยคะแบบบางก็คือ มันสามารถรองรับแรงกระแทกได้น้อยกว่า จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดเข่า
- เสื่อโยคะแบบมาตรฐาน (หนา 1/8 นิ้ว หรือ 3 มม.) : เสื่อโยคะที่มีความหนาระดับนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกโยคะทุกๆ วัน เสื่อโยคะแบบนี้ให้ความมั่นคงได้ดีมาก เมื่อเทียบกับเสื่อโยคะที่หนา ๆ เสื่อโยคะแบบนี้จะไม่เคลื่อนตัวมากนักขณะออกกำลังกาย
- เสื่อโยคะแบบหนา (หนา 1/4 นิ้ว หรือ 6 มม.) : เสื่อโยคะประเภทนี้จะให้การรองรับสรีระเป็นพิเศษ และยังสามารถรองรับกล้ามเนื้อบริเวณหลังได้ดีมาก ทำให้เราไม่เจ็บหลัง แต่ขอบอกก่อนเลยว่าเสื่อโยคะแบบนี้ไม่เหมาะสำหรับการทรงตัว นอกจากนี้แล้วความหนาของมันยังยากต่อการพกพาอีกด้วย
- เสื่อโยคะแบบหนาพิเศษ (1/2 นิ้ว หรือ 12 มม.) : เสื่อโยคะแบบนี้เป็นเสื่อโยคะที่หนาที่สุด โดยมีความหนาเกือบครึ่งนิ้วจึงเหมาะสำหรับการเล่นพิลาทิส แต่จะไม่เหมาะสำหรับการเล่นโยคะ เนื่องจากให้ความสมดุลที่ไม่ดีนัก อีกทั้งยังค่อนข้างเทอะทะทำให้พกพาไปไหนมาไหนลำบาก
3. ขนาดและน้ำหนัก
โดยเสื่อโยคะขนาดมาตรฐานมักจะมีขนาดประมาณ 183 x 80 ซม. ซึ่งสามารถรองรับขนาดของลำตัวได้ดีมาก ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เสื่อโยคะแบบยาวนั้น เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะจะเหมาะสำหรับทุกคนตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ไปจนถึง ผู้สูงอายุ ซึ่งแน่นอนว่าเสื่อโยคะที่คุณเลือกต้องยาวพอที่จะให้ครอบคลุมทั่วทั้งร่างกาย แต่หากคุณมีขายาวและมีไหล่กว้างให้เลือกเสื่อโยคะที่มีความกว้างเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องน้ำหนักก็สำคัญเช่นกันค่ะ เพราะเสื่อโยคะมีให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่รุ่นที่บางเฉียบ ไปจนถึงรุ่นที่มีความหนามาก ๆ ส่งผลให้เสื่อโยคะมีน้ำหนักตั้งแต่ 1 – 3 กก. หรือมากกว่านั้น เราขอแนะนำเลยว่าถ้าหากคุณเป็นผู้เล่นโยคะมือใหม่ คุณควรซื้อเสื่อโยคะที่หนา เพราะจะสะดวกกว่า เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยนี้สถานที่ฝึกโยคะก็มีความสำคัญเช่นกัน นอกจากนี้ถ้าหากคุณฝึกโยคะเฉพาะที่บ้าน คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักของเสื่อโยคะเลย เพราะคุณไม่ได้พกพาไปไหน แต่ถ้าหากคุณต้องไปฝึกโยคะนอกบ้านทุกๆ วัน คุณจะต้องพิจารณารุ่นที่มีน้ำหนักเบา เพื่อให้มันพกพาได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
4. ความทนทาน
ความทนทานของเสื่อโยคะเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดคุณภาพของเสื่อโยคะค่ะ เมื่อใช้เป็นประจำเสื่อโยคะจะเสื่อมสภาพ และจะสูญเสียการยึดเกาะ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะใช้จ่ายเงินเพิ่มอีกเล็กน้อย เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น คุณอาจคิดว่าเสื่อโยคะที่ย่อยสลายได้จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะเสื่อโยคะส่วนใหญ่ทำจากวัสดุที่มีความหนาแน่นสูง จึงใช้เวลาในการย่อยสลายค่อนข้างนาน แต่ถ้าหากคุณเป็นคนฝึกโยคะเป็นประจำคุณควรเลือกใช้เสื่อโยคะที่ทำจากยางธรรมชาติหรือโฟมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะมันจะเสื่อมสภาพได้ช้ากว่า และยังไม่มีการยืดตัวอีกด้วย
[product_table item=”5405,5410,5416,5420,5422,5425″ info=”1″]
วิธีทำความสะอาดเสื่อโยคะ
การทำความสะอาดเสื่อโยคะนั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของเสื่อโยคะที่คุณซื้อค่ะ สำหรับเสื่อโยคะที่ทำจากผ้าให้จุ่มเสื่อโยคะลงในสารซักฟอกแล้วบิดน้ำ หลังจากนั้นให้จุ่มอีกครั้งในน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องและเช็ดให้แห้ง สำหรับเสื่อโยคะแบบ PVC หรือเสื่อโยคะประเภทอื่น ๆ ไม่ควรซักหรือทำความสะอาดด้วยเครื่องซักผ้า แนะนำให้ปัดฝุ่นหรือใช้เครื่องดูดฝุ่นมาดูดฝุ่นให้สะอาด แล้วจุ่มเสื่อโยคะลงในน้ำยาซักผ้า และขัดด้วยมือหรือคุณอาจใช้เบกกิ้งโซดา, น้ำส้มสายชู หรือน้ำปูนขาว แทนผงซักฟอกก็ได้ วิธีนี้เหมาะสำหรับการซักเสื่อโยคะทุกประเภท หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว ให้นำตากแดดสักระยะหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่าคุณสามารถเป่าให้แห้งโดยใช้พัดลมหรือเครื่องเป่าลมได้ แต่การใช้แสงแดดจะดีกว่าค่ะ เพราะมันจะช่วยกำจัดแบคทีเรียที่ตกค้างได้ ส่วนความถี่ในการทำความสะอาดเสื่อโยคะขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งานและประเภทของเสื่อโยคะที่คุณซื้อ คำแนะนำของเราคือควรทำความสะอาดเสื่อโยคะในทุก ๆ 4-5 วัน หรือทุกสองสัปดาห์ แต่ให้แน่ใจว่าคุณได้ทำความสะอาดอย่างเหมาะสม เพราะหากทำความสะอาดไม่ถูกต้องความยาวของเสื่อโยคะจะหดลง