เซรั่มบำรุงผม ยี่ห้อไหนดี – ช่วยฟื้นฟูผมพัง ให้กลับมานุ่มสลวย เงางาม

เรื่องของ เส้นผม ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีผมสวย เงางาม และเปล่งประกายกันทั้งนั้น แต่ด้วยการใช้ชีวิตที่มีข้อจำกัดมากมายทั้ง มลภาวะ และสิ่งสกปรกที่เราเผชิญแต่ละวัน ทำให้เส้นผมของเราเกิดปัญหา แห้งเสียได้ง่าย อีกทั้งถ้ายิ่งคุณทำสีผม มีการหนีบผมบ่อย ๆ หรือไดร์ผมเป็นประจำ เส้นผมของคุณก็จะยิ่งได้รับความเสียหายได้มากกว่าเดิมค่ะ

ดังนั้นหากคุณมีปัญหาเส้นผมที่คิดไม่ตกก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะในปัจจุบันมีไอเทมสำหรับเส้นผมมากมายค่ะ ทั้ง แชมพู, ครีมนวดผม, ทรีตเมนต์มาสก์ และการบำรุงเส้นผมด้วยน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น หรือ “เซรั่มบำรุงผม” ที่เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมโดยเฉพาะ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ สามารถบำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึก และช่วยฟื้นฟูผมเสียได้เป็นอย่างดีค่ะ

หลาย ๆ คนมักจะคิดว่า เซรั่มบำรุงผม ไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะปกติ เราก็ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมหลาย ๆ ตัวอยู่แล้ว แต่อันที่จริงแล้วเซรั่มบำรุงผมสำคัญมาก ๆ นะคะ เพราะมันสามารถ ช่วยป้องกันความร้อน บำรุงให้ผมนุ่มสลวย และมีกลิ่นหอมยาวนาน หากคุณต้องการมีเส้นผมที่ยาวสลวย เงางาม และดูเปล่งประกาย ไปดูกันเลยค่ะว่า มีเซรั่มบำรุงผมจากแบรนด์ไหนบ้าที่เป็นที่นิยม และเหมาะกับคุณมากที่สุด ง ?

เซรั่มบำรุงผม ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ?

• เซรั่มที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ ช่วยให้ผมแห้งเร็วและตรงสวยตลอดทั้งวัน: Paul Mitchell Super Skinny Serum เซรั่มบำรุงผม
• เซรั่มที่ช่วยปกป้องและให้ความชุ่มชื้นแก่ผมทำสี: Lolane Natura Daily Hair Serum เซรั่มบำรุงผม
• เซรั่มบำรุงผมยาวนาน 8 ชั่วโมง ช่วยซ่อมแซมผมเสีย: Kerastase Nutritive 8H Magic Night Serum เซรั่มบำรุงผม
• เซรั่มบำรุงผมจากเกาหลี ป้องกันผมแห้งและชี้ฟู: Mise En Scene Perfect Repair Serum เซรั่มบำรุงผม
• เซรั่มที่จะช่วยให้ผมนุ่มสลวยได้ดั่งใจ ไม่มีความมันเยิ้มเมื่อใช้ : L'Oreal Serie Expert Absolut Repair Serum เซรั่มบำรุงผม
• น้ำมันบำรุงผมเนื้อบางเบา ช่วยให้ผมหอมและนุ่มยาวนาน : L'oreal Paris Elseve Extraordinary Oil เซรั่มบำรุงผม

เคล็ดลับในการเลือกซื้อเซรั่มบำรุงผม

1. ส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพเส้นผม

1.1 ผมหนา : ถ้าคุณมีผมเส้นใหญ่ ที่หนามาก ๆ เซรั่มบำรุงผม ที่มีส่วนผสมของน้ำมันอาร์แกน หรือน้ำมันโมรอคโคจะเหมาะมาก ๆ ค่ะ เพราะสามารถช่วยให้เส้นผมเงางาม นอกจากนี้ยังมีน้ำมันจากพืชอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน หรือน้ำมันดอกกุหลาบ เป็นต้น ดังนั้นถ้าหากคุณมีผมหนา อย่าลืมมองหาส่วนผสมของน้ำมันเหล่านี้นะคะ

1.2 ผมแห้งกร้าน : คนที่มีผมแห้ง จะต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ ซึ่งน้ำมันจากพืชสามารถช่วยให้เส้นผมของคุณชุ่มชื้นขึ้นโดยไม่ทำให้ผมมันเยิ้ม นอกจากนี้คุณก็ยังสามารถทา หรือหมักผมด้วยน้ำมันจากพืชก่อนนอนได้ เพื่อให้เส้นผมมีความชุ่มชื้นมากขึ้นค่ะ ซึ่งเราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของโจโจบา น้ำมันอาร์แกน และน้ำมันมะพร้าว

1.3 ผมหยิกและชี้ฟู : คนที่มีผมหยิกและชี้ฟู จนผมพันกันเป็นประจำ ถือเป็นเส้นผมที่ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษค่ะ ดังนั้นเพื่อให้เส้นผมของคุณนุ่มสลวย แลดูมีชีวิตชีวา แนะนำให้เลือกเซรั่มที่มีน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นกับผมได้ เช่น น้ำมันโจโจบา น้ำมันอัลมอนด์ หรือน้ำมันมารูลา การใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของน้ำมันเหล่านี้จะทำให้เส้นผมดูมีมิติและมีวอลลุ่มมากขึ้นค่ะ คุณจึงสามารถอวดลอนผมได้ทุกที่ทุกเวลา

1.4 ผมทำสีและผ่านการทำเคมี : สำหรับคนที่มีผมทำสี และผ่านการทำเคมีมา เซรั่มบำรุงผมที่มีเนื้อบางเบา สามารถจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดค่ะ เราขอแนะนำให้ซื้อเซรั่มบำรุงผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันโจโจบา น้ำมันอาร์แกน หรือน้ำมันมะพร้าวก็ได้ค่ะ ส่วนผสมเหล่านี้จะสามารถบำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึกมาก ๆ และช่วยรักษาสีผมได้ดีมากค่ะ

2. ชนิดและรูปแบบของเซรั่ม

นอกจากการพิจารณาว่า เซรั่มบำรุงผม ตัวไหนที่เหมาะกับสภาพผมของคุณที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญคือ คุณจะต้องรู้ว่า เส้นผมตัวเองต้องการอะไร ? เพราะความเสียหายของเส้นผม อาจเกิดขึ้นได้เมื่อคุณรีบเป่าผมให้แห้ง ด้วยการใช้ความร้อนสูง และจัดแต่งผมด้วยอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมด้วยเครื่องม้วนผม หรือทำสีผมบ่อย ๆ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องรู้ว่าเซรั่มชนิดใด ที่ปกป้องเส้นผมของคุณจากความเสียหายเหล่านี้ได้ โดยในปัจจุบันชนิดของเซรั่มบำรุงเส้นผมหลัก ๆ จะแบ่งเป็น 2 ชนิด ดังนี้ค่ะ

• เซรั่มจากน้ำมัน : หากคุณรีบเป่าผมให้แห้ง หรือหนีบผมบ่อย ๆ ด้วยเครื่องหนีบผม ผมของคุณอาจเปราะและหยาบกร้านค่ะ การใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของน้ำมันตามธรรมชาติ จะช่วยให้เส้นผมของคุณ มีความชุ่มชื้น และคงความเรียบเนียนของเส้นผมไว้ได้ นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพโดยรวมของเส้นผมอีกด้วยค่ะ
• เซรั่มจากโปรตีน : การดูแลผมที่ผ่านการทำสีผมบ่อย ๆ นอกจากจะต้องใช้แชมพูสีม่วงเพื่อปกป้องสีผมแล้ว คุณจะต้องใช้เซรั่มบำรุงผมร่วมด้วยค่ะ เพราะผมที่ผ่านการทำสีบ่อย ๆ มันทำให้เส้นผมมีรูพรุน และขาดหลุดร่วงได้ง่าย ถ้าหากคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้ เซรั่มบำรุงผม ที่อุดมไปด้วยโปรตีน สามารถช่วยให้เส้นผมแข็งแรง และนุ่มสลวยขึ้นค่ะ โดยส่วนผสมของเซรั่มหลัก ๆ ที่คุณควรมองหา หากเส้นผมของคุณขาดโปรตีน นั่นก็คือ เคราติน ค่ะ

3. หลีกเลี่ยงสารอันตราย

เมื่อคุณเลือกซื้อ เซรั่มบำรุงผม เราขอแนะนำให้ลองซื้อเซรั่มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลักค่ะ ถึงแม้ว่า เซรั่มบำรุงผมที่มีส่วนผสมของสารกันบูด แอลกอฮอล์ หรือสารเคมีอื่น ๆ เช่น สไตรีน รีซอร์ซินอล ไดออกเซน และอะซีตัลดีไฮด์ จะมีกลิ่นหอม แต่อาจจะทำให้ผมแห้งมากขึ้นได้ โดยปกติแล้วซิลิโคนจะทำหน้าที่ปกป้องเส้นผม แต่ในขณะเดียวกัน มันสามารถช่วยลดความสามารถในการกักเก็บความชื้นของเส้นผมได้ด้วยเช่นกันค่ะ ดังนั้นแนะนำให้เลือกซื้อเซรั่มบำรุงผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันจากพืชจะดีกว่า เพราะปลอดภัยและให้สารอาหารแก่เส้นผมได้มากขึ้น

วิธีใช้เซรั่มบำรุงผมให้ถูกวิธี

1.) ก่อนการชโลม เซรั่มบำรุงผม ลงไปบนเส้นผม เราขอแนะนำให้คุณ ตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่า เส้นผมของคุณ ณ ตอนนี้ อยู่ในสภาพปกติ ไม่ได้เปียกโชก หรือชื้นมากจนเกินไป และหลีกเลี่ยงการชโลมเซรั่มลงบนหนังศีรษะโดยตรง โดยเฉพาะเซรั่มบำรุงผมที่ไม่ได้มีการระบุว่า สามารถใช้กับหนังศีรษะได้

2.) เมื่อเส้นผมของคุณไม่ได้เปียกหรือชื้นมากเกินไป ให้หยดเซรั่มบำรุงเส้นผม 2-3 หยด ชโลมให้ทั่วเส้นผมอย่างนุ่มนวล โดยไล่ตั้งแต่โคนของเส้นผมจรดตรงกลาง ซึ่งการชโลมลงไป คุณไม่ควรชโลมเซรั่มบำรุงผมในปริมาณที่มากจนเกินไปค่ะ เพื่อป้องกันความมันเยิ้มนั่นเอง

3.) เมื่อชโลม เซรั่มบำรุงผม เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถจัดแต่งทรงผมได้ตามต้องการค่ะ

4.) จำไว้นะคะว่า ความเข้าใจผิดที่มักจะเกิดขึ้นจากการใช้เซรั่มบำรุงผมคือ การใช้เซรั่มบำรุงผมในทุก ๆ วัน โดยไม่ได้สระผมหรือทำความสะอาดเส้นผมเลย ซึ่งการทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เส้นผมของคุณมีความมันมากขึ้นเท่านั้น แต่เซรั่มบำรุงผมจะไม่มีประสิทธิภาพในการบำรุงเส้นผมด้วยเช่นกันค่ะ ดังนั้นเราขอแนะนำให้สระผมก่อนจะชโลมเซรั่มลงไปบนเส้นผม วิธีนี้จะช่วยให้ เซรั่มบำรุงผม ปกป้องเส้นผมของคุณได้ดีขึ้นค่ะ