เจลล้างหน้า ยี่ห้อไหนดี – ให้ผิวสะอาด อ่อนโยนต่อผิว ไม่ระคายเคือง

เจลล้างหน้า ที่ดีที่สุด
เจลล้างหน้า ที่ดีที่สุด

การล้างหน้า หรือ การทำความสะอาดผิวหน้า ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะหากเราไม่ทำความสะอาดผิวหน้าเลย จะทำให้ผิวของเราสะสมความสกปรกเอาไว้ จากนั้นมันจะกลายเป็นการอุดตัน และทำให้เกิดปัญหาสิวในที่สุดค่ะ ซึ่งในท้องตลาดปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ล้างหน้ามากมายหลายแบบ ให้เราได้เลือกซื้อกันค่ะ มีทั้ง ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้าด้วยมือเปล่า หรือแม้แต่เครื่องสำหรับล้างหน้า ที่นอกจากจะทำให้ผิวหน้าสะอาดแล้ว มันยังช่วยกระตุ้นเซลล์ผิว เพื่อให้ผิวหน้าของเรา มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ด้วยค่ะ

แต่การล้างหน้าที่ดีที่สุด คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวหน้าของคุณเองด้วย ซึ่งถ้าหากคุณมีผิวมันหรือผิวเป็นสิวง่าย แน่นอนค่ะว่า “เจลล้างหน้า” ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะตัวเจลจะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม และลื่น โดยจะมีฟองเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยค่ะ แถมตัวเจลมีน้ำหนักเบามาก ๆ ด้วย ทำให้มันเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายมาก ๆ คะ เมื่อใช้แล้วจะสามารถล้างออกได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ทิ้งคราบมันส่วนเกินไว้บนผิวอย่างแน่นอนค่ะ แต่ด้วยความที่ เจลล้างหน้า มีอยู่มากมายในท้องตลาด ดังนั้นคุณอาจพบว่า เป็นการยากที่จะมองหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคุณที่สุด แต่วันนี้ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะเราได้คัดสรรเจลล้างหน้าที่ดีที่สุดมาแนะนำกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันได้เลยค่ะว่า เราจะเลือกซื้อยี่ห้อไหนไปใช้ดี ?

เจลล้างหน้า ยี่ห้อไหนดี และเหมาะกับคุณ ?

[summary item=”6977,6979,6981,6983,6985,6987″]

เจลล้างหน้าแตกต่างจากโฟมล้างหน้าอย่างไร?

เจลล้างหน้า กับ โฟมล้างหน้า มีไว้เพื่อทำความสะอาดใบหน้าเหมือนกันค่ะ แต่แน่นอนค่ะว่า ทั้งสองมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และยังเหมาะกับสภาพผิวหนังที่แตกต่างกันด้วย โดยเราขอเริ่มที่ เจลล้างหน้า ค่ะ ที่ตัวเจลจะมีน้ำหนักเบามาก ๆ ทำให้เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบาง และผิวที่มีความมันส่วนเกิน อีกทั้งเจลล้างหน้ายังทำให้ผิวดูสดชื่นและไม่เพิ่มการระคายเคืองต่อผิวด้วย สำหรับคนที่แต่งหน้า เบา ๆ ทุกวัน แนะนำให้ใช้เจลล้างหน้าก็พอค่ะ แต่ถ้าหากเครื่องสำอางที่คุณใช้ ทั้ง รองพื้น, ไพรเมอร์, บีบีครีม, อายแชโดว์มาสคาร่า, ดินสอเขียนคิ้ว ฯลฯ ค่อนข้างหนาและแน่นมาก คุณก็จะต้องทำความสะอาดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้า เพราะเจลล้างหน้าไม่แรงพอที่จะจัดการกับเมคอัพค่ะ

ส่วนโฟมล้างหน้าจะมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์มากกว่า เจลล้างหน้าค่ะ หากผิวของคุณเป็นผิวผสม คุณอาจชอบโฟมล้างหน้ามากกว่า เพราะตัวโฟมจะให้ความชุ่มชื้นแก่บริเวณผิวที่แห้ง โดยไม่ทำให้บริเวณโซนที่มีความมันเพิ่มขึ้นค่ะ ในการเลือกซื้อให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวมากที่สุดค่ะ แต่ขอบอกเลยว่า ถ้าคุณอยากได้ผลิตภัณฑ์ที่ล้างออกได้ง่าย ผิวไม่แห้งตึง เราขอแนะนำให้เลือกใช้เจลล้างหน้าค่ะ เพราะตอนนี้เจลล้างหน้าได้มีสูตรที่ออกแบบมาให้เหมาะกับทุกสภาพผิวแล้วค่ะ

[product_table item=”6977,6979,6981,6983,6985,6987″ info=”1″]

เคล็ดลับในการเลือกซื้อเจลล้างหน้า

1. สภาพผิว

ผิวมัน : มักจะมีปัญหากับ ความมันส่วนเกิน ที่อาจอุดตันรูขุมขน จนทำให้เกิดสิวในที่สุด ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ให้เลือกเจลล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ กรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) เช่น กรดแลคติก, กรดไกลโคลิก และ กรดซาลิไซลิก ซึ่งเป็น กรดเบตาไฮดรอกซี (BHA) มีไว้เพื่อลดขนาดรูขุมขนค่ะ แต่หากไม่อยากใช้กรดเหล่านี้ ให้เลือกเจลล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ ไนอาซินาไมด์ ซึ่งเป็นรูปแบบของวิตามินบี 3 ส่วนประกอบที่ช่วยการเพิ่มขึ้นของรูขุมขนค่ะ

ผิวแห้ง : ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวบางชนิด มันก็อาจจะขจัดน้ำมันออกจากผิวมากเกินไป และทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นที่จำเป็น ในกรณีนี้ขอแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น อาทิเช่น เซราไมด์ และกรดไฮยาลูโรนิก หรือจะเลือกส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันอัลมอนด์ และสารสกัดจากชาเขียว ที่สามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแห้งได้

ผิวผสม : เป็นผิวที่มีความมันในบางจุด โดยเฉพาะบริเวณ T-zone ส่วนผิวในบริเวณอื่น ๆ จะมีความแห้ง หากคุณมีผิวประเภทนี้ แนะนำให้เลือกใช้เจลทำความสะอาดที่มีสูตร pH-balanced ค่ะ เพราะจะสามารถรักษาระดับความเป็นกรดและด่างของผิวได้ เพราะปกติแล้วหากผิวของเรามีความเป็นด่างมากเกินไป อาจทำให้ผิวดูแดง และเป็นสะเก็ด เพราะความแห้งกร้าน แต่ถ้ามีกรดมากเกินไปก็อาจทำให้ผิวหนังอักเสบได้ ฉะนั้นการเลือกใช้ เจลล้างหน้า ที่มีค่า pH สมดุลจะช่วยให้ผิวสร้างเกราะป้องกันกรด ซึ่งกักเก็บความชื้น และแบคทีเรียเอาไว้ ดังนั้นผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะขจัดน้ำมันส่วนเกินที่สามารถดึงดูดแบคทีเรียได้โดยไม่ทำให้ผิวของคุณขาดความชุ่มชื้นค่ะ

ผิวแพ้ง่าย : ซัลเฟต เป็นสารลดแรงตึงผิวที่ใช้เป็นสารทำความสะอาด ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายชนิด ซึ่งบางชนิดมีโซเดียมลอริลซัลเฟต (SLS) ที่มีประสิทธิภาพในการสร้างฟอง อย่างไรก็ตามส่วนผสมนี้สามารถขจัดน้ำมันออกจากผิวได้ ซึ่งทำให้ผิวแห้งยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดรอยแดง และการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ผิวแพ้ง่าย ซึ่งนอกจาก SLS แล้ว เราขอแนะนำให้คุณ ระมัดระวังผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมสังเคราะห์ด้วยนะคะ เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองผิว และผิวหนังอักเสบ ได้

2. ส่วนผสม

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวส่วนใหญ่มักจะใช้ส่วนผสมที่สกัดได้จากธรรมชาติ เนื่องจากผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจะมีประโยชน์กับผิวหลายประการค่ะ ซึ่งส่วนผสมจากพืช อาทิเช่น ชาเขียว, คีนัว, ไมโครอัลก้า และสารสกัดจากต้นชา เป็นต้น มันสามารถช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน และบรรเทาอาการระคายเคืองผิวหนังได้ นอกจากนี้สารจากธรรมชาติ มันยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

3. ประโยชน์ต่อผิวอื่น ๆ เพิ่มเติม

การดูแลผิวที่ดีเป็นเรื่องที่คุ้มค่ามาก ๆ ค่ะ ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มค่าสมกับราคาที่จ่ายไป ตัวอย่างเช่น เมื่อซื้อคลีนเซอร์ คุณอาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิว และทำให้ผิวชุ่มชื้น ซึ่งเราขอบอกเลยว่า กรดไฮยาลูโรนิก เป็นตัวอย่างหนึ่ง ของส่วนผสมที่ให้ประโยชน์มากกว่าการทำความสะอาด ช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน และช่วยบำรุงผิว ลดจุดด่างดำ ริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่น ถัดมากก็ ลีเซอรีน ค่ะ เพราะสามารถช่วยบรรเทา อาการระคายเคือง และเพิ่มความชุ่มชื้นได้ ในขณะเดียวกันวิตามินซี และสารสกัดจากพืช เช่น ทับทิม และดาวเรือง ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ จำไว้นะคะ จ่ายเงินทั้งที ต้องซื้อให้คุ้มค่ะ